ตอนที่ 3084 มังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้า
ดินแดนบริเวณนั้นเต็มไปด้วยหญ้าสีแดงเข้มจํานวนมาก มันดูแตกต่างออกไปเมื่อเทียบกับสถานที่อื่นๆ นอกจากบริเวณนั้นแล้ว บริเวณอื่นเป็นสีเขียวที่เหมือนกับหยก
บอลด์กายบอกว่าหญ้าสีแดงพวกนั้นถูกเรียกว่าหญ้ามังกร แต่หญ้ามังกรนั้นไม่ใช่ชื่อของหญ้าชนิดใดชนิดหนึ่ง หญ้าไหนๆก็ตามที่อยู่ใกล้กับซีดราก้อนวูแมนจะกลายเป็นสีแดงเข้มและถูกเรียกว่าหญ้ามังกร
หานเซิ่นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้บอลด์กายเป็นคนตัดสินใจ เมื่อบอลด์กายระบุตําแหน่งได้แล้ว พวกเขาทั้งสองคนก็เริ่มลงมือขุด หลังจากที่ขุดลึกลงไปในพื้นดินได้เก้าถึงสิบสองฟุต พวกเขาก็ยังคงไม่พบไข่ยีน
หานเซิ่นนั่งลงข้างๆและยกน้ำขึ้นดื่ม เขามองไปที่บอลด์กายและถาม
“บอลด์กาย นี้เจ้าพึ่งพาได้จริงๆใช่ไหม?”
บอลด์กายรู้สึกว่ามันผิดปกติ “ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะดูผิดไปได้ นี่มันคือซีดราก้อนวูแมนชัดๆ ไข่ยีนไม่ควรอยู่ลึกลงไปในซีดราก้อนวูแมนมากจนเกินไป ด้วยเหตุนั้นข้าเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทําไมพวกเราถึงยังไม่พบอะไร”
บอลด์กายยังคงขุดต่อไป ในตอนที่พลั่วของเขาปักลงไปในพื้นดินอีกครั้ง ทันใดนั้นก็มีน้ำพุพุ่งขึ้นมาจากบริเวณที่พลั่วปักลงไป
หานเซิ่นเห็นว่าน้ำพุที่พุ่งขึ้นมานั้นเป็นสีแดง เขาถามด้วยความตกใจ
“นี่คงจะไม่ใช่น้ำพุอีวิลสปิริตหรอกใช่ไหม?” “เจ้ารู้จักน้ำพุอีวิลสปิริตด้วยหรอเนี่ย?” บอลด์กายพูด เขาดูดีใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
“แต่นี่มันไม่ใช่น้ำพุอีวิลสปิริต นี่คือน้ำพุเลือดมังกร มีเพียงแค่ชีพจรพระเจ้าของซีดราก้อนวูแมนเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดแบบนี้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกซีดราก้อนวูแมนจะแสดงน้ำพุเลือดมังกรออกมา ถ้าน้ำพุเลือดมังกรถูกแสดงออกมา มันก็ช่วยยืนยันว่าไข่ยีนอะไรก็ตามที่อยู่ภายในชีพจรพระเจ้านั้นต้องมีค่ามหาศาล เจ้ามั่นใจได้เลยว่าที่อยู่ข้างใต้นี้ต้องเป็นไข่ยีนระดับเทพเจ้า”
หานเซิ่นมองน้ำพุสีเลือดที่พุ่งขึ้นมาด้วยความสนใจ ถึงแม้น้ำพุที่พุ่งขึ้นมาจะเป็นสีแดง แต่มันไม่ใช่สีแดงที่ชั่วร้าย มันเป็นสีแดงที่ดูสดใสและบริสุทธิ์ นอกจากนั้นกลิ่นของมันก็ไม่ใช่กลิ่นของเลือด แต่เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างหอมหวน
น้ำพุเลือดพุ่งขึ้นสูงหลายฟุต ในตอนที่มันสัมผัสกับแสงแดด มันก็เปลี่ยนเป็นหมอกสีเลือดที่เหมือนกับมังกรที่บินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
เฒ่าเจาตาเหยี่ยวกําลังบินอยู่ในก้อนเมฆ เขาเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่เหมือนกับมังกรสีเลือดบินขึ้นมาสู่ท้องฟ้า หลังจากนั้นเขาก็เห็นหานเซิ่นและบอลด์กายอยู่ด้านล่าง
เฒ่าเจานั้นไม่รู้ว่าปรากฏการณ์ประหลาดนี้คืออะไร เขาซ่อนตัวอยู่ในก้อนเมฆอยู่สักพัก และเมื่อยืนยันได้ว่าทั้งสองคนกําลังขุดหาไข่ยีนอยู่ เขาก็บินจากไปอย่างลับๆ
เฒ่าเจาตาเหยี่ยวรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กุงซูจินและอว่าหนองเยว่ฟัง หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็มองหน้ากัน กงซูจินพูดขึ้นว่า
“เจ้านั่นโชคดีจริงๆ เขาพบกับชีพจรพระเจ้าของซีดราก้อนวูแมนเข้า แถมมันยังแสดงน้ำพุเลือดมังกรออกมา มันต้องมีไข่ยีนที่ดีมากๆอยู่ที่นั่น นี่มันเยี่ยมไปเลย พวกเราจะฆ่าพวกเขาและเอาไข่ยีนมาถือว่าเป็นการแก้แค้นให้กับโหลวจิ่ว”
กงซูจินเตรียมตัวจะส่งคนไปฆ่าพวกหานเซิ่น แต่ก่อนที่เขาจะได้ทําแบบนั้น ฮว่าหนองเยว่ก็หยุดเขาเอาไว้และพูด
“นายน้อยอย่าเพิ่งใจร้อน พวกเรายังไม่ควรทําให้พวกเขารู้ตัว”
“ลุงฮว่า กําลังเกี่ยวกับคนที่อยู่กับเจ้านั้นอย่างนั้นหรอ?” กงซูจินถาม
“ไม่จําเป็นต้องไปกังวล ข้ารู้จักคนๆนั้น เขาคือลูกศิษย์ของมิสเตอร์เว่ย เซี่ยหยูเฟย เขามีชื่อเล่นว่าบอลด์กาย เขามาจากเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง ด้วยฐานะและทรัพยากรของเขา เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เป็นลูกศิษย์ของมิสเตอร์เว่ยด้วยซ้ำ ที่เขาได้เป็นลูกศิษย์ของมิสเตอร์เว่ยรับนั้นก็เพราะว่าในตอนที่มิสเตอร์เว่ยไปขุดหาไข่ยีนที่ใกล้เมืองเล็กๆนั่น เขาพบกับอันตรายและได้พ่อของเซี่ยหยูเฟยช่วยเอาไว้ พ่อของเซี่ยหยูเฟยขอให้มิสเตอร์เว่ยช่วยรับลูกชายของเขาเป็นลูกศิษย์ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่มีคนรู้จักอยู่ในเมืองกําแพงหยก และระดับความรู้ของเขาก็ถือว่าธรรมดาๆ ถ้าเขาฉลาดเขาก็คงจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเจ้านั้น ในเมื่อเขาโง่เอง ก็ฆ่าเขาซะ ไม่ว่ายังไงมันก็จะไม่เป็นเรื่องใหญ่อะไร”
ฮว่าหนองเยว่ส่ายหัว “ข้ารู้จักเซี่ยหยูเฟย ข้าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ฮว่าหนองเยว่ก็มองไปที่เฒ่าเจาตาเหยี่ยวและถาม
“ในตอนที่เจ้ามองไปที่น้ำพุเลือดมังกร เจ้าได้เห็นลมปราณโลหิตที่เหมือนกับมังกรที่บินขึ้นสู่ท้องฟ้าไหม?”
เฒ่าเจาตาเหยี่ยวคิดอยู่ชั่วครู่และตอบ “ข้าไม่รู้ว่ามันใช่มังกรหรือไม่ แต่ข้ารู้ว่าน้ำพุที่พุ่งขี้นมานั้นจะกลายเป็นหมอกสีแดงที่ลอยขึ้นไปสู่ท้องฟ้า มันดูเหมือนกับพายุทอร์นาโด”
“ถ้าอย่างนั้นมันก็แน่นอนแล้ว นั่นต้องเป็นปรากฏการณ์ประหลาดมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้า” ฮว่าหนองเยว่สัมผัสพัดขณะที่พูด
“มังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้า?” ในตอนที่กงซูจินได้ยินคําพูดเหล่านั้น เขาก็ดูตื่นเต้นขึ้นมา “ใช่แล้ว! ทําไมข้าถึงลืมไปได้? ถ้านี่คือมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้าจริงๆล่ะก็…”
ก่อนที่กงซูจินจะพูดจบ เขาก็ให้เฒ่าเจาตาเหยี่ยวบรรยายเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นอีกครั้ง
หลังจากที่ได้ยิน กงยูจินก็ดูดีใจยิ่งกว่าเดิม เขาโค้งคํานับให้กับฮว่าหนองเยวและพูด
“ขอบคุณลุงฮว่าที่ช่วยเตือนสติข้า ไม่อย่างนั้นข้าก็คงพลาดเรื่องนี้ไป”
ฮว่าหนองเยวยิ้ม “นายน้อยชมข้าเกินไปแล้ว นายน้อยนั้นฉลาดกว่าข้ามากนัก ถ้านายน้อยได้เห็นมันด้วยตัวเอง นายน้อยก็คงจะจํามันได้ในทันที ในตอนที่ข้าติดตามนายท่านนั้น ข้าเคยได้เห็นปรากฏการณ์ประหลาดมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้ากับนายท่าน นั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้ข้ารู้เกี่ยวกับมัน”
“ลุงฮว่ามีประสบการณ์สูงกว่าข้า ข้ายังต้องให้ลุงสอนอีกมาก” กงซูจินคํานับอีกครั้งและแสร้งทําเป็นถ่อมตัว
ฮว่าหนองเยว่เงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ปรากฏการณ์ประหลาดมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้านั้นเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ ถึงมันจะมีไข่ยีนระดับท็อปอยู่ที่นั่น แต่มันก็เป็นอะไรที่อันตราย ถ้ารับมือไม่ถูกต้องมันก็จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ข้าเชื่อว่าเซี่ยหยูเฟยคงจะเคยเห็นแค่น้ำพุเลือดมังกรเท่านั้น พวกเขาไม่ได้รู้ถึงอันตรายของปรากฏการณ์ประหลาดมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้า ถ้าพวกเขารู้ พวกเขาก็คงจะไม่พยายามขุดต่อ”
กงซูจินพยักหน้า “ในหนังสือบอกเอาไว้ว่าในตอนที่เกิดปรากฏการณ์ประหลาดมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้าขึ้น คนๆหนึ่งจะต้องตาย การจะเอาไข่ยนจากในน้ำพุเลือดมังกร คนๆหนึ่งจะต้องถูกสังเวยชีวิต นั่นเป็นความจริงอย่างนั้นหรอ?”
อว่าหนองเยวพยักหน้า “นั่นเป็นความจริง ในตอนที่ข้าติดตามนายท่านและได้พบกับปรากฏการณ์ประหลาดมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้าเข้า พวกเราไม่ได้เป็นคนพบมันเป็นคนแรก มันมีมิสเตอร์อีกคนทําการขุดชีพจรพระเจ้านั้นอยู่ก่อนแล้ว มิสเตอร์คนนั้นพบจุดจบที่น่ากลัว นั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้พวกเราเอาไข่ยีนมาได้โดยไม่มีปัญหาอะไร”
“เขาตายยังไง?” กงซูจินถามด้วยความอยากรู้
“ข้าไม่รู้” ฮว่าหนองเยว่พูด “วันแรกเขาไม่เป็นอะไร แต่ในวันที่สองตอนที่พวกเราไปที่นั่น พวกเราก็เห็นเขาตายอยู่ในชีพจรพระเจ้า เขาตายอย่างประหลาด ร่างกายของเขาไม่ได้รับความเสียหายอะไร แต่ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือดสีแดงและตัวของเขาขดเหมือนกับกุ้งที่ถูกต้ม”
กงซูจินพูดด้วยรอยยิ้ม “นั่นถือเป็นเรื่องที่ดี ปล่อยให้หานเซิ่นและบอลด์กายขุดต่อไป ในตอนที่พวกเขาทําลายผนึกของปรากฏการณ์ประหลาดได้แล้ว พวกเราค่อยเข้าไป ถ้าหานเซิ่นตายไปทั้งอย่างนั้น มันก็สมควรแล้ว”
หานเซิ่นและเซี่ยหยูเฟยรออยู่ครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเลือดมังกรภายในหลุมก็หายไป
เซี่ยหยูเฟยทนรอไม่ไหวที่จะเข้าไปขุดไข่ยีนขึ้นมา ส่วนหานเซิ่นเองก็ต้องการจะกระโดดลงไปในหลุมเช่นกัน แต่เขาเกิดลังเลขึ้นมา เขารู้สึกสั่นไหวราวกับว่าสัมผัสได้ถึงอันตราย