สิ่งมีชีวิตมากมายทั่วจักรวาลต่างพากันมองไปที่สิ่งก่อสร้างลึกลับบนท้องฟ้าด้วยความตกใจ หลายคนจดจำจีโนฮอลล์ได้ แต่ในครั้งนี้จีโนฮอลล์เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ มันมีวิหารมากมายอยู่ใต้จีโนฮอลล์
ในอดีตตอนที่จีโนฮอล์ปรากฏออกมา มันดูเหมือนกับดวงจันทร์ในกระจก ถึงแม้ทุกคนจะมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าไม่ใช่ของจริง แต่ตอนนี้ทุกคนรู้สึกว่าจีโนฮอลล์และวิหารมากมายที่ปรากฏออกมานั้นเป็นของจริง มันเหมือนกับว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นสามารถตกลงมาจากท้องฟ้าได้ทุกเมื่อ
“วิหารเกราะนภา… วิหารสกายไวน์แรดิช… วิหาร…” ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์ต่างๆเห็นตัวอักษรที่อยู่เหนือประตูของวิหารเหล่านั้น
สิ่งก่อสร้างทั้งหมดเรียงต่อกันเป็นเหมือนกับพีระมิดขนาดยักษ์ ชั้นล่างสุดมีวิหารอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะชั้นบนสุดมีเพียงแค่จีโนฮอลล์
“มันผ่านมานานแล้ว แต่ตอนนี้ในที่สุดบาเรียอวกาศก็ถูกทำลาย ยุคสมัยของการต่อสู้กับพระเจ้ามาถึงแล้ว นี่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเซเคร็ดจะเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างนั้นหรอ?”
ผู้นำปราสาทนภายืนอยู่บนยอดของปราสาทก้อนเมฆและจ้องมองไปที่ปราสาทพระเจ้าอันลึกลับ สีหน้าของเขาดูซับซ้อนมากๆ
“บาเรียอวกาศถูกทำลาย เวลาของพวกเรามาถึงแล้ว” ในก้นบึ้งของความมืดมิด สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวส่งเสียงคำรามออกมา
“ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น” บนถนนบนดวงดาวที่พังพินาศ หมอดูคนหนึ่งที่กำลังถือธงอยู่ถอนหายใจ ขณะที่มองไปที่ปราสาทของพระเจ้า
“ในที่สุดวันที่พวกเรารอคอยก็มาถึง ผู้นำเซเคร็ดไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ เขามีหนทางอยู่จริงๆ เขาทำลายบาเรียอวกาศได้อีกครั้งแล้ว”
ในปราสาทบนดาวแคระสีแดง ชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เหมือนกับราชันพูดขึ้นมา เขามองไปที่ปราสาทของพระเจ้าด้วยความสนใจ
โหลวเลี่ยโค้งคำนับและพูด “ท่านประมุข บาเรียอวกาศถูกทำลายแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ท่านประมุขได้โปรดให้ข้าไปต่อสู้ ข้าจะชิงวิหารพระเจ้ามาให้กับพยุหะโลหิตให้ได้”
สมาชิกของพยุหะโลหิตอีกสองคนคุกเข่าลงและแสดงความปรารถนาที่จะต่อสู้ออกไปทันที “ท่านประมุขได้โปรดให้พวกเราไปต่อสู้”
“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน มันยังมีคนอื่นที่รีบร้อนยิ่งกว่าพวกเรา” ประมุขพยุหะโลหิตมองไปที่วิหารพระเจ้าและยิ้มออกมา
เสียงของนกดังขึ้นในอวกาศ และมันทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจ้องมองไปที่จีโนฮอลล์ ทันใดนั้นก็มีนกยักษ์ประหลาดขนสีดำที่มีหัวเก้าหัวบินฉีกมิติของอวกาศออกมา มันปลดปล่อยออร่าที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ขณะที่มันบินเข้าไปหาปราสาทของพระเจ้า
“โกสต์คาร์…” หานเซิ่นจดจำมันได้ นกตัวนี้ดูเหมือนกับโกสต์คาร์ที่หานเซิ่นได้มาจากซีโน่เจเนอิคแผ่นหิน แต่นกตัวนี้ไม่ได้เป็นธาตุหิน มันเป็นโกสต์คาร์ตัวจริงๆ
โกสต์คาร์นั้นถูกเรียกกันว่าฟินิกซ์เก้าหัว ตำนานบอกว่ามันเป็นฟินิกซ์ที่เกิดมาผิดปกติ มันควรจะมีฟินิกซ์ทารกเก้าตัวกำเนิดขึ้นมา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทารกในครรภ์ทั้งเก้ารวมกันและเกิดเป็นมาฟินิกซ์เก้าหัวที่ผิดปกติ
โกสต์คาร์นั้นมีธาตุที่แตกต่างไปจากฟินิกซ์ทั่วๆไป แทนที่ร่างกายจะห่อหุ้มไปด้วยเพลิงของฟินิกซ์ ร่างกายของมันกลับเต็มไปด้วยควันสีดำที่ดูไม่ร้อนเลยสักนิดแทน
ท่ามกลางสายตาของทุกเผ่าพันธุ์ โกสต์คาร์เดินทางผ่านอวกาศและมาอยู่ตรงหน้าปราสาทของพระเจ้า มันมุ่งหน้าตรงไปยังวิหารหนึ่งที่อยู่ชั้นล่างสุดและบินลงไปยังลานกว้างของวิหาร
“เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย เจ้ากล้าดียังไงมาที่วิหารพระเจ้าของข้า” มีเสียงดังออกมาจากภายในวิหาร
เมื่อได้ยินเสียงของพระเจ้า หัวทั้งเก้าของโกสต์คาร์ก็หัวเราะอย่างแปลกๆและหัวหนึ่งพูดออกมา
“บาเรียอวกาศถูกทำลายแล้ว พระเจ้าก็ไม่ใช่พระเจ้าอีกต่อไป วันนี้ข้าจะกลืนสิ่งประจำตัวพระเจ้าของเจ้า ข้าจะดึงธงพระเจ้าของเจ้าลงมาและเอาวิหารพระเจ้าของเจ้ามาเป็นของข้า”
หลังจากนั้นโกสต์คาร์ก็กระพือปีกและยื่นหัวออกไปงับธงของพระเจ้าสายฟ้าที่อยู่ในวิหาร
“เจ้ากล้าดียังไง!” เสียงของพระเจ้าฟังดูเกรี้ยวโกรธ มันดังเหมือนกับเสียงฟ้าร้อง ประตูของวิหารเปิดออกและเผยให้เห็นเทพสปิริตที่เหมือนกับยักษ์ภายใน เทพสปิริตที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้าเดินออกมาจากวิหารและปล่อยสายฟ้านับหมื่นออกไปใส่โกสต์คาร์ทันที
“การกินเทพสปิริตนั้นเป็นบางสิ่งที่ข้าเคยทำเมื่อนานมาแล้ว ทำไมข้าจะไม่กล้า?”
โกสต์คาร์หัวเราะอย่างแปลกๆ มันไม่ได้หวาดกลัวต่อสายฟ้าที่พุ่งเข้ามา ในจังหวะที่สายฟ้ากำลังจะมาถึงตัวมัน โกสต์คาร์ก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นฝุ่นควัน
ฝุ่นควันนั้นไม่ได้กระจายออกและสลายไป มันจับกลุ่มกันเป็นก้อนเมฆควันสีดำที่พุ่งเข้าไปหาร่างกายของเทพสปิริต มันห่อหุ้มเทพสปิริตเอาไว้ภายในควันสีดำ
ทุกเผ่าพันธุ์จับจ้องไปที่หน้าวิหารพระเจ้าเพื่อดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เทพสปิริตนั้นถูกห่อหุ้มเอาไว้โดยควันสีดำ ซึ่งทำให้ไม่มีใครมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน
เสียงฟ้าผ่าดังมาจากภายในควันสีดำและตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเทพสปิริต เมื่อดูจากเสียงร้องแล้ว สถานการณ์ของเทพสปิริตจะต้องเลวร้ายมากๆ
ไม่นานเสียงฟ้าฝ่าและเสียงกรีดร้องก็หายไป หลังจากนั้นควันสีดำก็เปลี่ยนกลับมาเป็นโกสต์คาร์อีกครั้ง
เทพสปิริตที่เหมือนกับยักษ์ถูกเปลี่ยนเป็นกองกระดูกสีขาว กระดูกนั้นไม่มีเนื้อติดอยู่แม้แต่นิดเดียว เหมือนกับว่าพวกมันถูกกินจนหมดเกลี้ยง
ปัง!
กระดูกสีขาวแตกกระจายในสายลมและเปลี่ยนเป็นสายฟ้ามากมาย หลังจากนั้นพวกมันก็ก่อตัวกันเป็นตรีศูลสายฟ้าในอากาศ
โกสต์คาร์อ้าปากและดูดตรีศูลเข้าไป ก่อนที่จะเงยหัวขึ้นและหัวเราะ
หลังจากนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังออกมาจากจีโนฮอลล์ที่อยู่ชั้นบนสุด
“เจ้าเอาชนะพระเจ้าสายฟ้าได้สำเร็จ เจ้าแค่ต้องนำธงลงมาเพื่อที่เจ้าจะได้แทนที่พระเจ้าสายฟ้าในฐานะเทพสปิริตคนใหม่ เจ้าจะมีชีวิตที่เป็นอมตะ เจ้ายินดีจะรับตำแหน่งนั้นไหม?”
หานเซิ่นยังคงจำตอนที่โกลเด้นโกรวเลอร์โจมตีจีโนฮอลล์ได้ มันเป็นเสียงเดียวกับตอนนั้น
“ข้าเดินทางไปทั่วจักรวาลกินใครก็ตามที่ข้าต้องการ ข้าไม่ใช่สุนัขเฝ้าบ้านตัวหนึ่ง วันนี้ข้าอิ่มแล้ว วันหน้าข้าจะกลับมากินอีก” โกสต์คาร์หัวเราะและกระพือปีกบินหายไปในอวกาศ
หลังจากที่เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ สิ่งมีชีวิตของเผ่าพันธุ์ต่างๆก็ตกตะลึง สิ่งมีชีวิตธรรมดานั้นไม่เคยรู้เกี่ยวกับโกสต์คาร์มาก่อน ทุกคนจึงตกใจที่ได้เห็นว่ามันกินเทพสปิริตคนหนึ่งเข้าไปอย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นก็มีอสูรตัวใหญ่ที่ดูเหมือนกับลิงแม็กแคกปรากฏตัวออกมา มันตรงเข้าไปในวิหารพระเจ้าที่โกสต์คาร์เพิ่งจะบินจากไป มันไปอยู่ต่อหน้าวิหารและยื่นอุ้งมือออกไปเพื่อคว้าธงของวิหารมา
“เจ้าอาจไม่ต้องการเป็นพระเจ้า แต่ข้าต้องการ ให้ข้าเป็นเทพสปิริตที่ไม่มีวันตาย”
แม็กแคกยักษ์เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ในจังหวะที่มือของมันกำลังจะสัมผัสกับธงพระเจ้า ประตูของวิหารพระเจ้าก็เปิดออก มีเทพสปิริตเดินออกมาขณะที่ร่างกายห่อหุ้มไปด้วยสายฟ้า เขาพุ่งออกไปและเปลี่ยนแม็กแคกยักษ์ให้กลายเป็นผุยผง
เมื่อทุกสิ่งมีชีวิตเห็นว่าเทพสปิริตที่ออกมาจากวิหารพระเจ้านั้นดูเหมือนกับเทพสปิริตที่เพิ่งจะถูกโกสต์คาร์กินเข้าไปไม่มีผิด พวกเขาก็รู้สึกแปลกใจ “นี่เทพสปิริตไม่มีวันตายจริงๆหรอเนี่ย?”
หานเซิ่นรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว เทพสปิริตในวิหารพระเจ้านั้นเป็นอมตะ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้ประหลาดใจอะไร
“ดูเหมือนว่ารอบนี้เราจะเป็นฝ่ายแพ้” หานเซิ่นมองไปที่แผ่นคริสตัลและรูปปั้นหยกที่กลายเป็นเสาแห่งแสง เขามีรอยยิ้มแห้งๆขณะที่หยิบเอาตะเกียงหินทั้งห้าที่ไม่มีแสงสว่างอีกแล้วขึ้นมา
เขาตั้งใจจะทำลายแผนการของผู้นำเซเคร็ดโดยหวังว่านั่นจะทำให้เสี่ยวฮวาหลุดพ้นจากเกมส์ของผู้นำเซเคร็ด แต่สิ่งที่เขาทำกลับเป็นการช่วยผู้นำเซเคร็ดทำลายบาเรียอวกาศ เขากลายเป็นตัวหมากที่ช่วยให้วิหารของพระเจ้าเผยออกมา