ตอนที่ 3120 ผืนดินที่กระทบท้องฟ้า
“หลังจากที่พูดซะนาน เจ้ายังไม่บอกพวกเราเลยว่าจะขุดหาไข่ยืนได้ที่ไหน”
หานเซิ่นไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับรูปแบบไลท์อบิส และเขาไม่เคยได้ยินชื่อเทียนซานมาก่อน เขาแค่อยากรู้ว่าจะหาไข่ยีนได้จากที่ไหน
บอลด์กายยิ้ม “ไม่จําเป็นต้องรีบร้อน ถึงแม้รูปแบบของชีพจรพระเจ้านั้นจะคล้ายคลึงกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่ชีพจรพระเจ้าทั้งสองจะเหมือนกันไม่มีผิด ถึงแม้พวกมันจะคล้ายคลึงกัน แต่มันก็มีส่วนที่แตกต่างกันอยู่ ข้าจําเป็นต้องทําการคํานวณอย่างละเอียด พวกเราควรจะเข้าไปให้ลึกกว่านี้ ถ้าพวกเราไปถึงบริเวณที่อาจจะมีไข่ยืนอยู่ ข้าจะบอกได้ในทันที”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นหานเพิ่นก็เข้าใจว่าบอลด์กายไม่ได้เก่งอย่างที่เขาคุยโวเอาไว้ เขาหาตําแหน่งของไข่ยีนโดยดูจากชีพจรพระเจ้าไม่ได้ เขาหาไข่ยีนได้เฉพาะตอนที่พวกมันอยู่ในบริเวณใกล้ๆกับเขาเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดีกว่าหานเซิ่นที่ไม่รู้อะไรเลย ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงยอมฟังเขา
ก็อดวินด์ดราก้อนบินลึกเข้าไปในระบบโกลด์คริสตัล พวกเขาเดินทางผ่านดวงดาวมากมาย ในวันที่สี่จู่ๆดวงตาของบอลด์กายก็เปล่งประกายขึ้นมา เขามองไปที่ดาวดวงหนึ่งและพูดขึ้นว่า
“ดาวดวงนั้นมีไข่ยืนระดับสูงอยู่”
หานเซิ่นมองไปทางนั้นและเห็นดาวที่ดูไร้ชีวิตชีวาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหินและดิน บนผิวของดวงดาวนั้นมีหลุมขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนจะเกิดจากอุกกาบาตอยู่ในเวลานี้หินและดินบนดวงดาวนั้นระยิบระยับราวกับอัญมณี
หานเซิ่นเคยเห็นดาวแบบนี้หลายต่อหลายดวงในช่วงเวลาสี่วันที่ผ่านมา เขาบอกไม่ได้ว่าดาวดวงนี้พิเศษยังไง
บอลด์กายสั่งให้ก็อดวินด์ดราก้อนบินลงไปบนพื้นผิวของดวงดาวและมองไปรอบๆ ไม่นาน หลังจากนั้นเขาก็พูดด้วยความดีใจ “ไม่ผิดแน่ๆ ที่นี่จะต้องมีไข่ยีนอยู่”
ถึงแม้ชีพจรพระเจ้านี้จะน่ากลัวมากๆ แต่ในเมื่อมันเพิ่งจะปรากฏขึ้นมา ยีนเรซที่อยู่ภายในชีพจรพระเจ้ายังคงไม่ฝักตัว พวกเขาจึงไม่จําเป็นต้องกังวล
อันตรายที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาต้องเผชิญนั้นจะมาจากมนุษย์คนอื่นๆที่มาที่นี่เพื่อขุดหาไข่ยีนหรือไม่ก็ยีนเรซที่อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว ด้วยชีพจรพระเจ้าที่น่ากลัวแบบนี้ ถ้ามันมียีนเรซอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว พวกมันก็จะกินไข่ยีนที่เกิดขึ้นมาและวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว
แต่นี่เป็นดาวที่ไร้ซึ่งชีวิต พวกเขาไม่เห็นยีนเรซเลยสักตัวเดียว ดังนั้นไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องกังวล ส่วนอันตรายจากมนุษย์คนอื่น หานเซิ่นก็ยังไม่เห็นใครเลยสักคน
หลังจากที่พวกเขาลงไปบนดวงดาว พวกเขาก็เริ่มขุดตามบริเวณที่บอลด์กายทําเครื่องหมายเอาไว้ หลังจากที่ขุดลงไปได้สามฟุต พวกเขาก็พบไข่ยีนสีขาวที่มีขนาดเท่ากับลูกบาส มันดูเหมือนกับหยกขาว
บอลด์กายหยิบไข่ยีนขึ้นมาด้วยความดีใจ หลังจากที่ตรวจดูมัน เขาก็บอกไม่ได้ว่ามันเป็นไข่ยีนแบบไหน
“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าไข่ยีนนี้เป็นสายพันธุ์อะไร แต่เมื่อดูจากรูปลักษณ์และออร่าของมันแล้ว มันต้องไม่ใช่ยีนเรซระดับต่ําอย่างแน่นอน มันควรจะเป็นยีนเรซระดับมาร์ควิสเป็นอย่างน้อย พวกเราควรขุดกันต่อ ที่นี่ควรจะมีไข่ยืนมากกว่าหนึ่งใบ”
หลังจากที่พูดแบบนั้น บอลด์กายก็เริ่มทําการขุดต่อ
เป็นอย่างที่บอลด์กายพูดเอาไว้ พวกเขาพบไข่ยีนถึงสี่ใบ พวกมันดูเป็นไข่ยีนของยีนเรซชนิดเดียวกัน บอลด์กายแบ่งพวกมันออกเป็นสองส่วนเพื่อมอบให้กับหานเซิ่นและหลี่ปิงหยูคนละส่วน
พวกเขาทั้งสามอยู่บนดาวดวงนั้นต่อเพื่อตามหาชีพจรในผืนดินและขุดหาไข่ยีน ชีพจรพระเจ้าของระบบโกลด์คริสตัลนั้นมหัศจรรย์มาก แค่บนดาวดวงนี้ก็มีชีพจรในผืนดินและไข่ยืนอยู่เป็นจํานวนมาก แค่ครึ่งวันพวกเขาก็พบชีพจรในผืนดินถึงสี่จุด พวกเขาขุดไข่ยีนได้หลายสิบใบ น่าเสียดายที่พวกมันเป็นแค่ระดับมาร์ควิสและระดับดยุกเท่านั้น ถึงแม้ระดับของพวกมันจะไม่ได้ต่ําจนเกินไป แต่พวกมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรสําหรับหานเซิ่น
ในระหว่างนั้นมีมนุษย์หลายคนที่ยืนเรซของพวกเขาบินผ่านท้องฟ้าของดวงดาวที่หานเซิ่นอยู่ แต่เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นก็อดวินด์ดราก้อน พวกเขาส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไปทางอื่น
ก็อดวินด์ดราก้อนร่างสุดยอดนั้นเป็นอะไรที่ดูค่อนข้างน่ากลัว มันทําให้ความอวดดีของบอลด์กายนั้นเพิ่มสูงขึ้นอีก
หานเซิ่นและหลี่ปิงหยูติดตามบอลด์กายไปเรื่อยๆ พวกเขาขุดพบไข่ยีนเป็นจํานวนมาก บอลด์กายขี่ก็อดวินด์ดราก้อนเพื่อหาชีพจรในผืนดินไปเรื่อยๆ เมื่อหาพบ เขาก็จะมอบมันให้กับหานเซิ่น และหลี่ปิงหยูก่อนที่จะทําการค้นหาต่อ แต่หลี่ปิงหยูกําลังเย้ยหยันเขาอยู่ในใจ
“ไอ้หมอนี่พูดจาอวดดี แต่ที่ไหนได้ความรู้เกี่ยวกับชีพจรพระเจ้าของเขากลับพื้นๆ ชีพจรพระเจ้าของระบบโกลด์คริสตัลนี้เป็นรูปแบบเดียวกับไลท์อบิสก็จริง แต่ระบบโกลด์คริสตัลนั้นประกอบไปด้วยดาวเจ็ดดวง มันมีรูปแบบเซเว่นสตาร์ไฟท์ติ้ง ซึ่งเมื่อได้รับผลกระทบจากรูปแบบไลท์อบิสมันจะกลายเป็นรูปแบบโกสต์สตาร์ไลท์ เมื่อกลายเป็นรูปแบบนั้นมันก็จะเหลือสถานที่แค่เจ็ดที่เท่านั้นที่จะมีไข่ยีนระดับเทพเจ้าอยู่ ซึ่งดาวดวงนี้ไม่ใช่หนึ่งในเจ็ดสถานที่นั้น”
หลี่ปิงหยูค่อนข้างรอบรู้เกี่ยวกับชีพจรพระเจ้า ถึงแม้เธอจะไม่ได้เก่งเท่ามิสเตอร์เว่ย แต่เธอก็เก่งกว่าบอลด์กายที่รู้เพียงครึ่งหนึ่งของเธอ
“เราจะล่อหานเซิ่นไปที่หนึ่งในเจ็ดสถานที่นั้นได้ยังไงกัน?”
หลี่ปิงหยูคิด เหตุผลหลักที่เธอติดตามหานเซิ่นมานั้นไม่ใช่เพื่อขุดหาไข่ยีน เธออยากรู้ว่าจริงๆ แล้วหานเซิ่นแข็งแกร่งแค่ไหน ถึงแม้ทุกคนจะบอกว่าเขาเป็นคนที่ฆ่าสตีลซีนภายในวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส แต่มันก็เป็นแค่เรื่องที่เล่าต่อๆกันมาเท่านั้น ไม่มีใครที่ได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหานเซิ่น
บอลด์กายดูรีบร้อนขณะที่เขาขี่ก็อดวินด์ดราก้อนเข้ามาหานเซิ่น เขาตะโกนเรียกหานเซิ่นที่กําลังอยู่ระหว่างการขุดว่า “หานเซิ่น หยุดขุดก่อน! เจ้าควรมากับข้า! ข้าเพิ่งจะพบอะไรดีๆเข้า”
“ข้าเกือบจะขุดที่นี่เสร็จแล้ว” หานเซิ่นพูดขณะที่ทําการขุดต่อ “ข้าจะไปที่นั่นทีหลัง”
บอลด์กายกระโดดลงมาและดึงหานเซิ่นไปกับเขา เขาลากหานเพิ่นขึ้นมาจากหลุมและพูด “เจ้าจะยังขุดที่นี่ไปทําไมอีก? ข้าเพิ่งพบชีพจรในผืนดินที่ช็อคท้องฟ้า มันอาจจะเป็นไข่ยีนระดับเทพเจ้า เจ้าควรลืมชีพจรในผืนดินตรงนี้ไปก่อน พวกเราจะกลับมาในภายหลัง”
หลังจากนั้นบอลด์กายดึงหานเซิ่นขึ้นไปบนก็อดวินด์ดราก้อน เขาก็เรียกหลี่ปิงหยูให้มาด้วยกัน พวกเขาบินไปทางภูเขาลูกคลื่นที่มีทั้งจุดที่สูงและจุดที่ต่ํา
หลี่ปิงหยูคิด “มันจะมีไข่ยีนระดับเทพเจ้าอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงกัน”
ก็อดวินด์ดราก้อนบินไปที่ด้านบนของภูเขาหินเล็กๆ บอลด์กายมองไปที่ตําแหน่งของภูเขาหิน และพูด “ดูนั้น”
หานเซิ่นและหลี่ปิงหยูมองไปในทิศทางที่บอลด์กายชี้และเห็นภูเขาหินเล็กๆที่มีต้นไม้แก่อยู่บนใจกลางของมัน
ถึงแม้หานเซิ่นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชีพจรในผืนดิน แต่เขาก็รู้ว่าต้นไม้แก่นั้นจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ
ดาวที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ไร้ซึ่งชีวิต ดังนั้นมันไม่ใช่แค่ต้นไม้ แม้แต่แบคทีเรียก็อาศัยอยู่ที่นี่ไม่ได้ แบบนั้นแล้วต้นไม้แก่นี้จะเติบโตที่นี่ได้ยังไงกัน?
หานเซิ่นมองดูดีๆและสังเกตเห็นว่าบนต้นไม้แก่นั้นมีผลไม้อยู่เป็นจํานวนมาก กิ่งก้านของมันเบิกบานไปด้วยดอกสีชมพู มันดูเหมือนกับต้นลูกพลัม
ระบบโกลด์คริสตัลนั้นได้รับผลกระทบจากแสงสว่างของชีพจรพระเจ้า แต่ต้นไม้แก่นี่กลับไม่เรืองแสง
มันดูเหมือนกับต้นไม้ธรรมดาที่เต็มไปด้วยดอกและผล ถึงแม้มันจะดูธรรมดามากๆ แต่มันก็แปลกที่มีต้นไม้ธรรมดามาอยู่ที่นี่ได้
Related