ด้านหลังประตูที่แตกหักนั้นมืดสนิท นอกจากแสงสว่างของตะเกียงที่ส่องบางส่วนแล้ว ส่วนอื่นๆไม่สามารถมองเห็นได้
หลังจากที่หานเซิ่นก้าวผ่านเสาหินไป เขาก็รู้สึกตัวว่าที่ทุกเสาหินนั้นมีตะเกียงอยู่ พวกมันเป็นเหมือนกับไฟถนนที่ทอดยาวไปสู่ความมืดมิด
นอกจากบริเวณที่แสงไฟจากตะเกียงส่องถึงแล้ว บริเวณอื่นๆนั้นมืดสนิท แม้แต่ศาสตร์ตงเสวียนก็ไม่สามารถสัมผัสสิ่งที่อยู่ในความมืดได้ ที่ขอบของความมืดนั้นหานเซิ่นเห็นฟันเฟืองที่แตกหักมากมาย เขารู้สึกแปลกใจกับภาพที่เห็น
“ที่แห่งนี้เคยเกิดการต่อสู้แบบไหนกัน ถึงทำให้แม้แต่ฟันเฟืองจักรวาลที่ประกอบเป็นรากฐานของจักรวาลพังทลายแบบนี้” หานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมา เขาไม่กล้าจะประมาท
ความมืดนั้นเป็นเหมือนกับปากของอสูรร้ายที่กำลังรอคอยอยู่อย่างเงียบสงัด ถ้ามีใครเข้าไปในความมืด อสูรร้ายก็จะกลืนกินพวกเขา
ความรู้สึกแบบนั้นฝังลึกเข้าไปในจิตใจของทุกคน แม้แต่เหล่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็รู้สึกได้ถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขามองไปในความมืดด้วยความไม่สบายใจ
“น้องหาน ความมืดข้างล่างนี้อันตรายมากๆ” ราชครูกู่เยวียนพูด
“ถึงแม้คนที่ตกลงไปจะเป็นยอดฝีมือขั้นทรูก็อต เขาก็คงจะไม่รอด ด้วยเหตุนั้นพวกเราจำเป็นต้องตามแสงของตะเกียงไป พวกเราจะออกไปจากรัศมีของตะเกียงพวกนั้นไม่ได้”
“ขอบคุณราชครูที่เตือน” หลังจากที่หานเซิ่นพูดขอบคุณ เขาก็หันไปมองที่ปลาทองตัวใหญ่ มันถูกทำร้ายโดยธนูเขี้ยวก่อนหน้านี้ และบาดแผลของมันก็ยังคงไม่รักษาตัว เจ้าปลาทองตัวใหญ่ยังคงมีเลือดไหลออกมา ถึงแม้จะไม่มาก แต่สภาพของเจ้าปลาทองตัวใหญ่ก็ดูค่อนข้างแย่
ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวเล็กน้อยและดวงตาของมันก็ดูไม่ค่อยดี ถึงพลังชีวิตของมันจะยังปกติดี แต่หานเซิ่นไม่คิดว่าร่างกายของมันจะปกติดี
“ธนูนั่นมีพิษอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นใช้ออร่าตงเสวียนเพื่อสแกนบาดแผลของปลาทองตัวใหญ่ เขาพบสสารสีแดงบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นแมลงตัวเล็กๆจำนวนมากที่กำลังเจาะทะลวงบาดแผลของเจ้าปลาทองตัวใหญ่
หานเซิ่นใช้วิชาจีโนรักษาหลายอย่าง แต่พวกมันไม่ได้ผลกับแมลงสีแดงภายในบาดแผลของปลาทองตัวใหญ่
ในดวงตาของปลาทองตัวใหญ่นั้นมีเส้นเลือดฝอยแตกจนแดงก่ำ แต่เมื่อตรวจเช็คอย่างละเอียด เขาก็พบว่าจริงๆแล้วมันเป็นเหล่าแมลงสีแดง
ราชครูกู่เยวียนเห็นสถานการณ์ของหานเซิ่นและเข้ามาช่วยดู
“ถ้าข้าดูไม่ผิดล่ะก็ สัตว์เลี้ยงของเจ้านั้นติดพลังพิษสุนัขบ้า”
หานเซิ่นรีบถาม “พลังพิษสุนัขบ้าคืออะไร? ราชครูรู้วิธีที่จะรักษามันไหม?”
ราชครูกู่เยวียนมองไปที่ธนูเขี้ยวในมือของหานเซิ่นและพูด
“พลังพิษสุนัขบ้าคือพลังของโครว์สกายด็อก ถ้าใครถูกพลังพิษสุนัขบ้าเข้า พวกเขาจะค่อยๆเสียสติ พวกเขาจะกลายเป็นหมาบ้าที่พยายามโจมตีทุกสิ่งที่อยู่รอบๆจนกระทั่งพวกเขาเหนื่อยตายไป”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ราชครูกู่เยวียนก็พูดต่อไปว่า “พลังพิษสุนัขบ้านั้นเป็นพลังประหลาด ตำนานบอกว่ามีเพียงแค่กิเลนศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเซเคร็ดเท่านั้นที่จะรักษามันได้ ข้าไม่แน่ใจว่ามันยังมีวิธีรักษาอื่นอยู่อีกหรือเปล่า”
เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็ขมวดคิ้ว เขาเคยไปเยือนสวนของกิเลนศักดิ์สิทธิ์มาครั้งหนึ่ง กิเลนศักดิ์สิทธิ์นั้นดูเหมือนจะตายไปแล้ว และมันก็ถูกฝังอยู่ในสวน
แถมหานเซิ่นก็ไม่รู้ว่าจากตำแหน่งที่เขาอยู่ในตอนนี้จะไปที่อีสท์โฮลี่การ์เด้นได้ยังไง มันไม่มีทางที่เขาจะไปที่นั่นได้ถึงแม้เขาต้องการจะไป
หานเซิ่นใช้วิชารักษาของเขาหยุดเลือดและทำให้บาดแผลของเจ้าปลาทองตัวใหญ่เริ่มสมานตัวได้สำเร็จ แต่แมลงสีแดงที่เหมือนกับเลือดในดวงตาของปลาทองตัวใหญ่ยังคงแพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ
หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่าอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าปลาทองตัวใหญ่นั้นกำลังดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเรียกปืนมนตราออกมา เขายิงกระสุนออกไปใส่ร่างกายของปลาทองตัวใหญ่
กระสุนพุ่งไปถูกเกล็ดของปลาทองตัวใหญ่ เนื่องจากมันขาดพลังทำลายล้าง พวกมันจึงแค่ไปติดอยู่กับเกล็ดของเจ้าปลาทอง บางทีมันอาจจะเป็นเพราะพลังพิษสุนัขบ้า แต่เจ้าปลาทองตัวใหญ่นั้นไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดหรือพยายามจะต่อต้าน
หานเซิ่นยิงกระสุนออกไปหนึ่งร้อยลูกทั่วร่างเจ้าปลาทองตัวใหญ่ กระสุนนั้นมีพลังในการแช่แข็งของอิเทอร์นิตี้อยู่ ถึงแม้มันจะไม่สามารถกำจัดพลังพิษสุนัขบ้าได้ แต่พลังพิษสุนัขบ้าก็หยุดการแพร่กระจาย
หานเซิ่นมองดูอยู่สักพักและเห็นว่าแมลงสีแดงที่เหมือนกับเลือดในดวงตาของปลาทองตัวใหญ่ไม่เพิ่มจำนวนขึ้น มันทำให้เขารู้สึกโล่งใจ
หานเซิ่นไม่มีวิธีที่จะรักษาให้กับมัน ตอนนี้การหยุดพลังพิษสุนัขบ้าจากการแพร่กระจายคือทั้งหมดที่เขาทำได้
ปลาทองตัวใหญ่นั้นเป็นเหมือนกับผู้ป่วยทางจิต ใบหน้าของมันกำลังบิดเบี้ยว โชคดีที่มันยังไม่ถูกครอบงำโดยพลังพิษสุนัขบ้า มันยังมีสติอยู่
“พลังพิษสุนัขบ้าของโครว์สกายด็อกนั้นน่ากลัวจริงๆ มันเป็นแค่ลูกธนูที่ทำจากเขี้ยว แต่มันก็ทำให้ซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ถ้าโครว์สกายด็อกยังมีชีวิตอยู่ เขาจะน่ากลัวถึงขนาดไหนกัน” หานเซิ่นรู้สึกตกใจ
แค่โครว์สกายด็อกผู้พิทักษ์ประตูของเซเคร็ดก็น่ากลัวถึงขนาดนี้แล้ว หานเซิ่นไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเมื่อก่อนเซเคร็ดนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดไหน
ราชครูกู่เยวียนและคนอื่นๆก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน แต่ที่พวกเขาแปลกใจนั้นคือการที่หานเซิ่นสามารถหยุดการแพร่กระจายของพลังพิษสุนัขบ้าได้ นั่นเป็นอะไรที่พวกเขาคาดไม่ถึง
แสงของตะเกียงนั้นสลัวๆ พวกเขาจึงเห็นเพียงแค่เสาหินที่ตะเกียงห้อยอยู่เท่านั้น เสาหินทั้งหมดนั้นดูเก่ามากๆ พวกมันมีรอยร้าวและร่องรอยของความเสียหาย ดูเหมือนกับว่าพวกมันสามารถพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ
แสงสว่างของตะเกียงนั้นมากพอแค่ให้พวกเขาไปถึงแสงสว่างของตะเกียงต่อไป พวกเขาเห็นแค่รัศมีสามสิบฟุตรอบๆตะเกียงเท่านั้น พื้นที่ที่พวกเขายืนอยู่เป็นอิฐสีเทา อิฐส่วนใหญ่นั้นถูกทำลายหรือถูกยกขึ้นมา มันยากที่จะหาอิฐที่ยังคงสมบูรณ์ดี หานเซิ่นคิดว่าบริเวณนี้ก็คงจะเคยเป็นสนามรบมาก่อน
ขณะที่เดินไปเรื่อยๆ จู่ๆพวกเขาก็เห็นว่าข้างหน้านั้นตกอยู่ในความมืด ด้วยเหตุผลบางอย่างตะเกียงที่อยู่ถัดไปนั้นไม่ส่องสว่างออกมา มันทำให้บริเวณข้างหน้านั้นมืดสนิท
“บริเวณนี้ไม่มีแสงของตะเกียง ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะข้ามความมืดนี้ไป” เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าคนหนึ่งพูดขึ้นมา
หานเซิ่นหยุดและมองไปที่ความมืดมิดข้างหน้าบริเวณที่ฟันเฟืองจักรวาลยังคงไม่ถูกทำลาย แต่ฟันเฟืองจักรวาลส่วนใหญ่ถูกทำลายไปหมดแล้ว ซึ่งทำให้กฎของจักรวาลถูกทำลายไปด้วย
“ราชครูคิดว่าพวกเราจะเก็บตะเกียงมาจากเสาหินและเอามันไปกับพวกเราได้ไหม?” เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าถาม เขามองไปที่ตะเกียงบนเสาหินที่อยู่ไม่ไกล
“อย่าทำแบบนั้น” ราชครูกู่เยวียนพูดพร้อมกับส่ายหัว
“แสงของตะเกียงพวกนี้ขจัดความมืดได้ก็จริง แต่พลังของมันไม่ได้มาจากตัวตะเกียง มันมาจากเสาหินที่เชื่อมต่อกับพื้น ถ้าตะเกียงถูกเอาออกมาหรือเสาหินถูกทำลาย มันก็จะไม่มีแหล่งพลังงานสำหรับตะเกียงอีก พวกมันจะดับไปในทันที”