ตอนที่ 5 จิตสํานึกที่มั่นคง
หลังจากตกตะลึงและสับสนกันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เดเร็คเริ่มควบคุมสติและทําความเข้าใจกับทุกสิ่งรอบๆตัว
สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาคือรูที่ชุดสูทอวกาศของเขา มันอยู่ระดับอก รอบๆรูมีรอยไหม้ และมีของเหลวสีม่วงติดอยู่ตามชุดสูทของเขาและตามศพที่นอนอยู่
ดูเหมือนของเหลวสีม่วงจะเป็นเลือดของมนุษย์ต่างดาว เดเร็คหันไปดูจุดที่เขาฟื้นขึ้นมา เขาสังเกตเห็นเลือดและชิ้นส่วนบางอย่างที่คาดว่าน่าจะเป็นอวัยวะภายในของร่างนี้กระจายอยู่ทั่ว
“แปลกมาก” เดเร็คคิด “ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าร่างนี้ควรตายไปแล้ว จนกระทั่งฉันได้ตื่นขึ้นมาในร่างนี้ และร่างกายที่เป็นปกติทุกอย่างบาดแผลที่หายสนิท เหลือเชื่อ! ดูเหมือนว่าชีวิตหลังความตายของทุกศาสนาจะเป็นแค่เรื่องหลอกลวง
เดเร็คเริ่มตรวจสอบร่างกายตัวเองต่อ เขามีแขน 4 ข้าง มีขา 2 ขา ทั้งแขนและขาต่างก็ยาวและลีบ ข้อต่อที่หัวเข่าสลับด้านเหมือนกับแมว มีนิ้วมือและนิ้วเท้าแค่ 3 นิ้ว
เดเร็คอยากรู้มากว่าใบหน้าของร่างนี้จะเป็นยังไง แต่รอบๆตัวเขากับไม่มีวัตถุที่สะท้อนแสง เขาลองใช้นิ้วมือลูบไปตามใบหน้า
เขาสัมผัสได้แต่รูปร่างหมวกของชุดสูท มันขัดขวางไม่ให้เขาสัมผัสกับใบหน้าของตัวเขาเอง ด้านบนของหมวกมีอะไรที่คล้ายกับคลีบฉลามด้วย
การทดลองพูดเป็นขั้นตอนต่อไป “เทส เทส เดเร็ค แมค คอย 1 2 3 4” เดเร็คยังพูดได้ และยังคงเป็นภาษาอังกฤษ นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้สืบทอดความทรงจําและสัญชาตญาณจากเจ้าของร่างคนก่อน
เดเร็คพยายามลุกขึ้น แต่จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายนี้ไม่เหมือนกันกับมนุษย์ สักพักเขาก็ยอมแพ้แล้วใช้วิธีคลานเหมือนเด็กทารก
เดเร็คคลานไปตรวจสอบศพที่อยู่รอบคาดเดาจากลักษณะของชุดสูท ดูเหมือนที่นี่จะเป็นที่สู่รบระหว่างเอเลี่ยน 2 กลุ่ม
กลุ่มหนึ่งใส่ชุดสูทอวกาศสีแดง อีกกลุ่มหนึ่งเป็นสีเทา ซึ่งร่างนี้ก็ใส่ชุดสูทสีเทา เขาดูไม่ออกว่าเป็นฝ่ายไหนเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด แต่ต่อให้รู้มันก็ช่วยอะไรเดเร็คในตอนนี้ไม่ได้อยู่ดี
เขาพยายามหาอุปกรณ์สื่อสารจากชุดสูท ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะโดนทิ้งไว้ที่นี่ และถ้าเจอศัตรูตอนนี้เขาคงถูกฆ่าตายอีกรอบแน่
และเขาก็ไม่เจออุปกรณ์อะไรเลย
“พึ่งได้ชีวิตใหม่ ใครมันจะยอมตายวะ? ตื่นขึ้นมาได้แค่วันเดียว กูยังไม่ได้เดินเลยด้วยซ้ํา”
เดเร็คปฏิเสธที่จะยอมแพ้ เขายืนขึ้นใช้ร่างกายพิงกับผนังแล้วมองสํารวจไปรอบๆ
ช่องทางเดินมีประตูมากมาย และเขาก็ไม่รู้ว่ามันจะพาเขาไปทางไหน
เดเร็คลองหาทางเปิดประตูที่แผงควบคุม เขาลองกดมันแบบสุ่มๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่า ร่างกายใหม่ของเขากําลังหิว!
“กูจะตายอีกแล้วหรอเนี่ย!? บนยานอวกาศห้อะไรก็ไม่รู้ เอเลี่ยนห้อะไรก็ไม่รู้ ศพที่กองเป็นภูเขานี่กินได้หรือป่าวว่ะ!? แล้วไอ้หมวกบ้านี้มันถอดยังไง?”
หลังจากปรับตัวเข้ากับจุดศูนย์ถ่วงใหม่ได้ เดเร็คเดินวนอยู่ในนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ความหิวและความหงุดหงิดกําลังจะทําให้เขานั้นเป็นโรคประสาท เขาลองใช้แขนขาพังประตู แต่มันไม่แม้แต่จะเกิดรอยสักพักเขาเริ่มเหนื่อยแล้วล้มตัวนอน หลับไป
เมื่อตื่นขึ้นมา สมองของเดเร็คก็ปลอดโปร่ง
“ฝันร้ายชัดๆ นี้กูมาถึงจุดที่อยากฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทําไงแล้วหรอเนี่ย” เดเร็คกระแทรกหมวกชุดสูทเข้ากับกําแพงเพื่อระบายความหงุดหงิด
“ตอนนี้สถานการณ์ที่แย่มาก ยานอวกาศแบบหนังไซไฟ ร่างกายของเอเลี่ยน ไหนจะชุดนักรบอวกาศของเอเลี่ยนอีก เทคโนโลยีนี้น่าจะสูงมาก แม้กระทั่งเปิดประตูกยังทําไม่ได้ ต่อให้ปุ่มที่แผงควบคุมมีตัวอักษรเขียนไว้ มันก็คงไม่มีประโยชน์อยู่ดี เพราะกูไม่รู้ภาษาเอเลี่ยนอยู่ดี”
ทุกชั่วโมงที่ผ่านไปความหิวก็ทวีคูณเพิ่มขึ้น และต่างจากร่างกายที่อ่อนแอลง เดเร็คเดินไปเปิดประตูทุกบานแล้วส่งเสียงกรีดร้องดังๆ เพื่อเรียกความสนใจจากด้านนอก
เดเร็คกําลังจะเป็นลมอีกครั้งเพราะความหิวและอ่อนเพลีย แต่ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออก
เขาตกใจมากแต่ก็ตั้งสติทันที่จะเกาะประตูไว้ไม่ให้ล้ม ด้านหลังประตูมีเอเลี่ยนหลายตัวยืนอยู่เป็นขบวนรูปสามเหลี่ยม พวกมันใส่ชุดสูทสีเทา
หนึ่งในนั้นถือกระบอกโลหะที่ดูไปคล้ายกับปืน เดเร็คไม่ได้พยายามเดินเข้าไป เขาโบกมือให้เห็นว่าเขาไม่ใช่ศัตรู
# “หัวหน้า! นั่นเซเร็ก! สัญญาณชีวิตของเขากลับมาทํางานอีกครั้ง ระบบไม่ได้ผิดพลาด เขายังไม่ตาย” # (# หมายถึง ประโยคที่เดเร็คฟังไม่รู้เรื่อง)
ขบวนรบแหวกออก เอเลี่ยนที่สูงและตัวใหญ่กว่าเดินออกมาจากกลางขบวน ขบวนทหารเอเลี่ยนพวกนี้ระวังตัวมาก พวกมันถือปืนระวังตลอดเวลา
“เจ้ากําลังทําอะไรอยู่บนพื้น ทหาร? และเจ้ารอดชีวิตจากการซุ่มโจมตีได้อย่างไร?” # หัวหน้าทีมเอเลี่ยนถามด้วยเสียงหยาบกระด้าง
“เพื่อน ฉันไม่รู้ว่านายกําลังพูดอะไร?”
# “เขาพูดอะไร? เมดิกซ์ เจ้าไปตรวจสอบบาดแผลของเขา” #
เอเลี่ยนในชุดสีม่วงเดินเข้าไปสแกนร่างกายของเดเร็ค # “รอยไหม้กับรูบนชุดเกราะของเขาชัดเจนว่าเป็นพวกโคเลเรี่ยน ข้าไม่รู้ว่าทําไมเขาถึงยังไม่ตาย อีกอย่างภาษาที่เขาใช้ไม่ใช่ภาษาในจักรวรรดิ”
“ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า” เอเลี่ยนตัวใหญ่พูดด้วยน้ําเสียงเหี้ยมเกรียม มันหยิบด้ามโลหะจากมือเอเลี่ยนตัวหนึ่งแล้วกดปุ่ม แสงพลังก่อตัวจากด้ามโลหะกลายเป็นใบมีด!
“ดูเหมือนกูจะได้ตายอีกรอบด้วยดาบเลเซอร์ โครตเท่ แค่ฟันครั้งเดียวกูก็คงกลายเป็นฝุ่น แต่อย่างน้อยๆมันก็น่าจะไม่ทันได้เจ็บ
ดาบเลเซอร์แทงทะลุหน้าอกของเดเร็ค เรารู้สึกผิดคาด ไม่มีเสียงไหม้อะไรสักนิด เอเลี่ยนสะบัดดาบตัดผ่านลําตัวเขา เลือดสีม่วงพุ่งทะลักเหมือนเปิดก็อก
ใบมีดนี้ไม่ใช่อาวุธเลเซอร์ แต่เป็นมีดที่สร้างด้วยเทคโนโลยีจากโลหะพิเศษน้ําหนักเบา
“ทหารฟังข้า! เซเร็กเป็นทหารที่ยอดเยี่ยม เราจะจดจํา เขาไว้ เราไม่อาจแบกรับความเสี่ยงได้ เจ้าชายเรคฮาร์ท ยัง อยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย พวกกบฏโคเลเรียนกระจายกําลัง ไปทั่ว เราต้องป้องการสายลับที่อาจแฝงตัวมา ปิดประตูนั้นซะ แล้วค้นหาที่ต่อไป”
เดเร็คกําลังจะตาย เขารู้สึกได้ถึงร่างกายที่กําลังร้อนเหมือน โดนไฟไหม้
ด้วยกลไกของร่างกาย มันกําลังดิ้นรนเพื่อหายใจ เดเร็ครู้สึกว่าลมหายใจเริ่มสั่นลงและหายใจยากขึ้นเรื่อยๆ อาการของเขามันเหมือนกับคนกําลังจะจมน้ําตายอยู่ในตอนนี้
ลําคอของเขายังคงพยายามไขว่คว้าหาอากาศเพื่อที่หายใจ แต่ตอนนี้เขาหายใจเข้าไม่ได้แล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ทรมาน เวลาสั้นๆแต่เหมือนนานแสนนาน
อีกครั้งที่เขาพบว่าตัวเองถูกล้อมรอบด้วยแสงสีขาว และถูกดึงให้ลอยขึ้น เหมือนกับครั้งก่อนหน้า ความรู้สึกหงุดหงิด ทรมานและความอึดอัดก่อนหน้านี้ก็หายไป เขาเพลิดเพลินกับความสงบสุขนั้นอีกครั้ง
ตั้งแต่เด็ก เดเร็คไม่เคยเชื่อในพระเจ้า ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเชื่อเรื่องนรกหรือสวรรค์
“มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัว” เขาคิด “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าใครเป็นคนดีหรือคนเลวที่แท้จริง คนที่เลวอาจเป็นเพียงคนที่โชคร้าย พวกเขาอาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเป็นอาชญากรรม
มีคนมากมายที่เหมือนกับเขา คนที่โดนกดดัน บีบคั้น จนชีวิตไม่มีทางให้เลือก คนพวกนี้ต้องลงนรกเพียงเพราะพวกเขาทําเพื่อต้องการมีชีวิตรอดงั้นหรอ?
ดังนั้น เขาจึงเชื่อเสมอว่าชีวิตหลังความตาย ไม่ว่าจะดีหรือร้าย จะรวยหรือจน ปลายทางของทุกสิ่งก็มีชีวิตเหมือนกันหมด
แต่ประสบการณ์จากการเกิดใหม่ทําให้เขาสับสน
ทําไมเขาถึงกลับมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่น? แล้วทําไมความทรงจําทั้งหมดถึงยังอยู่? แต่เขาถือว่ามันเป็นเรื่องดี
ไม่ว่าร่างกายของเขาจะกลายเป็นอะไร แต่อารมณ์ ความรู้สึก สติปัญญาและความทรงจําครั้งที่เขายังเป็นมนุษย์ยังคงอยู่กับเขา มันจะช่วยป้องกันไม่ให้เขาเรียนรู้อะไรที่ผิดแผกไปจากมโนธรรมของมนุษย์
ในโลกต่างๆอาจจะมีลักษณะทางชีวภาพไม่เหมือนกัน แต่จิตสํานึกของเขายังคงเดิม ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ เขาก็ไม่ต้องการที่จะเปลี่ยน
ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสูญเสียตัวตนเดิมไปตลอดกาล
ทันใดนั้น เขาถูกดึงลงมาม่านแสงสีขาว
สายตาเดเร็คยังไม่ชัดเจน แต่เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่รอบๆตัวเขา แต่อยู่ๆเขาก็รู้สึกอึดอัดที่ลําคอ
มือยักษ์กําลังอุ้มเขา ทันใดนั้นเขาก็อาเจียนของเหลวบางอย่างออกมา และร่างกายของเขาที่เปลือยเปล่า
“มันเกิดอะไรขึ้น” เขาคิด แต่พนันได้เลยว่ากูต้องเจอเรื่องซวยอีกแล้วแน่ๆ”
“เด็กออกมาแล้ว! ข้าทําเสร็จแล้ว! เด็กคนนี้ปลอดภัยแล้ว”
ในที่สุด เมื่อสายตาของเดเร็คสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง เขาก็พบว่ามือที่อุ่มเขาไม่ใช่มือยักษ์ แต่ร่างกายของเขาต่างหากที่เล็ก พูดง่ายๆคือ ตอนนี้เขาคือเด็กทารก
“กูละเกลียดตัวเองจริงๆ”