ปัง!
ร่างกายของหานเซิ่นที่ถูกบีบโดยมือของชายหนุ่มนั้นเป็นเหมือนกับฟองน้ำ แต่ทันใดนั้นก็มีอีกร่างปรากฏตัวที่ด้านหลังของชายหนุ่ม
พลังประหลาดออกมาจากปลายนิ้วมือของหานเซิ่น ขณะที่เขาแตะที่ด้านหลังหัวของชายหนุ่ม
ชายหนุ่มหัวเราะ “ถ้าสี่สปิริตศักดิ์สิทธิ์รวมเป็นหนึ่ง บางทีมันอาจจะใช้ได้ผลกับข้าอยู่นิดหน่อย แต่ลำพังแค่สปิริตศักดิ์สิทธิ์ของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ เจ้าไม่มีทางสร้างความเสียหายกับร่างกายเทพสปิริตศักดิ์สิทธิ์ของข้าได้”
แต่ทันใดนั้นสีหน้าของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไป เขาสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นไม่ได้ใช้พลังของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ หานเซิ่นแค่แตะที่หลังหัวของเขา หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ถูกส่งกระเด็นออกไป
ชายหนุ่มหันกลับมามองไปที่หานเซิ่น “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าเหนือกว่าฉินซิว ข้ามีร่างกายเทพสปิริตศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นอมตะอย่างแท่จริง พลังของเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้”
นิ้วของหานเซิ่นไม่แม้แต่จะสร้างรอยขีดข่วนกับเขา
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาแค่มองมาที่ชายหนุ่มอย่างเงียบๆ
“หยุดเสียเวลา หลังจากที่ข้าฆ่าเจ้า ข้าจะส่งลูกชายของเจ้าไปพบกับเจ้าในนรก ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าไม่โดดเดี่ยวที่นั่น” ชายหนุ่มยกมือขึ้น เขาต้องการรวมพลังของร่างกายศักดิ์สิทธิ์และเทพสปิริตเข้าด้วยกัน
ในตอนที่ชายหนุ่มยกมือขึ้น ดวงตาของเขาก็หดเล็กลงไป เขาเห็นว่านิ้วมือของเขากำลังสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ มันสั่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่านิ้วมือของเขากำลังเล่นเปียโนในอากาศ
มันไม่ใช่แค่มือของเขาเท่านั้น ชายหนุ่มค้นพบอย่างรวดเร็วว่าทั้งร่างกายของเขากำลังสั่นไหว กล้ามเนื้อของเขาบิดเบี้ยวและเส้นเลือดของเขาก็เต้นแรง เขาตัวสั่นราวกับคนที่เป็นโรคพาร์กินสัน
ร่างกางของชายหนุ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง แต่ชายหนุ่มสัมผัสถึงสิ่งผิดปกติไม่ได้ มันเหมือนกับว่าร่างกายที่กำลังสั่นนั้นไม่ใช่ร่างกายของเขา
ชายหนุ่มจับมืออีกข้างเอาไว้ แต่เขาก็หยุดมันจากการสั่นไหวไม่ได้ เขาตะโกนใส่หานเซิ่น “เจ้า! นี่เจ้าทำอะไรกับข้า?”
“ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ข้าไม่ชอบความยุ่งยาก การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่าย นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าชอบเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังให้กลายเป็นหมู หลังจากนั้นข้าก็จะฆ่าพวกเขา แบบนั้นมันเป็นอะไรที่ง่ายกว่า” หานเซิ่นมองชายหนุ่มอย่างสงบนิ่ง ขณะที่เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์บนใบมีดเหตุและผลกำลังลุกโชน
“เจ้ากล้าดียังไงมาพูดแบบนั้นต่อหน้าข้า ตายซะเถอะ!” ชายหนุ่มปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมา และพุ่งออกไปเพื่อคว้าตัวหานเซิ่น
แต่เมื่อเขาเริ่มเคลื่อนไหว กระดูกและเนื้อหนังของเขาก็ดูเหมือนจะเสื่อมถอย แสงแห่งเทพสีฟ้าของเขาเริ่มจางหายไป ร่างกายคริสตัลของเขาเล็กลงกว่าเดิม ตอนนี้เขากลับมาอยู่ในร่างกายที่ดูธรรมดาๆ
“นั่นเป็นไปได้ยังไง… เป็นไปไม่ได้… ร่างกายเทพสปิริตศักดิ์สิทธิ์ของข้า…” ชายหนุ่มตกตะลึงอย่างที่สุดขณะที่เขาก้มมองมือตัวเอง
ไม่เพียงแค่ร่างกายของเขาจะออกจากโหมดเทพสปิริต พลังชีวิตและออร่าของเขาก็ลดน้อยลงไป เขาร่วงจากขั้นทรูก็อตลงมาสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย
“ในตอนนี้เจ้าไม่ใช่หมูสำหรับให้ข้าหรอกหรอ?” หานเซิ่นยกมีดขึ้นและฟันลงมา
สายธารมีดแสงมากมายในท้องฟ้าเคลื่อนที่ตามการฟันของหานเซิ่นและตรงไปที่ชายหนุ่ม
“อ้า” ชายหนุ่มพยายามใช้พลังกาลเวลาและอวกาศของร่างกายศักดิ์สิทธิ์ แต่พลังขั้นบัตเตอร์ฟลายนั้นไม่เพียงพอจะหยุดสายธารมีดแสงของหานเซิ่นได้
ปัง!
ร่างกายของชายหนุ่มที่ถูกสายธารมีดแสงระเบิดกลายเป็นแสงสีฟ้า แสงสีฟ้านั้นหายเข้าไปในความมืดมิดอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็มีเสียงตะโกนของชายหนุ่มดังออกมาจากความมืด “หานเซิ่น ข้าจะฆ่าเจ้า!”
หานเซิ่นวิ่งตามเข้าไปในความมืด แต่เขาก็ต้องขมวดคิ้ว เนื่องจากหาตัวชายหนุ่มไม่พบ
หานเซิ่นมองกลับมาและเห็นชิปโลหะสีฟ้าจำนวนหนึ่งกองอยู่บนพื้น หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อมองไปที่ชิปพวกนั้นและค้นพบว่าพวกมันเป็นชิ้นส่วนของตุ๊กตาโลหะที่เป็นสมบัติหายากสำหรับใช้ในการหนีเอาตัวรอด
“น่าเสียดายที่เขาหนีไปได้” หานเซิ่นมองไปที่ร่างกายของปีศาจสาวและคนอื่นๆ เขาสะบัดมือและเก็บร่างของพวกเขามาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา
หานเซิ่นไม่ได้ชอบพวกเขามากนัก ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวฮวา หานเซิ่นก็คงจะฆ่าพวกเขาไปในตอนที่ทำลายปราสาทศักดิ์สิทธิ์แล้ว
ตอนนี้เมื่อพวกเขาตายไป หานเซิ่นก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไร ร่างกายของพวกเขาเป็นขั้นทรูก็อต หานเซิ่นต้องการจะเอาพวกเขากลับไปด้วยและดูปฏิกิริยาของเสี่ยวฮวาในตอนที่เสี่ยวฮวาเห็นพวกเขา ถ้าเสี่ยวฮวาไม่คัดค้านอะไร หานเซิ่นก็ยินดีจะเปลี่ยนพวกเขาเป็นจีโนฟลูอิด
หานเซิ่นมองไปที่ซากปรักหักพังของปราสาทศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเดินทางออกจากระบบจักรวาลร้างและกลับไปยังสเปชการ์เด้น
‘ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดและท่าตบขั้นสุดยอดนั้นทรงพลัง แต่หลังจากที่ฆ่าเทพสปิริต ร่างกายของพวกเขาก็จะถูกทำลายไปด้วย นั่นเป็นอะไรที่เสียเปล่า เราจะไม่แข็งแกร่งขึ้น เราจะไม่ได้รับทั้งยีนเทพสปิริตและสิ่งประจำตัวพระเจ้า’ หานเซิ่นคิดว่าควรจะฆ่าเทพสปิริตระดับต่ำก่อนเพื่อหาอาวุธประจำตัวพระเจ้าที่เหมาะสม หลังจากนั้นเขาก็ค่อยไปช่วยโกลเด้นโกรวเลอร์
หลังจากที่กลับมาถึงสเปชการ์เด้น หานเซิ่นก็เห็นไนน์เทาซันด์คิง เขานำยีนซีโน่เจเนอิคมาส่งที่สเปชการ์เด้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ได้ถูกฆ่าตายไปพร้อมกับคนอื่นๆ
หานเซิ่นบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับปีศาจสาวและคนอื่นๆ ในตอนที่ไนน์เทาซันด์คิงได้ยินเรื่องทั้งหมด เขาก็โกรธอย่างมาก เขากัดฟันและพูดขึ้นว่า “เจ้าคนทรยศนั่น”
“เจ้ารู้จักเขาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“เขาเป็นลูกศิษย์คนโปรดของท่านผู้นำ ท่านผู้นำยังมอบชื่อให้กับเขา พวกเขาใช้ชื่อสกุลเดียวกัน ชื่อของเขาคือฉินหลาน ท่านผู้นำปฏิบัติกับเขาเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ชื่อเสียงของเขาสูงยิ่งกว่าสิบขุนพลซะอีก ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะทรยศเซเคร็ดแบบนี้”
ไนน์เทาซันด์คิงดูโกรธมากๆ เขาต้องการจะถลกหนักของฉินหลานทั้งเป็นและกำจัดคนทรยศของเซเคร็ดคนนี้ไปซะ
หานเซิ่นถามไนน์เทาซันด์คิงเกี่ยวกับฉินหลาน แต่ไนน์เทาซันด์คิงไม่ได้รู้อะไรมาก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉินหลานเป็นร่างโคลนของฉินซิว
ยีนซีโน่เจเนอิคที่ไนน์เทาซันด์คิงนำมานั้นทำให้หานเซิ่นต้องประหลาดใจ พวกมันมียีนซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายและขั้นทรูก็อตอยู่เป็นจำนวนมาก มันมากพอที่จะทำให้นางฟ้าเลื่อนสู่ขั้นทรูก็อตได้
‘ทรัพยากรที่เหลือคงพอที่จะสร้างขั้นทรูก็อตได้อีกคน แต่เราควรจะมอบพวกมันให้ใครก่อนเป็นคนแรก?’
หานเซิ่นคิด นอกจากนางฟ้าที่รวมร่างกับเขาได้แล้ว คนอื่นๆนั้นช่วยเหลือเขาได้ในทางอ้อมเท่านั้น
‘ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ก่อนอื่นเราควรเอาสิ่งประจำตัวพระเจ้าพวกนี้ไปเปลี่ยนเป็นอาวุธประจำตัวพระเจ้าซะก่อน’ เมื่อคิดได้แบบนั้น หานเซิ่นก็ใช้ตัวตนของดอลลาร์อีกครั้งและนำสิ่งประจำตัวพระเจ้าไปที่ปราสาทของพระเจ้า