Super God Gene ตอนที่ 3097 ของขวัญวันเกิด
หลังจากที่หานเซิ่นพูดชื่อร้านออกไป เฟิงเฟยเฟยก็คิดว่ามันฟังดูคุ้นๆ แต่เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เนื่องจากเธอนึกไม่ออกว่าเคยไปเห็นมันจากที่ไหน
ขณะที่ทุกคนกําลังพูดคุยและหัวเราะอย่างสนุกสนาน จู่ๆเงาของบิ๊กสกายเดม่อนก็ปรากฏขึ้นข้างๆหานเซิ่น เธออ้อมกอดเขาจากด้านหลังและกระซิบเข้ามาในหูของเขา
“ที่รักของข้า นักร้องที่งดงามคนนั้นถูกพลังของยืนเรซเข้า นางกําลังจะตาย เจ้าต้องการจะปล่อยให้นางตายอย่างนั้นหรอ?”
“นักร้องคนไหน?” หานเซิ่นกระซิบกลับไป เขาเหลือบมองเพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์ในกระเป๋าและสังเกตเห็นว่าถึงแม้เพียวไลท์ซาลาแมนเดอร์จะกําลังแสดงปฏิกิริยา แต่มันก็เป็นปฏิกิริยาที่มีต่อยืนเรซตัวอื่น มันไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของบิ๊กสกายเดม่อนได้
“แน่นอนว่าข้าหมายถึงเฟิงเฟยเฟย นางเป็นผู้หญิงที่สวยซะขนาดนั้น แม้แต่ข้าเองก็ยังชอบ หลังจากนี้นางมีเลือดไหลเต็มหน้า ผิวของนางจะลอกออกมาและนางจะสิ้นใจน่าเสียดายจริงๆ”
บิ๊กสกายเดม่อนกระซิบข้างๆหูของหานเซิ่นและใช้เสียงที่ยั่วยวนพูดเข้ามาในหูของเขาขา
หานเซิ่นมองไปที่เฟิงเฟยเฟย ถึงแม้เขาจะไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับยืนเรซมากนัก แต่เขาก็พอจะรู้เกี่ยวกับการสังเกตอาการของผู้คน เขาไม่แน่ใจว่าเฟิงเฟยเฟยนั้นถูกพลังของยืนเรซเข้าหรือไม่ แต่เขาพอจะบอกได้ว่าเฟิงเฟยเฟยดูไม่ปกติ ใบหน้าของเธอดูแดงกล่ําอย่างแปลกๆ คนอื่นๆจะคิดว่าที่แก้มของเธอออกสีแดงๆนั้นเป็นเพราะว่าเธอแต่งหน้า แต่หานเซิ่นเห็นร่องรอยของพลังที่ชั่วร้ายภายในสีแดงนั้น ยิ่งกว่านั้นมันยังมีรอยสีแดงภายในดวงตาดําของเฟิงเฟยเฟย ซึ่งถ้าไม่สังเกตดูดีๆมันก็ยากที่จะบอกได้ มันเป็นอะไรที่แปลกประหลาด มันเหมือนกับมีงูเลือดเลื้อยอยู่ในดวงตาของเธอ
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องที่จู่ๆเฟิงเฟยเฟยก็มีเลือดไหลออกมาจากจมูกก่อนหน้านี้ เขาก็คิดว่าสิ่ง ที่บิ๊กสกายเดม่อนบอกนั้นอาจจะเป็นความจริง
“ข้าจะสลายพลังยืนเรซที่อยู่บนตัวของเฟิงเฟยเฟยได้ยังไง?” หานเซิ่นกระซิบถาม
ถ้านี่เป็นแค่ปัญหาของเฟิงเฟยเฟย หานเซิ่นก็คงจะไม่สนใจอะไร แต่เฟิงเฟยเฟยเป็นน้า ของเฟิงหยินหยิน และพวกเธอก็ดูจะสนิทสนมกันมากๆ หานเซิ่นไม่อยากเห็นเฟิงหยินหยินเสียใจ ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่าเฟิงเฟยเฟยกําลังตกอยู่ในอันตราย เขาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้
“มันคือพลังของซื่อหมิงเดม่อนเรซ มันเป็นยืนเรชระดับเทพเจ้าที่หายาก แถมเจ้าของยังเลี้ยง ดูซื่อหมิงเดม่อนเรชตัวนี้จนถึงร่างสุดยอด ถ้าเจ้าสังเกตเห็นมันเร็วกว่านี้ เจ้าก็อาจจะกําจัดมันไปได้ แต่ตอนนี้วิญญาณของนางถูกมันกลืนกินจนเกือบจะหมดแล้ว มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสลายพลังของมันได้”
“ไม่มีทางช่วยนางเลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
บิ๊กสกายเดม่อนถอนหายใจและพูด “มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย ถ้าเจ้าชอบนางและไม่ต้องการให้นางตาย ข้าก็จะพยายามช่วยนาง แต่มันจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ข้าจําเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือของเจ้า”
“ข้าจะช่วยเจ้าได้ยังไง?” หานเซิ่นถาม
“มันง่ายมากๆ” บิ๊กสกายเดม่อนพูด “ข้าแค่ต้องใช้เลือดของเจ้าเพื่อวาดยันต์เลือดบนตัวของนาง หลังจากนั้นพลังของชื่อหมิงเดม่อนเรซก็จะถูกลบล้างไป”
หานเซิ่นยิ้มออกมา เขาไม่เชื่อสิ่งที่บิ๊กสกายเดม่อนกําลังบอก เขาคิดว่าบิ๊กสกายเดม่อนคงจะต้องการใช้ยันต์เลือดเพื่อจัดการเขาซะมากกว่า
“ที่รักของข้า ถ้าเจ้าไม่ช่วยนาง นางก็ต้องตายจริงๆ” บิ๊กสกายเดม่อนพูด “ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้าก็ลองมองดูที่หูของนาง”
หานเซิ่นมองไปที่หูของเฟิงเฟยเฟย เนื่องจากความจริงที่เขากําลังนั่งอยู่ข้างๆเฟิงเฟยเฟย มันทําให้เขามองเห็นว่าหูซ้ายของเฟิงเฟยเฟยแดงมากๆ มันเหมือนกับว่าเธอกําลังเมาเหล้า
มันเป็นสีแดงที่ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อหานเซิ่นมองดูดีๆ เขาก็เห็นว่าในหูของนางมีรอยเลือดที่แตกแขนงออกเหมือนกับใยแมงมุม
ซื่อหมิงเดม่อนเรซนั้นเป็นยีนเรซที่หายากเกินไป ขุนนางส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อของมันด้วยซ้ํา แถมตอนนี้มันยังอยู่ในงานวันเกิดอีก ไม่มีใครสังเกตว่าสิ่งที่กําลังเกิดขึ้นกับ เฟิงเฟยเฟยนั้นเป็นอะไรที่ผิดปกติ พวกเขาคิดว่าเธอแค่ดื่มหนักไปหน่อย
ถึงแม้หานเซิ่นจะรู้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติกับเฟิงเฟยเฟย แต่เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับยืนเรซมากนัก เขาไม่รู้ว่าจะลบล้างพลังของยีนเรซบนตัวของเฟิงเฟยเฟยได้ยังไง
เมื่อเห็นว่าหานเซิ่นไม่ลงมือทําอะไร บิ๊กสกายเดม่อนก็ถอนหายใจและพูด
“ที่รักของข้า เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ถ้าเจ้าไม่อยากเสียเลือดของตัวเอง มันก็มีวิธีอื่นอยู่อีกวิธีหนึ่ง เจ้ามียีนเรซบลัดโกสต์สปิริตอยู่ใช่ไหม พลังของบลัดโกสต์สปิริตนั่นพอจะสยบพลังของชื่อหมิงเดม่อนเรซได้ แต่มันก็แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เจ้ายังจําเป็นต้องใช้วิธีการพิเศษ”
“ข้าต้องทํายังไง?” หานเซิ่นกระซิบถาม
บิ๊กสกายเดม่อนบอกวิธีการกับหานเซิ่นทีละขั้นๆอย่างกระตือรือร้น เขาไม่รู้ว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่กันแน่
งานปาร์ตี้ดําเนินไปเรื่อยๆ เมื่อผ่านเวลาเที่ยงคืน แสงภายในงานก็วูบวาบเหมือนกับดอกไม้ไฟ ทุกคนร้องเพลงฉลองงานวันเกิดของเฟิงหยินหยิน
หลังจากที่ร้องเพลงเสร็จ เฟิงเฟยเฟยก็เอากล่องของขวัญที่เธอเตรียมเอาไว้มาวางลงตรงหน้าของเฟิงหยินหยินพร้อมกับพูดว่า
“เซี่ยวหยิน นี่คือของขวัญจากน้า ดูสิว่าเจ้าชอบมันไหม”
“ขอบคุณน้า” เฟิงหยินหยินเปิดกล่องของขวัญในทันที เธอทําแบบนี้ทุกๆปี ดังนั้นเธอเคยชินกับมันแล้ว
ในตอนที่เฟิงหยินหยินเปิดกล่องออก เธอเห็นไข่ยืนที่เรืองแสงเหมือนกับอัญมณีอยู่ภายใน แถมมันยังมีเสียงเพลงที่ไพเราะดังออกมาจากไข่
เฟิงหยินหยินรู้แค่ว่านี่คือไข่ยืน เธอไม่รู้ว่ามันเป็นไข่ยืนแบบไหน
เมื่อซิตูย่าเห็นไข่ยีนนั้น เธอก็รู้สึกอิจฉาอย่างมาก แต่เธอยังรักษาความสงบนิ่งเอา ไว้และพูดขึ้นว่า
“เซี่ยวหยิน น้าของเจ้าดีกับเจ้ามาก นี่เป็นไข่ยืนเรซธาตุเสียงที่โด่งดังมากๆ มันคือไข่ของออทัมน์ซิเคด้า ถึงแม้ออทัมน์ซิเคด้าจะเป็นยีนเรซระดับมาร์ควิส แต่มันก็เป็นยีนเรซที่หายากมากๆ สําหรับนักร้องแล้วออทัมน์ซิเคด้าจะมอบเสียงที่เย็นเหมือนกับฤดูใบไม้ร่วง ถึงเสียงอาจจะหยาบหน่อยๆ แต่เพลงที่เจ้าร้องจะจับใจมากๆ นักร้องมากมายต่างก็ต้องการออทัมน์ซิเคด้า”
ประโยคสุดท้ายที่ซิตูย่าพูดนั้นเป็นความจริง แม้แต่เธอเองก็ต้องการออทัมน์ซิเคด้าเช่นกัน แต่ออทัมน์ซิเคด้านั้นหายากเกินไป ถึงแม้มันจะเป็นแค่ระดับมาร์ควิส แต่สําหรับนักร้องแล้วมันสําคัญยิ่งกว่ายืนเรซระดับราชันซะอีก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นนักร้องคนไหน หลังจากที่พวกเขาได้มันไป พวกเขาก็จะถนุถนอนและไม่คิดจะขายมัน มันจึงเป็นบางสิ่งที่ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน
“ขอบคุณน้า หนูชอบมันมาก” เฟิงหยินหยินจับเฟิงเฟยเฟยที่คอและจูบนาง
“น้าดีใจที่เจ้าชอบมัน จริงๆแล้วออทัมน์ซิเคด้าเหมาะสมกับคนที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า น้ามีแผนที่จะมอบแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ให้กับเจ้า เนื่องจากมันเหมาะสมกับเจ้ามากกว่า แต่น่าเสียดาย
เฟิงเฟยเฟยหยุดพูด เมื่อพูดถึงแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ มันก็ทําให้เธอนึกไปถึงไข่ของแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ที่มีราคาสิบล้านขึ้นมา มันเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถซื้อได้
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆพวกเขาพูดขึ้นมา “แมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ไม่ใช่แค่หายาก แต่มันถือเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ มันหายากยิ่งกว่าออทัมน์ซิเคด้าซะอีก แค่เจ้าหาออทัมน์ซิเคด้ามาได้ก็ถือว่าดีมากๆแล้ว”
คนอื่นๆเองก็พูดบางสิ่งที่คล้ายคลึงกัน เฟิงหยินหยินก็พูดว่าเธอชอบออทัมน์ซิเคด้าที่เธอได้รับ
“ข้าสงสัยจริงๆว่าคุณหานจะมอบไข่ยื่นแบบไหนเป็นของขวัญ”
ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา “มันคงจะไม่ใช่แมลงแปดเสียงกลายพันธุ์หรอกใช่ไหม” เธอกําลังเล่นตลกกับเขา
เดิมที่ผู้หญิงคนนั้นจะได้มานั่งที่โต๊ะหลัก แต่เฟิงหยินหยินพาหานเซิ่นมานั่งข้างๆ ซึ่งทําให้เธอถูกถีบไปนั่งที่อื่น เธอรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เธอจะรู้สึกเกลียดชังหานเซิ่น เธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดเย้ยหยันและทําให้เขาดูแย่