Super God Gene – ตอนที่ 2934 ศาลา

คนๆนั้นกำลังหันหน้าไปอีกทาง เขากำลังเอนหลังพิงรั้วของศาลา ดูเหมือนว่าเขากำลังชื่นชมดอกไม้ใบหญ้ารอบๆ

 

“ชื่อของข้าคือหานเซิ่น ข้าเข้ามาที่นี่โดยอุบัติเหตุ ถ้าการเข้ามาโดยพลการของข้าเป็นการล่วงละเมิดเจ้า ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย” หานเซิ่นพูด

 

หลังจากที่เผชิญหน้ากับนางฟ้าแห่งความตาย หานเซิ่นก็ไม่กล้าใช้ออร่าตงเสวียนสุ่มสี่สุ่มห้าอีก ในสถานที่อันตรายแบบนี้เขาไม่ควรทำอะไรที่ไม่มั่นใจ

 

คนๆนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ทำอะไร มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินที่หานเซิ่นพูด

 

หานเซิ่นพูดอีกหลายครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น แต่คนๆนั้นก็ยังคงไม่ตอบสนองอะไร หานเซิ่นคิดว่ามันแปลกๆ ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปในสวนและถาม

“เจ้ากำลังมีปัญหาบางอย่างงั้นหรอ? ต้องการความช่วยเหลือไหม?”

 

ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว เขาก็ไม่คิดจะจากไปโดยที่ไม่ได้สำรวจอะไรเลย ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าต้นไม้ ดอกไม้และต้นหญ้าในสวนนั้นเป็นอะไรที่พิเศษ แต่เมื่อเขามาดูใกล้ๆ เขาก็รู้สึกตัวว่าพวกมันเป็นแค่พืชที่ธรรมดาๆ มันไม่ใช่พืชซีโน่เจเนอิคด้วยซ้ำ

 

หานเซิ่นเดินไปรอบเพื่อยืนยันถึงเรื่องนั้น สวนศักดิ์สิทธิ์นั้นงดงามมากๆ แต่สิ่งที่อยู่ภายในเป็นอะไรที่ธรรมดาๆ มันไม่เหมือนกับสวนที่หานเซิ่นจินตนาการเอาไว้

 

“ผู้นำเซเคร็ดสร้างนางฟ้าแห่งความตายที่น่ากลัวนั่นขึ้นมาเพื่อปกป้องที่แห่งนี่ แบบนั้นมันจะเป็นสถานที่ที่ธรรมดาๆไปได้ยังไง?” หานเซิ่นมองคนที่อยู่ในศาลาอีกครั้ง

 

คนๆนั้นยังคงไม่พูดอะไร เขาแค่นั่งอยู่เฉยๆ มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังชมวิวของสวน เขาดูจะไม่สนใจหานเซิ่นเลยแม้แต่นิดเดียว

 

“เจ้ามานั่งชมดอกไม้ตามลำพังแบบนี้ไม่น่าเบื่อหรือยังไง? ให้ข้านั่งเป็นเพื่อนเอาไหม?”

หานเซิ่นเดินเข้าไปที่ศาลา หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่าคนๆนั้นเป็นผู้หญิง เธอสวมใส่ชุดหลวมๆ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้หานเซิ่นไม่รู้สึกตัวก่อนหน้านี้

 

มันมีโต๊ะหินตัวหนึ่งอยู่ในศาลา และบนโต๊ะมีสิ่งที่ดูเหมือนกับหม้อหิน ซึ่งในหม้อมีเนื้อกำลังถูกต้มอยู่

 

น้ำซุปในหม้อนั้นกำลังเดือดปุดๆ ในตอนที่หานเซิ่นเดินไปใกล้ เขาก็ได้กลิ่นหอมของเนื้อ เขาอดไม่ได้ที่จะมีน้ำลายไหลออกมา

 

นอกจากหม้อหินแล้ว มันยังมีขวดไวน์วางเอาไว้ แต่มันไม่มีแก้วไวน์อยู่

 

“ดื่มคนเดียวมันจะสนุกอย่างนั้นหรอ? ทำไมเจ้าไม่ให้พวกข้าดื่มเป็นเพื่อน? การที่พวกข้าพ่อลูกมาพบกับเจ้าที่นี่คงจะต้องเป็นเพราะโชคชะตา แบบนั้นทำไมเจ้ากับข้าไม่มาดื่มด้วยกัน?”

หานเซิ่นเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ดังนั้นเขาจึงบอกให้ปลาทองตัวใหญ่และปลาทองตัวน้อยรออยู่ด้านนอก ขณะที่เขาอุ้มเป่าเอ๋อเดินเข้าไปในศาลา

 

ดวงตาของพ่อลูกสาวจ้องมองไปที่เนื้อในหม้ออย่างไม่กระพริบ พวกเขาไม่รู้ว่าเนื้อในหม้อนั่นเป็นเนื้อแบบไหน แต่กลิ่นของมันหอมมากๆ แม้แต่เป่าเอ๋อที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาเมื่อได้กลิ่นของมัน

 

กว่าจะมาถึงที่นี่พวกเขาต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ท้องของพวกเขานั้นว่างมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นเนื้อที่แสนอร่อยอยู่ตรงหน้า พวกเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นความอยากเอาไว้ได้

 

แต่ถึงพ่อและลูกสาวต้องการจะกินเนื้อในหม้อ พวกเขาก็ไม่ใช่เจ้าของของมัน พวกเขาไม่กล้าจะกินมันโดยพละการ พวกเขาหันไปมองผู้หญิงในศาลาโดยต้องการจะรู้ว่าเธอเป็นใคร

 

หลังจากที่หานเซิ่นมองเธอจากด้านหน้า ในที่สุดเขาก็ได้เห็นใบหน้าของเธอ เมื่อได้เห็น เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ

 

ผู้หญิงตรงหน้าเขาไม่ได้มีชีวิต มันเป็นเพียงแค่รูปปั้นเท่านั้น แต่มันเป็นรูปปั้นที่ดูเหมือนจริงมากๆ รูปปั้นกำลังสวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกับของมนุษย์ ถ้าพวกเขาไม่ได้มาเห็นใบหน้าของมัน พวกเขาก็คงจะไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือรูปปั้น

 

แต่สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นตกใจนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงในศาลาเป็นรูปปั้น มันเป็นเพราะใบหน้าของรูปปั้นดูเหมือนกับหว่านเอ๋อร์ผมทอง รูปร่างของมันเหมือนกับของหว่านเอ๋อร์ไม่มีผิด

 

“สวนศักดิ์สิทธิ์ของผู้นำเซเคร็ดมีรูปปั้นของหว่านเอ๋อร์อยู่ นั่นหมายความว่าหว่านเอ๋อร์เกี่ยวข้องกับผู้นำเซเคร็ดอย่างนั้นหรอ? นี่หมายความว่าพี่ชายหว่านเอ๋อร์ก็คือผู้นำเซเคร็ด?” หานเซิ่นมองไปที่รูปปั้นด้วยความแปลกใจ

 

เขาสังเกตเห็นว่ารูปปั้นหว่านเอ๋อร์กำลังถือแก้วไวน์อยู่ในมือ และในแก้วนั้นก็มีไวน์อยู่ หานเซิ่นได้กลิ่นของมัน

 

“เดี๋ยวก่อนนะ…” จู่ๆหัวใจของหานเซิ่นก็เต้นรัว

 

ถึงแม้แก้วไวน์จะเป็นส่วนหนึ่งของรูปปั้นอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ควรจะมีไวน์อยู่ในแก้วและขวดไวน์อยู่บนโต๊ะ นอกจากนั้นมันยังมีเนื้อที่กำลังถูกต้มอยู่ในหม้อที่มีน้ำเดือดปุดๆอีก

 

“นี่มันไม่ถูกต้อง ถ้ามันเป็นแค่รูปปั้นจริงๆ ไวน์และเนื้อพวกนี้มาจากที่ไหนกัน? นี่มีใครบางคนเข้ามาในสวนศักดิ์สิทธิ์และวางไวน์กับเนื้อเอาไว้ที่นี่อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปรอบๆพร้อมกับใช้ออร่าตงเสวียน

 

ถึงแม้สวนศักดิ์สิทธิ์ของเซเคร็ดจะมีชื่อเสียง แต่สถานที่จริงก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก หานเซิ่นสามารถสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างในสวนศักดิ์สิทธิ์ด้วยออร่าตงเสวียน แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงพลังชีวิตของใครได้เลย

 

‘คนที่อยู่ที่นี่สังเกตเห็นพวกเราเลยรีบหนีออกไปจากที่นี่โดยใช้ประตูหลังอย่างนั้นหรอ?’ ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิดอยู่นั้น เป่าเอ๋อก็ได้วิ่งไปนั่งลงบนหนึ่งในเก้าอี้หินเรียบร้อยแล้ว เธอเอาช้อนคันหนึ่งออกมาจากไหนก็ไม่รู้และเริ่มตักเนื้อขึ้นมากิน

 

“มันรสชาติอร่อยมาก!” เป่าเอ๋อกินเนื้ออย่างมีความสุข ดูเหมือนว่ามันจะเป็นของดีมากๆ

 

หานเซิ่นตัดสินใจจะกินด้วยเช่นกัน เขานั่งลงตรงหน้าโต๊ะหิน เป่าเอ๋อใช้ช้อนของเธอตัดเนื้อขึ้นมาจากหม้อและยกมันขึ้นมาที่ปากของหานเซิ่น

“พ่อควรจะลองกินมันดู มันอร่อยมากจริงๆ มันดีกว่าอาหารที่แม่ทำซะอีก”

 

“ไหนให้พ่อลองสิ” หานเซิ่นรู้ว่าเป่าเอ๋อนั้นชอบกิน แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเธอจะกินทุกอย่างที่เห็น ถ้ามันมีปัญหาบางอย่างกับเนื้อในหม้อ เป่าเอ๋อก็จะเป็นคนแรกที่บ่นขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้กังวลว่ามันจะมีปัญหากับอาหารในหม้อ

 

หานเซิ่นกินเนื้อเข้าไปคำหนึ่งและพบว่ามันนุ่มมากๆ มันเต็มไปด้วยไขมัน แต่มันก็ไม่ได้มากจนเกินไป มันละลายในปากแต่ก็ยังมีความกรุบกรอบ

 

“มันไม่เลวจริงๆ” หานเซิ่นเอยชมมันเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้กินเนื้อที่ดีขนาดนี้

 

“ยีนระดับเทพเจ้า+1…” ขณะที่หานเซิ่นชื่นชมมัน จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นมา

 

“โอ้มายก็อด… เนื้อในหม้อนี่เป็นของสิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตอย่างนั้นหรอ? ใครกันที่ใจกว้างขนาดที่มาต้มเนื้อซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตและทิ้งมันไว้ที่นี่?” หานเซิ่นรู้สึกว่านี่มันไม่ถูกเท่าไหร่

 

แม้แต่ผู้คนที่ยิ่งใหญ่อย่างผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและผู้นำปราสาทนภาก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยแบบนี้ พวกเขาจะไม่ต้มเนื้อซีโน่เจเนเอิคขั้นทรูก็อตและมอบมันให้กับคนอื่น ถึงแม้พวกเขาจำเป็นต้องไปจากที่นี่ พวกเขาก็จะเอาเนื้อติดไปด้วย

 

หานเซิ่นได้ใช้ออร่าตงเสวียนเพื่อสแกนดูบริเวณรอบๆเรียบร้อยแล้ว แต่เขาก็ไม่พบอะไร นอกจากพวกเขาแล้ว ในสวนก็มีแค่รูปปั้นของหว่านเอ๋อร์เท่านั้น

 

เป่าเอ๋อดูจะไม่สนใจว่าเนื้อและไวน์พวกนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เธอกำลังกินและดื่มอย่างสนุกสนาน

 

หานเซิ่นไม่พบอันตรายใดๆ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องแปลกที่อาหารพวกนี้ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่ แต่มันถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่เนื้อพวกนี้สามารถเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าได้

 

ร่างของมังกรเกล็ดดำนั้นใหญ่เกินไป หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลาอีกนานสักเท่าไหร่กว่าที่เขาจะกินมันจนหมด แต่ทว่าต้องขอบคุณเนื้อในหม้อนี่ เขาแค่จำเป็นต้องกินมันเข้าไปคำเดียวเพื่อจะเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าหนึ่งยีน นี่เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขา

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset