เด็กชายชุดขาวตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขารีบไปหลบที่ด้านหลังของหานเซิ่น
หานเซิ่นอยากจะโยนเด็กคนนี้ทิ้งไป ในเมื่อพวกเขาไม่ได้รู้จักกัน เขาไม่รู้ว่าเด็กชายคนนี้เป็นคนดีหรือคนไม่ดี และเขาก็ไม่ต้องการเป็นโล่ป้องกันให้กับอีกฝ่าย
ผู้หญิงที่ดูเหมือนกับนางฟ้าที่งดงามบินลงมาจากท้องฟ้า ใบหน้าของเธอดูเย็นชาราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจอะไรในโลกใบนี้ เธอชี้ดาบยาวในมือมาที่หานเซิ่น ไม่นานก็มีสายฟ้าที่น่ากลัวผ่าลงมาจากท้องฟ้า เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามจะเปลี่ยนหานเซิ่นและเด็กชายชุดขาวที่อยู่ด้านหลังให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
หานเซิ่นไม่ต้องการจะสร้างปัญหา แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยให้คนอื่นมารังแกเขาได้เช่นกัน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงชกหมัดออกไปใส่สายฟ้าที่ผ่าลงมา
พีชฟูลที่อยู่ข้างๆตะโกนขึ้นมา “ระวัง! นางมีพลังของเหยี่ยวบิ๊กสเปชธันเดอร์ก็อตที่เป็นยีนเรซระดับเทพเจ้า! สายฟ้าของมันทำลายได้ทุกอย่างและเดินทางไกลเป็นพันไมลล์! อย่าได้ดูถูกมัน!”
สายฟ้าผ่าลงมารวดเร็วเกินไป ก่อนที่พีชฟูลจะพูดจบ หมัดของหานเซิ่นก็ปะทะเข้ากับสายฟ้าที่น่ากลัวเรียบร้อยแล้ว
Boom!
สายฟ้าระเบิดออกภายใต้หมัดของหานเซิ่น มันไม่สามารถทำร้ายอะไรหานเซิ่นหรือผ่านไปทำร้ายเด็กชายชุดขาวที่อยู่ด้านหลังได้แม้แต่นิดเดียว
พีชฟูลอ้าปากกว้างด้วยความตกใจ การปะทะกับสายฟ้าของเหยี่ยวบิ๊กสเปชธันเดอร์ก็อตได้ตรงๆโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียวนั้นเป็นอะไรที่น่าตกใจมากๆ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้เห็น
ผู้หญิงที่ดูเหมือนกับนางฟ้าเองก็ดูตกใจเช่นกัน แต่เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น ในวินาทีต่อมาเธอก็แกว่งดาบยาวอีกครั้ง และสายฟ้าก็เริ่มผ่าลงไปใส่หานเซิ่น
“ดูเหมือนว่าโลกนี้จะยังมียอดฝีมืออยู่” ถึงแม้สายฟ้านั้นจะอะไรหานเซิ่นไม่ได้ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกชาเล็กน้อย
เมื่อเห็นสายฟ้าผ่าลงมาเพิ่มอีก หานเซิ่นก็แกว่งหมัดออกไปต้อนรับพวกมัน หนึ่งหมัดต่อสายฟ้าหนึ่งลูก เขาทำลายสายฟ้าที่ผ่าลงมาจนระเบิดเป็นประกายไฟกระจัดกระจายไปทั่ว มันเหมือนกับเทศกาลดอกไม้ไฟ
เมื่อเห็นแบบนั้นมิสเตอร์หยางและพีชฟูลก็อึ้งไป พีชฟูลเริ่มจะเชื่อว่าหานเซิ่นนั้นไม่ใช่มนุษย์ ในทางกลับกันเด็กชายชุดขาวที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหานเซิ่นนั้นดูดีใจอย่างมาก หลังจากที่มาหลบอยู่ด้านหลังของหานเซิ่น เขาก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป เขาพูดขึ้นว่า
“หานเซิ่น เจ้าต้องการสาวใช้ไม่ใช่หรอ? รีบไปจัดการผู้หญิงคนนั้น! และข้าจะมอบนางกับพีชฟูลเป็นสาวใช้ของเจ้า!”
ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินเด็กชายขุดขาวพูดแบบนั้น เขาก็คิดว่ามันน่าขำ ถ้าหานเซิ่นต้องการ เขาก็สามารถหาผู้หญิงมารับใช้ได้ไม่ยากเย็นอะไร แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น
แถมถ้าเขาจัดการกับผู้หญิงที่เหมือนกับนางฟ้าคนนั้นได้ เขาก็ไม่เห็นจำเป็นต้องให้เด็กชายชุดขาวมอบนางให้กับเขา
พีชฟูลที่อยู่ไม่ไกลออกไปสีหน้าดูย้ำแย่ขึ้นมา เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กชายชุดขาวจะยังจำเรื่องแบบนั้นได้
หลังจากที่หานเซิ่นป้องกันสายฟ้าอีกหลายสิบลูก มันก็ดูเหมือนว่ามือของเขาถูกสายฟ้าช็อตจนบวม ถึงอย่างนั้นผู้หญิงที่ดูเหมือนกับนางฟ้าก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดมือ หานเซิ่นคิดว่าสถานการณ์ต้องแย่แน่ๆ ถ้าเกิดเขาปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ดังนั้นเขาจึงกระโดดขึ้นไปหาผู้หญิงคนนั้น
หานเซิ่นไม่มีทางเลือกอื่น ร่างกายของเขาถูกปฏิเสธโดยโลกใบนี้ เขาไม่สามารถบินได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงต้องใช้การกระโดดแทน แต่ยิ่งเขาต้องกระโดดสูงมากเท่าไหร่ พลังที่เขาต้องใช้ก็มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเขาจะรู้สึกได้ถึงแรงกดดันของโลกใบนี้มากขึ้นเช่นกัน
ร่างกายของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับปืนใหญ่ที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า ผู้หญิงที่เหมือนกับนางฟ้ากระพือปีกและบินหนีขึ้นไปสูงยิ่งกว่าเดิม หานเซิ่นไม่สามารถจับตัวเธอได้และร่วงกลับลงมาบนพื้น
ผู้หญิงที่ดูเหมือนกับนางฟ้านั้นไม่รอให้เขาร่วงลงถึงพื้น เธอแกว่งดาบยาวของเธออย่างไร้ความรู้สึก สายฟ้าผ่าลงไปใส่หานเซิ่นอีกครั้ง
‘ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือยังไง! เธอมาที่นี่และพยายามจะฆ่าเราโดยไม่พูดอะไรสักคำ ฉันไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกับไอ้เด็กคนนั้นสักหน่อย’
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เนื่องจากเขาไม่สามารถบินได้ ทำให้เขาไม่มีทางหลบการโจมตีของเธอได้ สายฟ้าผ่ามาถูกแผ่นหลังของเขา มันทำให้ร่างกายของเขาสั่นไหว มันเหมือนกับว่าเขาถูกฟาดด้วยแส้
ถึงแม้พลังนั้นจะไม่สามารถทำร้ายร่างกายของเขาได้ แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่รู้สึกดี
หานเซิ่นขมวดคิ้ว ถึงแม้โลกใบนี้จะปฏิเสธพลังของเขา แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงบ้าคนนั้น แต่เนื่องจากเธอบินสูงอยู่บนท้องฟ้า ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถแตะต้องตัวเธอได้
ขณะที่หานเซิ่นกำลังรู้สึกหดหู่ จู่ๆแมวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็ร้องเหมียวขึ้นมา หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นแสงสีแดงส่องสว่างออกมาจากตัวของแมวน้อย แสงสีแดงนั้นไหลเข้าไปในร่างกายของเขา
ทันใดนั้นหานเซิ่นรู้สึกว่าราวกับว่ามีพลังที่อบอุ่นพลุ่งพล่านในร่างกายของเขา มันทำให้หานเซิ่นไม่สามารถทนต่อไปได้ และวินาทีต่อมาเขาก็คำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า “เหมียว!”
หลังจากที่เสียงแมวสั่นสะเทือนทั้งท้องฟ้าและผืนดิน บนหัวของหานเซิ่นก็มีหูแมวสีแดงงอกขึ้นมา และหางแมวก็งอกออกมาจากด้านหลังของเขา แม้แต่ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกับแมวน้อย
“ในที่สุดเขาก็ใช้พลังของยีนเรซ!” พีชฟูลจับจ้องไปที่หานเซิ่น เธออยากรู้ว่ายีนเรซที่หานเซิ่นใช้นั้นจะเป็นยีนเรซแบบไหนกัน
มิสเตอร์หยางนั้นอ้าปากค้างราวกับว่าไข่เข้าไปติดคอของเขา ใบหน้าของเขาดูแปลกๆ
“ไม่… นั่นเป็นไปไม่ได้… เขาเป็นยีนเรซไม่ใช่หรอ… ยีนเรซจะใช้ยีนเรซได้ยังไงกัน?” มิสเตอร์หยางรู้สึกสับสนเกินกว่าที่จะรวบรวมความคิดได้
หานเซิ่นมองผู้หญิงที่อยู่บนท้องฟ้า พลังประหลาดมารวมกันอยู่ในดวงตาของเขา มันทำให้ดวงตาของเขาดูแดงมากๆ
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าหานเซิ่นรวมกับยีนเรซและเปลี่ยนร่าง พลังสายฟ้าของเธอก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม เธอฟันดาบยาวในมือออกไปใส่หานเซิ่น สายฟ้าถูกปล่อยออกไปเหมือนกับนกประหลาด มันพุ่งตรงออกไปใส่หานเซิ่น
Pang!
ดวงตาของหานเซิ่นแว็บด้วยแสงสีแดง ลำแสงสีแดงถูกปล่อยออกไปจากดวงตาทั้งสองของเขา มันระเบิดเหยี่ยวสายฟ้าของคู่ต่อสู้และพุ่งต่อขึ้นไปสู่ท้องฟ้าเหมือนกับแสงเลเซอร์
ลำแสงสีแดงสองเส้นพุ่งทะลุผ่านร่างกายของผู้หญิงที่ดูเหมือนกับนางฟ้า เธอส่งเสียงร้องออกมาและมองมาที่หานเซิ่นด้วยความโกรธ เธอกระพือปีกและกลายเป็นสายฟ้าที่บินหนีไป
หลังจากที่ดวงตาของหานเซิ่นปล่อยลำแสงออกไป เขาก็รู้สึกว่าพลังประหลาดภายในตัวลดน้อยลง เขาไม่สามารถปล่อยลำแสงออกมาอีกครั้งได้
ในตอนที่ผู้หญิงคนนั้นหายตัวไป พลังภายในตัวของหานเซิ่นก็หายไปเช่นกัน แสงสีแดงไหลออกมาจากตัวของเขา และรวมตัวกันกลับไปเป็นแมวน้อยอีกครั้ง
ในตอนนี้แมวน้อยดูอ่อนแรงอย่างมาก มันใช้อุ้งเท้าจับชุดบริเวณอกของหานเซิ่นเอาไว้และร้องออกมา “เหมียว”
หานเซิ่นรู้สึกดีใจ เขากอดแมวน้อยในอ้อมแขนของเขาและเอยชมมัน
“ไม่เลว ไม่เลว การรับเจ้ามาเลี้ยงเป็นไอเดียที่ไม่เลวจริงๆด้วย เจ้าดีกว่าเฒ่าแมวเวรนั่นเป็นไหนๆ”
“ดูเหมือนว่าเราจะใช้พลังของโลกใบนี้ได้”
หานเซิ่นสังเกตร่างกายของแมวน้อยและเห็นว่ามันแค่อ่อนแรงเท่านั้น เขาจึงไม่ได้กังวลอะไรมาก ในตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองจะใช้ยีนเรซไม่ได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น