Super God Gene – ตอนที่ 3079 เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์

ตอนที่ 3079 เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์

 

หานเซิ่นรู้สึกสนใจขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น “ยีนเรซนั่นถูกเรียกว่าอะไร?”

 

เจียงปู้กู่คิดอยู่ชั่วครู่และพูด “ข้าจําได้ว่ามันถูกเรียกว่าเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ มันเป็นยีนเรซที่อาศัยอยู่ที่แม่น้ำโฮลไลท์ มันเป็นยีนเรซที่เป็นระดับราชันตั้งแต่กําเนิด แต่พลังของมันไม่ได้ แข็งแกร่งอะไรมากนัก แม้แต่ยีนเรซระดับดยุกก็กินพวกมันได้ แต่มันเป็นยืนเรซที่มีการสัมผัสที่ดีมากๆ ก่อนที่ยืนเรซอื่นจะเข้าใกล้พวกมันได้ พวกมันก็หนีไปก่อนแล้วมันจึงเป็นเรื่องยากมากๆที่จะจับพวกมันได้ และไข่ยีนของเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ก็เป็นอะไรที่หายากแบบสุดๆ เท่าที่ข้ารู้ ภายในเมืองกําแพงหยกนั้นมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ไม่เกินห้าตัว และสามตัวเป็นของราชวงศ์ มันเป็นเรื่องยากที่นายน้อยจะได้ไข่ยืนของเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์มา”

 

หานเซิ่นตัดสินใจว่าเขาจะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์มาสักตัวหนึ่ง สําหรับหานเซิ่นแล้วการที่พวกมันโตเต็มวัยแล้วไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไร ด้วยการที่มีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์คอยตรวจจับยืนเรซต่างๆ เขาและคนอื่นๆก็จะปลอดภัยมากขึ้น

 

หานเซิ่นไม่ถามอะไรอีก ถ้าร้านของหลูสือมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์อยู่ เราก็แค่ต้องมาซื้อมันมาสักตัว

 

“มิสเตอร์เจียง ในบรรดายีนเรซระดับท็อป มันมียีนเรซไหนที่มีเลือดสีฟ้าไหม?”

 

ตั้งแต่ที่หานเซิ่นมาถึงจักรวาลแห่งนี้ เขาก็ได้รู้ว่ามนุษย์ทั่วๆไปนั้นไม่ได้ฝึกฝนร่างกาย และเลือดของพวกเขาก็เป็นสีแดง

 

แต่ร่างกายของฉันซิวมีเลือดสีฟ้า มันจึงมีโอกาสที่นั้นจะเป็นผลจากการที่เขารวมร่างกับยีนเรซชนิดหนึ่ง บางทีนั้นอาจจะไม่ใช่เลือดจริงๆของเขา

 

เจียงปู้กู่คิดอยู่ชั่วครู่และตอบ “มันมียีนเรซอยู่หลายชนิดที่มีเลือดสีฟ้า แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคงจะต้องเป็นเวิลด์คิงก็อตของราชาองค์แรกของอาณาจักรฉินอย่างไม่ต้องสงสัยยืนเรซของราชาองค์แรกนั้นเป็นยีนเรซที่เหนือกว่ายีนเรซระดับเทพเจ้าไหนๆ น่าเสียดายที่เวิลด์คิงก็อตนั้นได้ หายไปพร้อมกับราชาองค์แรก ไม่อย่างนั้นละก็อาณาจักรฉันก็คงจะไม่ตกต่ําหลังจากที่ราชาองค์แรกหายตัวไป”

หานเซิ่นรีบถาม “ยีนเรซนั่นเป็นยีนเรซแบบไหนกัน?”

 

“เวิลด์คิงก็อตเป็นสิ่งมีชีวิตในตํานานที่ควบคุมโลกใบนี้” เจียงปู้กู่พูด

 

“แต่เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ผ่านมานานแล้ว จึงไม่มีใครบอกได้ว่ามันมีรูปลักษณ์เป็นยังไง จากข้อมูลที่หลงเหลืออยู่มันควรจะเป็นยืนเรซร่างมนุษย์ที่หายาก”

 

หานเซิ่นถามเฉียงเกี่ยวกับยีนเรซอีกหลายคําถาม ถึงมิสเตอร์หยางจะรอบรู้เกี่ยวกับยีนเรซเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รอบรู้เท่ากับเจียงปู้กู่ มิสเตอร์หยางนั้นจะรู้เพียงแค่ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ขณะที่เจียงปู้กู่จะรู้เกี่ยวกับยืนเรซระดับสูงที่มิสเตอร์หยางเข้าถึงไม่ได้ เขาช่วยให้หานเซิ่นได้เข้าใจเกี่ยวกับพลังของยืนเรซในโลกใบนี้มากขึ้นกว่าเดิม

 

ในสายตาของเจียงปู้กู่ โฮลี่เหวินไวท์เดียร์ถือเป็นยืนเรซระดับพื้นฐานเท่านั้น สําหรับผู้ใช้ยีนเรซทั่วๆไปแล้ว มันอาจจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ แต่สําหรับผู้ใช้ยีนเรซระดับท็อปมันไม่ได้ถือว่าเป็นยีนเรซพิเศษอะไร

 

ยืนเรซที่เป็นสิ่งมีชีวิตในตํานานอย่างเวิลด์คิงก็อตนั้นเป็นสิ่งที่แต่ละอาณาจักรมี พวกมันเป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกันมาในแต่ละอาณาจักร ซึ่งพวกมันทําให้หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาต้องระวังตัวเอาไว้

 

“ดูเหมือนว่าโลกใบนี้จะไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เราคิดเอาไว้ เรื่องราวเกี่ยวกับฉินซิวนั้นเป็นอะไรที่ประหลาด ถ้าเลือดสีฟ้าเป็นเลือดของเวิลด์คิงก็อต แล้วคนที่ตายไปในวันนั้น มันใช่ฉินซิวจริงๆอย่างนั้นหรอ?” ในภายในหัวหานเซิ่นเริ่มจะมีคําถามผุดขึ้นมามากมาย

 

หลังจากที่พูดคุยกับเจียงปู้กู่เสร็จแล้ว หานเซิ่นก็เดินทางไปที่ร้านของหมูสือ เขาได้ล่วงเกินกงซูจินไปเรียบร้อยแล้ว และเขาคงจะต้องต่อสู้กับอีกฝ่ายในเร็วๆนี้ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจําเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะมีโอกาสได้ฆ่ากงซูจิน เขาจําเป็นต้องทําให้แน่ใจว่าเขา มิสเตอร์หยางและคนอื่นๆจะปลอดภัย ด้วยเหตุนั้นเขาจําเป็นต้องมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์

ถึงแม้กงซูจินไม่คิดจะทําอะไรพวกเขา มันก็ต้องมีคนอื่นที่พยายามจะทําร้ายพวกเขาอีกในอนาคตข้างหน้า ดังนั้นการมียีนเรซประเภทนี้จึงเป็นสิ่งที่จําเป็น ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็อาจจะประสบกับภัยอันตรายโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว

 

ร้านของหลูสือนั้นเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรฉิน พวกเขาทํากิจการไปทั่วทั้งจักรวาล และมีร้านสาขาอยู่ตามเมืองใหญ่ต่างๆมากมาย ไข่ยีนและยีนเรซนั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในธุรกิจของพวกเขา

 

ร้านของหลูสือนั้นไม่มีการสั่งซื้อออนไลน์ ผู้คนต้องมาที่ร้านด้วยตัวเองถ้า ต้องการจะซื้อของจากพวกเขา ถึงอย่างนั้นร้านของหลูสือก็ยังคงเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรฉิน พวกเขามียีนเรซและไข่ยีนนานาชนิดและคุณภาพของพวกมันก็เหนือกว่าร้านค้าเล็กๆส่วนใหญ่

 

ในตอนที่หานเซิ่นไปถึงร้านหมูสือ เขาก็บอกคนของที่นั่นว่าเขาต้องการจะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ แต่ราคาที่ได้รับทําให้เขาต้องประหลาดใจ เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์แต่ละตัวมีราคาตัวละสามล้านฉิน ราคานั่นเทียบได้กับไข่ยืนระดับเทพเจ้า และนี่เป็นแค่ยืนเรซที่ถูกจับมาในตอนที่โตแล้ว ซึ่งสามารถนํามาใช้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงเท่านั้น

 

คนดูแลร้านอธิบายสิ่งต่างๆให้หานเซิ่นฟังอย่างใจเย็น เขาบอกกับหานเซิ่นว่าถึงแม้เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์จะเป็นแค่ระดับราชัน แต่มันหาได้ยากมากๆ ด้วยความสามารถพิเศษของมัน เศรษฐีมากมายต่างก็ต้องการจะซื้อเพียวไลท์ชาลาแมนเดอร์สักตัวไปเป็นของตัวเองด้วยเหตุนั้น ราคาของมันจึงแพงมากๆ

 

ถึงตัวที่จับมาในตอนที่โตแล้วจะไม่สามารถนําติดตัวออกไปข้างนอกได้ แต่มันก็สามารถใช้เพื่อเฝ้าบ้านได้ ถ้าเกิดมียีนเรซตัวไหนต้องการจะบุกรุกเข้ามา มันก็จะตรวจจับได้ในทันที ซึ่งเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆ เศรษฐีจึงชอบที่จะมีเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ติดบ้านเอาไว้

 

“แม้แต่จะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์สักตัวหนึ่งเรายังทําไม่ได้”

 

หานเซิ่นรู้สึกหดหูเล็กน้อย เขานับเงินทั้งหมดที่มีและพบว่าเขาไม่สามารถแม้แต่จะซื้อเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ที่ตัวเต็มวัยได้ เพราะฉะนั้นไข่ยีนยิ่งไปต้องพูดถึง

“ถ้าเราซื้อพวกมันไม่ได้ เราก็คงจะต้องไปที่แม่น้ำโฮไลท์เพื่อจับเพียวไลท์ซาลาแมน เดอร์ด้วยตัวเอง”

 

หานเซิ่นกลับไปที่โรงแรม และหาข้อมูลเกี่ยวกับแม่น้ำโฮไลท์และเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ การจะจับเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

 

แม่น้ำโฮไลท์นั้นอยู่บนดาวคู่หย่างที่หานเซิ่นเคยไป แต่หุบเขาไนท์ครายที่เขาไปเยือน ในครั้งก่อนนั้นเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่มียีนเรซระดับสูงอาศัยอยู่

 

แต่แม่น้ำโฮลี่ไลท์นั้นต่างออกไป มันเป็นดินแดนที่ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่มรณะของดาวคู่หย่าง ตัวแม่น้ำโฮลี่ไลท์นั้นเป็นชีพจรพระเจ้าลี้ลับที่ให้กําเนิดยืนเรซที่น่ากลัวขึ้นมาตลอดหลายพันปี ยีนเรซระดับเทพเจ้านั้นจะถูกพบเห็นอยู่บ่อยครั้งในบริเวณแม่น้ำโฮลี่ไลท์ แม้แต่ยอดฝีมือระดับท็อปของอาณาจักรฉินหลายคนก็ไม่กล้าจะเดินทางไปที่แม่น้ำโฮลี่ไลท์

 

เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์นั้นจะปรากฏที่ในแม่น้ำโฮลี่ไลท์ ถึงพวกมันเป็นยีนเรซที่สะเทินน้ํำสะเทินบก แต่พวกมันจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในแม่น้ำ นอกจากนั้นเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ยังสามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของยีนเรซอื่น ดังนั้นถ้ามนุษย์ใช้ยีนเรซเพื่อเข้าไปจับตัวพวกมัน เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ก็จะหนีลึกลงไปในแม่น้ำโฮลี่ไลท์ แต่ถ้ามนุษย์ไม่รวมร่างกับยีนเรซในตอนที่ไปที่แม่น้ำโฮลี่ไลท์มันก็ไม่ต่างอะไรจากการไปรนหาที่ตายด้วยเหตุนั้นการจับตัวเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์จึงเป็นอะไรที่ยากมากๆ

 

แต่ทว่าความยากแบบนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสําหรับหานเซิ่น เขาจึงตัดสินใจจะไปที่แม่น้ำโฮลี่ไลท์ ก่อนที่จะออกเดินทองหานเซิ่นก็ไปเตือนมิสเตอร์หยางและคนอื่นๆ

ไม่ให้ออกไปนอกโรงแรมจนกระทั่งเขากลับมา เขายังขอให้เจียงปู้กู่ช่วยดูแลคนอื่นๆ

 

ที่นี่คือเมืองกําแพงหยก แม้แต่กงซูจินก็ไม่สามารถฆ่าคนอื่นตามใจชอบได้ เขาจําเป็นต้องใช้ยีนเรซเพื่อลอบสังหารพวกเขาอย่างลับๆ แต่ด้วยการที่มีเจียงปู้กู่อยู่ที่นี้ด้วย มันเป็นเรื่องยากที่จะทําแบบนั้นได้

 

ตราบใดที่มิสเตอร์หยางและคนอื่นไม่ได้ออกไปจากโรมแรงและอยู่ภายใต้การดูแลของเจียงปู้กู่ พวกเขาก็คงจะไม่เป็นอะไร

แถมเป้าหมายหลักของกงซูจินคือหานเซิ่น ขณะที่หานเซิ่นไม่อยู่ กงซูจินก็จะไม่ทําร้า ยมิสเตอร์หยางและคนอื่นๆ

 

หลังจากที่หานเซิ่นออกจากโรมแรง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกําลังถูกสะกดรอยตาม ถึงอย่า งนั้นเขาก็ไปที่ดาวคู่หย่างตามแผนเดิม แต่ข่าวนั้นไปถึงหูของกงซูจินอย่างรวดเร็ว

 

กงซูจินดูอาฆาตขณะที่เขาพูดขึ้นว่า “ดีมาก”

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset