แสงที่ 72 เอลเดียตอกกลับ..!
หลังจากที่ผมปลีกตัวกลับมายังเต็นส์ของผู้บัญชาการ ผมก็มายืนเอามือไขว้หลังอยู่ที่ตรงใจกลางของห้อง โดยที่ทางด้านของลิลิธก็ดูเหมือนว่าจะทำใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจตามผมมา..
ซึ่งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาไอ้จ้อนก็เอาแต่งอแง มันยากจะอึ๊บจนใจขาด จนสุดท้ายผมก็รำคาญมันจนทนไม่ไหว และยอมบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงไป..
“ขะ..ขออนุญาติค่ะ..”เสียงของลิลิธที่เปิดม่านเดินเข้ามาภายในกระโจม น้ำเสียงของเธอฟังดูอ่อยๆและหวาดกลัว..
“อืม..”ผมที่หันหลังกลับ ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดอยู่ต่อหน้าของลิลิธ..
“ร้อยเอกลิลิธ รู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไรฉันถึงเรียกเธอมา..”ผมที่กล่าวกับลิลิธด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก..
“ฮึก..ขะ..ขอโทษคะ..!”ลิลิธที่ตะโกนออกมา เธอหลับตาลงด้วยความกลัว อีกทั้งที่รอบๆดวงตาของเธอยังปรากฏหยดน้ำตาที่กำลังคลออยู่..
“ฉันผิดเองที่สั่งยิงโดยที่ไม่ได้ดูให้มันดีๆก่อ..น..”
“ช่วยสำเร็จความใคร่ให้ฉันหน่อยสิ..”
“เย้..!!!!!”ไอ้จ้อนที่กู้ร้องออกมา
“อะ..เอ๊ะ..?”
ในขณะที่ลิลิธกำลังสำนึกผิด จู่ๆผมก็กล่าวแทรกเธอที่กำลังพูด ทำให้เธอพลันต้องหยุดชะงัก ก่อนจะเบิกดวงตากว้างขึ้น..
ฟุบ..!
“สะ..สะ..สำเร็จ คะ..ความใคร่..?!”ลิลิธที่ถอยกรูไปชนติดเข้ากับผนังกระโจม เธอกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นระรัวด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและกำลังตื่นตระหนกแบบสุดขีด..
“ใช่..เธอได้ยินไม่ผิดหรอก..”
แกร๊กๆ ๆ
ผมที่กล่าวยืนยัน พร้อมกับทำการปลดเข็มขัดกางเกงออก พอลิลิธเห็นแบบนั้นเธอก็ถึงกับหน้าถอดสี..
“ดะ..เดี๋ยวก่อนสิคะ นะ..นั่นคือบทลงโทษเหรอ มะ..มันไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ..?”ลิลิธที่ถามผม เธอกลอกกลิ้งดวงตาไปมาอย่างเลิ่กลั่ก..
“เปล่า..ไม่ได้ลงโทษอะไรหรอก ที่ฉันให้เธอทำก็เพื่อที่จะแก้เงื่อนไขของเอมพาสน่ะ..”ผมที่บอกกับลิลิธ..
“แก้เงื่อนเฉยๆก็บอก..~”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
“นะ..นั่นคือเงื่อนไขเอมพาสของท่านผู้บัญชาการเหรอคะ..? นะ..น่ากลัว ขะ..ขออนุญาติปฏิเสธได้ไหมคะ..?”ลิลิธที่กล่าวออกมาด้วยความลนลาน..
“ได้สิ..ฉันก็ไม่ได้บังคับอยู่แล้ว แต่ถ้าฉันตายก็ฝากจัดการที่เหลือต่อให้ด้วยนะ..”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะใส่เข็มขัดและเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมทั้งหยิบบุหรี่ของไอ้พวกโนโทเปียที่หยิบติดมือมาด้วยออกมาสูบแก้เซง..
“อย่าๆ ไหนๆก็ได้ร่างใหม่แล้ว เลิกเถอะ..แกรู้ไหมถ้าแกสูบมันจะทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงนะ รักจู๋ก็อย่าสูบเลย..”ไอ้จ้อนที่ห้ามและพยายามเกลี่ยกล่อมผม ซึ่งที่โลกก่อนนั้นผมเป็นคนที่สูบบุหรี่ค่อนข้างจัด แต่พอพักหลังๆเงินใกล้หมดก็เลยหักดิบไป..
‘แต่พอดีว่าจู๋ของฉันมันไม่ใช่จู๋ธรรมดา เพราะฉะนั้นขอสักม้วนแก้เซงเถอะ..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อน ก่อนจะคาบบุหรี่
“มะ..ไม่เอานะ ถ้าท่านตายฉันจะอธิบายเรื่องนี้ให้ท่านพลตรีเทรนฟังยังไง..”ลิลิธที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“นั่นมันก็เรื่องของเธออีกนั่นแหละ มีไฟแช็คไหม..?”ผมที่ตอบกลับโดยไม่ได้ใส่ใจอะไร พลางขยับนิ้วถามหาไฟแช็ค..
“ดะ..เดี๋ยวสิคะ ทำไมท่านถึงยังดูสบายใจได้อยู่ล่ะคะ ท่านไม่กลัวตายเหรอ..?”ลิลิธที่เอ่ยถามผม ก่อนจะหยิบไฟแช็คออกมาและเดินตรงเข้ามาใกล้..
“การที่ฉันบุกเดี่ยวเข้าไปกวาดล้างกองกำลังของข้าศึกด้วยตัวเพียงคนเดียว เธอคิดว่าฉันกลัวตายไหมล่ะ..?”ผมที่ตอบกลับลิลิธ เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เธอจะยื่นมือประคองไฟแช็คหมายจะจุดให้..
“ตะ..แต่ท่านกำลังจะตายนะค..ะ อึก..”ลิลิธที่กล่าวออกมา พร้อมกับจุดบุหรี่ให้สตาร์ แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ ผสานกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นอย่างอึ้งๆ อันเนื่องมาจากการที่ชายหนุ่มได้ทำการเสยผมขึ้น จนเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนเอาไว้ การที่เขาทำแบบนั้นเพราะกลัวว่าผมข้างหน้าของตัวเองจะถูกไฟเผาจนไหม้
“คนเรามันก็ต้องตายกันทุกคนนั่นแหละ แต่แค่ว่าจะตายเร็วตายช้าก็เท่านั้น ถ้าฉันตายก็มันก็คือตาย แต่ถ้าไม่ตายก็จะสร้างประโยชน์ให้แก่จักรวรรดิได้ต่อ..”ผมที่กล่าวออกมา พลางพ่นควันบุหรี่ แต่ทว่าลิลิธในตอนนี้กลับเงียบนิ่ง เธอกำลังจ้องมาที่หน้าของผมตาเขม็ง..
“เป็นอะไรไป..?”ผมที่ถามกับลิลิธ พอเธอได้ยินก็ส่ายหน้าไปมาเหมือนกับกำลังสลัดความฟุ้งซ่าน..
“ปะ..เปล่าคะ..ตะ..แต่ถ้าจะให้ทำเรื่องแบบนั้นกับผู้ชายที่ไม่ใช่คนที่รักแล้ว ฉะ..ฉันคิดว่ามัน..”ลิลิธที่กล่าวออกมาอย่างกระอึกกระอัก ใบหน้าของเธอกำลังขึ้นสีหน้าระเรื่อ..
“ก็แค่เงื่อนไขเอมพาส ฉันไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว ฉันก็บอกอยู่ว่าเธอจะทำหรือไม่ทำฉันก็ไม่ได้บังคับสักหน่อย แต่ถ้าเธออยากจะได้แรงจูงใจก็ให้..”ผมที่เอื้อมมือออกไปจับคางของลิลิธ ก่อนจะดึงให้เธอเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆและพูดต่อว่า “คิดซะว่าทำเพื่อจักรวรรดิก็ได้..”
“อะ..อึก..”ลิลิธที่เบนหน้าหนีเล็กน้อย สีหน้าของเธอกำลังแสดงออกถึงความลังเลใจ ก่อนที่สุดท้าย..
“ขะ..เข้าใจแล้วคะ ถ้าไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น ฉะ..ฉันก็จะยอม..”ลิลิธที่กล่าวคำที่ผมคุ้นเคยออกมา พร้อมกับค่อยๆทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า เธอเขยิบตัวเข้ามาอยู่ตรงระหว่างขาของผมที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดของผมออก..
“อ๊า~”ผมที่แหงนหน้าขึ้นไปข้างบน ก่อนจะยกบุหรี่ขึ้นมาสูบและปล่อยให้ลิลิธเป็นคนจัดการทุกอย่าง..
《ชาร์จพลัง X ฟอร์ส 200 หน่วย》
1 ชั่วโมงต่อมา..
หลังจากที่ลิลิธจัดการแก้เงื่อนไขของเอมพาสให้ผมเสร็จ พลัง X ฟอร์สก็ได้ถูกชาร์จขึ้นมาในระดับหนึ่ง บอกได้เลยว่าอย่างเด็ด..~
ซึ่งถึงแม้ลิลิธจะบอกว่าตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะมีความรู้ในเรื่องพวกนี้อยู่ไม่ใช่น้อย..
“มะ..ไม่นะ ถะ..ถุงน่องตัวโปรดของฉัน..”ลิลิธที่นั่งโอดครวญอยู่กับพื้น จากถุงน่องที่ถูกผมฉีกจนขาด..~
“เสียดายง่า ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วย ผ่าทันไหม ผ่าเลยเถอะ..!!~”เสียงของไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา
‘โถ่..พ่อนักซิง สิบล้อนะเฮ้ย..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อนที่กำลังถูกด้านมืดเข้าครอบงำ โดยที่ตอนแรกผมก็อดใจไม่ไหวและจะฟาดลิลิธ แต่ทว่าช่วงเวลากลับไม่เป็นใจ
“เอาล่ะ..ไปกันเถอะ..”ผมที่จัดแจงใส่เข็มขัดของตัวเอง พร้อมกับชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้มหน้าลงไปบอกกับลิลิธ..
“คะ..ค่ะ..”ลิลิธที่หันมาตอบกลับ ใบหน้าของเธอขึ้นสีแดงระเรื่ออยู่นิดหน่อย ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือลงไปใช้นิ้วโป้งปาดคราบเลอะที่ติดอยู่ตรงมุมปากของเธอ โดยที่เธอก็หลับตาทำสีหน้าเหมือนกับลูกแมวที่ถูกเกาคาง..
“เธอทำได้ดีมาก..”ผมที่จับแขนประคองร่างของลิลิธให้ชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปยังทางออกของกระโจม..
“ทะ..ท่านผู้บัญชาการคะ..”ลิลิธที่เรียกขานผม จึงทำให้ผมหันกลับไปมองเธอ..
“ว่าไง..?”
“ทะ..ท่านน่ะ หล่อมากๆเลยนะคะ มะ..มันดูน่าเสียดายที่ท่านเอาผมมาปิดหน้าเอาไว้..”ลิลิธที่บอกกับผม..
“หึ..งั้นเหรอ..? แต่ฉันชอบแบบนี้มากกว่า พยัคฆ์น่ะ..มันไม่เผยแววตาให้ศัตรูเห็นหรอกนะ..”ผมที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินนำออกจากกระโจมไป..
ท่ามกลางร่างของลิลิธที่ยืนอยู่ หญิงสาวค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นมาผสานกุมที่หน้าอกของตัวเอง หัวใจของเธอกำลังเต้นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ..
“ทะ..เท่จัง ดะ..ดูเหมือนจะตกหลุมรักท่านผู้บัญชาการเข้าแล้วสิเรา..”ลิลิธที่กล่าวออกมา เธอยกฝ่ามือขึ้นมาปิดหน้าของตัวเองด้วยความเขินอาย ก่อนที่สุดท้ายแล้วเธอจะส่ายหัวเพื่อสลัดความคิดฟุ้งซ่านและเดินตามสตาร์ออกไป..
หลังจากนั้นไม่นานนัก..
ทันทีที่ผมชาร์จพลัง X ฟอร์สจนเสร็จ ผมก็ได้มุ่งหน้ามายังรั้วของฐานที่มั่นทางทิศตะวันตก ทันทีที่มาถึงก็พบเข้ากับพวกทหารที่กำลังยืนเข้าแถวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ แบ่งเป็นกองร้อยของทารอนทางปีกขวาและกองกำลังของคีทารีสทางปีกซ้าย
โดยลักษณะการเข้าแถวจะแบ่งออกเป็นแถวตอนเรียงสิบ หนึ่งแถวหรือหนึ่งหมู่จะมีทหารอยู่ด้วยกันถึง 10 คน..
“ทำความเคารพท่านผู้บัญชาการ..”ยูริสกับเรนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดของแถวพลันตะโกนออกคำสั่งกับเหล่าทหารภายใต้สังกัดของตัวเอง ทันทีที่เห็นว่าผมกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับลิลิธ
พรึ้บ..!
เหล่าทหารที่ยกฝ่ามือขึ้นมาทำวันทยาหัตถ์ แต่ละนายต่างจ้องมองมาที่ผมด้วยความยำเกรงและเคารพ ในตอนนี้ทหารทุกๆนายของฐานที่มั่นจุดที่ 56 คงจะรู้ถึงวีรกรรมที่ผมได้สร้างเอาไว้แล้ว..
“เอาล่ะ..ต่อไปฉันจะบอกรายละเอียดคร่าวๆ พวกเราจะเคลื่อนพลเข้าจู่โจมกองกำลังหน่วยที่ 1 และ 3 ของศัตรูที่ตอนนี้กำลังถูกแช่แข็งอยู่..”ผมที่เดินเข้ามาหยุดพร้อมกับลิลิธ ก่อนจะเปิดประเด็นบอกกับทหาร..
ซึ่งพอทุกๆคนได้ยินแบบนั้นก็ต่างพากันงุนงง แต่ละคนต่างหันหน้ามามองกันไปมา..
“อะ..เออคือ ขออนุญาติเรียนถาม..ที่บอกว่าศัตรูถูกแช่แข็งมันหมายความว่ายังไงเหรอครับ..?”ยูริสที่เอ่ยถามผมด้วยความนอบน้อม ดูเหมือนว่าทุกๆคนจะไม่รู้ความหมายของคำว่าแช่แข็ง..
“เฮ้อ..”
“อึก..ขออภัยครับ..!”ยูริสที่รีบขอโทษในทันที เมื่อเห็นว่าผมถอนหายใจออกมา..
“ศัตรูถูกแช่แข็งที่ว่าก็คือการที่พวกมันจะหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น ส่วนเหตุผลที่ทำไมพวกมันถึงต้องหยุดนิ่ง นั่นก็เพราะว่ากองกำลังทั้งสองกลุ่มต่างรอคำสั่งของผู้บัญชาการสูงสุด ซึ่งถ้ายังไม่มีคำสั่งพวกมันก็จะไม่ขยับไปไหน หรือก็คือถูกแช่แข็งอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ โดยไอ้ผู้บัญชาการสูงสุดที่ว่านั่นก็คือไอ้เจ้ามนุษย์หมาป่าตัวสีดำนั่น..”ผมที่อธิบายออกมา พอยูริสและเหล่าทหารได้ยินก็ต่างพยักหน้า แต่ก็มีอยู่บางส่วนที่กำลังแตกตื่น..
“มนุษย์หมาป่า ไอ้เจ้าพวกโนโทเปียมันคิดค้นอาวุธอันตรายขนาดนั้นได้ยังไงกัน..?”
“นั่นสิ..”
“พวกเราจะต้องไปสู้กับสัตว์ประหลาดแบบนั้นเนี่ยนะ..”
เสียงของเหล่าทหารที่ต่างพากันกล่าวออกมา ส่วนใหญ่ดูจะหวาดกลัวอาวุธทดลองของไอ้พวกโนโทเปีย..
“เงียบ..ครั้งที่ 1..”ผมที่กล่าวออกมา เมื่อเหล่าทหารได้ยินก็ต่างพากันหยุดชะงัก..
“ถ้าถึงครั้งที่ 3 เมื่อไหร่ ฉันจะให้ไอ้พวกที่พูดแก้ผ้าออกไปทำภารกิจ..”ผมที่กล่าวข่มขู่ออกมา ส่งผลทำให้ยูริส เรน ลิลิธรวมไปถึงเหล่าทหารต่างพากันหน้าซีดเสีย ก่อนจะพากันปิดปากเงียบสนิท
“สถานการณ์ในตอนนี้ทหารทุกๆนายคงจะรู้ถึงการมีอยู่ของอาวุธลับที่ไอ้พวกโนโปเปียมันคิดค้นขึ้นแล้วสินะ แต่พวกแกทุกๆคนอย่าได้กลัวไปเลย มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก..”ผมที่กล่าวออกมาและพยายามจะพูดปลุกใจเหล่าทหาร..
“พวกเราจะรับมือกับมันได้จริงๆเหรอครับ..?”ยูริสที่ถามผม..
“ทุกอย่างล้วนแล้วแต่รับมือได้ เอาไว้เดี๋ยวฉันกลับมาจะบอกกลยุทธ์ในการเอาชนะไอ้พวกมนุษย์หมาป่าอะไรนั่นให้ละกัน..”ผมที่บอกกับยูริส พออีกฝ่ายได้ยินก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ..
“ทะ..ท่านคะ ฉะ..ฉันก็อยากจะเรียนรู้กลยุทธ์นั้นเหมือนกัน..”ลิลิธที่เอ่ยขึ้น..
“ไม่ต้องห่วง..ไม่ใช่แค่เธอหรือยูริส แต่ฉันจะสอนทุกๆคนนั่นแหละ อืม..? งั้นอธิบายวิธีให้ฟังคร่าวๆก่อนก็ได้..”ผมที่กล่าวออกมา ส่งผลทำให้ยูริสกับลิลิธต่างพากันตั้งใจฟัง รวมไปถึงเรนและเหล่าทหารทุกๆนาย..
“วิธีก็ง่ายๆแค่หาตาข่ายมาจับมัน กลยุทธ์นี้ใช้แค่ทหารจำนวน 10 นาย ก็เพียงพอแล้ว นอกเหนือจากนี้ยังมีกับดักอีกมากมายที่สามารถใช้จับพวกมันได้ ถึงพวกมันจะเร็วหรือมีพละกำลังมากแค่ไหน แต่ถ้าถูกสกัดการเคลื่อนไหวมันก็ไม่ต่างอะไรกับหมาป่าธรรมดาๆนั่นแหละ..”ผมที่กล่าวออกมา เมื่อทุกๆคนได้ยินแบบนั้นก็ต่างพากันแสดงสีหน้าอึ้งๆ ส่วนยูริสกับลิลิธก็หยิบสมุดพกกับดินสอออกมาจดรายละเอียด..
“แต่ถึงอย่างนั้นการจะจับมันจำเป็นที่ต้องมีกลยุทธ์ ไม่ใช่วิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าออกไปโยนตาข่ายก็จะสามารถจับได้ โดยที่กลยุทธ์ฉันเองก็พอจะมีอยู่ แต่จะดึงศักยภาพออกมาได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของพวกแกแล้ว..”ผมที่บอกกับยูริสและลิลิธ พอคนทั้งสองได้ยินก็แสดงสีหน้าจริงจัง..
“ผมจะเรียนรู้ให้มากกว่านี้ครับ..”ยูริสที่กล่าวออกมา..
“ฉันเองก็ด้วย..”ลิลิธที่กล่าวเสริม คนทั้งสองดูจริงจังเป็นอย่างมาก..
“เอาเถอะ..กลับมาที่เรื่องภารกิจของเรา นับต่อจากนี้ฉันจะพากองกำลังของพวกเราบุกจู่โจมกองกำลังของโนโทเปียที่เหลืออยู่ ไอ้พวกมนุษย์หมาป่านั่นตอนนี้กำลังอ่อนแอ พวกเราจำเป็นที่จะต้องจู่โจมมันให้เร็วที่สุด ส่วนกลยุทธ์ที่ใช้ตอนนี้ไม่สำคัญ ไม่ว่าเราจะบุกจู่โจมแบบไหน ยังไงพวกมันก็ไม่สามารถที่จะรับมือเราได้ทันอย่างแน่นอน..”ผมที่กล่าวออกมา ซึ่งมันก็ดูเหมือนะจะทำให้พวกทหารดูมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังแอบมีหวาดหวั่นอยู่ให้เห็น..
“และภารกิจนี้ฉันจะเป็นผู้นำในการบุกจู่โจมด้วยตัวเอง ส่วนร้อยเอกลิลิธกับยูริส พวกแกสองคนมีหน้าที่คอยสั่งการและควบคุมไม่ให้กองกำลังของเราเสียรูปขบวน..”ผมที่กล่าวออกมา และจากคำพูดนี้มันก็ทำให้ทหารต่างพากันฉีกรอยยิ้มออกมา เมื่อรู้ว่าผมจะเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วย..
“ทะ..ท่านครับ ท่านคิดที่จะเข้าไปจู่โจมกับพวกทหารอย่างงั้นเหรอ..? ภารกิจก่อนหน้านี้ท่านก็จัดการทุกอย่างด้วยตัวเพียงคนเดียว ผมกลัวว่าท่านจะอ่อนล้า..”ยูริสที่กล่าวกับผมด้วยความเป็นห่วง..
“ฉันเองก็เห็นด้วย ฉันว่าให้พวกทหารจัดการเถอะค่ะ ส่วนฉันก็จะเข้าไปจู่โจมด้วยเช่นกัน..”เรนที่เงียบฟังมานานเสนอขึ้น ส่วนลิลิธก็พยักหน้ารัวๆ..
“ห่วงตัวของพวกแกเองเถอะ..ฉันตายน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ฉันกลัวว่าพวกแกจะตายมากกว่า..”ผมที่กล่าวออกมา..
“อึก..”
ท่ามกลางร่างของทุกๆคนที่ยืนอยู่ ทันทีที่สิ้นคำพูดของผม สายตาที่จ้องมองมามันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย จากที่เคารพอยู่แล้ว มันก็ยิ่งทำให้ทุกๆคนเคารพและเทิดทูลผมยิ่งขึ้นไปอีก..
“เอาล่ะ..เสียเวลาคุยกันมามากพอแล้ว..”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะเปล่งเสียงตะโกนขึ้น “ทหารทุกนายจงฟัง..!!”
พรึ้บ..!!
เหล่าทหารที่ต่างพากันยืดตัวยืนตรงด้วยความเข้มแข็ง ทุกๆคนต่างจ้องมองมาที่ผม..
“ถึงเวลาที่พวกเราจะได้ตอกกลับไอ้พวกขยะโนโทเปียแล้ว ไปสั่งสอนให้พวกมันได้รู้กัน ถึงความน่ากลัวของเอลเดีย..!”
“เฮ..!!!!!!!!!”เหล่าทหารที่ต่างพากันส่งเสียงเฮออกมา ก่อนที่สุดท้ายแล้วผมจะนำกองกำลังจำนวนสองกองร้อยเดินทางเข้าสู่ป่าเซลฟอสมุ่งหน้าสู่กองกำลังหน่วยที่ 3 ของข้าศึก..
1 ชั่วโมงต่อมา..
400 เมตร ห่างจากฐานที่มั่นจุดที่ 56
ท่ามกลางพื้นป่าที่รกชื้น ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือกองกำลังของเอลเดียที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ภายในป่า โดยที่ทหารจำนวนสองร้อยนายในตอนนี้กำลังหมอบคลานกันอยู่กับพื้นดิน..
“พวกมันอยู่นั่น..”ผมที่กล่าวออกมา สายตากำลังจับจ้องมองไปยังเหล่าทหารของโนโทเปียที่ปรากฏอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร..
ซึ่งจุดที่ผมพากองกำลังเคลื่อนตัวมาหยุดคือจุดอับสายตา ประกอบกับกลยุทธ์การเคลื่อนทัพที่ผมใช้ จึงทำให้ศัตรูไม่สามารถสังเกตเห็นพวกเราได้ ยกเว้นแต่จะมีใครเอะอะทำให้พวกมันรู้ตัว..
“บุกจู่โจมเลยไหมครับ..?”ยูริสที่หมอบอยู่ข้างๆพลันเอ่ยถามผม..
“ยังก่อน..”ผมที่ตอบกลับ..
“อึก..”เสียงกลืนน้ำลายของลิลิธที่ดังขึ้น เธอกำลังหมอบอยู่ข้างๆผม สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกดดัน จากการที่เธอต้องมาอยู่ที่ทางด้านหน้าสุดของขบวน..
ซึ่งตามปกติแล้วผู้บัญชาการอย่างลิลิธและยูริสจะไม่มาลงพื้นที่ด้วยตัวเอง ยกเว้นแต่ในกรณีที่ไม่มีผบ.ร้อย เหมือนในตอนนี้
“ฉันจะเข้าไปก่อน ถ้าเกิดได้ยินเสียงสัญญาณของฉันก็สั่งให้ทหารเข้าจู่โจมได้เลย..”ผมที่หันไปกระซิบบอกกับยูริส ซึ่งเขาก็แสดงสีหน้าอึ้งๆ เมื่อเห็นว่าผมจะบุกเข้าไปคนเดียว..
“เข้าใจไหม..?”ผมที่ขมวดคิ้วถามย้ำต่อยูริส..
“คะ..ครับ..”ยูริสที่ตอบกลับ โดยที่ผมก็พยักหน้าให้เขาเบาๆ ก่อนจะลุกออกไป..
ฟุบ..!
“นั่งลง..”
แต่แล้วเมื่อพวกทหารเห็นว่าผมลุก ทุกๆคนก็ทำท่าจะลุกตาม แต่ก็ต้องถูกยูริสที่สะบัดมือสั่งให้หมอบลง จึงทำให้ทุกๆคนทรุดตัวกลับลงไปหมอบ
ก่อนที่หลังจากนั้นผมจะแอบเคลื่อนตัวลอบเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างหลังต้นไม้ต้นหนึ่งที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆกับกองกำลังของศัตรู
ซึ่งทันทีที่มาถึงผมก็ได้ทำการตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันยังคงเหมือนเดิม กองกำลังของไอ้พวกโนโทเปียกำลังหยุดนิ่งอยู่กับที่ กองกำลังนี้ไม่ได้แตกต่างจากกองกำลังที่ผมพึ่งกวาดล้างไปเลยสักนิด
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีจุดที่ดูแตกต่างอยู่ ดูเหมือนว่ากองกำลังนี้จะเปิดช่องว่างให้เห็นอยู่มากมาย จากการที่ทหารส่วนใหญ่ต่างพากันยืนเหม่อลอย ส่วนผู้บัญชาการกองกำลังก็เอาแต่นั่งแคะขี้เล็บอยู่บนแผ่นหลังของม้า..
“แบบนี้ก็อร่อยดิ..หึ”ผมที่กระตุกรอยยิ้ม พร้อมกับทำการเปิดวงจรนำ X เซเบอร์ออกมา ก่อนที่ต่อจากนั้น..
ฟุบ..!!!!!
ผมที่เคลื่อนตัวออกมาจากหลังต้นไม้ ก่อนจะกระโจนตัววิ่งเข้าไปจู่โจมกองกำลังของโนโทเปียจากทางด้านข้าง ตรงเข้าไปหาผู้บัญชาการที่กำลังนั่งอยู่บนหลังม้า
โดยจุดที่ผมวิ่งตรงเข้าไปมันเปิดโล่งเป็นเส้นทาง ส่วนพวกทหารจะยืนกันอยู่ทางซ้ายมือและขวามือของผม ซึ่งทหารพวกนั้นคือกองกำลังปีกหน้าส่วนขวาและปีกหลังส่วนขวา..
อีกทั้งระยะห่างจากต้นไม้ที่ผมวิ่งออกมาไปจนถึงตัวของผู้บัญชาการของโนโทเปีย มันห่างกันเพียงแค่ 5 เมตรเท่านั้น หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆวิ่งแค่ 10 ก้าวก็เข้ามาประชิดถึงตัวของมันแล้ว
“หืม..?”ผู้บัญชาการของโนโทเปียที่หันหน้ามามอง รวมไปถึงพวกทหารบางส่วน
“เฮ้ย..!!!!”ผู้บัญชาการของโนโทเปียที่ดูเหมือนจะตั้งสติได้พลันตะโกนออกมา แต่กว่ามันจะรู้ตัวผมก็เข้ามาประชิดถึงตัวของมันแล้ว..
หวิ่ง..!!!!
ฉ่า..!!!!!!
ผมที่ดีดตัวกระโดดขึ้นไปหาผู้บัญชาการของโนโทเปียที่กำลังนั่งอยู่บนหลังม้า ก่อนจะทำการกดสวิตซ์เหวี่ยงดาบฟันหัวของมันจนขาดสะบั้นต่อหน้าต่อตาของพวกทหาร..
“เฮือก..!!!”เหล่าทหารจากโนโทเปียที่สตั๊นไปเสี้ยววิ ก่อนที่พวกมันจะ..
ตุบ..!
“ไอ้สวะเอลเดีย..!!!!!!”
หัวของผู้บัญชาการกองกำลังหน่วยที่สามที่ตกกระทบลงสู่พื้น พร้อมกับเสียงตะโกนแหกปากของไอ้พวกโนโทเปีย ก่อนที่พวกมันจะทำการเปิดวงจรเวท..
ฟุบ..!
หวิ่งๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ฉ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อ้ากกกกกกกก..!!”
ผมที่ดีดตัวกระโดดเข้าไปในดงของไอ้พวกโนโทเปีย ก่อนจะทำการตวัดเหวี่ยงดาบแสงในมือฟันตัดแยกร่างของพวกมันจนขาดสะบั้น แขนและขารวมไปถึงลำตัวของพวกมันต่างกระเด็นขาดกระจุยกระจายไปกันคนละทิศคนละทาง..
เฟี้ยว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ตู้มๆ ๆ ๆ ๆ
“อ้ากกกกกกกก..!!”
ท่ามกลางกองกำลังของเอลเดียที่กำลังแอบซุ้มมองอยู่ ทุกๆคนต่างพากันกลืนน้ำลาย ในขณะที่กำลังจ้องมองไปยังการปะทะที่เกิดขึ้นอยู่ทางเบื้องหน้า..
ภาพที่ทหารทุกๆนายจากเอลเดียได้เห็น นั่นก็คือแสงจากกระสุนแรงดันเวท ผสานกับเสียงระเบิดและเสียงกรีดร้องของข้าศึกที่ดังระงม..
ซึ่งจุดที่ทุกๆคนหมอบคลานอยู่มันไม่สามารถที่จะมองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ชัดนักจากต้นไม้กว่าหลายต้นที่บดบังทัศนวิสัย
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอยู่บางจังหวะของการปะทะที่ทหารทุกๆนายได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งภาพๆนั้นก็คือภาพของสตาร์ที่กำลังเอาดาบแสงวิ่งไล่ฟันทหารโนโทเปียจนตัวขาดครึ่ง..
“อึก..!”ยูริส ลิลิธและเรนที่ต่างพากันกลืนน้ำลาย การปะทะเกิดขึ้นเป็นเวลากว่า 30 วินาทีแล้ว แต่สตาร์ก็ยังไม่ให้สัญญาณจู่โจม..
“โจมตีได้..!!!”เสียงของสตาร์ที่ตะโกนให้สัญญาณ เมื่อยูริสกับลิลิธได้ยินแบบนั้นก็ลุกพรวดขึ้น ก่อนจะแผดเสียงตะโกนออกคำสั่ง ทำให้เรนและเหล่าทหารชันตัวลุกขึ้นตาม..
“โจมตี..!!!!!!!”
พรึ้บ..!!!!!
“เฮ..!!!!!!!!”
สิ้นเสียงตะโกนออกคำสั่งของผู้บัญชาการทั้งสองที่ชันตัวลุกขึ้นยืน ร่างของเรนก็ได้นำพากองกำลังทหารบุกเข้าจู่โจมกองกำลังของโนโทเปีย..
“เปิดวงจร..!!!!”เรนและเหล่าทหารที่กำลังวิ่งพลันทำการเปิดวงจรเวท ก่อนที่เธอจะล้วงมือเข้าไปในช่องว่างตรงกลางหน้าอก เพื่อที่จะนำเอมพาสออกมา..
ฟุบๆ ๆ
“เฮ..!!!!!!”
กึก..!!!
ในขณะที่เรนกับกองกำลังทหารกำลังเคลื่อนตัวใกล้ที่จะเข้าถึงจุดปะทะ จู่ๆทุกๆคนกลับต้องหยุดชะงักฝีเท้า พร้อมกับดวงตาที่เบิกถล่น จากภาพที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้า..
“อึก..!”เสียงเฮที่ดังมาตลอดทางด้วยความฮึกเหิม พลันต้องจางหายไปในทันที
ภาพที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าของเรนและทหารทุกๆนายในตอนนี้นั่นก็คือร่างของสตาร์ที่กำลังยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางซากศพของทหารจากโนโทเปียที่นอนตายกระจัดกระจายกันอยู่ทั่วบริเวณ
“เฮือก..!”ลิลิธกับยูริสที่เดินเข้ามาพลันต้องถึงกับหน้าถอดสี ตอนแรกคนทั้งสองสังเกตเห็นความผิดปกติจากการที่ทหารทั้งกองร้อยต่างพากันหยุดนิ่ง เขาและเธอจึงตัดสินใจที่จะฝ่าวงล้อมเข้ามาดู จนได้พบเข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น..
“ทำไมถึงมาช้ากันจังฟะ…!!!”สตาร์ที่หันหน้าไปตะโกนถามกับทุกๆคนและแสร้งทำเป็นหัวร้อน..
แววตาที่ทุกๆคนใช้มองสตาร์ในตอนนี้ มันไม่เหมือนกับแววตาที่ใช้มองมนุษย์ด้วยกันเองอีกต่อไป แต่กลับเป็นแววตาที่ใช้มองปีศาจอันแสนน่าหวาดหวั่น..
“บางทีพี่ก็โอพีเกิ๊น..~”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
และจากสมรภูมิในวันนี้ชื่อของสตาร์จะถูกจารึกเอาไว้โดยเหล่าทหารที่ได้เห็นเหตุการณ์ ไม่ว่าใครก็ต่างขนานนามและตั้งสมญานามให้เขาว่าปีศาจทมิฬแห่งเอลเดีย..
ไรท์:คอมสะเม้น..~