หานเซิ่นมีสิ่งประจำตัวพระเจ้าอยู่สามชิ้น เป็นของพระเจ้าเกราะนภากับอีวิลโลตัสที่เป็นขั้นเดสทรัคชั่น และของคิลสกายก็อตที่ขั้นแอนนิฮิเลชั่น
หานเซิ่นไปที่วิหารของอีวิลโลตัสก่อนเป็นคนแรก เขาอยากรู้ว่าอาวุธประจำตัวพระเจ้าของอีวิลโลตัสจะเป็นอาวุธชนิดไหน
“ทำไมดอลลาร์ปรากฏตัวออกมาอีกแล้ว? เขาเพิ่งจะฆ่าโมเม้นก็อตไปไม่ใช่หรอ?”
“บางทีเขาอาจจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่กระหายเลือด””
“ครั้งนี้เขาจะท้าสู้กับเทพสปิริตระดับไหนกัน?”
“มันควรจะเป็นเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์เป็นอย่างน้อย เขาเพิ่งจะฆ่าโมเม้นก็อตที่เป็นขั้นดิแซสเตอร์ไป ดังนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะท้าสู้กับเทพสปิริตที่ระดับต่ำกว่านั้น”
ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกัน หานเซิ่นก็บินตรงไปที่วิหารพระเจ้าของอีวิลโลตัส มันทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลกๆ
“ทำไมดอลลาร์ถึงกำลังจะไปท้าสู้กับเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น?”
“ไม่! วิหารพระเจ้านั้นปิดตัวอยู่ในตอนนี้ เขายังท้าสู้กับเทพสปิริตไม่ได้ แบบนั้นทำไมเขาถึงไปที่นั่น?”
“เกิดอะไรขึ้น?” หลังจากผ่านไปสักพัก ทุกคนก็เห็นธงบนวิหารพระเจ้าเริ่มเรืองแสงออกมา ก่อนที่จะมัวลงไปอย่างรวดเร็ว เทพสปิริตที่อยู่ข้างในจะต้องถูกฆ่าตาย
หานเซิ่นออกมาจากวิหารของอีวิลโลตัสและมุ่งหน้าไปที่วิหารของพระเจ้าเกราะนภาต่อ หลังจากนั้นเหตุการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกครึ้ง ไม่นานหานเซิ่นก็เดินออกมาจากวิหารของพระเจ้าเกราะนภา
“โอ้มายก็อด! นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ดอลลาร์เข้าไปในวิหารพระเจ้าที่กำลังปิดตัวและสังหารเทพสปิริตที่อยู่ภายในได้ยังไง? นี่เขากำลังโกงอย่างนั้นหรอ?”
สิ่งมีชีวิตทั่วไปๆไม่ได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างวิหารพระเจ้าธรรมดาและวิหารพระเจ้าที่กำลังปิดตัว พวกเขาทุกคนกำลังตกตะลึง
“เขายังไม่กลับ ดอลลาร์กำลังมุ่งหน้าไปยังวิหารพระเจ้าที่อยู่ชั้นถัดไป นี่เขาคงจะไม่ได้ไปท้าสู้กับเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์อีกครั้งหรอกใช่ไหม?”
“ไม่ ดอลลาร์กำลังบินข้ามวิหารพระเจ้าขั้นดิแซสเตอร์ไป นี่เขาต้องการจะท้าสู้กับเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่นอย่างนั้นหรอ?”
“เขาเข้าไปข้างในแล้ว”
ท่ามกลางสายตาของทุกคน หานเซิ่นเปิดประตูวิหารของคิลสกายก็อตที่กำลังปิดตัวและเดินเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นประตูของวิหารพระเจ้าก็ปิดตัวเอง
วิหารพระเจ้าของเทพสปิริตที่ถูกฆ่าตายภายนอกปราสาทพระเจ้านั้นจะมีเฉพาะคนที่ครอบครองสิ่งประจำตัวพระเจ้าเท่านั้นที่จะเข้าไปข้างในได้ สิ่งมีชีวิตธรรมดาๆนั้นไม่เคยฆ่าเทพสปิริตที่จุติลงมา พวกเขาจึงไม่รู้ถึงเรื่องนี้
หลังจากที่เข้าไปในวิหารพระเจ้าของอีวิลโลตัสและพระเจ้าเกราะนภา หานเซิ่นก็ได้รับอาวุธประจำตัวพระเจ้ามาสองชิ้น อาวุธประจำตัวพระเจ้าของอีวิลโลตัสนั้นเป็นแว่นรูปดอกบัวสีม่วง ส่วนอาวุธประจำตัวพระเจ้าของพระเจ้าเกราะนภานั้นคือชุดเกราะครึ่งตัว มันแตกต่างไปจากสิ่งที่หานเซิ่นคิดเอาไว้
หานเซิ่นไปที่วิหารของคิลสกายก็อตต่อในทันที เมื่อเข้าไปข้างใน เขาก็เห็นร่างกายพระเจ้าที่เป็นเปลือกเปล่าของคิลสกายก็อต มันดูทรงพลังมากๆ
แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว เขารู้ว่าเปลือกที่ว่างเปล่านี้ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้
หานเซิ่นจ้องมองไปที่คิลสกายก็อต ถ้าเขาต้องการจะฆ่าเทพสปิริต เขาก็จำเป็นต้องทำลายรากฐานพระเจ้าของเทพสปิริตคนนั้น ไม่อย่างนั้นเทพสปิริตก็จะฟื้นตัวเรื่อยๆ
อีวิลโลตัสและพระเจ้าเกราะนภาเป็นเทพสปิริตระดับต่ำ หานเซิ่นสามารถฟันเปิดร่างกายพระเจ้าของพวกเขาเพื่อหารากฐานพระเจ้าได้อย่างง่ายดาย แต่เทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่นอย่างคิลสกายก็อตนั้นต่างออกไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับเขา
โชคดีที่หานเซิ่นได้เห็นตอนที่หว่านเอ๋อร์ฆ่าคิลสกายก็อต เขาจึงรู้ว่ารากฐานพระเจ้าของอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน
ครั้งนี้หานเซิ่นไม่คิดจะใช้ท่าตบขั้นสุดยอด เขากลัวว่ามันจะไปทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็เรียกหอกสกายไวน์แรดิชก็อตออกมา และใช้มันแทงใส่ร่างกายพระเจ้าของคิลสกายก็อต
หอกสกายไวน์แรดิชก็อตถูกแทงเข้าไปบริเวณอกของเปลือกที่ว่างเปล่าของคิลสกายก็อต ประกายไฟปะทุขึ้นทุกหนทุกแห่ง แต่การแทงของหานเซิ่นแค่สร้างรอยขีดข่วนเท่านั้น เขาไม่สามารถทำให้ร่างกายพระเจ้าของคิลสกายก็อตมีเลือดไหลออกมาได้ด้วยซ้ำ
“ร่างกายจริงๆของคิลสกายก็อตนั้นแข็งกว่าร่างกายที่เขาใช้ในตอนที่เขาจุติลงไปมาก”
หานเซิ่นรู้ว่าลำพังแค่พลังของหอกสกายไวน์แรดิชก็อตนั้นไม่สามารถทำลายรากฐานพระเจ้าของคิลสกายก็อตได้แน่ เขาลังเลอยู่ชั่วครู่และเรียกสปิริตศักดิ์สิทธิ์ของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ออกมา เขาให้มันเข้าสิงหอกสกายไวน์แรดิชก็อตและทำให้หอกลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีขาว
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็แทงออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้ปลายหอกเจาะทะลุผ่านผิวหนังเข้าไปได้สำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังคงติดกล้ามเนื้อและกระดูก
หานเซิ่นแทงใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาแทงอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะแทงผ่านกล้ามเนื้อและกระดูกไปได้สำเร็จ เขามองเข้าไปในอกและเห็นหัวใจที่ปลดปล่อยควันสีดำออกมา
“ไม่ผิดแน่!” หานเซิ่นแทงใส่หัวใจนั้นและสังเกตเห็นว่าหัวใจของคิลสกายก็อตนั้นแข็งยิ่งกว่ากระดูกและเนื้อหนังที่ปกป้องมันอยู่ซะอีก
หานเซิ่นใช้หอกสกายไวน์แรดิชแทงต่อไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะแทงทะลุผ่านหัวใจได้สำเร็จ เขาเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากและพูด
“โชคดีที่หมอนั่นเข้าสิงร่างของคนอื่นในตอนที่เขาจุติลงไป ถ้าเขาใช้ร่างกายพระเจ้านี้ต่อสู้กับเราล่ะก็ มันก็คงจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากยิ่งกว่าเดิม”
หลังจากที่ทำลายหัวใจได้แล้ว หานเซิ่นก็รีบนำกระดูกแขนของคิลสกายก็อตออกมา ร่างกายพระเจ้าเปลี่ยนเป็นสสารแสงตรงเข้าไปในกระดูกแขนที่หานเซิ่นถืออยู่
รัศมีสีดำของกระดูกแขนแรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ มันลอยขึ้นจากมือของหานเซิ่น ในตอนที่แสงถูกดูดเข้าไปในกระดูกจนหมด แสงสีดำของกระดูกก็เบาบางลงไป ในตอนที่แสงหายไปแล้ว หานเซิ่นก็เห็นว่ากระดูกแขนนั้นได้เปลี่ยนเป็นค้อนกระดูกสีดำ
แต่ทว่าค้อนกระดูกนั้นมีขนาดเล็กมากๆ หัวค้อนมีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นแค่นิดเดียวเท่านั้น มันเหมือนกับค้อนยางที่ใช้กันตามบ้าน
“ทำไมค้อนนี่ถึงแตกต่างไปจากค้อนที่คิลสกายก็อตใช้? ค้อนของคิลสกายก็อตนั่นเป็นอะไรที่ทรงพลังมากๆ ค้อนเล็กๆนี่จะใช้ทำอะไรได้?”
หานเซิ่นบ่น แต่ทันใดนั้นก็มีแสงประกาศดังขึ้นในหัวของเขา
“คุณได้รับอาวุธประจำตัวพระเจ้าขั้นแอนนิฮิเลชั่น: ค้อนคิลสกาย”
หานเซิ่นมองไปที่ค้อนคิลสกาย ชื่อของมันฟังดูทรงพลัง แต่มันมีขนาดเล็กมากๆ หัวค้อนเป็นทรงกระบอกและทั้งสองด้านของหัวค้อนมีสัญลักษณ์บางอย่างอยู่ มันดูเก่าแก่และลึกลับ แต่หานเซิ่นไม่เข้าใจว่าสัญลักษณ์ทั้งสองนั้นมีความหมายว่าอะไร
ในตอนที่เขาต่อสู้กับคิลสกายก็อต ค้อนยักษ์ของคิลสกายก็อตก็มีสัญลักษณ์ทั้งสองนี้เช่นกัน พวกมันดูเหมือนจะเป็นตัวแทนที่บอกถึงพลัง
เมื่อเห็นว่าคิลสกายก็อตกำลังเกิดขึ้นมาใหม่ หานเซิ่นก็ไม่กล้าจะอยู่ต่อ เขาเก็บค้อนคิลสกายเข้าไปในจิตและรีบออกไปจากวิหารของคิลสกายก็อต
ทุกเผ่าพันธุ์กำลังมองไปที่วิหารนั้น ในตอนที่แสงธงพระเจ้าของวิหารดับไป พวกเขาก็เห็นหานเซิ่นเดินออกมาจากภายในวิหาร เห็นได้ชัดว่าเทพสปิริตที่อยู่ข้างในวิหารนั้นถูกหานเซิ่นฆ่าตาย
“จริงหรอเนี่ย? นี่ดอลลาร์ฆ่าเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่นและทำให้วิหารปิดตัวลงได้สำเร็จอย่างนั้นหรอ?”
“เขาทำแบบนั้นได้ยังไง?”
ทุกสิ่งมีชีวิตเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในตอนที่หานเซิ่นเพิ่งจะออกไปจากเขตของวิหารพระเจ้า เขาก็เห็นราชาไป๋กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศและมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม