ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาใช้วิชาพลิกท้องฟ้าและผืนดินเพื่อจะเปลี่ยนทิศทางการกลิ้งของอสูรยักษ์ไร้ดวงตา แต่ครั้งนี้อสูรยักษ์ไร้ดวงตาไม่ได้รับผลกระทบจากพลังของเขา
ถึงแม้มิติของอวกาศจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยพลังของผู้อาวุโสหนึ่ง แต่อสูรยักษ์ไร้ดวงตาก็ยังคงกลิ้งตรงเข้ามาหาเขาอยู่ดี มันกลิ้งเร็วขึ้นเรื่อยๆและมันมาถึงตรงหน้าผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาในชั่วพริบตา
สีหน้าของผู้อาวุโสหนึ่งเปลี่ยนไป เขารีบสะบัดแขนเสื้อออกไปข้างหน้า ซึ่งในแขนเสื้อของเขาดูเหมือนจะมีหลุมดำอยู่ เขาพยายามจะดูดอสูรยักษ์ไร้ดวงตาเข้าไปข้างใน
แต่ในจังหวะที่อสูรยักษ์ไร้ดวงตากำลังจะไปถึงแขนเสื้อ มันก็หยุดกลิ้งอย่างกะทันหัน ปากของมันเปลี่ยนเป็นเหมือนแตรที่เป่าลมออกไปใส่ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภา
เสียงที่ดังขึ้นมานั้นเหมือนกับเสียงหวูดเรือ ในจังหวะที่เสียงดังขึ้นมา ทุกคนก็เห็นคลื่นกระแทกออกมาจากปากของอสูรยักษ์ไร้ดวงตา พวกมันเหมือนกับคลื่นที่ซัดเข้าไปหาผู้อาวุโสหนึ่ง ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นวงแหวนเสียงที่รัดร่างกายของเขาเอาไว้
ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาพยายามระเบิดพลังออกมา แต่เขาไม่สามารถทำลายวงแหวนเสียงที่รัดตัวของเขาเอาไว้ได้
อสูรยักษ์ไร้ดวงตาหันกลับและใช้วงแหวนเสียงนั้นลากตัวผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภากลับไปหาปีศาจสาว
อีกด้านหนึ่งราชครูกู่เยวียนนั้นไม่แม้แต่จะได้พูด ฟิชเบิร์ดนั้นรวดเร็วเกินไปและการโจมตีอย่างต่อเนื่องของมันก็ทำให้ราชครูกู่เยวียนรับมือไม่ทัน ร่างกายของเขาได้รับบาดแผลจำนวนมาก สุดท้ายแล้วราชครูกู่เยวียนก็ต้องเทเลพอร์ตหนีเข้าไปในความมืด ฟิชเบิร์ดพยายามจะไล่ตามไป แต่ไม่นานมันก็กลับออกมา เมื่อดูจากสีหน้าของมันแล้ว ทุกคนก็รู้ว่าฟิชเบิร์ดนั้นตามจับตัวราชครูกู่เยวียนไม่สำเร็จ
“วิชาจีโนของเขาแปลกประหลาดมาก เขาเดินทางภายในพลังของความมืดได้!” พิชเบิร์ดพูดหลังจากที่กลับออกมา
“ไม่เป็นอะไร มันคาดเดาได้ยากว่าคนของเอ็กซ์ตรีมคิงมาทำอะไรที่นี่ ไม่ต้องไปสนใจเขา” ปีศาจสาวพูด
ทุกคนหันความสนใจกลับมาที่หานเซิ่น ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภากำลังดิ้นรน แต่เขาไม่สามารถหนีไปจากวงแหวนเสียงที่รัดตัวของเขาได้
ปีศาจสาวจ้องไปที่หานเซิ่นและพูด “มอบสปิริตศักดิ์สิทธิ์มาให้กับข้า และข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไป”
หานเซิ่นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาแค่จ้องมองปีศาจสาวและคนอื่นๆ ในรูปภาพที่แมวเก้าชีวิตเคยส่งมาให้กับเขา หานเซิ่นได้เห็นปีศาจสาวและคนอื่นๆ เขารู้ว่าตัวเองมาถูกที่แล้ว
“ทำไมเจ้ายังมัวยืนเฉยอยู่อีก? รีบส่งสปิริตศักดิ์สิทธิ์มาเดี๋ยวนี้!” อีแร้งแก่ตะโกนด้วยความโกรธ
ไนน์เทาซันด์คิงรีบเทเลพอร์ตมาอยู่ด้านหน้าหานเซิ่น เขามองไปที่ปีศาจสาวและพูด
“พวกเจ้าต้องเชื่อข้า ท่านผู้นำนั้นทิ้งวิญญาณของเขาเอาไว้ในรูปปั้นภายในสวนศักดิ์สิทธิ์ และเขาก็สั่งให้ข้าปกป้องหานเซิ่นจริงๆ”
“เจ้ายังพยายามแต่งเรื่องหลอกพวกเราอีกอย่างนั้นหรอ?”
เรดโกสต์พูด “รูปปั้นในสวนศักดิ์สิทธิ์นั้นคือสิ่งที่ท่านผู้นำเตรียมให้กับท่านหญิงหว่านเอ๋อร์ วิญญาณของเขาจะไปอยู่ข้างในนั้นได้ยังไงกัน?”
ไนน์เทาซันด์คิงอึ้งไป เขาบ่นในใจ ‘ท่านผู้นำนะ ท่านผู้นำ ข้าทำทุกอย่างเพื่อท่านและคนที่ท่านรัก แต่การต้องมาตายด้วยฝีมือพวกเดียวกันแบบนี้… มันเป็นอะไรที่เลวร้ายที่สุด ท่านผู้นำ ท่านเป็นคนที่ชาญฉลาด ทำไมท่านถึงไม่รู้ก่อนล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น’
ไนน์เทาซันด์คิงทำการตัดสินใจและพูดกับหานเซิ่น “มิสเตอร์หานควรรีบหนีไปจากที่นี่ ข้าจะถ่วงเวลาพวกเขาเอาไว้เอง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น อีแร้งแก่และเรดโกสต์ก็หัวเราะออกมา
“ถ่วงเวลาพวกเราเอาไว้? ยังไงกันล่ะ? โดยการวิชาหนึ่งวินาทีคือหนึ่งพันปีของเจ้าน่ะหรอ? ถึงแม้เจ้าจะใช้อายุขัยที่เหลืออยู่จนหมด เจ้าจะถ่วงเวลาพวกเราได้นานสักแค่ไหนกันเชียว?”
“เทาซันด์อาย เจ้านี่จงรักภักดีกับเจ้านายคนใหม่ซะจริงๆ” ปีศาจสาวพูด
“หมายเลขเก้า เจ้าถอยออกไปก่อน” หานเซิ่นพูดกับไนน์เทาซันด์คิง
“มิสเตอร์หาน…” ไนน์เทาซันด์คิงต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หานเซิ่นหยุดเขาเอาไว้
หานเซิ่นทำท่าทางบอกให้ไนน์เทาซันด์คิงถอยออกไป เขามองไปที่ปีศาจสาวและถาม “เจ้าคืออาเหมยอย่างนั้นสินะ?”
ปีศาจสาวและคนอื่นๆตกใจ ชื่ออาเหมยนั้นไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการ มันไม่ควรมีใครที่รู้ถึงชื่อนั้น ชื่ออาเหมยเป็นสิ่งที่ปีศาจสาวเพิ่งเริ่มใช้ในตอนที่เสี่ยวฮวามาอยู่ด้วย มันมีแค่เสี่ยวฮวาเท่านั้นที่เรียกเธอแบบนั้น ส่วนอีแร้งแก่และคนอื่นๆจะเรียกเธอว่าผู้หญิงบ้ากาม
“เจ้ารู้จักข้าอย่างนั้นหรอ?” ปีศาจสาวขมวดคิ้วและมองไปที่หานเซิ่น ตอนนี้เมื่อเธอลองสังเกตดูดีๆ เขาก็ดูคุ้นๆอยู่บ้าง
“ข้าคือหานเซิ่น ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาเสี่ยวฮวา พวกเจ้าได้โปรดให้ข้าพบกับลูกชายอีกครั้ง”
หานเซิ่นโค้งคำนับให้กับอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท ถ้ามันไม่ได้ผล เขาก็จำเป็นต้องใช้กำลัง
“เจ้าคือหานเซิ่น!” อาเหมยและคนอื่นๆตกใจเมื่อได้ยินชื่อนั้น
พวกเขารู้ว่าพ่อทางสายเลือดของเสี่ยวฮวาก็คือหานเซิ่น แต่สำหรับพวกเขาแล้ว มันไม่ได้สำคัญว่าพ่อของเสี่ยวฮวาจะเป็นใคร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สนใจว่าหานเซิ่นจะมีหน้าตาเป็นยังไง ด้วยเหตุนั้นถึงแม้พวกเขาจะไปเจอกับหานเซิ่นเข้าโดยบังเอิญ พวกเขาก็จำหานเซิ่นไม่ได้
ดวงตาของอีแร้งแก่เบิกกว้างขณะที่มันมองไปที่หานเซิ่นด้วยความตกใจ
“เจ้าคือ… พ่อของนายน้อย?”
ไนน์เทาซันด์คิงอึ้งไป เขาไม่รู้ว่าจะประมวลผลกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยังไง
‘นี่มันหมายความว่ายังไง? พิชเบิร์ดบอกว่าหานเซิ่นคือพ่อของนายน้อย นั่นหมายความว่าพิชเบิร์ดมีเจ้านายคนใหม่ และเจ้านายคนใหม่ก็คือลูกชายของหานเซิ่น เดี๋ยวก่อนนะ…’
ดวงตาของไนน์เทาซันด์คิงเป็นประกายขึ้นมา จู่ๆเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาตบขาตัวเองและคิดต่อ
‘ข้าเข้าใจแล้ว… มิน่าล่ะท่านผู้นำถึงได้ส่งให้เรามาปกป้องหานเซิ่น… ที่แท้มันก็เป็นอย่างนี้นี่เอง…’
‘คาดไม่ถึงจริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าท่านผู้นำกับมิสเตอร์หานจะมีลูกด้วยกัน ด้วยนิสัยของพิชเบิร์ดและเดม่อนเกิร์ล ถ้าไม่ใช่ลูกของท่านผู้นำ พวกเขาก็ไม่มีทางจะรับเด็กคนหนึ่งมาเป็นเจ้านายคนใหม่ ไม่ผิดแน่ ท่านผู้นำคงจะต้องการให้ข้าปกป้องพ่อของนายน้อย… เดี๋ยวก่อนนะ… ไม่สิ… พ่อ?… ผู้ชายสองคนจะมีลูกด้วยกันได้ยังไง? ช่างเถอะ… ด้วยพลังของท่านผู้นำ เขาทำได้ทุกอย่าง!’ ไนน์เทาซันด์คิงเชื่อว่าที่เขาคิดถูกต้องแล้ว
หลังจากที่ไนน์เทาซันด์คิงคิดได้แบบนั้น เขาก็เริ่มหัวเราะและพูดขึ้นว่า
“ในเมื่อเจ้านายคนใหม่ของพวกเจ้าและเจ้านายคนใหม่ของข้าเป็นพ่อลูกกัน แบบนั้นทำไมพวกเรายังต้องต่อสู้กันอีก? รีบพามิสเตอร์หานเข้าไปในปราสาทศักดิ์สิทธิ์เร็วเข้า”
ปีศาจสาวและคนอื่นๆมองหน้ากัน พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดี พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าพ่อของเสี่ยวฮวาที่ออกมาจากก็อตแซงชัวรี่ตามลำพังจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ นอกจากนั้นเขายังทำให้คนอย่างไนน์เทาซันด์คิงยอมเชื่อฟัง และตอนนี้เขาก็มายืนอยู่ในเซเคร็ดเพื่อเอาตัวลูกชายของเขากลับคืนไป นี่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาถูกจับตัวอยู่นั้นคิดจะหนีไปในจังหวะที่คนอื่นๆต่อกัน ใครจะรู้ว่าสถานการณ์จะกลายเป็นแบบนี้ไปได้? เขาตกใจกับความจริงที่ว่าหานเซิ่นนั้นเป็นพ่อของผู้นำเซเคร็ดคนใหม่
‘นี่หมายความว่าเด็กคนนั้นกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของเซเคร็ด…’
ผู้อาวุโสหนึ่งเคยต้องการจะพาตัวเสี่ยวฮวาไป แต่เขานั้นปล่อยให้หานเซิ่นหนีไปได้ เขาไม่ได้คาดคิดว่าเด็กคนนั้นจะกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของเซเคร็ด
บรรยากาศในตอนนี้กลายเป็นอะไรที่แปลกประหลาด และไม่มีใครพูดอะไรออกมา