หานเซิ่นต้องการจะฆ่าฉินซิว แต่ร่างสปิริตของฉินซิวนั้นแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงแม้จะใช้ท่าตบขั้นสุดยอดอย่างเต็มกำลัง แต่ภายในเวลาสั้นๆหานเซิ่นไม่สามารถทำลายร่างสปิริตของฉินซิวได้
ฉินซิวดึงหานเซิ่นเข้าไปในรอยแยกของกาลเวลาและอวกาศ หว่านเอ๋อที่อยู่ใกล้ๆกับพวกเขาก็ร่วงเข้าไปข้างในด้วยเช่นกัน พวกเขาทั้งสามตกลงไปในรอยแยกของกาลเวลาและอวกาศที่ประหลาดนั่น
หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดไม่สามารถต่อต้านพลังประหลาดของอุโมงค์ได้ ร่างกายของเขากำลังถูกย่อยสลาย
สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นแปลกใจก็คือความจริงที่ฉินซิวดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากพลังของอุโมงค์ เขาไม่ได้ถูกย่อยสลายเลยแม้แต่นิดเดียว
พลังสีทองของหว่านเอ๋ออีกเองก็ไม่สามารถต่อต้านพลังประหลาดของอุโมงค์ได้เช่นเดียวกัน ร่างกายของเธอกำลังถูกย่อยสลายอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าของหานเซิ่นซะอีก
“จริงๆด้วย เจ้ายังฝึกเรื่องราวของยีนไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงจะไม่ถูกย่อยสลายโดยพลังของอุโมงค์ตรงกันข้าม” ฉินซิวปล่อยมือออกจากหานเซิ่นและอุ้มหว่านเอ๋อเอาไว้ขณะที่พูด
หานเซิ่นตกใจ นี่เป็นโอกาสที่ฉินซิวจะจัดการกับเขา ถ้าฉินซิวดึงหานเซิ่นลึกลงไปในอุโมงค์เรื่อยๆ ถึงหานเซิ่นจะฆ่าอีกฝ่ายได้ พวกเขาก็จะตายไปด้วยกัน
ฉินซิวพูดขณะที่ลูบผมของหว่านเอ๋อและจูบแก้มของนาง
“เจ้าต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับข้า เจ้าต้องดูแลหว่านเอ๋อ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าต้องรับประกันว่านางจะมีชีวิตอย่างมีความสุข”
ด้วยการจูบนั้นแสงสีแดงจากร่างกายของฉินซิวเข้าไปหาหว่านเอ๋อ มันห่อหุ้มร่างกายของหว่านเอ๋อเอาไว้ ชั้นแสงสีแดงนั้นช่วยหยุดพลังของอุโมงค์ตรงกันข้ามไม่ให้ทำลายร่างกายของเธอ
เนื่องจากสูญเสียพลังไปเป็นจำนวนมาก ร่างกายของฉินซิวจึงมัวลงไปจากการกัดกร่อนของพลังประหลาดในอุโมงค์ตรงกันข้าม เขาดูริบหรี่ราวกับว่าร่างกายของเขาสามารถสลายไปได้ทุกเมื่อ
เขาผลักมือไปข้างหน้าเพื่อดันหว่านเอ๋อไปให้กับหานเซิ่น หานเซิ่นรับตัวหว่านเอ๋อเอาไว้ หลังจากนั้นฉินซิวก็ยิ้มให้กับเขา แต่รอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่ดูรู้สึกเศร้า
“กลับไป พาหว่านเอ๋อกลับไปยังโลกของเจ้า บางทีนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนาง อะไรที่พลาดไปแล้วไม่อาจทวงคืนได้ ข้าฉินซิวไม่อาจจะต่อต้านท้องฟ้าได้”
หลังจากนั้นฉินซิวก็ระเบิดด้วยแสงสีแดง ร่างกายของเขากลายเป็นเปลวไฟสีแดงที่ห่อหุ้มหานเซิ่นกับหว่านเอ๋อและดันพวกเขาไปสู่ทางเข้าของอุโมงค์ตรงกันข้าม
ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ทางเข้าของอุโมงค์ตรงกันข้าม เปลวไฟสีแดงของฉินซิวก็อ่อนลง ฉินซิวเปลี่ยนพลังชีวิตของเขาเป็นพลังสีแดง ในตอนที่เปลวไฟสีแดงดับลง มันก็จะเป็นจุดจบของเขา
เมื่อพวกเขาไปถึงทางเข้าของอุโมงค์ตรงกันข้าม แสงสีแดงของฉินซิวก็ดับไป หานเซิ่นใช้พลังของตัวเองเพื่อออกไปจากที่นั่น
ในตอนที่หานเซิ่นกำลังจะออกมา มีเสียงร้องของบางสิ่งดังออกมาจากทะเลจิตของเขา ทันใดนั้นชุดเกราะคริสตัลสีดำก็พุ่งออกมาด้วยตัวของมันเองและเข้าห่อหุ้มร่างกายของหานเซิ่น
แต่สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นตกใจยิ่งกว่าคือความจริงที่หลังจากที่ชุดเกราะคริสตัลสีดำห่อหุ้มตัวของเขา มันดึงร่างกายของเขาลึกลงไปในอุโมงค์ตรงกันข้าม
“นี่เจ้ากำลังทำอะไร?” หานเซิ่นพยายามจะใช้พลังของตัวเองเพื่อออกไปจากอุโมงค์ตรงกันข้าม แต่มันไม่ได้ผล ชุดเกราะคริสตัลสีดำดึงเขาลึกลงไปเรื่อยๆ
ไม่มีใครตอบคำถามของเขา ชุดเกราะคริสตัลสีดำนั้นเงียบสนิท มันแค่ดึงหานเซิ่นลงไปเรื่อยๆ พลังของอุโมงค์ตรงกันข้ามนั้นไม่สามารถทำอะไรชุดเกราะคริสตัลสีดำได้
แต่ทว่าภายในอุโมงค์ตรงกันข้าม มันมีพลังประหลาดพลุ่งพล่านภายในชุดเกราะคริสตัลสีดำและไหลเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น มันทำให้ร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถหยุดพลังนั้นได้
หว่านเอ๋อนั้นมีพลังของฉินซิวปกป้องอยู่ เธอจึงไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงนั้น
อุโมงค์ตรงกันข้ามเป็นเหมือนกับเหวที่ไร้ก้น ขณะที่หานเซิ่นและหว่านเอ๋อจมลงไปเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าร่างกายของพวกเขากำลังถูกกลืนโดยความว่างเปล่า
…
ปีแรกของศักราชดอลลาร์
ในปีนี้ อัลฟ่าของมนุษย์ดอลลาร์ได้เอาชนะผู้ทำลาย ช่วยจักรวาลจีโนและชีวิตนับไม่ถ้วนเอาไว้ได้สำเร็จ เพื่อเป็นเกียรติต่อดอลลาร์ที่ตายไปพร้อมกับผู้ทำลาย ปีนั้นจึงถูกตั้งชื่อว่าเป็นปีแรกของศักราชดอลลาร์ ศักราชใหม่ของจักรวาลเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ตอนนี้มนุษย์และสปิริตกลายเป็นเป็นสมาชิกของจักรวาลจีโนอย่างเป็นทางการ มันมีมนุษย์และสปิริตยอดฝีมือจากสเปชการ์เด้นและเซเคร็ดอยู่นับไม่ถ้วน มันทำให้มนุษย์และสปิริตขึ้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่สำคัญและทรงอำนาจในจักรวาล
หวังอวี่ฮังเข้าไปในห้องปฏิบัติการและถามเซี่ยชิง “พี่เซี่ย ตอนนี้การวิจัยไปถึงไหนแล้ว? มันมีหนทางที่พวกเราจะเปิดอุโมงค์สู่โลกปฎิสสารแล้วหรือยัง?”
“ยัง พลังของโลกปฎิสสารนั้นแปลกเกินไป” เซี่ยชิงพูด
“พวกเราได้ลองพยายามเข้าไปสู่โลกปฎิสสารผ่านทางแม่น้ำอันเดอร์เวิลด์ แต่ไม่มีสสารไหนที่ทนต่อพลังของโลกปฎิสสารได้”
ซินเสวียนเดินเข้ามาพร้อมกับบันทึกในมือ “ตลอดสองปีที่ผ่านมา พวกเราลองใช้ทุกวิธีทางเพื่อจะเปิดอุโมงค์สู่โลกปฎิสสาร แต่ไม่มีวิธีไหนที่ประสบความสำเร็จ พวกเราจำเป็นต้องหาทางอื่น”
“พระเจ้าของจีโนฮอลล์ต้องรู้วิธีที่จะเปิดอุโมงค์ไปสู่โลกปฎิสสารแน่ แต่เขาไม่ยอมบอกพวกเรา”
“นั่นไม่เป็นอะไร พวกเรารู้ว่าหานเซิ่นยังไม่ตาย ถ้าเขาผ่านอุโมงค์ไปสู่โลกปฎิสสารได้ มันก็ต้องมีหนทางที่พวกเราจะผ่านไปได้เช่นเดียวกัน” ซินเสวียนพูด
“ใช่ พวกเราต้องหาหนทางให้ได้ พวกเราจะปล่อยให้หานเซิ่นยึดครองโลกปฎิสสารเพียงคนเดียวไม่ได้” หวังอวี่ฮังพูด
ซีโร่เดินเข้ามาในห้องปฏิบัติการ เธอขมวดคิ้วและถาม “พวกนายเห็นเป่าเอ๋อไหม?”
“ไม่เห็น มันผ่านมาสักพักแล้วตั้งแต่ที่พวกเราเห็นนางเป็นครั้งสุดท้าย บางทีนางอาจจะพาหกน้อยและเก้าน้อยออกไปล่า” เซี่ยชิงพูด
หวังอวี่ฮังพูดขึ้นว่า “อย่ากังวลไปเลย ภายในสเปชการ์เด้นไม่มีอะไรทำร้ายเป่าเอ๋อได้ ถ้ามีใครคิดจะทำร้ายเป่าเอ๋อ คนๆนั้นก็ต้องโง่เง่ามากๆ”
ในเวลาเดียว บนภูเขาในสเปชการ์เด้น เป่าเอ๋อยืนอยู่บนวัตถุทองแดงประหลาด ดวงตาของเธอมองไปที่วัตถุทองแดง ซึ่งวัตถุทองแดงนั่นก็คือลูกบาศก์สี่แกะของหานเซิ่น
ข้างๆของเป่าเอ๋อมีหมอดูแก่ที่กำลังถือธงยืนอยู่ บนธงนั้นมีคำว่าโชคชะตาเขียนเอาไว้
เป่าเอ๋อหันมามองหมอดูแก่และถาม “สิ่งนี้จะพาหนูไปหาพ่อได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“แน่นอน ข้าขอสาบานต่อพระเจ้าด้วยชีวิตว่าไม่ได้โกหก” หมอดูแก่สาบานต่อพระเจ้า