มือของชายหนุ่มกำลังจะสัมผัสคอของหานเซิ่น แต่ทันใดนั้นก็มีมีดแสงมาบล็อกเอาไว้ มีดแสงและมือปะทะกัน มันทิ้งรอยเลือดเอาไว้บนมือของชายหนุ่ม
“วิชามีดใต้นภาของปราสาทนภาช่างวิเศษจริงๆ” ชายหนุ่มมองรอยเลือดบนมือตัวเองและยิ้มออกมา เขาสะบัดมือ หลังจากนั้นบาดแผลบนมือของเขาก็หายไป
หานเซิ่นจมอยู่ในวิชาใต้นภา เขาไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน เขาแค่มองไปที่ชายหนุ่มขณะที่ฟันมีดลงมา
“ดูสิว่าเจ้าจะทนได้นานสักแค่ไหนกัน” ชายหนุ่มเปลี่ยนรูปแบบการโจมตี ซึ่งกาลเวลาและอวกาศเองก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
มีดของหานเซิ่นช้าลง และตำแหน่งของเขาในมิติอวกาศก็ถูกสับเปลี่ยนเช่นกัน พลังธาตุกาลเวลาและอวกาศของชายหนุ่มนั้นคลายคลึงกับร่างกายศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน
เมื่อก่อนในตอนที่เสี่ยวฮวาเข้าร่วมการประลองของบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน เขาก็แสดงพลังแบบนี้ออกมาเช่นกัน
กาลเวลาและอวกาศของร่างกายหานเซิ่นบิดเบี้ยว แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ไม่สามารถทำลายวิชามีดของหานเซิ่นได้ ถึงเขาจะทำให้หานเซิ่นช้าลงไป เขาก็ไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้อยู่ดี
ถึงหานเซิ่นจะตกอยู่ภายใต้พลังกาลเวลาและอวกาศ เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขายังคงฟันออกไปในตำแหน่งที่ไม่มีใครอยู่
ในตอนที่ชายหนุ่มต้องการจะโจมตีไปที่ช่องโหว่ของหานเซิ่น มีดแสงก็จะปรากฏขึ้นมาในตำแหน่งนั้นและหยุดเขาเอาไว้
สีหน้าของชายหนุ่มดูแย่ขึ้นเรื่อยๆ เขาสังเกตได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ มิติอวกาศรอบๆตัวหานเซิ่นกำลังบิดเบี้ยว แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีของเขาก็ยังถูกมีดแสงของหานเซิ่นหยุดเอาไว้อยู่ดี
“ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามีดีแค่นั้น แต่เจ้ากลับบอกว่าตัวเองเหนือกว่าฉินซิว น่าขำสิ้นดี!” หานเซิ่นพูดขณะที่กวัดแกว่งมีดของเขา
จริงๆแล้วหานเซิ่นกำลังรู้สึกสับสน ปีศาจสาวและคนอื่นๆบอกว่ามีเพียงแค่เสี่ยวฮวาที่มีร่างกายศักดิ์สิทธิ์ แต่เห็นได้ชัดเจนว่ามันยังมีคนอื่นที่มีร่างกายศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับฉินซิวอยู่อีก ร่างกายศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ใช่สิ่งที่หายากเหมือนอย่างที่ปีศาจสาวชักจูงให้เขาเชื่อ
นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นพยายามจะยั่วโมโหชายหนุ่ม เขาหวังว่าชายหนุ่มจะหลุดปากเกี่ยวกับเรื่องร่างกายศักดิ์สิทธิ์ออกมา
“นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น” ชายหนุ่มดูโมโห ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เส้นเลือดตามร่างกายของเขาก็เริ่มปูดขึ้นมา แม้แต่เส้นเลือดฝอยของเขาก็กลายเป็นเหมือนกับงูตัวน้อยในผิวหนัง
“เลือดสีฟ้า” หานเซิ่นมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ
ขณะที่เลือดของชายหนุ่มเปลี่ยนไป ออร่าของเขาก็ดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม เขาดูเหมือนกับผีจากขุมนรกที่จะกินทุกสิ่งทุกอย่าง
“ใช่ ข้ามีเลือดสีฟ้า ฉินซิวใช้ยีนของตัวเองเป็นแม่พิมพ์และรวมมันเข้ากับยีนที่ดีกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเกิดขึ้นมา ถึงแม้เขาจะไม่ยอมรับมัน แต่ความจริงเรื่องนั่นเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ข้าเหนือกว่าเขา ข้าควรจะเป็นผู้นำเซเคร็ดตัวจริง” ชายหนุ่มเริ่มดูเหมือนกับคนบ้า
ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจถึงเรื่องบางอย่าง เมื่อก่อนฉินซิวเคยพยายามที่จะสร้างร่างจำลองขึ้นมา แต่เขาล้มเลิกการทำแบบนั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง
หานเซิ่นคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องเป็นหนึ่งในตัวทดลองที่ล้มเหลวของฉินซิวทอด เมื่อเขาลองมองดูดีๆ ใบหน้าของชายหนุ่มนั้นดูคล้ายกับฉินซิวมากๆ
ถึงพวกเขาจะดูคล้ายกัน แต่เนื่องจากออร่าของฉินซิวนั้นเป็นอะไรที่พิเศษ ชายหนุ่มไม่ได้มีออร่าที่เหมือนกับฉินซิว หานเซิ่นจึงไม่ได้สังเกตเห็นถึงความคล้ายคลึงของพวกเขา
ตูม!
ขณะที่หานเซิ่นกำลังสังเกตชายหนุ่ม เขาก็เห็นออร่าของชายหนุ่มที่เริ่มจะกลายเป็นของแข็ง มันทำให้ร่างกายของชายหนุ่มดูเหมือนกับคริสตัลที่โปร่งใส
“นั่นมัน…นั่นมันออร่าของเทพสปิริต” หานเซิ่นขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่ชายหนุ่ม ออร่าที่ออกมาจากตัวอีกฝ่ายนั้นเป็นออร่าพิเศษที่มีแค่เทพสปิริตเท่านั้น
“ใช่แล้ว ข้ามีทั้งยีนของฉินซิวและยีนของเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่น ข้าเหนือกว่าฉินซิว ข้าเป็นผู้นำที่แท้จริงของโลกใบนี้”
ร่างกายของชายหนุ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ชุดเกราะที่เขาสวมใส่อยู่นั้นละเหยไปโดยออร่าของเขา และร่างกายที่เปื่อยเปล่าของเขาก็เผยออกมาให้เห็น
ร่างกายของชายหนุ่มดูเหมือนกับคริสตัล หานเซิ่นเห็นเลือดสีฟ้าที่ไหลผ่านร่างกายของอีกฝ่าย พลังเลือดสีฟ้าและเทพสปิริตรวมเข้าด้วยกัน ทำให้ออร่าของชายหนุ่มดูแปลกมากๆ เขาดูเหมือนกับมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์ เขาดูเหมือนกับเทพสปิริต แต่ก็ไม่ใช่เทพสปิริต
“ถ้าเจ้าเก่งกาจขนาดนี้ ทำไมเจ้าไม่ยึดครองจักรวาลหลังจากที่ฉินซิวตายไปแล้ว?” หานเซิ่นมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความดูถูก
“นั่นเป็นความผิดของฉินซิว” ชายหนุ่มพูดอย่างบ้าคลั่ง
“ถ้าเขามอบยีนโปรโตรไทป์ให้กับข้า ข้าก็คงจะปกครองโลกใบนี้ คนของเซเคร็ดและเหล่าเทพสปิริตต้องมาอยู่แทบเท้าของข้า”
หานเซิ่นเห็นว่าสภาพจิตใจของชายหนุ่มนั้นกำลังไม่เสถียร เขาจึงรีบถามขึ้นมา “ยีนโปรโตรไทป์คืออะไร?”
“มันเป็น… มันเป็นความผิดของฉินซิว…” ชายหนุ่มพูดเหมือนกับคนบ้าและคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังที่น่ากลัวของเขาปะทุเหมือนกับภูเขาไฟ
โดยปกติแล้วในร่างกายจะมีแค่เลือดเท่านั้นที่เป็นสีฟ้า แต่ในตอนนี้เลือดสีฟ้าของชายหนุ่มดูเหมือนจะกำลังลุกไหม้ มันทำให้ทั้งร่างกายของเขากลายเป็นสีฟ้าที่โปร่งใส เปลวเพลิงบนตัวเขาเองก็เป็นสีฟ้าเช่นกัน
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย เขากลัวว่าเสี่ยวฮวาอาจจะกลายเป็นเหมือนกับชายคนนี้ หานเซิ่นได้ใช้อำนาจทุกอย่างที่มีในสหพันธ์เพื่อค้นหาเสี่ยวฮวาในก็อตแซงชัวรี่ แต่มันก็ยังไม่มีข่าวอะไร นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกกังวล
“ฉินซิวนะ! ฉินซิว! เจ้าทำอะไรลงไป?” หานเซิ่นเริ่มจะคิดว่าฉินซิวนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าพวกเทพสปิริตซะอีก อย่างน้อยพวกเทพสปิริตก็มีกฎที่ต้องปฏิบัติตาม แต่ฉินซิวทำทุกอย่างตามใจตัวเอง เขาไม่ได้สนใจถึงผลลัพธ์จากการกระทำ และไม่มีใครหยุดเขาได้ เขาไม่มีศีลธรรม
เขาทั้งฆ่าเทพสปิริต ทั้งใช้เทคโนโลยีเพื่อผสมยีนของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ทั้งพยายามสร้างร่างจำลองของผู้คน แม้แต่อสูรศักดิ์สิทธิ์ใต้บังคับบัญชาของเขาก็ยังถูกนำมาทำเป็นอาวุธ เขานั้นฝ่าฝืนกฎของธรรมชาติ
ฉินซิวได้ทำสิ่งที่น่ากลัวมากมาย ซึ่งมันน่ากลัวยิ่งกว่าที่เหล่าเทพสปิริตทำซะอีก
ชายหนุ่มที่ตอนนี้ดูเหมือนกับเทพสปิริตคริสตัลสีฟ้าจ้องมองมาที่หานเซิ่น
“อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับฉินซิวสมควรตาย” เขาพูดแต่ละคำอย่างช้าๆ หลังจากเขาก็ยื่นมือออกมาหาหานเซิ่น ทันใดนั้นแสงสีฟ้าก็ถูกปลดปล่อยออกมา ทำให้มิติของอวกาศที่อยู่รอบๆบิดเบือนไป
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาเคลื่อนไปในพลังกาลเวลาและอวกาศ และด้วยเหตุผลบางอย่างเขาก็มาอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ชายหนุ่มเอื้อมมือมาจับคอของเขาเอาไว้
“ตายซะ!” ชายหนุ่มเต็มไปด้วยจิตสังหาร มือของเขาเต็มไปด้วยแสงสีฟ้าที่เอ่อล้นออกมา เขากำลังจะบีบคอของหานเซิ่น