Super God Gene – ตอนที่ 2944 ชีวิตสั้นเกินไป

ในตอนที่หานเซิ่นดื่มไวน์แก้วที่สองจนหมด ฉินซิวก็เทไวน์ให้หานเซิ่นอีกแก้วหนึ่ง

“ข้าขอดื่มให้กับเจ้าอีกแก้ว”

 

หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ดื่มไวน์ที่ฉินซิวเทให้กับเขา หานเซิ่นเข้าใจคนอย่างฉินซิว ถ้าเขายินดีจะเล่าให้ฟัง เขาก็จะบอกกับหานเซิ่นเอง มันไม่มีประโยชน์อะไรในการถามซ้ำอีก

 

“ยีนระดับเทพเจ้า +1”

 

หานเซิ่นได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นมาในหัว แต่เขาไม่ได้สนใจอะไร เพราะในตอนที่เวลาถูกย้อนกลับ ยีนระดับเทพเจ้าที่เขาได้รับก็จะถูกเอากลับคืนไป

 

ฉินซิวดื่มไวน์จนหมด เขาวางแก้วไวน์ลงและพูด

“น่าเสียดายที่นี่เป็นแค่สปิริตของข้า ข้าจึงมีเวลาไม่มาก หลังจากที่ข้าไปแล้ว ไทม์ลูปและสเปชลูปของสวนศักดิ์สิทธิ์นั้นจะสิ้นสุดลง เจ้าเอารูปปั้นนี้ไปและออกไปทางประตูหลังของสวน หลังจากนั้นถ้าเจ้าตรงต่อไปเรื่อยๆ เจ้าก็จะไปถึงปราสาทศักดิ์สิทธิ์”

 

หลังจากนั้นก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไร ฉินซิวก็หันไปมองไนน์เทาซันด์คิงที่กำลังตบหน้าตัวเองซ้ำๆ ใบหน้าของเขากำลังจะถูกขยี้จนเละ

 

“หมายเลขเก้า จากนี้เป็นต้นไปเจ้าต้องติดตามหานเซิ่น” ฉินซิวพูด

“ถ้าเขาต้องการให้เจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าก็ต้องมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าเขาต้องการให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย”

 

ไนน์เทาซันด์คิงแปลกใจ แต่เขาไม่กล้าจะโต้แย้งอะไร เขาแค่ตอบในทันทีว่า “ข้าน้อยทราบแล้ว”

 

หลังจากที่ฉินซิวพูดออกไป เขาไม่ได้หยุดมองกระทั่งไนน์เทาซันด์คิงตอบรับคำสั่ง เขาหันมามองที่หานเซิ่นด้วยสายตาที่ดูเหมือนกับว่าเขาสามารถมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง

 

“น่าเสียดายที่ชีวิตสั้นเกินไป ข้าจึงดูแลเจ้าไม่ได้”

ฉินซิวถอนหายใจและพูด เขามองไปหานเซิ่น ขณะที่มีแสงศักดิ์สิทธิ์รั่วไหลออกมาจากร่างกายของเขา

 

ขณะที่แสงศักดิ์สิทธิ์เริ่มจางหายไป พลังชีวิตของรูปปั้นก็เริ่มอ่อนลง ร่างกายของเขาเริ่มจะกลับไปดูเหมือนกับหยกอีกครั้ง

 

รูปปั้นหยกนั้นหดเล็กลงไปเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปสักพักรูปปั้นหยกก็ไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่อีก และมันก็กลายเป็นรูปปั้นเล็กๆในมือของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นรับรูปปั้นหยกเอาไว้และรู้สึกว่าสวนศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันแตกต่างไปจากเดิมยังไง

 

ไนน์เทาซันด์คิงลุกขึ้นและมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็รีบร้อนวิ่งไปที่ประตูของสวนศักดิ์สิทธิ์ราวกับคนบ้า ครั้งนี้ในตอนที่เขาวิ่งออกไป เขาไม่ได้ปรากฏตัวอีกครั้งทางประตูหลัง เขาออกไปยืนอยู่ด้านนอกของประตู

 

“พลังเซเคร็ดหายไปแล้ว” ไนน์เทาซันด์คิงทั้งประหลาดใจและดีใจ ในตอนที่เขาหันมามองที่หานเซิ่น อารมณ์ที่ซับซ้อนก็แสดงออกมาในดวงตาของเขา

 

‘เด็กคนนี้มีความเกี่ยวข้องยังไงกับท่านผู้นำ? สิ่งสุดท้ายที่ท่านผู้นำบอกหมายความว่ายังไง? ทำไมเขาถึงพูดอะไรแบบนั้น?’ ไนน์เทาซันด์คิงพยายามคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น

 

“พลังของสวนศักดิ์สิทธิ์ที่กักขังพวกเราหายไปแล้ว พวกเราควรรีบออกไปจากที่นี่” หานเซิ่นหยิบหม้อหิน ขวดไวน์และแก้วไวน์ขึ้นมา

 

ก่อนหน้านี้เนื่องจากพลังเซเคร็ด ทำให้สวนศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ในไทม์ลูป แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว หานเซิ่นจึงไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดมือไป

 

หลังจากที่หยิบพวกมันขึ้นมา หานเซิ่นก็อุ้มเป่าเอ๋อและเรียกปลาทองทั้งสองมาเพื่อที่พวกเขาจะได้เดินออกไปทางประตูหลังของสวนศักดิ์สิทธิ์

 

ฉินซิวบอกว่าประตูหลังนั้นจะพาไปที่ปราสาทศักดิ์สิทธิ์ นั่นจะต้องเป็นสถานที่ที่คนของเซเคร็ดอยู่อาศัย ไม่ว่าฉินซิวจะมีจุดประสงค์อะไร หานเซิ่นก็ตั้งใจจะไปที่นั่นอยู่แล้ว

 

หานเซิ่นเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าว ไนน์เทาซันด์คิงก็เทเลพอร์ตมาปรากฏตัวด้านหลังของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นเตรียมตัวรับมือและมองไปที่ไนน์เทาซันด์คิง เขาไม่ได้คาดคิดว่าไนน์เทาซันด์คิงจะก้มหัวให้กับเขาและพูด

“ท่านผู้นำขอให้ข้าปกป้องมิสเตอร์หาน นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องทำ ข้าจะทำให้แน่ใจว่ามิสเตอร์หานนั้นปลอดภัย”

 

“นั่นก็เป็นแค่สปิริตของเขาเท่านั้น ตอนนี้เมื่อสปิริตนั่นหายไปแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่เจ้าต้องทำตามที่เขาบอกอย่างจริงจัง”

หานเซิ่นไม่คิดว่าคนอย่างไนน์เทาซันด์คิงจะจงรักภักดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉินซิวไม่อยู่แล้ว

 

“มิสเตอร์หานพูดแบบนั้นได้ยังไง?” ไนน์เทาซันด์คิงถามอย่างจริงจัง

“ข้าเป็นข้ารับใช้ของผู้นำเซเคร็ด ถ้านี่คือคำสั่งของท่านผู้นำ ถึงแม้มันจะนำไปสู่ความตาย ข้าก็จะทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่”

 

“เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ทั้งข้าและเจ้าต่างก็รู้ดีว่าด้วยการที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า ข้าจะตกอยู่ในอันตราย” หานเซิ่นหัวเราะ

 

ไนน์เทาซันด์คิงดูจริงจัง เขายิ้มแห้งๆและพูด “บอกตามตรงถ้าท่านผู้นำไม่ได้มอบคำสั่งแบบนี้ ข้าก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อฆ่าเจ้า แต่ตอนนี้ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ไม่สำคัญว่าข้าจะมีความกล้ามากขนาดไหน ข้าก็จะไม่มีวันทำร้ายเจ้า”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ไนน์เทาซันด์คิงก็พูดต่อ “จะเชื่อข้าหรือไม่ก็ได้ แต่ข้าจะไม่มีวันขัดคำสั่งที่ท่านผู้นำมอบให้กับข้า ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย”

 

“สปิริตหายไปแล้ว เจ้ายังจะกลัวอะไรอีก?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าที่ไนน์เทาซันด์คิงพูดเป็นความจริงหรือไม่ แต่เมื่อดูจากท่าทางของไนน์เทาซันด์คิงแล้ว มันดูไม่เหมือนว่าเขากำลังพูดโกหก

 

“ไม่สำคัญว่าเจ้าจะคิดยังไง ข้าก็จะทำตามที่ท่านผู้นำบอก ถึงแม้ข้าจะต้องเสี่ยงชีวิตของตัวเอง” ไนน์เทาซันด์คิงยืนกรานที่จะติดตามหานเซิ่น

 

หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับท่าทางของไนน์เทาซันด์คิง ในตอนที่รูปปั้นเริ่มเคลื่อนไหว เขารู้ว่าไนน์เทาซันด์คิงนั้นหวาดกลัวผู้นำเซเคร็ดอย่างแท้จริง ดังนั้นบางทีความรู้สึกนี้ของเขาอาจจะเป็นของจริง

 

หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก ถ้าไนน์เทาซันด์คิงยืนกราน เขาก็ไม่รังเกียจที่จะมีคนมาเป็นโล่กำบัง ขณะที่อุ้มเป่าเอ๋อเอาไว้ พวกเขาทั้งหมดก็เดินออกจากสวนศักดิ์สิทธิ์

 

ไนน์เทาซันด์คิงรู้ว่าหานเซิ่นกำลังจะไปที่ไหน ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นมา

“ข้าจะนำทางให้เอง”

 

หลังจากที่พูดแบบนั้นไนน์เทาซันด์คิงก็มาอยู่ข้างหน้าหานเซิ่น เขาทำเหมือนกับว่าเขาเป็นแค่คนรับใช้คนหนึ่ง

 

หลังจากที่ออกมาจากสวน นอกจากบริเวณประตูที่มีแสงไฟจากตะเกียงแล้ว รอบๆนั้นมืดสนิท หานเซิ่นถามไนน์เทาซันด์คิง

“เจ้าจะเดินผ่านความมืดมิดไปยังไงกัน?”

 

ไนน์เทาซันด์คิงรีบตอบอย่างมีมารยาท “เรียนมิสเตอร์หาน ข้ามีชุดเกราะต่อสู้เทาซันด์อายที่คอยปัดเป่าพลังความมืด ตราบใดที่พวกเราไม่ไปพบกับสเปชชาร์ม พวกเราก็จะไม่ตกอยู่ในอันตราย”

 

“สเปชชาร์มคืออะไร?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

“สเปชชาร์มคือซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่ง แต่มันแตกต่างไปจากซีโน่เจเนอิคทั่วๆไป มันปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เกิดหายนะขึ้นกับเซเคร็ด มันอยู่เฉพาะภายในความมืดในเซเคร็ดเท่านั้น มันมีพลังที่น่ากลัวมากๆ แม้แต่ขั้นทรูก็อตระดับท็อปก็ต่อสู้กับสเปชชาร์มไม่ได้ โชคดีที่สเปชชาร์มจะเดินทางในความมืดเท่านั้น มันจะไม่เข้ามาใกล้บริเวณที่มีแสงไฟของตะเกียงอยู่”

ไนน์เทาซันด์คิงมองไปที่ความมืดข้างหน้าและพูด “ดูเหมือนว่าหนทางข้างหน้าจะไม่มีแสงไฟจากตะเกียงอยู่ ข้าจะนำทางให้กับมิสเตอร์หานเอง ถ้าเกิดว่าพวกเราไปเจอกับสเปชชาร์ม มิสเตอร์หานต้องรีบหนีไป อย่าได้เป็นห่วงความปลอดภัยของข้า”

 

หานเซิ่นคิดว่าไนน์เทาซันด์คิงดูซื่อตรงมากๆ แต่หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันมาจากหัวใจของเขา หรือว่าเขาแค่แสแสร้ง

 

ไนน์เทาซันด์คิงมีชุดเกราะต่อสู้เทาซันด์อาย ซึ่งสามารถปัดเป่าพลังของความมืดได้ แต่พวกปลาทองทำแบบนั้นไม่ได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงต้องเรียกตะเกียงหินออกมาและถือมันเอาไว้ขณะที่เดินทางต่อ

 

ไนน์เทาซันด์คิงเห็นหานเซิ่นถือตะเกียงหินที่สามารถผลักความมืดมิดถอยออกไปได้ มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ

‘ตะเกียงหินนี่ผลักความมืดของเซเคร็ดได้ สมบัติแบบนี้จะต้องมาจากท่านผู้นำแน่ เราเข้าใจไม่ผิด ความสัมพันธ์ของท่านผู้นำกับหานเซิ่นนั้นไม่ปกติ’

 

เมื่อคิดได้แบบนั้นใบหน้าของไนน์เทาซันด์คิงก็ดูแปลกๆ นั่นเป็นเพราะว่าเขาคิดเกี่ยวกับประโยคสุดท้ายที่ฉินซิวพูดก่อนที่จะจากไป

 

“น่าเสียดายที่ชีวิตนั้นสั้นเกินไป ข้าจึงดูแลเจ้าไม่ได้”

ไนน์เทาซันด์คิงมีสีหน้าแปลกๆขณะที่คิดกับตัวเอง ‘นี่ท่านผู้นำเป็นเกย์อย่างนั้นหรอ’

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset