ภายในห้องปฏิบัติการ หานเซิ่นกำลังมีสีหน้าแปลกๆ
“การทำแบบนี้มันจะช่วยทำให้ข้าควบคุมพลังของเลือดสีฟ้าได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นพูดขณะที่ยืนอยู่บนแท่นน้ำแข็งด้วยขาข้างเดียว เขาพยายามกางแขนออกเพื่อรักษาสมดุล เขาทำแบบนี้มาเป็นเวลากว่าสิบชั่วโมงแล้ว หานหยี่เฟยบังคับให้เขายืนอยู่ตลอดเวลา และเธอไม่อนุญาตให้เขาทำอะไรอย่างอื่น เธอไม่ได้ให้เขาดื่มจีโนฟลูอิดหรืออะไรทำนองนั้นเช่นกัน และเธอก็ไม่ได้สอนวิชาจีโนใหม่ให้กับเขาด้วย มันทำให้หานเซิ่นสงสัยว่าการทำแบบนี้มันจะช่วยเขาได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?
“นี่มันยังไม่พออย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นเราควรเสริมอะไรเพิ่มดี”
หานหยี่เฟยพูด เธอเอาแอปเปิลลูกหนึ่งมาวางเอาไว้บนหัวของหานเซิ่น เธอดันแว่นตาก่อนที่จะพูดต่อว่า “ควบคุมร่างกายของเจ้าและรักษาสมดุลเอาไว้”
“นี่มันจะได้ผลจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย เขาคิดว่าหานหยี่เฟยกำลังเล่นตลกบางอย่างกับเขา ถ้าการยืนเฉยๆสามารถทำให้เขาควบคุมพลังของเลือดสีฟ้าได้ ทำไมเธอจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อตรวจอาการของเขาอย่างละเอียดด้วย การวิจัยหลายปีของผู้นำเซเคร็ดนั้นดูจะเป็นอะไรที่เสียเปล่า
หานหยี่เฟยถามอย่างเย็นชา “เจ้ารู้ไหมว่าความสงบนิ่งคืออะไร?”
“ข้าเรียนรู้วิชาหลายอย่างเพื่อฝึกความอดทน วิชาจีโนที่ข้าฝึกนั้นทำให้ข้าควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี ข้ามั่นใจมากในเรื่องนี้” หานเซิ่นตอบ
“จริงอย่างนั้นหรอ?” หานหยี่เฟยถือไม้ที่เรียวยาวอยู่ในมือ เธอชี้มันไปที่อกของหานเซิ่นและจิ้มใส่เขา
ร่างกายของหานเซิ่นยังคงสงบนิ่งเหมือนดั่งขุนเขา เขาไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย
หานหยี่เฟยดึงไม้กลับและถามหานเซิ่น “เจ้ารู้สึกอะไรจากการจิ้มครั้งนี้?”
“รู้สึกเจ็บ” หานเซิ่นตอบ
“อย่างอื่นล่ะ?” หานหยี่เฟยถาม
“ข้าจะรู้สึกอะไรอย่างอื่นได้อีก?” หานเซิ่นสับสน
หานหยี่เฟยใช้ไม้ในมือตีใส่อกของหานเซิ่น “ถ้าอย่างนั้นมันก็แสดงว่าเจ้าไม่รู้จักร่างกายของตัวเอง เจ้าไม่แม้แต่จะบรรยายความรู้สึกที่ร่างกายของเจ้าได้รับ สิ่งมีชีวิตชั้นสูงนั้นจะมีการทำงานของร่างกายที่ซับซ้อน แม้แต่ความเจ็บปวดที่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกพื้นๆ แต่ในความจริงๆแล้วมันยังมีความรู้สึกอื่นซ่อนอยู่อีก ในตอนที่ไม้จิ้มลงไป เสื้อผ้าและผิวหนังของเจ้าจะถูกกันและกัน กล้ามเนื้อของเจ้ายุบลงไปและเซลล์ของเจ้าจะได้รับความเสียหาย เส้นเลือดฝอยของเจ้าจะแตก เจ้าน่ะรู้สึกถึงเรื่องเหล่านั้นไหม?”
หานเซิ่นกลืนน้ำลาย เนื่องจากเขาสามารถควบคุมกล้ามเนื้อทุกส่วนได้ด้วยออร่าศาสตร์ตงเสวียน การมองและสัมผัสความรู้สึกของร่างกายตัวเองนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจ
“ใช้หัวใจของเจ้าสัมผัสความรู้สึกของร่างกาย” หานหยี่เฟยพูดอย่างจริงจัง
“ทำให้ร่างกายของเจ้าสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์ ถ้าเจ้าทำแบบนั้นได้ เจ้าก็จะควบคุมเลือดสีฟ้าได้”
หานเซิ่นเริ่มจะเชื่อหานหยี่เฟย ดังนั้นเขาจึงถามอย่างจริงจังว่า “สงบนิ่งอย่างสมบูรณ์ที่ว่านั่นคืออะไร?”
“เจ้าต้องทำให้อวัยวะภายในหยุดทำงาน ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องสงบนิ่ง นั่นถึงจะเรียกว่าสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์” หานหยี่เฟยอธิบาย
“ถ้าอวัยวะภายในร่างกายหยุดทำงาน ข้าก็ต้องตายน่ะสิ”
หานเซิ่นพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว ถึงแม้การทำให้หัวใจของตัวเองหยุดเต้นและทำให้เลือดหยุดไหลจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับหานเซิ่น แต่ถ้าเขาทำให้การทำงานทุกอย่างของร่างกายหยุดลง นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องตาย
“การสงบนิ่งไม่ได้หมายถึงการตาย การสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์หมายถึงการทำให้ร่างกายหยุดนิ่ง มันไม่ได้หมายความว่าพลังชีวิตของเจ้าจะหยุดนิ่งไปด้วย ข้าบอกไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ เจ้าจำเป็นต้องสัมผัสมันด้วยตัวเอง ในตอนที่หัวใจสงบนิ่งและร่างกายของเจ้าก็จะสงบนิ่งตาม นั่นก็หมายความว่าเจ้าทำสำเร็จ”
หานหยี่เฟยใช้ไม้ในมือตีก้นหานเซิ่นและพูด “รีบกลับไปฝึกต่อ เจ้ามีเวลาไม่มาก”
หานเซิ่นใช้หัวใจสัมผัสถึงการตีครั้งนั้น ในตอนที่ไม่ตีถูกเสื้อผ้าของเขา พวกมันกดลงบนขนของเขา มันทำให้ขนของเขากดลงไปกับผิวหนังและทำให้เขารู้สึกคัน หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าและผิวหนังของเขาถูกันและกัน จังหวะต่อมาเขาก็สัมผัสได้ว่าผิวและเส้นเลือดของเขารู้สึกถึงความเจ็บปวด
ในตอนที่ความเจ็บปวดปรากฏ เลือดที่อยู่ภายในกดตัวเองและทำให้เขารู้สึกว่ามันบวมขึ้นมา นั่นเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อน
หานหยี่เฟยเดินกลับไปนั่งที่ หลังจากนั้นเธอก็หันไปหาดราก้อนเลดี้และพูด “เจ้าถนัดเรื่องการทุบตีคนอื่นไหม?”
“ข้าถนัดแค่การทำอาหารเท่านั้น” ดราก้อนเลดี้ตอบ
“ถ้าอย่างนั้นก็ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นหมูและจับเขาทำอาหาร” หานหยี่เฟยไขว้ขาและยกชาขึ้นดื่มขณะที่พูด
“ถ้าข้าจับเขาทำอาหารจริงๆล่ะ?” ดราก้อนเลดี้ถาม
“ถ้าร่างกายของเขาถูกจับทำอาหารได้ง่ายๆ แบบนั้นข้าก็ได้แต่พูดว่าเขาสมควรแล้ว” หานหยี่เฟยพูด
ดราก้อนเลดี้ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเดินเข้าไปหาหานเซิ่นและยกมือของเธอขึ้น มีดสองเล่มปรากฏขึ้นมาในมือของเธอ มีดเล่มหนึ่งโค้งเหมือนกับพระจันทร์เสี้ยว ขณะที่อีกเล่มเหมือนกับพระจันทร์ครึ่งดวง
หนึ่งในมีดสองเล่มนั้นเป็นมีดสำหรับตัดกระดูก ส่วนอีกเล่มหนึ่งเป็นมีดสำหรับตัดเนื้อ สำหรับเชฟแล้วมีดแต่ละเล่มนั้นมีการใช้งานที่แตกต่างกัน
“พวกเจ้าล้อข้าเล่นใช่ไหม” หานเซิ่นมองดราก้อนเลดี้ที่เดินเข้ามาหาเขาอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ มันทำให้เขารู้สึกหนาวขึ้นมา
ถึงร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งมากๆ แต่เธอมีเลือดของราชาแอนเชี่ยนท์ก็อตอยู่ในตัว และเธอเป็นขั้นทรูก็อตเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเธอไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด ถ้ามีดของเธอฟันลงมา แม้แต่ร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาก็ทนต่อการฟันของเธอไม่ได้
“แน่นอนว่าข้าไม่ได้ล้อเล่น ร่างกายเป็นของเจ้า แต่ความรู้สึกนั้นจำเป็นต้องมีพลังจากภายนอกมาส่งผลกระทบต่อร่างกายของเจ้า ในตอนที่ร่างกายของเจ้าตอบสนอง เจ้าก็จะเข้าใจร่างกายของตัวเอง มันเหมือนกับเด็กที่ไม่เคยออกไปสู่โลกภายนอก เขาจะไม่เคยประสบว่าอะไรที่ดีและอะไรที่ไม่ดี”
หานหยี่เฟยพยายามจะอธิบาย หานเซิ่นรู้สึกว่าที่หานหยี่เฟยบอกนั้นสมเหตุสมผล แต่วิธีการบรรยายของเธอเป็นอะไรที่แปลกมากๆ
“ถอดเสื้อผ้าของเขาออกก่อน มันจะได้ไม่สกปรก”
หานหยี่เฟยพูดกับดราก้อนเลดี้ที่ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น
ดราก้อนเลดี้ไม่ได้พูดอะไร เธอแกว่งมีดและถอดเสื้อคลุมสีน้ำเงินที่หานเซิ่นสวมใส่อยู่ออก หลังจากนั้นด้วยการฟันไม่กี่ครั้ง เสื้อผ้าของหานเซิ่นก็ร่วงลงไปกองอยู่บนพื้น
หานเซิ่นสังเกตเห็นว่ามันมีแค่กางเกงในของเขาเท่านั้นที่เหลืออยู่ เขารีบตะโกนขึ้นว่า “พอได้แล้ว… แค่นั้นมันก็พอแล้ว…”
ดราก้อนเลดี้หันไปมองหานหยี่เฟย หานหยี่เฟยพูดขึ้นว่า “ในตอนที่เจ้าจับหมูทำอาหาร หนูจะเหลือเสื้อผ้าเอาไว้บนตัวมันไหม?”
“ไม่” ดราก้อนเลดี้ตอบ เธอแกว่งมีดและกางเกงในของหานเซิ่นก็หลุดออกมา
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร่างกายนั้นถึงรวมกับเลือดเซเคร็ดได้ ไม่เลวเลย” หานหยี่เฟยหลี่ตา ขณะที่มองไปที่ร่างกายของหานเซิ่น
หานเซิ่นต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มีดสำหรับตัดกระดูกที่อยู่ในมือข้างซ้ายของดราก้อนเลดี้แทงเข้ามาในร่างกายของเขาซะก่อน มันทำให้เขาต้องหายใจเข้าลึกๆอย่างเจ็บปวด หนังตาของเขาสั่นรัว เขาเกือบจะกรีดร้องออกมา
“อย่าขยับ ใช้หัวใจสัมผัสถึงร่างกายของเจ้า” หานหยี่เฟยพูดอย่างไร้ความรู้สึก