เสาของจีโนฮอลล์แตกหัก ประตูพังทลาย ทุกคนสามารถมองผ่านประตูเข้าไปเห็นเปลวไฟที่ดูริบหรี่ ตะเกียงเผ่าพันธุ์ทั้งหมดกำลังวูบวาบเหมือนกับว่ามันกำลังจะดับลงโดยพายุที่รุนแรง
ด้วยการตกลงมาของจีโนฮอลล์ มันดูเหมือนว่าทั้งจักรวาลตกอยู่ในความเงียบสงัด นอกจากเสียงร้องอันสิ้นหวัง มันไม่มีเสียงอะไรอย่างอื่น แม้แต่วิหารพระเจ้าก็ยังตกอยู่ในความเงียบ มันมีเพียงแค่เสียงของการแตกหัก
“หายนะขนาดนี้ ข้าไม่รู้ว่ามันจะมีสิ่งชีวิตมากแค่ไหนที่จะรอดจากเรื่องทั้งหมดนี้ได้” ผู้นำปราสาทนภาเห็นหายนะต่างๆเกิดขึ้นภายในปราสาทนภา
แม้แต่สถานที่อย่างปราสาทนภาและเอาท์เตอร์สกายก็ยังประสบกับหายนะ ซีโน่เจเนอิคสเปชอื่นๆหรือดวงดาวธรรมดาก็ประสบกับหายนะเช่นเดียวกัน
“จักรวาลนี้กำลังจะถึงจุดจบ” ความหวาดกลัวและสิ้นหวังเข้าปกคลุมหัวใจของทุกสิ่งมีชีวิต ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะรอดจากหายนะในครั้งนี้ได้ไหม
ในสายธารทารกชาวเคทคนหนึ่งกำลังลอยอยู่ มันมีเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาให้ได้ยิน แต่เสียงร้องไห้นั้นเทียบไม่ได้กับเสียงคำรามของกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
ภูเขาไฟปะทุขึ้นมา เมืองและหมู่บ้านมากมายถูกทำลาย ดาวบางดวงถูกพุ่งชนโดยอุกกาบาต
“เปิดทางให้กับข้า!” ดวงตาของฉินซิวดูแน่วแน่ ด้วยแรงกดดันของเปลวเพลิงสีแดง ประตูของจีโนฮอลล์นั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เศษหินกระเด็นออกไปทุกหนทุกแห่ง
ร่างกายของพระเจ้าถูกกดดันให้ถอยเข้าไปในจีโนฮอลล์ เขาหยุดอยู่หน้าตะเกียงเผ่าพันธุ์นับหมื่น ตอนนี้ตะเกียงเผ่าพันธุ์จำนวนมากได้ดับลงไปแล้ว
ในตอนที่ตะเกียงเผ่าพันธุ์แต่ละตะเกียงดับลงไป เผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่เป็นเจ้าของตะเกียงเผ่าพันธุ์ก็จะได้รับความเสียหายอย่างหหัก มันจะทำให้เผ่าพันธุ์นั้นๆประสบกับหายนะที่เลวร้ายยิ่งไปกว่าเดิม
พระเจ้ามองไปที่ฉินซิวและพูด “คนๆเดียวทำให้เผ่าพันธุ์นับพันล้านต้องสูญพันธุ์ นี่มันคุ้มค่าจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
ฉินซิวพูดอย่างเย็นชา “ในตอนที่ข้าตกอยู่ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุด มันมีคนๆเดียวที่อยู่เคียงข้างข้า สำหรับข้าแล้ว โลกนี้มีเพียงแค่คนนี้คนเดียว สิ่งมีชีวิตอื่นไม่มีความหมายอะไรกับข้า ข้าไม่จำเป็นต้องสนใจพวกเขา”
ขณะที่พูดฉินซิวก้าวไปข้างหน้าต่อไป แต่ละก้าวของเขาส่งผลให้พระเจ้าต้องก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลังของเขาเกือบจะไปถูกกับตะเกียงเผ่าพันธุ์ทั้งหมื่น
ทุกเผ่าพันธุ์รู้ว่าถ้าตะเกียงเผ่าพันธุ์ทั้งหมดดับลง จีโนฮอลล์ก็จะจบสิ้น แต่ไม่มีใครที่จะหยุดฉินซิวได้ แม้แต่พระเจ้าเองก็ยังหยุดฉินซิวจากการก้าวเข้าไปในจีโนฮอลล์ไม่ได้
ฉินซิวต้องการจะเดินหน้าต่อไปและทำลายจีโนฮอลล์อย่างสมบูรณ์ แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงัก ก่อนที่จะหันกลับไปมองด้านหลัง
หัวใจของทุกเผ่าพันธุ์เต้นตึกตัก พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินซิวถึงหยุดชะงักไปแบบนั้น? มันทำให้พวกเขามีความหวังขึ้นมา
“ในเวลาแบบนี้ ยังมีอะไรทำให้ฉินซิวสนใจได้อีก?” ยอดฝีมือทุกคนทั้งรู้สึกสับสนและรู้สึกกังวลใจ
ยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์ชั้นสูงทั้งหมดมารวมตัวอยู่ที่นี่หมดแล้ว แต่ภายใต้พลังของฉินซิว แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตก็ถูกลดระดับลงมา มันไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่ต่อสู้กับฉินซิวได้
พวกเขาภาวณาและหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่พวกเขารู้ดีว่าโอกาสที่จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นน้อยเกินไป
ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มองออกไปในทิศทางเดียวกับฉินซิว พวกเขาหวังว่าจะมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้น แต่พวกเขาไม่สามารถสัมผัสถึงออร่าที่แข็งแกร่งจากทิศทางนั้น
“เกิดอะไรขึ้น? นี่ข้าคิดไปเองอย่างนั้นหรอ? ทำไมข้าถึงรู้สึกกระวนกระวาย?” ฉินซิวมองไปในทิศทางนั้นและพูดกับตัวเอง เขากำลังรู้สึกถึงความกังวลใจ
ทันใดนั้นเหล่ายอดฝีมือก็เห็นเงาสีขาวค่อยๆปรากฏตัวจากทิศทางนั้น มันไม่ได้รวดเร็วหรือมีออร่าที่ทรงพลัง มันดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า มันค่อยๆเคลื่อนที่ขึ้นมาสู่เขตแดนของจีโนฮอลล์
สายตาของผู้นำปราสาทนภานั้นดีที่สุด เขาเห็นเงาสีขาวนั่นอย่างชัดเจน และเขาก็ตะโกนออกมาเสียงดังว่า “มันคือหานเซิ่น! เขายังคงมีชีวิตอยู่”
หลังจากนั้นยอดฝีมือหลายคนก็เห็นได้อย่างชัดเจน มันเป็นหานเซิ่นที่กำลังเดินเข้ามาสู่จีโนฮอลล์
หานเซิ่นในตอนนี้แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ร่างกายของเขาไม่ได้มีเปลวเพลิงสีแดง ร่างกายของเขามีแสงสีขาวและกึ่งโปร่งใส เขาดูไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตของจักรวาล เขาดูเหมือนกับเทพสปิริต
สีหน้าของฉินซิวเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหานเซิ่นก้าวเข้ามา เขาจ้องไปที่หานเซิ่นราวกับว่าเขากำลังได้เห็นบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้ การทดลองสุดยอดยีนนั้นไม่ประสบความสำเร็จ พลังแบบนี้จะมีอยู่ได้ยังไง… มันไม่มีทางเป็นสุดยอดยีนที่สมบูรณ์… มันควรจะบกพร่องเหมือนอย่างหว่านเอ๋อ” ฉินซิวพูดกับตัวเอง
หานเซิ่นเดินมาหยุดไม่ไกลไปจากฉินซิวและพูด “ฉินซิว ออกมาจากร่างกายของเสี่ยวฮวา นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า”
ฉินซิวพูดอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำเกินไป ข้าไม่ได้คาดคิดว่ายีนของเจ้าจะวิวัฒนาการจนถึงขั้นนี้ แต่ถึงเจ้าจะเข้าใกล้สุดยอดยีน มันก็ไร้ประโยชน์ ต่อหน้าหว่านเอ๋อคนที่เข้าใกล้สุดยอดยีนยิ่งกว่า พลังของเจ้าก็จะถูกยับยั้ง”
“จริงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม เรื่องราวของยีนกำลังทำงานภายในร่างกายของเขา ขณะที่มันทำงาน ร่างกายของหานเซิ่นก็เข้าสู่โหมดซีโน่เจเนอิค
โหมดซีโน่เจเนอิคและโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดถูกใช้งานพร้อมๆกัน มันทำให้ออร่าของหานเซิ่นดูแปลกๆ
“ดอลลาร์… หานเซิ่นคือดอลลาร์…” ทุกสิ่งมีชีวิตในจักรวาลตกตะลึง พวกเขาคิดว่ามันแปลกๆที่หานเซิ่นสามารถใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด ตอนนี้เมื่อเขาเข้าสู่โหมดซีโน่เจเนอิค มันก็ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าหานเซิ่นและดอลาร์เป็นคนๆเดียวกัน
“หานเซิ่นและดอลลาร์เป็นคนๆเดียวกัน” อี๋ซาพูดกับตัวเอง ใบหน้าของเธอดูซับซ้อนมากๆ ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่เธอนึกย้อนถึงเรื่องในอดีต ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีขาวและเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกหรือคิดยังไงกับเรื่องนี้
บนเอมตี้เมาท์เทน อสูรขนเขียวอ้าปากค้าง เขาไม่สามารถปิดมันลงได้ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมโกลเด้นโกรวเลอร์ถึงได้มอบอันดับที่หนึ่งให้กับดอลลาร์
“โอ้มายก็อด! ก็อดฟาเธอร์หานและดอลลาร์เป็นคนๆเดียวกัน”
“นี่… นี่เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ…”
สิ่งมีชีวิตมากมายทั่วจักรวาลอึ้งไป พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
“หมอนี่ ในที่สุดเขาก็เปิดเผยตัวเองออกมา” หวังอวี่ฮังยักไหล่ เขารู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้
คนอื่นๆในสเปชการ์เด้นก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไร ถึงหานเซิ่นจะไม่เคยบอกพวกเขา แต่พวกเขาก็คาดเดาเอาไว้แล้ว