“หานเซิ่น ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หวังอวี่ฮังและคนอื่นๆแวะมาเยี่ยมหานเซิ่น พวกเขามาถึงนานแล้ว แต่พวกเขาได้ยินหานเซิ่นกรีดร้องเสียงดัง พวกเขาจึงยังไม่ได้เข้ามาจนกระทั่งตอนนี้
“ไม่เป็นอะไร อย่างน้อยก็ยังพูดว่ายังมีชีวิตอยู่” หานเซิ่นพูด
เซี่ยชิงถามขึ้นมา “เจ้าได้สังเกตไหมว่าเทพสปิริตที่เอาชนะเจ้านั้นดูเหมือนกับราชินีชั่วพริบตาน่ะ?”
หานเซิ่นพยักหน้า “ข้าเริ่มจะคิดแล้วว่าสปิริตในก็อตแซงชัวรี่นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากเทพสปิริต”
ดวงตาของเซี่ยชิงเป็นประกายขึ้นมา “ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เจ้าคิดว่ามันจะมีเทพสปิริตที่ดูเหมือนกับข้าอยู่ไหมนะ?”
“อะไร? นี่เจ้าคิดจะไปพบกับเขาหรือยังไง?” หวังอวี่ฮังถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าจะไปฆ่าเขาต่างหาก ข้าจะไม่ปล่อยให้มีข้าอีกคนหนึ่งอยู่บนโลกใบนี้” เซี่ยชิงพูดอย่างจริงจัง
“ฮ่า! ถ้าเทพสปิริตคนนั้นแข็งแกร่งเหมือนกับเทพสปิริตที่เอาชนะหานเซิ่นได้ เจ้าจะเป็นฝ่ายที่ถูกฆ่าซะเอง” หวังอวี่ฮังพูด
“นั่นมันก็จริง น่าเสียดายที่ระดับพลังของข้ายังไม่ถึงขั้นทรูก็อต ไม่มีประโยชน์ที่ข้าจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นในตอนนี้” ” เซี่ยชิงพูดขณะที่ยืดเส้นยืดสาย
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกตัวถึงเรื่องบางอย่าง สิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้ดูเหมือนจะวิวัฒนาการมาไกลสุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้แล้ว สิ่งมีชีวิตของจักรวาลสามารถวิวัฒนาการได้ถึงขั้นทรูก็อตเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถวิวัฒนาการไปมากกว่านั้นได้
ถ้าพวกเขาอยากจะแข็งแกร่งขึ้นอีก พวกเขาก็ได้แค่ฝึกวิชาจีโนต่างๆเพื่อเพิ่มทักษะในการต่อสู้ของตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็หาสมบัติพิเศษหรืออาวุธประจำตัวพระเจ้ามาใช้เพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้
หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าถึงเขาจะใช้โหมดซีโน่เจเนอิค พลังของเขาก็ยังคงด้อยกว่าพระเจ้าชั่วพริบตา นอกซะจากเขาจะได้รับพลังเสริมจากสมบัติที่ทรงพลังหรืออาวุธประจำตัวพระเจ้า เขาก็คงจะต่อสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตาแบบตรงๆไม่ได้
หานเซิ่นหันไปมองนางฟ้าคนที่อยู่ข้างๆ “คนอื่นถึงขั้นทรูก็อตแล้วอาจจะเพิ่มพลังของตัวเองไม่ได้อีก แต่เรายังมีโอกาสอยู่”
ใบหน้าของนางฟ้าดูงดงามและสงบนิ่ง ในตอนที่เธอไม่ได้อยู่ในโหมดต่อสู้ ไม่มีใครบอกได้ว่าจริงๆแล้วเธอนั้นแข็งแกร่งมากๆ
‘ตอนนี้นางฟ้าเพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ ถ้าเธอกลายเป็นขั้นทรูก็อตและรวมร่างกับเรา เธอก็จะเสริมความแข็งแกร่งของเราขึ้นไปอีก ด้วยวิธีนั้นมันอาจจะทำให้เรามีพลังพอที่จะต่อสู้กับพระเจ้าชั่วพริบตา’ หานเซิ่นทำการตัดสินใจ เขาจะช่วยให้นางฟ้ากลายเป็นขั้นทรูก็อต
ถ้าเขาทำให้เซี่ยชิง หวังอวี่ฮัง หวงฟูจิ้งและคนอื่นๆกลายเป็นขั้นทรูก็อตไปพร้อมๆกัน นั่นก็จะเป็นการช่วยเขาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราชินีชั่วพริบตา ถ้าเธอกลายเป็นขั้นทรูก็อต เธอจะเป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก
แต่การจะเลื่อนระดับไปสู่ขั้นทรูก็อตนั้นใช้ทรัพยากรจำนวนมาก และหานเซิ่นจำเป็นต้องช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์โดยเร็วที่สุด การจะช่วยให้คนๆหนึ่งกลายเป็นขั้นทรูก็อตก็ยากมากพอแล้ว หานเซิ่นไม่มีเวลาพอที่จะทำให้พวกพ้องของเขากลายเป็นขั้นทรูก็อตกันทุกคน
“ทรัพยากร ทรัพยากร ทรัพยากร เราจำเป็นต้องมีทรัพยากร ทรัพยากรของสเปชการ์เด้นนั้นเพียงพอแค่จะช่วยให้คนๆหนึ่งเลื่อนไปสู่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น การจะเลื่อนระดับขึ้นไปอีก พวกเราต้องมีทรัพยากรมากกว่านี้ แต่เราจะไปหาทรัพยากรพวกนั้นได้จากที่ไหนกัน?” หานเซิ่นครุ่นคิด ถ้าเขาต้องการทรัพยากรเพิ่ม เขาก็จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา นอกจากวิธีนั้นแล้วดูเหมือนจะไม่มีตัวเลือกอื่น
“เราควรจะไปชิงทรัพยากรของใครมา?” เป้าหมายแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่นก็คือเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง
เผ่าเวรี่ไฮนั้นมีทรัพยากรมากก็จริง แต่พวกเขาก็มียอดฝีมืออยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน และการจะเข้าไปในเอาท์เตอร์สกายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ส่วนแอนเชี่ยนท์ก็อตนั้นถึงพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาเป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดและไม่ได้มีทรัพยากรเก็บตุนเอาไว้มากนัก ดังนั้นการไปชิงทรัพยากรจากแอนเชี่ยนท์ก็อตจึงเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์
ส่วนปราสาทนภานั้นนอกจากจะเต็มไปด้วยยอดฝีมือแล้ว หานเหยียนก็กำลังฝึกอยู่ที่นั่น อี๋ซาเองก็อยู่ในปราสาทนภาเช่นกัน หานเซิ่นจึงไม่สามารถไปชิงทรัพยากรของปราสาทนภาได้ นั่นเป็นเหตุผลหลักที่เขาปล่อยผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาไป
“ดูเหมือนว่าจะเหลือแค่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง” หานเซิ่นเริ่มคิดว่าเขาควรจะเริ่มยังไงดี
เขาไม่คิดว่าจะโจมตีเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงตรงๆได้ เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นอยู่มาเป็นเวลานาน และในเผ่าพันธุ์ของพวกเขาก็มียอดฝีมืออยู่มากมาย นอกจากนั้นพวกเขายังมีสมบัติจำนวนนับไม่ถ้วน ถึงแม้หานเซิ่นจะใช้กิเลนศักดิ์สิทธิ์ เขาอาจจะไม่ต้องกลัวใครในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่แข็งแกร่งพอจะต่อสู้กับเอ็กซ์ตรีมคิงทั้งเผ่า
ขณะที่หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับวิธีการที่เขาจะขโมยทรัพยากรจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวตัวหนึ่งเข้าไปในปราสาทของพระเจ้าที่อยู่ในอากาศ
สิ่งชีวิตนั้นมุ่งหน้าไปยังวิหารที่อยู่ชั้นล่างสุดของปราสาท มันเหมือนกับพระเจ้าสายฟ้าที่ถูกกินเข้าไปโดยโกสต์คาร์ เจ้าของวิหารนั้นเป็นแค่เทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น
ถึงอย่างนั้นมันก็บอกได้ยากว่าสิ่งมีชีวิตนั่นจะเอาชนะเทพสปิริตได้ไหม สุดท้ายแล้วไม่เพียงแค่มันจะฆ่าเทพสปิริตไม่ได้ มันยังเกือบจะถูกฆ่าตายโดยเทพสปิริต ในตอนที่ขาของมันถูกหัก มันก็รีบหนีออกไปจากวิหารพระเจ้าทันที
ในตอนที่หวังอวี่ฮังและคนอื่นๆกลับไปแล้ว หานเซิ่นก็เอาราชครูกู่เยวียนออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตาและล็อคเขาเอาไว้ในสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ที่ซีโร่ถือครองอยู่
ภายในสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ หานเซิ่นมองไปที่ราชครูกู่เยวียนและถาม “ราชครูจะช่วยตอบคำถามของข้าได้ไหม?”
ราชครูกู่เยวียนกำลังนั่งสมาธิเหมือนกับพระ หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็ลืมตาขึ้นมาและตอบ “ไม่ว่าข้าจะตอบคำถามของเจ้าหรือไม่ มันจะแตกต่างอะไร?”
“ถ้าข้าพึงพอใจกับคำตอบของราชครู บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตราชครู” หานเซิ่นพูด
ราชครูกู่เยวียนส่ายหัว “ตอนนี้ข้ารู้ความลับหลายอย่างของเจ้า ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าไม่มีทางจะปล่อยคนที่รู้ความลับของตัวเองไป”
“ราชครูเป็นคนฉลาดมากๆ ถูกต้องแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้คนที่รู้ความลับของตัวเองไป แต่ข้าให้ราชครูมีชีวิตอยู่ที่นี่ได้ถูกไหม?” หานเซิ่นหัวเราะ
“ด้วยเทคนิคลับของราชครู บางทีวันหนึ่งราชครูอาจจะหาทางหนีไปได้”
“เจ้าพูดถูก ตราบใดที่ข้ามีชีวิตรอด มันก็ยังคงมีความหวัง”
ราชครูกู่เยวียนดูเหมือนจะยอมรับเงื่อนไขนี้ เขามองตาหานเซิ่นและพูด “หนึ่งคำถามต่อเวลาสิบปี”
“ได้ แต่ราชครูจำเป็นต้องตอบคำถามของข้าอย่างน้อยสิบคำถาม แต่ถ้าราชครูไม่ตอบคำถามของข้า ข้อตกลงนี้ก็เป็นอันยกเลิก” หานเซิ่นพูด
“ได้” ราชครูกู่เยวียนตอบ
หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่หานเซิ่นก็ถามขึ้นว่า “ราชครูรู้เกี่ยวกับปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ใช่ไหม?”
“เจ้าต้องการจะถามเกี่ยวกับสปิริตอย่างนั้นสินะ?” ราชครูกู่เยวียนตอบ
“ใช่” หานเซิ่นดีใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าราชครูกู่เยวียนจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ราชครูกู่เยวียนเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “จริงๆแล้วข้าไม่ได้รู้อะไรมาก ข้ารู้แค่ว่าในตอนที่เซเคร็ดถูกทำลาย อัลฟ่าของพวกเราได้รับข้อมูลการวิจัยของผู้นำเซเคร็ดมา ข้อมูลการวิจัยส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสปิริต เรื่องเกี่ยวกับปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์นั้นเป็นสิ่งที่มีแค่กษัตริย์เท่านั้นจะมีสิทธิ์ที่จะได้รู้ ข้าจึงรู้เพียงแค่นิดหน่อยเท่านั้น ข้ารู้แค่ว่าอัลฟ่าของพวกเราต้องการจะใช้สปิริตเพื่อสร้างอาวุธที่ทรงพลังขึ้นมา มันคงจะเหมือนกับสปิริตศักดิ์สิทธิ์ของกิเลนศักดิ์สิทธิ์”
“มันสำเร็จไหม?” หานเซิ่นถาม
ราชครูกู่เยวียนมองไปที่หานเซิ่นและถาม “นั่นเป็นคำถามที่สองของเจ้าใช่ไหม?”
“ใช่” หานเซิ่นตอบ
“ข้าคิดว่าแบบนั้น” ราชครูกู่เยวียนพูด
“กษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นมีสมบัติชิ้นหนึ่งที่ถูกสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน แต่คนนอกไม่เคยได้เห็นมัน ทุกคนที่เคยได้เห็นสมบัตินั่นตอนนี้ตายไปหมดแล้ว ในประวัติศาสตร์ของเอ็กซ์ตรีมคิง มันเคยมีหายนะเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งมันก็ถูกแก้ไขโดยสมบัติชิ้นนั่น ข้าเชื่อว่ามันเป็นอาวุธที่เอ็กซ์ตรีมคิงใช้สปิริตสร้างขึ้นมา”