Super God Gene – ตอนที่ 2923 ต่อสู้กับมังกร

 

ภูเขาสั่นสะเทือนและเศษหินร่วงลงมา ดูเหมือนกับว่ากำลังจะเกิดแผ่นหินไหวขึ้น กำแพงหินนั้นมีชีวิตขึ้นมา มันกลายเป็นงูยักษ์เกล็ดดำ จากส่วนที่หานเซิ่นเห็นร่างกายของมันสูงอย่างน้อยสามสิบหกฟุต มันสูงเหมือนกับกำแพงเมือง ส่วนความยาวของมัน หานเซิ่นไม่สามารถคาดเดาได้

 

ออร่าที่น่ากลัวถูกปลดปล่อยออกมาจากเกล็ดสีดำของมัน หานเซิ่นรู้ว่างูเกล็ดดำตัวนี้ต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเจ้าปลาทองตัวใหญ่ แต่เนื่องจากเขาได้ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว เขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขมันได้ เขาบินขึ้นไปบนอวกาศและมองไปที่สามภูเขาหินสีดำจากด้านบน เขาเห็นซีโน่เจเนอิคขนาดใหญ่ขดตัวอยู่รอบๆภูเขาสามลูกที่เหมือนกับดอกบัว ในตอนที่ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นเงยหัวของมันขึ้นมา หานเซิ่นก็ค้นพบว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่งูยักษ์แต่เป็นมังกรดำ

 

มังกรคำรามออกมาด้วยเสียงที่สั่นสะเทือนไปถึงอวกาศ มันทำให้ภูเขาหิมะและภูเขาน้ำแข็งที่อยู่รอบถล่มลงมา

 

หานเซิ่นลอยตัวอยู่ในอวกาศและใช้พลังทั้งหมดของออร่าตงเสวียนเพื่อต้านเสียงคำรามของมังกรเอาไว้ มันทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะเทือนจนเขารู้สึกว่าจะร่วงลงไปได้ทุกเมื่อ

 

“นั่นเป็นซีโน่เจเนอิคที่ทรงพลังมาก” หานเซิ่นเอาโล่เมดูซ่าส์เกซออกมาป้องกันเสียงคำรามของมังกร ดวงตาของผู้หญิงบนโล่เมดูซ่าส์เกซเปิดออกและปล่อยแสงประหลาดออกมา มันพุ่งไปถูกร่างของมังกรเกล็ดดำ

 

หานเซิ่นเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน เขาต้องการจะทำให้มังกรเกล็ดดำถูกแช่แข็งกลายเป็นหิน

 

ดวงตาของเจ้ามังกรเป็นเหมือนกับหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้ง มันมองไปที่ดวงตาของเมดูซ่า ดูเหมือนกับว่าดวงตาทั้งสองของมันสร้างวังวนที่ดูดกลืนแสงของเมดูซ่าเข้าไป ร่างกายของเจ้ามังกรไม่ได้ถูกแช่แข็งให้กลายเป็นหิน

 

หานเซิ่นต้องการจะใช้พลังของโล่เมดูซ่าส์เกซอีกครั้ง ถึงดวงตาของเจ้ามังกรเกล็ดดำจะสามารถดูดกลืนแสงเข้าไปได้ แต่ส่วนอื่นของร่างกายมันไม่สามารถป้องกันแสงของโล่เมดูซ่าส์เกซได้

 

แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะได้ใช้พลังของโล่เมดูซ่าส์เกซ มังกรเกล็ดดำก็พ่นบางสิ่งออกมา หานเซิ่นได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมพื้นบ้าน มันทำให้เขาคิดไปว่ามังกรดำนั้นจะพ่นดราก้อนบอลออกมาให้กับเขา แต่สิ่งที่มังกรพ่นออกมานั้นไม่ใช่ดราก้อนบอล แต่มันเป็นตะเกียง

 

มันเป็นตะเกียงหินสีดำ รูปลักษณ์ภายนอกของมันดูเหมือนกับตะเกียงเผ่าพันธุ์ในจีโนฮอลล์อย่างน่าตกใจ แต่ตะเกียงนี้ไม่ได้มีเครื่องหมายเผ่าพันธุ์อยู่ ตะเกียงนั้นกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่มีสีขาวบริสุทธิ์

 

หานเซิ่นรู้ในทันทีว่ามันคืออะไร ในตอนที่ปลาทองตัวใหญ่บรรยายเกี่ยวกับสมบัติ มันพูดถึงบางสิ่งที่เกี่ยวกับหินและไฟ หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นได้เห็นตะเกียงหิน เขาก็รู้ว่ามันต้องเป็นสิ่งที่เจ้าปลาทองตัวใหญ่พูดถึง

 

“สมบัติที่ปลาทองตัวใหญ่พูดถึงต้องเป็นตะเกียงนี้แน่ๆ แต่ตะเกียงหินนี่อยู่ในปากของมังกร ถึงแม้เราจะหลับตาและเดินไปเรื่อยๆ เราจะเอาตะเกียงมาจากปากของมังกรได้ยังไง?”

หานเซิ่นไม่เข้าใจ แต่เหตุการณ์มาถึงนี่แล้ว เขาก็ไม่เสียเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องแบบนั้น เพื่อจะเอาตะเกียงหินนั่นไป เขาจำเป็นต้องฆ่าซีโน่เจเนอิคตรงหน้า นอกจากนั้นเขายังจะได้รับยีนซีโน่เจเนอิคของมังกรเกล็ดดำตัวนี้อีก แบบนั้นมันก็เหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

 

ตะเกียงหินบินออกมาจากปากของมังกร มังกรเกล็ดดำยื่นอุ้งมือของมันออกมาถือตะเกียงเอาไว้ตรงหน้า ก่อนจะพ่นลมหายใจมังกรออกมา

 

ในตอนที่ลมหายใจมังกรผ่านเปลวเพลิงในตะเกียง มันก็เปลี่ยนเป็นสีขาวและพุ่งต่อไปหาหานเซิ่น

 

ลมหายใจมังกรนั้นปกคลุมทั้งบริเวณ นอกซะจากหานเซิ่นจะเสี่ยงเทเลพอร์ตหนีไปยังอวกาศ เขาก็ไม่สามารถหลบหลีกจากลมหายใจมังกรที่น่ากลัวนั้นได้

 

หานเซิ่นรวบรวมพลังทั้งหมด เขาเอาเป่าเอ๋อไปไว้ด้านหลังและจับโล่เมดูซ่าส์เกซด้วยสองมือเพื่อป้องกันลมหายใจมังกร

 

ปัง!

หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงพลังที่น่ากลัวพุ่งมาใส่โล่ของเขา แขนของเขาเกือบจะหักและร่างกายของเขาก็ถูกส่งกระเด็นออกไปด้านหลัง

 

หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาจะแตกสลาย แต่เขายังคงถือโล่เอาไว้ในมือ เขาตกใจเมื่อเห็นว่าโล่นั้นกำลังลุกไหมด้วยเพลิงสีขาวศักดิ์สิทธิ์

 

เปลวเพลิงสีขาวนั้นไม่มีความร้อน ดังนั้นมันไม่ได้เผาผลาญโล่เมดูซ่าส์เกซ แต่เปลวไฟสีขาวนั้นลามไปทั่วโล่อย่างรวดเร็ว มันดูเหมือนกับว่าโล่กำลังจะถูกกลืนกินในอีกไม่นาน

 

หานเซิ่นใช้พลังของศาสตร์ตงเสวียนเพื่อจะดับไฟบนโล่ แต่เขาไม่สามารถหยุดมันได้ เขาได้แต่มองดูโล่ถูกกลืนกินโดยเปลวเพลิงสีขาว สุดท้ายเขาก็ต้องยอมปล่อยโล่ไปเพื่อไม่ให้เปลวไฟลามมาถึงมือของเขา

 

ในจังหวะที่หานเซิ่นปล่อยมือจากโล่เมดูซ่าส์เกซ โล่ก็ถูกห่อหุ้มโดยเพลิงสีขาวโดยสมบูรณ์ มันทำให้โล่นั้นดูเหมือนกับของศักดิ์สิทธิ์

 

วินาทีต่อมา มังกรเกล็ดดำก็ขยับอุ้งมือและโล่เมดูซ่าส์เกซที่หลุดจากการควบคุมของหานเซิ่นก็บินเข้าไปหามังกรเกล็ดดำอย่างคาดไม่ถึง เจ้ามังกรรับมันเอาไว้ด้วยอุ้งมือของมัน

 

หานเซิ่นเห็นว่าดวงตาของมังกรเกล็ดดำนั้นเต็มไปด้วยความดูถูก ขณะที่อุ้งมือของเจ้ามังกรถือโล่เมดูซ่าส์เกซเอาไว้ ผู้หญิงที่อยู่บนโล่ก็ลืมตาขึ้นและปล่อยแสงประหลาดออกมา

 

“นั่นเป็นไปได้ยังไง?” สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป

 

โดยปกติแล้วโล่เมดูซ่าส์เกซไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะเอาไปใช้ได้ แต่เจ้ามังกรเกล็ดดำสามารถทำแบบนั้นได้ นั่นเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ

 

การจะใช้โล่เมดูซ่าส์เกซจำเป็นต้องทีพลังพิเศษของเผ่ากาน่าเท่านั้น หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อจำลองพลังของเผ่ากาน่าได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถใช้โล่เมดูซ่าส์เกซได้

 

แต่มังกรเกล็ดดำนั้นมีพลังที่แตกต่างไปจากกาน่าโดยสิ้นเชิง หานเซิ่นมั่นใจในเรื่องนั้น มันจึงแปลกที่เจ้ามังกรสามารถใช้พลังของโล่ได้

 

หานเซิ่นไม่มีเวลาจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากนัก เมื่อเห็นแสงของโล่เมดูซ่าส์เกซกำลังจะมาถึงตัว เขาก็รีบเทเลพอร์ตหนีไป

 

หานเซิ่นเข้าใจพลังของโล่เมดูซ่าส์เกซเป็นอย่างดี ดังนั้นถึงเจ้ามังกรเกล็ดดำจะใช้โล่เมดูซ่าส์เกซยิงแสงใส่เขารัวๆราวกับลูกกระสุน พวกมันก็ไม่สามารถถูกตัวหานเซิ่นได้แม้แต่ครั้งเดียว

 

ตอนนี้วิชาเทเลพอร์ตของหานเซิ่นถึงขั้นที่สามารถเทเลพอร์ตได้รวดเร็วกว่าแสงของโล่เมดูซ่าส์เกซ

 

เจ้ามังกรเกล็ดดำโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ล้มเหลวทุกครั้ง สุดท้ายมันก็หมดความอดทนและอ้าปากกว้างเพื่อพ่นลมหายใจมังกรออกมา ครั้งนี้ลมหายใจมังกรไม่ได้ผ่านเปลวเพลิงสีขาวของตะเกียง มันเป็นเหมือนกับเมฆหมอกสีดำที่ปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน มันทำให้หานเซิ่นไม่สามารถหลบไปไหนได้

 

หานเซิ่นปลดปล่อยอาณาเขตออกไปจากร่างกายเหมือนกับการกระเพื่อมของน้ำ ลมหายใจมังกรที่ปกคลุมท้องฟ้าและผืนดินดูน่ากลัวอย่างมาก แต่มันไม่สามารถเข้ามาใกล้ร่างกายของหานเซิ่นได้

 

ด้วยพลังอาณาเขตของวิญญาณอสูรไทม์โกสต์ มันทำให้ลมหายใจมังกรมาไม่ถึงตัวหานเซิ่น

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset