Super God Gene – ตอนที่ 3051 เข้าไปในภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตอีกครั้ง

หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มการทดสอบจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขายังไม่รู้สึกถึงอาการตามที่ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตบอกกับเขาเลย

 

จากคำบรรยายของผู้ทดสอบคนอื่นเกี่ยวกับการทดสอบของพวกเขา มนุษย์ที่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริตระดับต่ำนั้นจะรู้สึกมึนหัวได้ง่าย และพวกเขาหลายคนถึงกลับหมดสติไประหว่างการทดสอบ

 

แม้แต่ขุนนางที่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริตที่สมบูรณ์ก็ไม่สามารถทนรับการทดสอบได้นานเกินกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ในตอนนี้หานเซิ่นรับการทดสอบมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่รู้สึกอะไร

 

ตัวอักษรที่วูบวาบบนกำแพงนั้นเริ่มจะซ้ำของเดิม และทันใดนั้นจู่ๆทุกอย่างก็มืดมิดไปก่อนที่เขาจะถูกส่งออกไปจากห้องทดสอบโลหิตชีพจรเทพสปิริตเสมือน

 

“มันจบแล้วอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกสับสน เขายังไม่ได้เห็นผลการทดสอบเลย แต่เขากลับถูกส่งออกมาจากห้องทดสอบเรียบร้อยแล้ว

 

ในตอนที่เขาพยายามเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของระบบทดสอบอีกครั้ง มันบอกว่ามันไม่มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ เขาไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบทดสอบโลหิตชีพจรเทพสปิริตในโลกเสมือนได้

 

“นี่ระบบทดสอบโลหิตชีพจรเทพสปิริตล่มอย่างนั้นหรอ? เซิร์ฟเวอร์ของโลกนี้ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ”

หานเซิ่นรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เขาอยากรู้ว่าตัวเขาเองอยู่ในระดับไหน แต่ตอนนี้แม้แต่จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ก็ยังทำไม่ได้

 

แต่เนื่องจากไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ หานเซิ่นจึงตัดสินใจค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโลกใบนี้ต่อ

 

หานเซิ่นพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับชีพจรพระเจ้า แต่เนื่องจากข้อมูลพวกนั้นมีอยู่อย่างจำกัด แม้แต่เหล่าขุนนางก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันมากนัก

 

ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นการผสมระหว่างเรื่องแต่งและทฤษฎี มันทำให้ข้อมูลซับซ้อนและไม่ชัดเจน ซึ่งมันซับซ้อนยิ่งกว่าการจะทำความเข้าใจวิชาเคมีซะอีก

 

อย่างน้อยๆในวิชาเคมีก็มีสูตรให้เรียนรู้ แต่ชีพจรพระเจ้านั้นไม่มีสูตรที่ตายตัว มันมีเหตุผลต่างๆนาๆที่สามารถทำให้ชีพจรพระเจ้าปรากฎขึ้นมาหรือเกิดความเปลี่ยนแปลง แถมด้วยเหตุผลบางอย่าง บางคนจะสัมผัสถึงมันได้ ขณะที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ มันไม่ได้ถูกอธิบายเอาไว้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น

 

ด้วยเหตุนั้นการจะเรียนรู้เกี่ยวกับชีพจรพระเจ้าจึงเป็นเรื่องยาก มันจำเป็นต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ และคนที่เรียนจำเป็นต้องเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆทีละนิดๆ นั่นเป็นเหตุผลที่เหล่าขุนนางมักจะจ้างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับชีพจรพระเจ้าแทน พวกเขาไม่ได้มีเวลามากพอที่จะมาเรียนรู้เรื่องแบบนี้

 

หานเซิ่นค่อนข้างสนใจในเรื่องของการหาชีพจรพระเจ้า หลังจากที่อ่านข้อมูลไปสักพัก เขาก็พบว่ามันคล้ายคลึงกับอภิปรัชญาที่มิสเตอร์ไวท์สอนให้กับเขา มันเป็นอะไรที่น่าสับสนมากๆ มันทำให้สมองของเขารู้สึกเหนื่อยล้า และสุดท้ายหานเซิ่นก็ต้องยอมแพ้ในที่สุด

 

พีชฟูลจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมการ และพวกเขาจะออกเดินทางในอีกสองวัน ด้วยเหตุนั้นเนื่องจากหานเซิ่นไม่มีอะไรจะทำ เขาจึงเริ่มศึกษาเกี่ยวกับตัวอักษรที่ได้เรียนรู้ในระหว่างการทดสอบโลหิตชีพจรเทพสปิริต

 

ตัวอักษรบนกำแพงนั้นบันทึกวิชาที่เรียกว่าวิชาก็อตเอ็กซ์โพลด์ หรือวิชาเทพสปิริต การใช้วิชาก็อตเอ็กซ์โพลด์นั้นเป็นเรื่องง่าย ผู้ใช้เพียงแค่จำเป็นต้องมีโลหิตชีพจรเทพสปิริตและยีนเรซ

 

หลังจากที่รวมร่างกับยีนเรซ การใช้วิชาก็อตเอ็กซ์โพลด์จะทำให้พลังของยีนเรซที่รวมเข้ากับพลังของผู้ใช้ถูกปลดปล่อยออกไปในคราวเดียว และหลังจากการโจมตีครั้งนั้น พลังชีวิตของยีนเรซก็จะเหือดแห้งไป พวกมันจะสลายกลายเป็นผุยผง พลังของยีนเรซที่ถูกปลดปล่อยออกไปในคราวเดียวโดยวิชาก็อตเอ็กซ์โพลด์นั้นจะเหนือกว่าพลังไหนๆที่คนๆหนึ่งจะใช้ได้ในตอนที่พวกเขารวมร่างกับยีนเรซ

 

“เป็นวิชาที่โหดร้ายอะไรแบบนี้ ทุกครั้งที่เราใช้มัน เราต้องสังเวยชีวิตของยีนเรซ มีเพียงแค่คนที่ร่ำรวยเท่านั้นที่จะใช้วิชาแบบนี้ได้”

หานเซิ่นไม่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริต และเขาก็ไม่ต้องการจะสังเวยแมวน้อย ดังนั้นถึงเขาจะเรียนรู้มัน แต่เขาก็ไม่ต้องการจะใช้มัน

 

บนดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่กำลังลอยไปตามดาวเคราะห์น้อยดวงอื่นๆ เมื่อมองดูจากด้านนอก มันก็ไม่ได้ดูมีอะไรพิเศษ แต่ภายในของมันจริงๆแล้วมีฐานทัพซ่อนอยู่

 

หลังจากที่ไล่ล่าองค์รัชทายาทฉินไป๋และต่อสู้กับหานเซิ่น ผู้หญิงในชุดขาวที่ดูเหมือนกับนางฟ้าก็หนีกลับมาที่ฐานทัพบนดาวเคราะห์น้อยนั่น บนหลังของเธอไม่ได้มีปีกนางฟ้าอีกต่อไป ใบหน้าและออร่าของเธอแตกต่างไปจากตอนที่เธอเปลี่ยนร่าง ถึงแม้หานเซิ่นจะมาเห็นเธอในตอนนี้ เขาก็จดจำเธอไม่ได้

 

“ท่านหัวหน้า ทำไมท่านถึงเอาตัวเองไปเสี่ยงทำอะไรแบบนั้น?”

ดวงตาของซูหลิงเอ๋อเบิกกว้างขณะที่เขามองไปที่ผู้หญิงชุดขาว

 

ผู้หญิงชุดขาวตอบกลับอย่างเย็นชา “มันหาได้ยากที่องค์รัชทายาทฉินไป๋จะอยู่ตามลำพัง โอกาสดีๆแบบนั้นข้ากลับทำไม่สำเร็จ จากนี้ไปการจะลงมือฆ่าเขาก็คงจะยากยิ่งกว่าเดิม จากข้อมูลที่พวกเราได้มา ฉินไป๋ต้องการจะพาหานเซิ่นกลับไปที่วัง แต่เขาถูกปฏิเสธ ถึงอย่างนั้นฉินไป๋ก็คงจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ที่สุดแล้วหานเซิ่นต้องไปเยือนพระราชวังของอาณาจักรฉิน ดังนั้นพวกเราแค่ต้องคอยจับตาดูเขาเอาไว้ และพวกเราก็จะมีโอกาสฆ่าฉินไป๋อีกครั้ง”

 

“แต่ท่านหัวหน้า ท่านไม่เห็นจำเป็นต้องทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แค่ส่งใครสักคนไปทำก็พอแล้ว” ซูหลิงเอ๋อรีบพูด

 

ผู้หญิงชุดขาวส่ายหัว “หานเซิ่นคนนี้เป็นคนที่ลึกลับ เขาไม่ใช่คนธรรมดา แม้แต่ข้าก็ต่อกรกับเขาไม่ได้ ถ้าข้าทำไม่ได้ พวกเจ้าก็ทำไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นข้าจะลงมือเอง”

 

หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ ผู้หญิงชุดขาวก็ถามขึ้นว่า “เจ้าทำตามที่ข้าบอกแล้วหรือยัง?”

 

“ข้าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โกสต์คิลล์นั้นจากโลกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว” ซูหลิงเอ๋อพูดอย่างจริงจัง

 

“ดีมาก พวกเราจะทำตามแผนที่วางเอาไว้” ผู้หญิงชุดขาวพูดพร้อมกับพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

 

หานเซิ่นรอจนกระทั่งถึงวันเดินทาง พีชฟูลนำสมาชิกใหม่มาเพิ่มอีกสองคน หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงที่สวมชุดสีดำและใส่หน้ากากผี ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายที่สวมใส่ชุดเกราะที่งดงาม

 

ในตอนที่พีชฟูลแนะนำตัวพวกเขา เธอบอกว่าผู้หญิงชุดดำนั้นมีชื่อว่าโกสต์คิลล์ เธอจ้างนางมาในราคาที่สูง

 

และในตอนที่พีชฟูลแนะนำคนหนุ่มที่สวมชุดเกราะที่งดงาม หานเซิ่นและคนอื่นๆก็ต้องประหลาดใจ

 

ชายหนุ่มคนนั้นคือคนที่ได้รับโลหิตชีพจรเทพสปิริตที่สมบูรณ์เมื่อสองวันก่อน

 

หานเซิ่นได้รู้ว่าชื่อของเขาคือโอหยางชิวซาน เขามาจากตระกูลโอหยางของเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อต เขาจะร่วมเดินทางไปสู่ภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตในครั้งนี้ด้วย

 

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมพีชฟูลถึงพาเขามาด้วยนั้นเป็นบางสิ่งที่หานเซิ่นไม่มีสิทธิ์จะรู้

 

ชายหนุ่มที่ชื่อโอหยางชิวซานนั้นมีโลหิตชีพจรเทพสปิริตที่สมบูรณ์ ถึงแม้เขาจะดูมีมารยาทและมีการศึกษาดี แต่เขาก็ไม่สามารถซ่อนความอวดดีที่ฝังอยู่ในกระดูกของเขาได้

 

โอหยางชิวซานดูจะสนใจแค่พีชฟูลเพียงคนเดียว คนอื่นๆนั้นดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา

 

แต่หานเซิ่นเองก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวโอหยางชิวซานเช่นกัน ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีโลหิตชีพจรที่สมบูรณ์ของอีวิลโลตัสก็อต แต่อีวิลโลตัสก็อตนั้นเคยพ่ายแพ้หานเซิ่นอย่างราบคาบมาแล้ว

 

เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็เริ่มออกเดินทางไปที่ภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อต แต่หลังจากเดินทางไปถึงจุดๆหนึ่ง พวกเขาก็หยุดเพื่อให้มิสเตอร์หยางได้ทำการคำนวณหาตำแหน่งที่แน่นอนของชีพจรพระเจ้า

 

เส้นทางที่พวกเขาใช้ในการเดินทางเข้าไปในภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตในครั้งนี้แตกต่างไปจากเส้นทางที่หานเซิ่นเคยออกมา ซึ่งทำให้มิสเตอร์หยางรู้สึกโล่งใจ ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าพีชฟูลนั้นไม่ได้กำลังตามหาสมบัติของราชาฉิน

 

หลังจากที่พวกเขาเดินทางไปบนภูเขาได้ไม่นาน มันก็มีเสียงประหลาดดังขึ้นมา มันฟังดูเหมือนกับเสียงเด็กร้องและเสียงกรีดร้องของแมวป่า มันทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจ

 

พีชฟูลพูด “ภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตไม่มีผู้คนอยู่อาศัย มันมียีนเรซจำนวนมากที่ฟักตัวจากชีพจรพระเจ้าและซ่อนตัวอยู่ในภูเขา ลึกเข้าไปในภูเขานี้ ไม่รู้ว่ามันจะมียีนเรซที่น่ากลัวอยู่มากมายเท่าไหร่ ทุกคนต้องระวังตัวให้ดีและคอยช่วยเหลือกันและกัน”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset