แสงที่ 82 วีรบุรุษรูปงามผมสีเงินกับแขนซ้ายที่หายไป..~
ตู้ม..!!!!!!!!!!!
ร่างของไอ้เมจกับอาเซียที่โดนกระบองเหล็กหวดฟาดจนลอยละลิ่วออกไปทางด้านข้าง ต่อหน้าต่อตาของผม..
“อ้าวเฮ้ย..!!!!!!”ผมกับไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ชิบหายอุตส่าห์พากย์ให้ซะหล่อเท่ เด็กเก่าตูตายปะวะนั่น..
ตุบๆ ๆ
ครืด..!!!
อาเซียที่กระเด็นลอยออกไป ก่อนที่ร่างของเธอจะกลิ้งไปกับอยู่พื้นหลายตลบ ส่วนไอ้เมจก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ร่างของมันที่กำลังลอยได้ตีลังกาลงมาตั้งหลัก ก่อนจะไถลไปตามแรงส่งอยู่นิดหน่อย..
“ดะ..เดี๋ยวนะ นั่นมันผู้ใช้เอมพาสระดับ 1 ดาวม่วงหนิ..! ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้ ไอ้เจ้าพวกนั่นต้านเอาไว้ไม่ไหวแน่..!”สไปร์สที่กล่าวออกมา ทันทีที่เธอสังเกตเห็นความแข็งแกร่งของศัตรู เธอจึงคิดที่จะ..
“เปิดวงจร..จงออกมามาราซิน..!”สไปร์สที่ทำการเปิดวงจร ก่อนจะดึงนำเอมพาสออกมาจากกลางหน้าอก เดี๋ยวนะ..คาตะนะงั้นเหรอ..? ถ้าจำไม่ผิดไอ้เวรซีอุสก็มีเอมพาสเป็นคาตานะเหมือนกัน..
ฟุบ..!
ครืด..!!!
สไปร์สที่ทำการย่อเข่าสไลด์ขาตั้งท่า พร้อมกับเหวี่ยงดาบไปทางด้านหลัง อีกทั้งยังมีวงแหวนเวทสีแดงที่ปรากฏออกมาคล้องอยู่ที่แขนของเธอจำนวน 1 วง..
“อาเซีย..!”ไอ้เมจที่หันไปตะโกนเรียกอาเซีย เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่เธอจะชันตัวลุกขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นอะไร..?”อาเซียที่หันมากล่าว พลางเอามือกุมที่ชายโครงเอาไว้จากอาการบาดเจ็บที่เกิดจากแรงอัดกระแทกเมื่อสักครู่
ซึ่งถึงแม้ว่าไอ้เมจจะบล็อคการโจมตีเมื่อกี้ไม่ได้ แต่ทว่ามันก็สามารถที่จะลดความรุนแรงของการโจมตีลงได้ ไม่อย่างงั้นสภาพของมันกับอาเซียก็คงจะไม่ต่างอะไรกับซีเนียวและแองจี้..
“เนโร เลิกเล่นได้แล้ว..ฆ่าพวกมันให้หมด..!”เสียงตะโกนของผู้นำหญิงที่บอกกับผู้นำกระบองเหล็ก
โดยที่ผู้นำหญิงคนนี้กำลังตกอยู่ในวงล้อมทหารของเอลเดีย แต่ทว่าถึงจะตกอยู่ในวงล้อมเธอกลับเป็นฝ่ายเอาดาบใหญ่วิ่งไล่ฟันกองกำลังของเอลเดีย..
ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้กองกำลังของไฮสโตเรียได้ถูกกวาดล้างไปจนหมดสิ้น จะเหลือเพียงก็แต่เพียงแค่ผู้นำทั้งสอง
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นสถานการณ์ทางฝ่ายเอลเดียก็ยังคงวิกฤตอยู่ จากการที่ไม่มีใครเลยที่จะสามารถสร้างรอยขีดขวนให้แก่ผู้นำของศัตรูได้
“หึ..รู้แล้วน่า สกิลเวทมนตร์ระดับ 4 เพลิงฟาดนรก..!”ผู้นำกระบองเหล็กที่ตอบกลับผู้นำหญิง..
ทันใดนั้นมันก็ทำการเปิดวงจรใช้สกิลเอมพาส ส่งผลทำให้วงแหวนเวทสีม่วงแยกตัวออกจนกลายเป็นวงแหวนเวทสีฟ้าจำนวน 4 วง ก่อนจะเข้าปกคลุมกระบองเหล็กเอาไว้..
ซูม..!!!!!
เปลวเพลิงสีแดงฉานที่ปรากฏออกมาจากวงแหวนเวทได้ลุกโชดช่วงเข้าปกคลุมกระบองเหล็กเอาไว้ ก่อนที่ผู้นำกระบองเหล็กจะวิ่งตรงเข้าไปหาไอ้เมจ..
“สกิลเวทมนตร์ระดับ 4 ดาวฟ้า คิดจะดูถูกกันงั้นเหรอ..!?”ไอ้เมจที่แผดเสียงตะโกนออกมา ก่อนที่มันจะทำการปลดปล่อยสกิลเอมพาส..
“โซลเดร์ท สกิลเวทมนตร์ขั้น 4 ระดับ ☆☆☆☆ ฟ้า ดาบทมิฬจุติ..!”
ชวิ้ง..!
ซูม..!!!
ไอ้เมจที่ทำการปลดปล่อยสกิลเอมพาส ทันใดนั้นจู่ๆก็มีดาบเล่มสีดำที่ปรากฏออกมาอยู่ในฝ่ามือของไอ้เจ้าภูติตัวสีดำ มันไม่รอช้ารีบพุ่งตรงเข้าไปหาผู้นำกระบองเหล็ก ก่อนจะทำท่าง้างดาบแม้ว่าในมือของมันจะว่างเปล่าก็ตาม..
ชวิ้ง..!
ไอ้เจ้าภูติตัวสีดำที่ขยับท่าทางตามไอ้เมจพลันทำการง้างดาบไปทางด้านหลัง ทันทีที่ร่างของไอ้เมจและผู้นำกระบองเหล็กเข้ามาประชิดตัวกัน ทั้งสองก็ทำการปลดปล่อยการโจมตีเข้าใส่กันในทันที..
ชวิ้ง..!!!
ซูม..!!!!!!
คมดาบทมิฬของไอ้เมจที่ถูกไอ้เจ้าภูติตัวสีดำฟาดฟันออกไปในแนวนอนกำลังเคลื่อนตัวเข้าหากระบองเหล็กที่ถูกเหวี่ยงฟาดทุบลงมาในแนวตรง ก่อนที่อาวุธทั้งสองจะเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง..
ตู้ม..!!!!!!!
เสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว การปะทะกันของอาวุธทั้งสองก่อให้เกิดเป็นการระเบิดของคลื่นพลังสองสีที่แผ่รัศมีกระจายออกไปโดยรอบ แต่ทว่าคมดาบของไอ้เมจกลับไม่สามารถแบกรับการโจมตีอันแสนหนักหน่วงได้ จนดาบถูกปัดให้สะบัดออกไปทางด้านหลังและเปิดเป็นช่องว่างให้เห็น..
“อะไรกัน..?”ไอ้เมจที่ถึงกับหน้าถอดสี..
“ไอ้โง่..! ถึงเอมพาสของแกจะเป็นชนิดหายากและทรงพลัง แต่ระดับวงแหวนมันต่างกันโว้ย..!”ผู้นำกระบอกเหล็กที่ตะโกนออกมา ก่อนจะทำการเงื้อกระบองเหล็กข้ามหัวหมายจะทุบไอ้เมจให้ตัวแตก..
“วะ..เวร..”ไอ้เมจที่หน้าถอดสีอย่างหนักมันเตรียมที่จะกระโดดถอยหลบออกมา แต่ทว่าดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว..
“ชิ..แค่จ่าสิบตรีเองงั้นเหรอ..?!”ผู้นำกระบองเหล็กที่จิปากออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นว่าตัวเองถึงขั้นต้องใช้สกิลกับศัตรูยศต่ำ ก่อนที่มันจะฟาดกระบองทุบลงมาแบบเต็มแรง..
เฟี้ยว..!!!!!
ตู้ม..!!!!!!
“อั่ก..อ้ากกกกกกก. !!”
แต่แล้วภายในชั่วพริบตานั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ในช่วงจังหวะที่กระบองเหล็กกำลังถูกฟาดตีลงมา จู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทย์ปริศนาที่ยิงเข้าสู่ขาของผู้นำกระบองเหล็กจนขาขาด ทำให้มันส่งเสียงร้องตะโกนแหกปากออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทรุดฮวบลงไป..
“หึ..! ตายซะ..!”ไอ้เมจที่หยุดชะงักพลันแสยะรอยยิ้มร่า มันได้เหวี่ยงสะบัดข้อมือทำท่าฟันดาบ ส่งผลทำให้ไอ้เจ้าภูติสีดำขยับและออกท่าทางตาม..
“มะ..แม่งเอ้..ย..!”
ฉับ..!!!
ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงสบถของผู้นำกระบองเหล็กดาบเล่มสีดำทมิฬก็ได้วาดตัดเข้าสู่ที่ลำคอของมันจนขาดสะบั้น ก่อนที่หัวของมันจะกระเด็นลอยออกไป..
“เนโร..!!!!!”เสียงของผู้นำหญิงที่กำลังรับมือกับทหารของเอลเดียที่มารายล้อมพลันตะโกนออกมา..
“ทหารทุกนายถอยไปซะ..!!!!!”สไปร์สที่กำลังยืนตั้งท่าพลันตะโกนออกคำสั่งกับเหล่าทหารของเอลเดียที่กำลังยืนรายล้อมผู้นำหญิงของไฮสโตเรียอยู่ ส่งผลทำให้ทหารเหล่านั้นรีบถอยออกมา..
“เปิดวงจร สกิลเวทมนต์ขั้น 5 ระดับ ☆☆ ม่วง ย่างก้าววายุสะบั้น..!”สไปร์สที่ทำการปลดปล่อยสกิลเอมพาส ก่อนที่วงแหวนเวทสีแดงจะแตกแยกตัวออกกลายเป็นวงแหวนเวทสีม่วงเคลื่อนตัวจากข้อมือลงไปคล้องอยู่ที่ข้อขาทั้งสองข้างของเธอ..
ฟุบ..!!!!
ตู้ม..!!!!!!!!
ภายในชั่วพริบตานั้น ร่างของสไปร์สที่ยืนอยู่ได้ดีดตัวพุ่งทะยานออกไปทางด้านหน้า ก่อกำเนิดเป็นกระแสลมที่ผลักให้ร่างของเธอทะยานตรงออกไปยังทิศทางของผู้นำหญิงของไฮสโตเรียด้วยความเร็วสูง ก่อนที่ต่อจากนั้น..
“อะไรกั..น..!?”
ผู้นำหญิงของไฮสโตเรียที่เบิกดวงตากว้างขึ้น จากร่างที่พุ่งทะยานตรงเข้ามาจนแทบจะมองตามไม่ทัน ร่างของเธอที่ยืนอยู่เตรียมที่จะยกดาบขึ้นมาตั้งรับ แต่ทว่ามันก็สายเกินไปเสียแล้ว..
ฉับ..!!!!!
เสียงของคมดาบที่วาดตัดเข้าสู่ลำคอ พร้อมกับร่างของสไปร์สที่พุ่งผ่านร่างของผู้นำหญิงไป สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก ก่อนที่ต่อจากนั้น..
ฟุบ..
ตุบ..!
ร่างของผู้นำหญิงของไฮสโตรเรียที่ทรุดฮวบลงไป ดวงตาของเธอกำลังเบิกกว้างขึ้น ก่อนที่หัวจะค่อยๆไหลหลุดออกจากบ่าล่วงหล่นลงสู่พื้น พร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดตามออกมาจากลำคอราวกับน้ำพุ ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าบรรดาทหาร..
ฟุบ..
สไปร์สที่นำเอมพาสเก็บเข้าไปภายในช่องว่างตรงกลางอก ก่อนที่เธอจะสบถออกมาเบาๆ พร้อมกับยืดตัวกลับมายืนตรง..
“ปิดวงจร..”
“หืม..?”ผมที่หันไปมองยังเซนิน ก่อนจะพบว่าเขานั้นกำลังนั่งกระดกเหล้าอยู่ที่ใต้ต้นไม้ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โดยที่ต้นตอของคนที่ยิงกระสุนแรงดันเวทอันทรงพลังใส่ขาของผู้นำกระบองเหล็กจนขาขาด นั่นก็คือตัวของเซนินเอง ถึงแม้ว่าในช่วงที่เขายิงผมจะสังเกตไม่ทัน แต่ผมก็มั่นใจว่าคนที่ยิงจะต้องเป็นเขาแน่ๆ
ซึ่งจากจุดที่เซนินอยู่ไปจนถึงผู้นำกระบองเหล็ก ทั้งๆที่มันอยู่ห่างไกลออกไปกว่าหลายสิบเมตร แต่ทว่าเขากลับยิงได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งอานุภาพของกระสุนแรงดันเวทยังไม่ลดลง แถมยังแรงกว่ากระสุนแรงดันเวททั้งหมดที่ผมเคยเห็นมา..
“ยิงได้สวยเลยนะครับ ช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ไอ้เวรนั่นคนร่างแหลกไปแล้ว..”ผมที่กล่าวออกมา พอเซนินได้ยินแบบนั้นก็หันมาหาผม ก่อนจะแสร้งทำเป็นตีมึน..
“แกพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ..?”
“หืม..แล้วใครคุยกับจ่าเหรอครับ ผมก็แค่พูดลอยๆ ทำเป็นร้อนตัวไปได้..”ผมที่ตอบกลับเซนิน ถึงกับทำให้ร่างกระตุกแสดงสีหน้าเลิ่กลั่ก..
“อ้อ..แล้วที่สำคัญตอนนี้ผมเป็นพูดบัญชาการภารกิจ เวลาจะพูดอะไรก็กรุณาให้เกียรติผมด้วยนะครับ..”ผมที่บอกกับเซนิน แต่อีกฝ่ายกลับเบนหน้าไปทางอื่นและแสร้งทำเป็นเมิน
“ย้ากกกกกกก..!!!!”ไอ้เมจที่แหงนหน้าส่งเสียงร้องตะโกนออกมาด้วยความสะใจ ก่อนที่เหล่าทหารจะ..
“พวกเราชนะแล้ว เฮ..!!!!!!!!!”เสียงเฮของเหล่าบรรดาทหารนับ 20 ชีวิตที่ดังขึ้น ส่วนพวกที่ได้บาดรับบาดเจ็บอีกสิบกว่าคนก็ลุกขึ้นตาม..
“สุดยอดไปเลยนะนายน่ะ นายฆ่านักรบระดับ 4 ของไฮสโตเรียได้ นายนี่มันธรรมดาจริงๆ..”
“นะ..นั่นสิ..ถ้าไม่ได้นาย พวกเราคงแย่แน่ๆ ลำพังแค่พวกทหารไฮสโตเรียที่ถูกส่งมาก็เป็นพวกนักรบระดับ 2 กับระดับ 3 แล้ว แถมส่วนใหญ่ยังถือครองวงแหวนเวทระดับ 3 ดาวฟ้าอีก..”
เสียงของทหารบางส่วนที่เห็นเหตุการณ์พลันหันหน้ามาตะโกนสรรเสริญไอ้เมจที่กำลังยืนอยู่ โดยที่พอมันได้ยินแบบนั้นก็กระตุกรอยยิ้มออกมา..
“หึ..พวกไฮสโตเรียมันกระจอกเองต่างหาก..”ไอ้เมจที่วางมาดกล่าวออกมา พลางปิดวงจรเวท
“เหรอวะ..? แม่งเอ้ย หมั่นไส้ชิบหายเลยว่ะ..!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา..
‘ใจเย็นๆ อย่าเสียงดังฉันหนวกหู..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อน
“เฮ้ย..นี่แกไม่แค้นบ้างเลยเหรอ ไหงตะกี้ทำไมไม่ออกไปโชว์เทพวะ..?!”ไอ้จ้อนที่เอ่ยถามกับผม ดูเหมือนว่ามันกำลังหัวร้อนแบบสุดๆ..
‘หึ..อยู่เฉยๆเถอะ แกน่ะ..’ผมที่ตอบกลับไอ้จ้อน เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้เมจและพวกทหารบางส่วนจำนวนราวๆ 7-8 คนก็เดินเข้ามาหาผม ส่วนพวกทหารที่เหลือก็ต่างพากันไปดูคนเจ็บ..
“ไง..ท่านผู้บัญชาการ..? ในระหว่างที่พวกฉันออกไปสู้กับไอ้พวกไฮสโตเรียนายทำอะไรอยู่อย่างงั้นเหรอ..? อ้อ..หลบอยู่ข้างหลังของผู้หญิงนี่เอง..”ไอ้เมจที่เดินเข้ามาหาผม ก่อนจะเปิดประเด็นหาเรื่อง โดยที่พอพวกทหารได้ยินแบบนั้นก็ต่างพากันชักสีหน้า แต่ละคนต่างกระชับดาบในมือเอาไว้อย่างแนบแน่น พลางมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่แสดงออกถึงความเคียดแค้น จนทำให้ไอรินต้องเดินเข้ามาขวางผมเอาไว้..
“เพื่อนในกลุ่มของฉันตายไปตั้งสองคน..! แกน่ะ..มัวทำอะไรอยู่วะ..?!”
“ไหนล่ะ..กลยุทธ์ที่ทำให้ชนะ 80 % นั่นน่ะ เราสูญเสียคนไปเกือบครึ่งแถมยังมีคนเจ็บ..!”
เสียงของพวกทหารที่ตวาดถามใส่ผมด้วยความโกรธ โดยที่ผมก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่พูดอะไร..
“ไอ้พวกเวร..?! พวกแกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ..!!!”สไปร์สที่เดินอ้อมเข้ามา พลันเปล่งเสียงตะค่อกใส่พวกทหาร..
“ทะ..ท่านพันตรี..อึก ท่านเห็นไหม ไอ้เจ้านั่นไม่เห็นจะทำอะไรได้สักอย่าง เราสูญเสียกองกำลังไปเกือ..บ..”
“หุบปาก..!!”
ในขณะที่ทหารนายหนึ่งกำลังจะกล่าวกับสไปร์ส จู่ๆเธอก็ตวาดใส่มันด้วยความโกรธ ใบหน้าของเธอกำลังแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธ
“ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการได้ออกคำสั่งให้พวกแกถอยออกมาในระยะ 20 เมตร ซึ่งฉันเองก็มั่นใจว่าพวกแกได้ยิน แต่พวกแกกลับทำเป็นเมินเพียงเพราะเห็นว่ากองกำลังของศัตรูมีจำนวนคนที่น้อยกว่า โดยเฉพาะแกที่ตั้งตัวเป็นแกนนำ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ..”สไปร์สที่กัดฟันกล่าวออกมา ก่อนจะหันไปมองหน้าของไอ้เมจถึงกับทำให้มันและเหล่าทหารต่างพากันสะอึก..
“ตะ..แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ในเมื่อศัตรูมีจำนวนคนที่น้อยกว่า เจ้านี่มันก็ควรจะหากลยุทธ์อื่นมาใช้ จู่ๆมาสั่งให้พวกเราถอย ทั้งๆที่คนของพวกเราก็มีเยอะกว่า ใครมันจะไปถอยให้เสียศักดิ์ศรีกันล่ะครับ..?”ไอ้เมจที่พยายามจะหาเหตุผลมาโต้แย้ง โดยที่พวกทหารก็ต่างพากันส่งเสียงออกมาอย่างเห็นด้วย
“ใช่ๆ ถ้าพวกเราถอยก็ยิ่งทำให้พวกมันได้ใจ..!”
“ถูกต้อง..!”
“แล้วผลสุดท้ายเป็นยังไง..? กองกำลังทหารของฝ่ายเราตายไป 10 นาย แถมยังได้รับบาดเจ็บอีก 11 นาย ตอนนี้ถ้าไม่นับรวมฉันกับผู้บัญชาการ กองกำลังของเราเหลืออยู่เพียงแค่ 20 นายเท่านั้น..คิดจะยึดมั่นในศักดิ์ศรีก็หัดยึดมั่นให้มันฉลาดๆหน่อย..”สไปร์สที่ตวาดเสียงด่าออกมาด้วยความโกรธ ส่งผลทำให้พวกทหารถึงกับหน้าแห้งเถียงไม่ออก..
“ตะ..แต่ถึงอย่างนั้น พวกเราก็สามารถที่จะฆ่านักรบระดับ 4 ของไฮสโตเรียไปได้ถึงสองคนเลยนะครับ..”ไอ้เมจที่พยายามจะเอาผลงานมาใช้เป็นข้ออ้าง..
“เป้าหมายของภารกิจคืออะไร..!!!!?”สไปร์สที่ตวาดถามต่อเมจ พอมันและทหารที่ยืนอยู่ได้ยืนแบบนั้นก็ถึงกับต้องหน้าถอดสีอีกครั้ง..
“ภารกิจในครั้งนี้เป้าหมายคือการบุกเข้าไปช่วยเหลือและเปิดทางให้แก่กองกำลังหลัก กะอีแค่ฆ่านักรบระดับ 4 ได้ มันไม่ได้ถือว่าเป็นผลงานเลยสักนิด ในทางกลับกันมันถือว่าเป็นความล้มเหลวก่อนที่จะได้เริ่มทำภารกิจเสียด้วยซ้ำ..”สไปร์สที่กล่าวออกมาด้วยความหัวเสีย เธอตวาดย้ำเตือนสติของทหารทุกๆนาย ก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของเมจว่า
“และที่สำคัญ..แกเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แกใจดี แกน่ะ..เกือบจะตายไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้กระสุนแรงดันเวทที่ยิงเข้าไปตัดจังหวะจนทำให้แกมีโอกาสได้สังหารไอ้เจ้านั่น เพราะฉะนั้นแล้วจงสำเนียกตัวเองเอาไว้ซะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะอดทนกับแก..!”
สิ้นคำพูดสุดท้ายของสไปร์ส เมจที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับหน้าแห้ง ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปด้วยความอับอาย เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าสไปร์สจะสังเกตเห็น อีกทั้งกระสุนแรงดันเวทที่ยิงเข้ามาเขายังคิดไปเองว่ามันคงเป็นฝีมือของใครสักคนที่กราดยิงเข้ามาแบบมั่วๆ..
‘หึ..ถ้าให้เดาสไปร์สคงจะดูออกสินะ..’ผมที่คิดอยู่ในใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอเข้าไปกระซิบบอกอะไรกับไอ้เมจ..
“พวกที่ได้รับบาดเจ็บจนไปต่อไม่ได้ให้รออยู่ที่นี่ ส่วนใครที่ยังไหวเตรียมตัวให้พร้อมอีก 5 นาที พวกเราจะเดินทางกันต่อ ..!”สไปร์สที่หันไปแผดเสียงตะโกนออกคำสั่ง เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ทหารบางส่วนจะลำเลียงพาคนเจ็บไปนอนหลบอยู่หลังต้นไม้ในที่ปลอดภัย..
“ละ..แล้วศพของพวกทหารที่ตายไปล่ะครับ..?”เสียงของทหารนายหนึ่งที่กำลังนั่งร้องไห้พลันตะโกนเอ่ยถามขึ้น ภายในมือของเขากำลังประคองร่างอันไร้วิญญาณของเพื่อนทหารภายในกลุ่มที่ตายไป..
“ทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ พวกเราไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งฝังศพของไอ้เจ้าพวกนั้นหรอกนะ..!”สไปร์สที่ตะโกนออกมา ส่งผลทำให้พวกทหารที่กำลังเสียใจกับการสูญเสียได้แต่นั่งข่มความรู้สึก ก่อนที่สุดท้ายจะต้องตัดใจทิ้งศพเหล่านั้นเอาไว้ และเดินทางต่อ..
“และฉันอยากจะบอกกับพวกแกเอาไว้ นี่คือผลลัพธ์ของการที่พวกแกขัดคำสั่ง สำหรับฉันระดับยศไม่ใช่ตัวแปรสำคัญที่จะเอาไว้ชี้วัดศักยภาพ แต่พอได้มาเจอกับพวกแกแล้ว ฉันโครตที่จะรู้สึกผิดหวัง พวกแกขึ้นมาติดยศจ่าได้ยังไงกันวะ..!?”สไปร์สที่กล่าวออกมาด้วยความหัวเสีย ก่อนที่เธอจะเดินปลีกตัวออกไป..
“กรอด..”เสียงกัดฟันของไอ้เมจที่ดังออกมา มันที่ยืนอยู่ต่อหน้าของผมกำลังจ้องมองมาที่ผมด้วยความโกรธ ส่วนไอ้พวกทหารกว่า 7-8 หลังจากที่โดนสไปร์สด่าไปก็ดูเหมือนว่าจะสลด แต่แววตาที่มองมายังผมกลับยังคงเป็นแบบเดิม..
แววตาของพวกมันแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ได้ศรัทธาในตัวของผม แม้ว่าสถานการณ์จะเกิดจากการที่พวกมันทำตามอำเภอใจก็ตาม..
“มะ..เมจ..”เสียงของอาเซียที่กล่าวดังขึ้น เธอกำลังเดินตรงเข้ามาหาไอ้เมจ..
“อาเซีย..เธอเป็นยังไงบ้าง..?”เมจที่เอ่ยถามต่ออาเซีย..
“ไม่เป็นไรฉันยังไหว แต่ซีเนียวกับแองจี้ถึงอาการบาดเจ็บจะไม่ได้รุนแรงถึงชีวิต แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไปต่อกับพวกเราไม่ได้แล้วล่ะ..”อาเซียที่กล่าวออกมา..
“อื้ม..สองคนนั้นทำได้ดีแล้วล่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปดูอาการของพวกมันก่อนก็แล้วกัน..”เมจที่กล่าวออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปโอบเอวของอาเซีย
โดยที่อาเซียเองก็หันมามองผมกับไอรินอยู่ชั่วขณะ แววตาที่แสดงออกมามันเต็มไปด้วยความเศร้าและขมขื่น ก่อนที่สุดท้ายเธอจะหันหน้ากลับและเดินจากไป..
“สะ..สตาร์ เรื่องที่คุยกันค้างเอาไว้เมื่อ..กี้..”
“ไอริน..ช่วยอ่านสถานการณ์หน่อย..”
ไอรินที่กำลังจะเปิดประเด็นกับผม แต่แล้วเธอก็ต้องถูกผมที่กล่าวขัดเอาไว้ จึงทำให้เธอที่เห็นแบบนั้นดูเหมือนจะสลด ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงไป..
20 นาทีต่อมา
หลังจากที่กองกำลังทหารของเอลเดียที่เหลืออยู่จัดการลำเลียงคนเจ็บไปนอนเรียงกันอยู่ในที่ปลอดภัย สไปร์สก็ได้ออกคำสั่งเคลื่อนพลเพื่อที่จะมุ่งหน้าออกไปทำภารกิจต่อ..
ซึ่งกองกำลังทหารของเอลเดียจากทั้งสองเหล่าทัพจำนวน 40 นาย ตอนนี้กลับเหลืออยู่เพียงแค่ 20 นายเท่านั้น โดยที่สมาชิกภายในกลุ่มของไอรินถูกฆ่าตายไปทั้งสามคน
แต่เท่าที่ผมฟังจากไอรินมาดูเหมือนว่าทหารทั้งสามนายจะไม่ใช่กลุ่มทหารที่เรียนจบมากับเธอ ตัวของเธอนั้นจบหลักสูตรโดยที่ไม่มีกลุ่ม อีกทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอยังออกปฏิบัติหน้าที่เพียงคนเดียว โดยทุกๆภารกิจที่เธอทำ เธอจะถูกสุ่มเข้าไปอยู่ในกลุ่มทหารกลุ่มที่คนยังขาดอยู่ ซึ่งในภารกิจนี้เองก็เช่นกัน.
ฟุบๆ ๆ ๆ
เสียงฝีเท้าของม้าที่ควบวิ่งอยู่บนผืนหิมะ ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ผมถูกจ้องมองโดยเหล่าทหารด้วยสายตาอันแสนเย็นชา ซึ่งถ้าถามว่าผมสนไหมก็ขอตอบเลยว่าไม่อีกนั่นแหละ..
ถึงต่อให้ใครจะไม่พอใจหรือมองผมยังไง สุดท้ายแล้วพวกมันก็มีทางเลือกอยู่แค่สองทางเลือก ทางเลือกแรกคือทำตามคำสั่งของผม ส่วนอีกทางเลือกคือไม่ทำตามและเข้าไปถูกฆ่าตายเหมือนกับสถานการณ์ล่าสุดที่ผ่านมา
แต่ยังไงพวกทหารก็คงจะต้องเลือกทางแรก เพราะก่อนที่จะเคลื่อนพลออกมาจากจุดปะทะล่าสุด สไปร์สก็ได้ยื่นคำขาดกับพวกมันไปแล้วว่าถ้าไม่ทำตามคำสั่ง พวกมันจะต้องรับผิดชอบกับผลกระทบที่จะตามมาในกรณีที่ภารกิจล้มเหลว..
“อีก 30 เมตรข้างหน้าคือกำแพงหินหน้าหุบเขา เลี้ยวซ้ายไปจะเป็นทางแยกที่จะเข้าไปในช่องว่างของหุบเขาลาติส ทหารทุกนายเตรียมตัวให้พร้อม พวกเราใกล้ที่จะเข้าสู่อาเขตของศัตรูแล้ว..”เสียงตะโกนรายงานของสไปร์สที่ดังขึ้น
ซึ่งภาพที่ปรากฏอยู่ทางเบื้องหน้าห่างออกไปประมาณ 30 เมตรก็คือโขดหินที่ปรากฏอยู่เป็นทางยาวจนมีลักษณะเหมือนกับกำแพงราวกับถูกมนุษย์สร้างขึ้น..
โดยที่ถัดจากกำแพงโขดหินดังกล่าวไปจะปรากฏให้เห็นเป็นภูเขาเขาหิมะลูกใหญ่กว่าหลายลูกที่ตั้งอยู่ห่างไกลออกไปประมาณ 300 เมตร อีกทั้งทางซ้ายมือและขวามือไม่ว่าจะมองไปไหนก็มีภูเขาอยู่เต็มไปหมด..
จากรายงานที่ผมได้รู้มาดูเหมือนว่ากองกำลังหลักจะถูกจู่โจมที่อีกฟากหนึ่งของกำแพงโขดหิน ก่อนจะถูกไล่ต้อนให้หลบหนีเข้าไปในหุบเขาลาติส..
ซึ่งในตอนนี้พวกเราก็จวนที่จะมาถึงจุดหมายแล้ว โดยที่สไปร์สได้นำขบวนควบม้าให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือเพื่อที่จะเคลื่อนตัวเข้าไปในช่องแคบทางซ้ายของหุบเขา..
ทันทีที่กองกำลังของพวกเราควบม้ามาจนถึงโขดหิน สไปร์สก็ได้สั่งให้ม้าทุกตัวชะลอฝีเท้า จนกระทั่ง..
“หยุดก่อน..!”สไปร์สที่ควบม้ามาจนถึงโขดหินพลันตะโกนออกคำสั่งกับเหล่าทหาร ก่อนที่เธอจะรีบกระโดดลงจากแผ่นหลังของม้าและเข้าไปยืนหลบอยู่ที่โขดหินก้อนหนึ่ง โดยที่พวกทหารเองก็รีบลงจากหลังของม้าด้วยเช่นกัน..
ฟุบ..!
เหล่าทหารจำนวน 20 นายที่เข้าไปหลบอยู่ข้างหลังโขดตลอดแนว โดยที่ผมกับไอรินเองก็เดินเข้าไปหาสไปร์ส พร้อมกับมองลอดผ่านตรงช่องแคบของโขดหิน ก่อนจะได้พบเข้ากับภาพที่ไม่คาดคิด..
ในตอนนี้ภาพที่ปรากฏให้เห็นอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของกำแพงโขดหิน นั่นก็คือลานหิมะโล่งๆขนาดใหญ่ที่ทอดยาวไปไกลจนถึงช่องแคบของหุบเขา แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกๆคนต้องต้องตะลึง นั่นก็คือในเวลานี้ที่ภายลานหิมะดังกล่าวกลับปรากฏให้เห็นเป็นร่างของทหารจากเอลเดียจำนวนกว่า 5 นายที่กำลังนอนจมกองเลือดกันอยู่..
“นั่นมันกองกำลังทหารจากกำลังหลัก..”สไปร์สที่สบถกล่าวออกมา..
“ชะ..ช่วยด้วย..”
แต่แล้วหนึ่งในร่างทั้งห้าก็มีอยู่ร่างหนึ่งที่ขยับ โดยที่ร่างๆนั้นกำลังพยายามเอื้อมมือตะเกียดตะกายคลานมายังทิศทางของกำแพงโขดหิน..
“ดูนั่นสิ..ยังมีผู้รอดชีวิต..!”เสียงของหนึ่งในทหารที่ตะโกนดังขึ้น เมื่อสไปร์สเห็นแบบนั้นก็ทำท่าจะวิ่งออกไปช่วย แต่ก็ต้องถูกผมคว้ามือรั้งเอาไว้
หมับ..
“อย่าออกไปมันเป็นกับดัก น่าจะมีพวกไฮสโตเรียที่กำลังซุ่มรอโจมตีพวกเราอยู่..”ผมที่บอกกับสไปร์ส ซึ่งพอเธอและพวกทหารได้ยินก็ต่างพากันหันมามองยังทิศทางของผมเป็นสายตาเดียวกัน..
“กับดัก..? ซุ่มโจมตี มันจะเป็นไปได้ยังไง..?”สไปร์สที่ถามผม..
“ผมเองก็ทราบแน่ชัด แต่จากที่วิเคราะห์สถานการณ์ดูแล้ว ยังไงนี่จะต้องเป็นกับดักอย่างแน่นอน ถ้าออกไปคือตายสถานเดียว..”ผมที่บอกกับสไปร์ส ก่อนจะหันไปมองยังนายทหารจากเอลเดียที่กำลังคลานมา..
“ทหารคนนั้นไม่รอดแล้วล่ะครับ เขาเสียเลือดไปมาก..”ผมที่วิเคราะห์ ก่อนจะบอกกับสไปร์ส..
“ไร้สาระ..!!! พื้นที่โล่งกว้างแบบนี้จะมีกับดักหรือไอ้เวรที่ไหนมาซุ่มโจมตีได้ยังไง..? ฉันไม่เห็นจะมีหมาที่สักตัว แกน่ะยังสติอยู่หรือเปล่า..มีคนของเราที่กำลังจะตายไปต่อหน้า แต่แกกลับบอกให้ปล่อยเขาตายเนี่ยนะ..ฉันสุดจะทนกับแกแล้วนะเว้ย..!”ไอ้เมจที่ชันตัวลุกขึ้นยืนแผดเสียงตวาดใส่ผมด้วยความโกรธ ส่งผลทำให้พวกทหารต่างพากันลุกฮือขึ้น..
“ใช่..!! ฉันเองก็จะไม่ทนกับแกแล้วเหมือนกัน..!”
“เพราะแกที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่างจึงทำให้เพื่อนของฉันต้องตาย ถึงพวกเราจะผลี่ผลามเข้าไปก็เถอะ แต่แกเป็นผู้บัญชาการไม่ใช่เหรอ..? ทำไมตอนนั้นแกถึงไม่ทำอะไรสักอย่างล่ะ..!!!”
“ใช่..!!!”
“พวกเราไม่ยอมรับผู้บัญชาการแบบนี้..”
ท่ามกลางเสียงของเหล่าบรรดาทหารที่กำลังตะโกนต่อว่าผม ทุกๆคนต่างจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่พอใจ มีเพียงแค่สไปร์ส ไอรินกับเซนินเท่านั้นที่ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย
ส่วนอาเซียที่อยู่ข้างๆไอ้เมจก็พยายามกระตุกดึงแขนให้อีกฝ่ายนั่งลง แต่สุดท้ายกลับต้องโดนมันสะบัดออก
“แกมันก็แค่ทหารจบใหม่ที่มีดีแค่การวางกลยุทธ์ ไม่สิ..ผลงานที่แกสร้างมาคงไม่ได้มาจากกลยุทธ์ของแกหรอก แต่เป็นเพราะทหารที่ใช้กลยุทธ์ของแกเป็นทหารที่มีฝีมือ กลยุทธ์ที่แกใช้มันก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้นหรอก..!!”ไอ้เมจที่ตวาดเสียงกล่าวกับผม สีหน้าของมันในตอนที่เปล่งเสียงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันกำลังสะใจมากแค่ไหน และยิ่งมีพวกทหารที่เข้าร่วมกับมันด้วยก็ยิ่งทำให้มันได้ใจเข้าไปใหญ่..
“หุบปา..ก..!”
ฟุบ..
สไปร์สที่กำลังจะตวาดใส่ไอ้เมจพลันต้องถูกผมที่ยกฝ่ามือขึ้นมาขวางเอาไว้..
“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ฉันไม่อนุญาติให้ใครออกไปทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดพวกแกคนใดคนหนึ่งยังคงดึงดันที่จะขัดคำสั่ง ก็จงเตรียมรับผลกระทบที่จะตามมาด้วยก็แล้วกัน..”ผมที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พอพวกทหารได้ยินแบบนั้น จากที่กำลังปากดีกันอยู่ก็ต่างต้องพากันหยุดชะงักหน้าเสียไปตามๆกัน เพราะบทลงโทษสำหรับทหารที่ขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา มันมีโทษสถานหนักจนไม่ว่าใครก็ไม่อยากที่จะเสี่ยง..
“ก็เอาสิวะ..! ถ้างั้นไปเจอกันในศาลทหาร ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเบื้องบนจะตัดสินใจยังไง ระหว่างคนที่สั่งให้ยืนดูพวกเดียวกันตายกับคนที่เข้าไปช่วย แกคิดว่าใครจะเป็นคนที่ถูกลงโทษกันล่ะ..!”ไอ้เมจที่เปล่งเสียงกล่าวออกมา ก่อนจะกระโดดออกไปอย่างกล้าหาญ เมื่อเหล่าทหารจากทั้งสองได้เห็นแบบนั้นก็ต่างพากันปรบมือ สายตาที่ทุกๆคนจ้องมองไปแสดงออกให้เห็นถึงความเคารพนับถือ..
แปะๆ ๆ..!
“สตาร์..รอบนี้ฉันจะขอพูดตรงๆเลย ฉันเองก็เห็นด้วยกับไอ้เจ้านั่นนะ แกไม่เห็นเหรอว่าข้างหน้าเป็นพื้นที่โล่งๆ จะมีกับดักหรือศัตรูซุ่มอยู่ได้ยังไง..?”สไปร์สที่กล่าวกับผม..
“นั่นสิ..แกน่ะ เมาจนระแวงไปเองหรือเปล่า..?”เซนินที่เอ่ยขึ้น เมื่อสไปร์สเห็นว่าคนระดับเซนินยังเห็นด้วยกับเธอ เธอจึงคิดที่จะข้ามไปช่วยไอ้เมจพาร่างของผู้บาดเจ็บกลับมา..
“ไหนล่ะวะ กับดักอ่ะ..!!”ไอ้เมจที่วิ่งไปถึงตัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหันมาตะโกนถาม โดยที่พวกทหารก็ต่างพากันหันมาชักสีหน้าใส่ผม..
ฟุบ..
ไอ้เมจที่ทำการย่อตัวลงไปตรวจจับชีพจร ก่อนที่ร่างของมันจะหยุดชะงัก..
“เขาตายแล้ว พวกเราช้าไปเพียงแค่นิดเดียว..”ไอ้เมจที่ก้มหน้าคอตกลงไป ก่อนจะสบถกล่าวออกมา เมื่อเหล่าทหารได้ยินแบบนั้นก็ต่างพากันเบิกดวงตากว้างขึ้น สีหน้าของทุกๆคนกำลังแสดงออกถึงความโกรธและขมขื่น..
“เฮ้อ..”สไปร์สที่ยกฝ่ามือขึ้นมากุมขมับ ส่วนทางด้านของผมก็ไม่ได้พูดหรือแก้ตัวใดๆ
“แม่งเอ้ย..!!”ไอ้เมจที่ชันตัวลุกขึ้นตวาดกระแทกเสียง ก่อนที่มันจะเดินตรงเข้ามาหาผม พร้อมกับชี้หน้า..
“ฉันขอซัดหน้าแกสักหมัดเถอะว..ะ..”
เฟี้ยว..!!!!!!!!
ตู้ม..!!!!!
แพล๊ะ..!!
แต่แล้วภายในชั่วพริบตานั้น สไปร์สและเซนินรวมไปถึงเหล่าบรรดาทหารก็ต่างต้องพากันหยุดชะงัก ก่อนจะเบิกดวงตากว้างขึ้น
จากการที่จู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทที่พุ่งเข้ามาเป่าแขนของไอ้เมจข้างที่มันกำลังใช้ยกขึ้นมาชี้หน้าของผมจนขาดกระจุย อีกทั้งยังไม่สามารถระบุพิกัดของคนที่ยิงกระสุนแรงดันเวทนัดนี้ได้..
“เฮือก..! อะ..อ้ากกกกกกก..!!!”
“เออ..! ให้มันได้อย่างนี้สิวะ กูรอมานานแล้ว ไอ้ควายเอ้ย..! อยากเป็นวีรบุรุษงั้นเหรอ..? กลายเป็นเดชไอ้ด้วนไปซะเถอะ..!”เสียงของไอ้จ้อนที่ตะโกนออกมาด้วยความสะใจแบบยกกำลังสิบหลังจากที่มันอัดอั้นและเก็บกดมานาน หึ..เอาล่ะ ได้เวลาที่ตัวร้ายอย่างผมจะผงาดแล้ว อ้อ..ส่วนไอ้เมจก็ไม่ใช่พระเอกหรอกนะ พล็อตมันไม่ใช่ตั้งแต่ถูกกระบอกเหล็กหวดล่ะ..~
ไรท์:คอมเม้น..!!!