Supreme Magus – ตอนที่ 6 การเริ่มต้นใหม่

ตอนที่ 6 การเริ่มต้นใหม่

 

# “สําเร็จแล้ว! ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกแล้ว”# ( เผื่อลืม # หมายถึงประโยคที่เดเร็คฟังไม่รู้เรื่อง)

 

มือที่อุ้มเดเร็คไว้เป็นมือของหญิงชราแก่ๆคนหนึ่ง เธอพูดภาษาที่เขานั้นฟังไม่ออก เขาอยู่ในกระท่อมไม้ ผู้คนรอบตัวเป็นกลุ่มคนในที่ใส่ชุดเก่าๆ ลักษณะการแต่งการเหมือนอยู่ในยุคโรมัน

 

หลังจากหญิงชราที่ทําคลอดเขานั้นได้พูดขึ้น ผู้คนทั่วทั้งกระท่อมก็ตะโกนดีใจด้วยความปลื้มปีติและยินดี

 

เดเร็คนอนปวกเปียกอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา เขาพยายามมองซ้ายมองขวาเพื่อที่จะสํารวจโลกใบใหม่อีกครั้ง

 

“ผ่านไปด้วยดี เอาล่ะ เจ้าตัวยืนรออะไร? มาช่วยกันดูแลแม่เด็ก” หลังคลอด ผ้าปูเตียงที่เต็มไปด้วยเลือดและของเสีย

 

มีเสียงคนร้องไห้วิ่งเข้ามาในกระท่อม เขาน่าจะเป็นพ่อของเด็ก เดเร็คสงสัยว่าเขากลัวที่จะเสียลูกหรือภรรยากันแน่? และดูเหมือนว่าชีวิตใหม่ของเขานั้นมีทั้งพี่ชายและพี่สาวด้วย

 

มีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาในกระท่อม เธอพาเด็กชายและเด็กหญิงเข้ามาด้วย พวกเขาเดินตรงเข้ามาหาผู้หญิงที่ตอนอยู่บนเตียงทันที

 

ให้ตายเถอะ! ดูเหมือนว่าฉันจะมีทางเลือกแค่ 2 ทางเองสินะ ทางเลือกแรกคือใช้ชีวิตอยู่กับคนพวกนี้ที่นี้ ดูแล้วน่าจะเป็นหมู่บ้านที่ยากจนมากพอสมควร การใช้ชีวิตและ ความเป็นอยู่ค่อนข้างไปทางที่ยากลําบาก ต้องต่อสู้กับความแร้นแค้นอีก โตขึ้นมาก็ต้องทํางานกับพ่อและพี่ชาย แล้วก็แต่งงานสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง ทางเลือกที่สองเมื่อฉันโตพอที่จะมีแรงถือมีด แล้วพาตัวเองออกไปจากใบโลกนี้และหาสิ่งที่ดีกว่าในกับตัวเอง ฉันคิดว่าทางที่สองฟังดูดี”

 

ในขณะเดียวกัน ผู้คนที่อยู่ในห้องทั้งหมดก็ได้เงียบลง หญิงชราทําความสะอาดให้เด็กทารกเสร็จแล้วเธอก็ได้ทําการห่อตัวเขาไว้ในผ้าสะอาด ในระหว่างนี้เดเร็คไม่ได้ร้องไห้อย่างเด็กทารกปกติที่ควรจะเป็นเขาแค่นอนอยู่นิ่งๆ

 

# “นาน่า ลูกข้าลูกข้าไม่มีอะไรผิดปกติใช่มั้ย ทําไมเขาไม่ร้องไห้เลย” # แม่เด็กถามอย่างเป็นกังวล เธอไม่สนในแผลจากการคลอดและพยายามที่จะลุกขึ้นมาดูลูกของเธอ

 

# “จุ๊ๆ อยู่นิ่งๆแล้วนอนลงซะ ข้ายังต้องรักษาเจ้าอีก” เสียงหญิงชราที่ทําคลอดห้ามแม่เด็กไว้ # “ข้าเคยทําคลอดมาเยอะ เด็กที่ไม่ร้องหาได้ยาก แต่ไม่ได้ผิดปกติ เจ้าคงอยากรู้ว่าเด็กแข็งแรงแค่ไหน? งั้นเจ้าจงดู” #

 

หญิงชราเปิดห่อผ้าออก เธอตบก้นเด็กเบาๆเพื่อบังคับให้เด็กร้อง

 

“นี่ฉันต้องทําตัวให้เหมือนเด็กทารกใช่มั้ย?” เขาคิด “ก็ได้”

ทันในนั้น เด็กทารกก็ฉี่ใส่หญิงชรา!

 

การโจมตีแบบไม่ทันให้ตั้งตัวพุ่งใส่หญิงชรากระจายไปทั่ว ใบหน้าเธอ

 

เด็กทารกหัวเราะคิกคักเสียงดัง

 

# “ผิดคาดไปหน่อย แต่เจ้าคงเห็นแล้วว่าปีศาจน้อยนี้แข็งแรงดี ไม่ต้องกังวล” # หญิงชราส่งตัวเด็กทารกให้หญิงคนอื่นทําความสะอาดเขาอีกครั้ง

 

เดเร็คหัวเราะในใจกับผลงานของเขา หลังจากหญิงชราล้างหน้าและเช็ดด้วยผ้าแห้ง เธอขยับนิ้วซ้ายวาดเป็นวงกลมแปลกๆกลางอากาศ ลากผ่านจากซ้ายไปขวา แล้วเธอก็เปล่ง เสียง

 

“Ekidu!”

 

มีพลังงานสีดําปรากฏที่ปลายนิ้ว เธอชี้นิ้วซ้ายไปที่เสื้อเปียก เสื้อกลายเป็นแห้งและกลิ่นเหม็นหายไปทันที

 

เขาอ้าปากค้างด้วยความช็อค เดเร็คมองเห็นฉีของเขาแห้ง และระเหยขึ้นไปอย่างรวดเร็ว มันเหมือนกับการมองดูวีดีโอที่เร่งความเร็วหลายสิบเท่า

 

“เธอไม่ใช่แค่หมอทําคลอดแก่ๆ แต่เป็นคนที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วย นี่มันสุดยอด” เขามีความสุขมาก การตายถึงสองรอบมันช่างคุ้มค่า

 

โลกที่มีเวทมนตร์ทําให้เดเร็คตื่นเต้น หลังจากได้ยินคําพูดของหญิงชรา เขาก็รู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างถูกกระตุ้นในร่างกายเขา

 

ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างในตัวเริ่มหยั่งรากและฝังลึกลงไปในร่างใหม่

 

เดเร็คจําคําพูดที่ยินแล้วท่องอยู่ในใจ เขาพยายามนึกภาพที่หญิงชราใช้นิ้ววาดวงกลมกลางอากาศ

 

# “ตอนนี้ฉันสะอาดแล้ว ถึงเวลารักษาแผลของเธอ” # หญิงชราเข้ามาหาแม่เด็ก แล้ววางมือทั้งสองข้างบนบริเวณใต้สะดือลงมา

“เวทมนต์อย่างอื่นใช่ไหม? เอาเลย!” ดวงตาของเด็กทารกเป็นประกาย

 

หญิงชราเหยียดนิ้วออกแล้วเริ่มขยับแขนทั้งสองข้างเป็นวงกลม ยกแขนขึ้นไปเหนือหัวก่อนจะกางแขนแล้วซ้อนมือทั้งสองข้าง วางที่ตําแหน่งใต้สะดือแม่ของเด็ก

 

“Vinire Lakota!”

 

เดเร็คพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวของหญิงชราทุกขั้นตอน จดจําทุกรายละเอียดที่เขามองเห็น

 

แสงสีขาวห่อหุ้มร่างกายแม่ของเขา ผิวและรอยแผลของเธอฟื้นสภาพอย่างรวดเร็ว ผิวสีซีดกลับมาเป็นสีชมพูสุขภาพดี ร่องรอยความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าหายไปจากใบหน้า

 

เป็นอีกครั้ง เหมือนมีบางอย่างถูกกระตุ้นอยู่ภายใน หลังจากเวทมนตร์สีดําครั้งก่อน เดเร็คสามารถสัมผัสได้ถึงการเชื่อมต่อระหว่างเขากับเวทมนต์สีขาวได้ มันชัดเจนกว่า ครั้งแรกเขายิ้มไม่หุบ

 

“นี่ นี่ นี่มันหมายความว่าฉันสามารถเป็นจอมเวทย์ได้ ตอนนี้มีทางเลือกที่สามเพิ่มขึ้นมาแล้ว ฉันสามารถใช้ชีวิตแบบจอมเวทย์ได้ เป็นอิสระ ไม่มีข้อผูกมัด จะยิ่งดีมากถ้ามันฝึกไม่ยาก แต่ดูจากโชคที่ผ่านแล้ว พรสวรรค์ของฉันอาจจะแย่สุดๆหรือไม่ก็…

 

ความคิดของเขาถูกขัดจังหวะ หญิงชราอุ้มเดเร็คขึ้นมาแล้ว ส่งตัวเองให้กับแม่ของเขา

 

# “นาน่า เจ้าแน่ใจว่าเขาไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? เขาไม่ยอมร้องให้ แต่กลับหัวเราะคิกคัก แล้วอยู่ๆก็เงียบ ก่อนเจ้าจะอุ้มเขามา เขาก็ยิ้มเหม่อลอย ข้ากังวลว่าเขาจะมีอะไรผิดปกติ”#

 

หลังจากที่แม่ของเขาพูดแบบนั้น ทั่วทั้งห้องก็เงียบและดูกังวล เดเร็คเริ่มเดาได้ว่าทุกคนกังวลกับการแสดงออกของเขา เขาตื่นเต้นจนลืมตัวไปหน่อย ไม่มีเด็กทารกคนไหนเกิดมายิ้มหวานแล้วหัวเราะคิกคัก และไม่ร้องไห้สักคํา

 

นาน่ารู้สึกว่าฐานะหมอทําคลอดของเธอกําลังโดนดูถูก แต่ มันก็เป็นเรื่องปกติที่แม่ทุกคนจะเป็นห่วงลูกของตัวเอง

 

หญิงชรารู้จักเอเลน่าตั้งแต่เธอยังเด็ก และเป็นหมอที่ทําคลอดลูกทุกคนของเธอ นาน่าไม่ปฏิเสธว่าการทําคลอดครั้งนี้ถือว่ายากที่สุด

 

การทําคลอดกินเวลาหลายชั่วโมง เธอต้องใช้เวทมนตร์รักษาหลายครั้ง จนในที่สุดเมื่อเธอเห็นหัวของเด็ก เธอก็รู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี

เอเลน่ากําลังต่อสู้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด แต่ทารกกับนิ่งและไม่ขยับตัว หญิงชราจึงรีบใช้มือของเธอดึงทารกออกมาให้เร็วที่สุด เธอพบว่าเด็กทารกกําลังโดนสายสะดือรัดที่คอ

 

หลังจากตัดมันออก เธอพยายามกระตุ้นเด็กทารกด้วยเวทมนตร์รักษาของเธอ แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่ยอมขยับแม้แต่น้อย ตอนนั้นหญิงชราคิดว่าเด็กตายแล้ว

 

แต่ในที่สุด เวทมนตร์รักษาก็ทํางานของมัน เด็กทารกอาเจียนและขยับร่างกายได้เป็นปกติ นาน่าถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย

การรักษาด้วยเวทมนตร์นั้นไม่ใช่ปาฏิหาริย์ มันแค่เพิ่มพลังชีวิต ทําให้ฟื้นฟูจากความเจ็บปวยหรืออาการบาดเจ็บ แต่มันไม่สามารถสร้างชีวิตได้

 

หญิงชราไม่ได้บอกเอเลน่าเรื่องนี้ และเธอคิดว่าเอเลน่าคงไม่ได้อยากรู้

 

# “ไม่ต้องห่วง ยัยหนู ข้าจะพิสูจน์ให้ดูว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร”

 

หญิงชรายิ้มอบอุ่นให้กับเอเลน่า และอุ้มเดเร็คออกจากอ้อมแขนของเธอ

 

นาน่าอุ้มเดเร็คอย่างระมัดระวัง แล้วกอดเขากับตัวไว้ด้วยแขนซ้าย จากนั้นเธอก็หมุนมือขวาของเธอรอบตัวเขา

 

“Vinire Rad Tu!”

 

แสงสีขาวเล็กๆต่อตัวขึ้นบนฝ่ามือของเธอ มันลอยไปล้อมรอบเด็กทารกและซึมผ่านร่างกายไป

 

ก้อนแสงเล็กที่ซึมเข้าไป ทําให้ร่างกายของเดเร็คเรืองแสงสลัวๆ

 

# “เห็นมั้ย? ถ้าร่างกายส่วนไหนของเขาบาดเจ็บ แสงพวกนี้จะดับลง เขาไม่เป็นอะไร เขาสบายดี” #

 

พลังงานที่เดเร็คเข้าใจว่าเป็นเวทมนตร์ไหลวนอยู่ในตัวเขา มันทําให้เขารู้สึกเหมือนว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความมั่นใจ เดเร็คเคยรู้สึกแบบนี้ไม่กี่ครั้งที่โลกเก่า

 

เราได้รับปริญญา เขาได้รับมรดกและเป็นอิสระจากพ่อ เขาเอาชนะแก๊งอันธพาลได้ แต่ทุกครั้งเป็นแค่ความรู้สึกชั่วคราว มันแค่แป๊บเดียวเท่านั้น

 

แต่ตอนนี้มันแตกต่าง มันไม่ใช่อะดรีนาลีน แต่มันคือเวทมนตร์! พลังเหนือธรรมชาติกําลังไหลผ่านทุกส่วนของร่างกาย มันทําให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ยงคงกระพัน

เมื่อแสงเวทมนตร์กําลังจะหายไป เขาไม่เต็มใจมันมันจากไป

 

“เดี๋ยว! อย่างพึ่งไป! กลับมาก่อน!” เดเร็คกรีดร้องในใจ

 

เขายังอยากสัมผัสมันต่อ จิตสํานึกและร่างกายเรียกร้องให้เวทมนตร์ยังอยู่ เขาไม่สามารถร่าบทเวทย์ได้ แต่เขารู้สึกได้ว่าเขากับเวทมนตร์กําลังเชื่อมต่อกัน รู้สึกเหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของเขา

 

แสงที่กําลังจะดับลงกลับกลายเป็นส่องแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ

 

นาน่าตะลึง เธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน การทํางานของเวทมนตร์มันไม่ใช่แบบนี้

 

เดเร็คพยายามทําให้มันคงอยู่ตลอดไป แต่วินาทีต่อมาความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามา เขาเผลอผล็อยหลับไป แสงสว่างจางลงและดับไปอย่างรวดเร็ว

 

หญิงชรานําผ้ามาห่อเด็กทารกอีกครั้ง แล้วส่งเขาให้เอเลน่า

 

“นาน่า เมื่อกี้นี้คืออะไร?” เอเลน่าถามด้วยความสงสัย

 

หญิงชรากรอกตา เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ความเป็นไปได้มากมายผุดขึ้นในหัว แต่เธอไม่อยากให้เอเลน่าเป็นกังวล ไม่อย่างนั้นเธออาจจะต้องร่ายเวทย์ซ้ําอีกรอบ

 

วันนี้เป็นวันที่ยาวนานที่สุดของเธอ และเธอก็พยายามไม่ให้มันยืดยาวไปมากกว่านี้ หญิงชราจึงตัดสินใจหยิบเนื้อหาในนิทานของเด็กๆออกมาทันที

 

# “ข้าคิดว่าลูกของเจ้าน่าจะได้รับพรจากเทพแห่งแสง ไม่ต้องกังวลไป มันคือเรื่องดี”

Supreme Magus

Supreme Magus

Supreme Magus
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Supreme Magusไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีแค่ไหน แต่หากคุณได้รู้ถึงชีวิตของผม …. เดเร็ค แมคคอยนั้น คุณก็จะไม่มีทางมองโลกในแง่ดี หรือเป็นบวกได้แน่นอน พ่อของผมเป็นคนที่มีอารมณ์ค่อนข้างแปรปรวน หรือที่หลายคนเรียกกันว่าไบโพลาร์นั่นแหละ …. ในช่วงเวลาหนึ่งเขาสามารถจะหายเข้าไปอยู่ในห้องนอนของตัวเองได้เป็นเวลาหลายวัน โดยที่เขาก็จะออกจากห้องมาแค่ช่วงเวลาที่ต้องเข้าห้องน้ำ และกินข้าวเท่านั้น ขณะที่ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง …. เขาก็จะเป็นชายที่ดูเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวเสมอ นอกเหนือจากนี้แล้วมันก็ยังมีช่วงที่เขาอยู่ในอารมณ์สดใสและร่าเริงด้วย โดยในอารมณ์นี้นั้นเขาก็จะทำงานเหมือนกับคนบ้า แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะทำงานมากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆเลย เพราะเขามันไร้ความสามารถ ซึ่งเรื่องพวกนี้เองมันก็ได้ทำให้พ่อของผมกลายเป็นที่รังเกียจของชาวบ้าน และท้ายที่สุดแล้วด้วยสภาพทั้งหมดที่พ่อของผมต้องเผชิญนั้นมันก็ได้ทำให้เขาตัดสินใจใช้ยาเสพติด โดยผมเชื่อว่าเมื่อผมพูดมาถึงตรงนี้นั้น ผมก็สามารถจะจัดให้เขาเป็นหนึ่งในพ่อยอดแย่ได้โดยที่ไม่มีใครครหา ….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset