Super God Gene – ตอนที่ 2947 ชีวิตที่แพง

“ระดับพลังไม่มีความเกี่ยวข้องกับน้ำหนักจริงๆสินะ”

หานเซิ่นลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเอาเลือดของปลาทองตัวน้อยไปโยนใส่ศิลาจารึกแห่งโชคชะตา เหมือนกับก่อนหน้านี้หลังจากที่ศิลาจารึกดูดซับเลือดของปลาทองน้อยเข้าไป ด้านบนของศิลาจารึกก็แสดงตัวเลขออกมาและเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว

 

หานเซิ่นไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เพราะยังไงซะแม่ของมันก็มีวิญญาณที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 26 กิโลกรัมเท่านั้น

 

แต่ตัวเลขบนศิลาจารึกแห่งโชคชะตานั้นเพิ่มไปจนถึงหลักที่สาม และมันก็ยังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็เพิ่มขึ้นไปถึงหลักที่สี่

 

“วิญญาณนี้แปลกจริงๆ พวกมันเกี่ยวพันกันทางสายเลือด แต่น้ำหนักวิญญาณของพวกมันแตกต่างกันอย่างมาก” หานเซิ่นแปลกใจ

 

ไนน์เทาซันด์คิงที่อยู่ใกล้ๆพูดขึ้นมา “วิญญาณนั้นโดยปกติแล้วเป็นสิ่งที่ยากจะมองเห็นได้ มีเพียงแค่สมบัติซีโน่เจเนอิคอย่างศิลาจารึกแห่งโชคชะตาเท่านั้นที่จะมองเข้าไปในวิญญาณ น้ำหนักของวิญญาณนั้นเป็นอะไรที่ยากจะอธิบาย คนที่มีระดับต่ำก็อาจจะมีวิญญาณที่หนักมากๆได้เช่นกัน ถึงแม้คนสองคนจะกำเนิดมาจากแม่เดียวกัน แต่วิญญาณของพวกเขาก็แตกต่างกันได้ มันยากที่จะบอกถึงหลักเกณฑ์ในการกำหนดน้ำหนักของวิญญาณ”

 

หานเซิ่นพยักหน้า เขามองไปที่ตัวเลขของปลาทองน้อยที่ยังคงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปสักพักตัวเลขน้ำหนักวิญญาณของปลาทองน้อยก็ไปหยุดที่ 7,493

 

ไนน์เทาซันด์คิงถอนหายใจออกมา “7000 กิโลกรัมอย่างนั้นหรอ? มันยังห่างจากหนึ่งหมื่นอยู่พอสมควรเลย”

 

ราชครูกู่เยวียนพูด “น่าเสียดาย ถ้าหนึ่งในพวกเรามีน้ำหนักวิญญาณถึงหนึ่งหมื่น บางทีพวกเราอาจจะออกไปจากที่นี่ได้”

 

หานเซิ่นหันไปมองราชครูกู่เยวียนและถาม “ราชครู ราชครูลองทดสอบดูหรือยัง?”

 

“พวกเราทุกคนลองทดสอบดูเรียบร้อยแล้ว มันมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน แต่ไม่มีใครที่ถึงหนึ่งหมื่น ถ้าหนึ่งในพวกเรามีน้ำหนักวิญญาณถึงหนึ่งหมื่น พวกเราก็คงจะไม่ติดอยู่ที่นี่”

ราชครูกู่เยวียนหยุดไปชั่วครู่ ก่อนที่จะพูดกับหานเซิ่นว่า “ตอนนี้มันเหลือแค่เจ้ากับลูกสาวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำการทดสอบ ข้าหวังว่าเจ้าจะมีวิญญาณหนักเกินหนึ่งหมื่นกิโลกรัมเพื่อที่พวกเราจะได้ออกไปจากที่นี่”

 

หานเซิ่นพยักหน้า เขายกนิ้วขึ้นมาและบีบเอาหยดเลือดหยดหนึ่งออกมา หลังจากนั้นเขาก็โยนมันไปใส่ศิลาจารึกแห่งโชคชะตา

 

เลือดของหานเซิ่นเป็นสีแดง มันแดงเหมือนกับทับทิม เมื่อมันไปสัมผัสกับศิลาจารึกแห่งโชคชะตา ศิลาจารึกก็ดูดซับมันเข้าไป ไม่นานทั้งศิลาจารึกก็เปลี่ยนเป็นคริสตัลสีทับทิม

 

ตัวเลขปรากฏขึ้นบนศิลาจารึก พวกมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไปถึงเลขสามหลักในเวลาเพียงไม่นาน

 

เมื่อไนน์เทาซันด์คิงเห็นว่าวิญญาณของหานเซิ่นหนักเกินหนึ่งพัน เขาก็ดูอิจฉาขณะที่พูดขึ้นว่า

“คุณหานมีชีวิตที่แพงมากๆ น้ำหนักวิญญาณของคุณหานเพิ่มขึ้นถึงเลขสี่หลักอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าการจะถึงหนึ่งหมื่นนั้นคงจะไม่ยากเกินไป”

 

“เจ้าประเมินเขาสูงเกินไปแล้ว” ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาพูดขึ้นมา

 

คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่เขารู้ดีว่าหานเซิ่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากก็อตแซงชัวรี่ และเขาก็เคยเห็นพรสวรรค์ในตัวหานเซิ่นมาก่อน ยีนของหานเซิ่นนั้นไม่เสถียรและพรสวรรค์ก็ธรรมดาๆ

 

ถึงแม้น้ำหนักของวิญญาณจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับยีนหรือพรสวรรค์ของคนๆนั้น แต่กฎของก็อตแซงชัวรี่ก็จะทำล้ายวิญญาณของคนที่อยู่ข้างใน มันมีคนไม่มากนักที่รู้ถึงเรื่องนี้

 

ผู้อาวุโสหนึ่งเคยพยายามเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ และเขาก็เคยถูกทำร้ายโดยกฎของก็อตแซงชัวรี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้เกี่ยวกับมันเป็นอย่างดี

 

ยอดฝีมือของหลายเผ่าพันธุ์รู้ว่าคริสตัลไลเซอร์นั้นได้หนีเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ ภายใต้กฎของที่นั่น พวกเขาเชื่อว่าวิญญาณของคริสตัลไลเซอร์ไม่มีทางเกินกว่าหนึ่งหมื่นเมื่อพวกเขาออกมา

 

ราชครูกู่เยวียนและคนอื่นๆจ้องไปที่ตัวเลขบนศิลาจารึกแห่งโชคชะตา พวกเขาหวังว่าวิญญาณของหานเซิ่นจะหนักเกินหนึ่งหมื่น

 

ไนน์เทาซันด์คิงรู้สึกโกรธเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสหนึ่งพูด เขาพูดขึ้นว่า “ชีวิตของคุณหานนั้นแพงมากๆ มันเป็นสิ่งที่คนชีวิตถูกๆอย่างเจ้าไม่มีทางเทียบได้”

 

“โอ้ จริงอย่างนั้นหรอ? ข้าอยากเห็นจริงๆว่าชีวิตของเขาจะแพงสักแค่ไหนกัน”

ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาพูดอย่างอ่อนโยน แต่ใบหน้าของเขาทำให้ไนน์เทาซันด์คิงโกรธมากๆ ไนน์เทาซันด์คิงต้องการจะฆ่าเขาด้วยมือของตัวเอง

 

“5000 …” เอ็กซ์ตรีมคิงคนหนึ่งเห็นว่าน้ำหนักวิญญาณของหานเซิ่นเพิ่มขึ้นสูงกว่า 5000 ซึ่งทำให้พวกเขามีความหวัง

 

“8000…” ดวงตาของราชครูกู่เยวียนเริ่มจะเปลี่ยนแปลง

 

หลังจากที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นไปถึง 9000 แม้แต่ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาก็ดูแปลกๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะเชื่อว่าหานเซิ่นที่มาจากก็อตแซงชัวรี่จะมีวิญญาณที่หนักขนาดนั้น

 

‘แปลกจริงๆ กฎของก็อตแซงชัวรี่ควรจะลดวิญญาณของคนที่อยู่ภายใน เขาออกมาจากก็อตแซงชัวรี่ แบบนั้นทำไมเขาถึงมีวิญญาณที่หนักขนาดนั้นได้?’ ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาขมวดคิ้ว

 

ตัวเลยยังคงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ มันเข้าใกล้ 9999 มากขึ้นเรื่อยๆ เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าหลายคนกลั้นหายใจ ขณะที่จ้องมองไปที่ตัวเลขบนศิลาจารึก พวกเขาหวังว่าตัวเลขบนนั้นจะเพิ่มขึ้นเกินขีดจำกัดไป

 

ท่ามกลางสายตาของทุกคน ในที่สุดตัวเลขสี่หลักบนศิลาจารึกก็เพิ่มขึ้นจนถึงขีดจำกัด ซึ่งก็คือ 9999 ในเวลาเดียวกันตัวเลขบนศิลาจารึกแห่งโชคชะตาก็หยุดไป มันหยุดไปแค่ชั่วครู่ แต่ในสายตาของทุกคนนั้น มันนานเป็นศตวรรษ

 

ในจังหวะต่อมาตัวเลขบนศิลาจารึกก็ก้าวกระโดด ครั้งนี้ตัวเลขไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่มันกลับมากลายเป็นเลขศูนย์แทน

 

ทุกคนตกใจ เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าคนหนึ่งพูดขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น? ข้าคิดว่าเมื่อมีคนที่มีน้ำหนักวิญญาณถึงหนึ่งหมื่นกิโลกรัม คนๆนั้นก็จะหลุดพ้นจากพลังของศิลาจารึกแห่งโชคชะตาได้ ทำไมจู่ๆน้ำหนักของวิญญาณถึงได้กลับมาอยู่ที่เลขศูนย์?”

 

“ไม่มีทางที่น้ำหนักวิญญาณของหานเซิ่นจะแค่ 9999 เขาต้องการอีกแค่หนึ่งกิโลกรัมเพื่อจะไปถึงหนึ่งหมื่น”

 

“ไปดูข้างหลังศิลาจารึกกัน ดูสิว่าวิญญาณของหานเซิ่นยังอยู่ที่นั่นไหม”

 

ทุกคนอ้อมไปดูด้านหลังของศิลาจารึก ทันใดนั้นศิลาจารึกแห่งโชคชะตาก็ส่องสว่างขึ้นมา ศิลาจารึกแห่งโชคชะตาที่ย้อมเป็นสีแดงเพราะเลือดของหานเซิ่นนั้นปล่อยแสงหนึ่งหมื่นดวงออกมา

 

พื้นดินก็เริ่มจะสั่นไหว แสงหนึ่งหมื่นดวงออกมาจากศิลาจารึกแห่งโชคชะตาและลอยตัวอยู่ในอากาศ

 

“Roar!”

ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินศิลาจารึกแห่งโชคชะตาทำเสียงที่เหมือนกับการคำราม มันเหมือนกับเสียงคำรามของเสือหรือมังกร หลังจากนั้นทุกคนก็เห็นศิลาจารึกแห่งโชคชะตาสีแดงเปลี่ยนเป็นสีขาวศักดิ์สิทธิ์ มีกิเลนหยกที่ห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวบริสุทธิ์ออกมา แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างออกจากตัวของมันเหมือนกับดวงอาทิตย์ มันทำให้ดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดนั้นสว่างไสวขึ้นมา

 

พื้นที่แตกร้าว…สิ่งก่อสร้างที่พังทลาย…เครื่องจักรที่แตกหัก… ทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยแสงสว่างจากกิเลนศักดิ์สิทธิ์

 

นอกจากซากปรักหักพังแล้วมันยังมีเงาที่ดูเหมือนกับแฟรี่ลอยตัวอยู่ ร่างกายของแฟรี่พวกนั้นกึ่งโปร่งใส พวกมันดูเหมือนกับเยลลี่สีฟ้า

 

“พวกมันคือสเปชชาร์ม” หานเซิ่นจดจำคำบรรยายของไนน์เทาซันด์คิงได้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset