Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. – ตอนที่ 83

แสงที่ 83 พยัคฆ์ของจริง..! 

 

จะย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 นาทีที่แล้ว ซึ่งทันทีที่ผมได้มาเห็นลานกว้างแห่งนี้ ผมก็รับรู้ได้ถึงกลยุทธ์ของศัตรูในทันที สิ่งที่พวกศัตรูใช้มันเหมือนกับนายพรานที่กำลังวางกับดักเพื่อใช้ล่าเหยื่อ พวกมันได้เอาทหารจากเอลเดียมาใช้เป็นเหยื่อล่อ เพื่อที่จะให้พวกเราข้ามกำแพงเข้าไปในรัศมีการยิงหวังผลของพวกมัน..

โดยลานหิมะที่เห็นแม้จะเป็นลานกว้างโล่งๆที่ดูไม่มีอะไร แต่ทว่ามันกลับมีสิ่งที่ผิดปกติอยู่ สิ่งผิดปกติแรกคือทหารทั้งห้านายของเอลเดียกำลังนอนจมกองเลือดกันอยู่ถูกไหม..?

ถ้าให้คิดว่าพวกเขารอดตายและหลบหนีออกมาจากการปะทะก่อนหน้านี้จนมาถึงตรงจุดนี้ อย่างน้อยๆตลอดเส้นทางที่พวกเขาผ่านมามันจะต้องมีรอยเลือดที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตามทางตลอดแนว แต่ทว่ามันกลับไม่มี..

จึงทำให้ผมคาดเดาได้ว่าทหารของเอลเดียทั้งห้านายถูกพวกทหารจากไฮสโตเรียพามาทิ้งเอาไว้ที่นี่ ก่อนที่พวกมันจะกลับไปยังจุดซุ่มยิงและรอให้กองกำลังสนับสนุนของพวกเรามาติดกับดักนี้

โดยในระหว่างทางขากลับ พวกมันก็ได้ลบรอยเท้าของตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเราสะกดรอยตามจนไปเจอจุดซุ่มยิงของพวกมัน แต่การจะลบรอยเท้านั้นพวกมันจำเป็นที่จะต้องลบรอยเลือดของทหารทั้งห้านายที่หยดมาตลอดทางไปด้วย..

ซึ่งถ้าเกิดพวกมันรอบคอบและยอมที่จะเสียเวลาสร้างรอยเลือดปลอมๆขึ้นมาอีกสักหน่อย แผนการนี้ก็คงจะดูเป็นอะไรที่โครตจะเพอร์เฟค แต่ในมุมมองของผม ผมให้คะแนนแค่ 3 ใน 10 เท่านั้น

ซึ่งเมื่อผมอ่านสถานการณ์ทั้งหมดออกจนทะลุปรุโปร่งแล้ว ที่เหลือก็แค่หาทางยืนยันและพิสูจน์ว่าไฮสโตเรียมีพลซุ่มยิงอยู่จริงๆหรือไม่..

โดยสิ่งที่จะใช้ยืนยัน แน่นอนว่าจะต้องส่งใครสักคนให้เข้าไปโดนกับดักของพวกไฮสโตรเรีย ผมจึงเริ่มทำการวางแผนเพื่อที่จะเฟ้นหาผู้โชคดีคนนั้น จนกระทั่งบุรุษรูปงามผมสีเงินที่ชื่อว่าเมจก็เสนอตัวขึ้นมา เขาจึงได้รับสิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้..

“เฮือก..อ้ากกกกกก..!!!”ไอ้เมจที่ตาเหลือกถล่น มันพลันหันไปมองยังแขนขวาของตัวเอง ก่อนจะพบเพียงแค่ลำแขนที่กุดขาด จนทำให้มันถึงกับทรุดฮวบลงไปร้องตะโกนแหกปากออกมาด้วยความเจ็บปวด..

ซึ่งอานุภาพของกระสุนแรงดันเวทเมื่อสักครู่ ถึงมันจะมีขนาดที่เล็กกว่ากระสุนแรงดันเวทที่ผมเคยเห็น แต่ทว่ามันกลับมีอานุภาพที่รุนแรงกว่าหลายเท่า ราวกับกระสุนแรงดันเวทลูกนั้นถูกบีบอัดให้มีขนาดเล็กลง เพื่อที่จะยิงได้ไกลและแรงขึ้น..

“ทหารทุกนายเตรียมตัวให้พร้อม..!!!!”สไปร์สที่แผดเสียงตะโกนออกมา โดยที่เสียงของเธอได้ช่วยปลุกสติของทุกๆคน

“ปะ..เปิดวงจรเวท..!!”เหล่าทหารที่ต่างพากันเปิดวงจรเวท พร้อมกับบรรจุกระสุน พลางสาดส่องสายตามองหาต้นตอของกระสุนแรงดันเวทที่โจมตีเข้ามา..

“ปะ..เป็นไปได้ยังไงกัน..?”เซนินที่สบถออกมาอย่างอึ้งๆ เขาพลันหันมามองหน้าของผมเหมือนต้องการคำตอบ..

“ผมคงจะระแวงเพราะเมามากแน่ๆ ทำไมถึงได้เห็นภาพหลอนว่าไอ้เจ้านั่นมันถูกยิงจนแขนขาดกันนะ..”ผมที่กล่าวออกมาลอยๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าจากคำพูดนี้มันทำให้เซนินถึงกับสะอึก และได้แต่ก้มหน้าข่มอารมณ์เอาไว้..

“กรอด..! ไอ้สวะ แกอยู่ไหนวะ..!!? เปิดวงจร..!”ไอ้เมจที่กัดฟันข่มความเจ็บปวดเอาไว้ มันพลันชันตัวลุกขึ้นยืนและทำการเปิดวงจรเวท ก่อนจะเรียกให้ภูติตัวสีดำออกมา แต่ทว่า..

เฟี้ยว..!!!!!!

ตู้ม..!!!!!!

ทันทีที่ไอ้ภูติตัวสีดำโผล่ออกมา จู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทที่พุ่งเข้ามายังสีข้างของไอ้เมจ ทำให้เนื้อเยื้อตรงส่วนนั้นถูกเป่ากระจุยหายไปจนเนื้อแหว่ง 

อีกทั้งทิศทางที่กระสุนลูกนั้นพุ่งมามันยังมาจากอีกทิศทางไม่ใช่ทิศทางเดิม โดยที่กระสุนลูกแรกถูกยิงมาจากหุบเขาลาติส ส่วนอีกลูกถูกยิงมาจากเหนือหน้าผาช่องแคบทางซ้ายมือ..

แต่คนที่รู้ว่ากระสุนยิงมาจากทางไหนก็คงจะมีแค่ผม แม้แต่เซนินก็คงจะมองทิศทางของมันไม่ออก..

“อ้ากกกกกกก..!!!”ไอ้เมจที่ทรุดฮวบกลับลงไป ดวงตาของมันกำลังเหลือกถล่นด้วยความเจ็บปวด..

“ฉันจะไปช่วยไอ้เจ้านั่นเอง..”สไปร์สที่ทำท่าจะพุ่งออกไป แต่ก็ต้องถูกผมที่จับคว้าแขนเอาไว้..

“ห้ามออกไปช่วยเด็ดขาด นี่คือคำสั่ง..ถึงต่อให้เป็นท่านก็ไม่รอดหรอก ถึงแม้ท่านจะมีสกิลที่เอาไว้ใช้เพิ่มความเร็ว แต่ในช่วงจังหวะที่ท่านกำลังจะเข้าไปแบกไอ้เจ้านั่น ท่านจะตกกลายเป็นเป้านิ่ง..”ผมที่บอกกับสไปร์ส เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงัก สีหน้าที่แสดงออกเต็มไปด้วยความลำบากใจ ก่อนที่สุดท้ายแล้วเธอจะจำใจข่มตาลง..

“เข้าใจแล้ว..”สไปร์สที่กล่าวออกมา..

“ไม่ต้องห่วง..ไอ้เจ้านั่นจะได้กลายเป็นวีรบุรุษสมใจ การตายของมันจะช่วยทำให้ศัตรูเผยตำแหน่งออกมา และเมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะเข้าไปปิดล้อมไอ้พวกที่กำลังซุ่มโจมตีพวกเราอยู่

มันก็ช่วยไม่ได้แหละนะ ไอ้เจ้านั่นมันดื้อรั้นเอง ก่อนหน้านี้ผมว่าผมก็เตือนไปแล้วนะว่าอย่าได้ออกไป แต่มันกลับไม่ฟัง..”ผมที่กล่าวออกมา ซึ่งเมื่อสไปร์สและเหล่าทหารได้ยินก็ต่างพูดอะไรไม่ออก โดยเฉพาะอาเซีย สีหน้าของเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและตื่นตระหนก..

ตอนนี้ผลลัพธ์ของการขัดคำสั่งก็ได้ปรากฏออกมาแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือบทเรียนที่จะทำให้พวกทหารต้องมองผมใหม่..

เฟี้ยวๆ..!!!!!

ตู้ม..!!!!!!!

ทันใดนั้นจู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทอีกสองลูกที่ถูกยิงเข้ามา ลูกแรกยิงเข้าสู่ที่กลางหัวของไอ้เจ้าภูติจนสลายหายไป ทำให้วงจรเวทพลันถูกปิดโดยอัตโนมัติ ส่วนลูกที่สองนั้นมันได้พุ่งทะยานเข้ามายังขาของไอ้เมจตรงตำแหน่งข้อพับหัวเข่า จนทำให้ขาข้างนั้นต้องขาดกระจุยออกไป..

แพล๊ะ..!!!!

“อ้ากกกกกกก..!!!”ไอ้เมจที่ร้องตะโกนแหกปากออกมา ร่างของมันพลันเอนตัวหน้าคะมำลงไปกับพื้น..

“เมจ..!!!”อาเซียที่กู่ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก..

“ฮึก..ชะ..ช่วยด้วย คะ..ใครก็ได้..”ไอ้เมจที่เงยหน้าขึ้นมายังทิศทางของพวกเรา สีหน้าของมันในตอนนี้กำลังแสดงออกถึงความหวาดกลัวแบบสุดขีด นี่คือสภาพของคนที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับความตาย จนทำให้..

“อดทนไว้ พวกฉันจะไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ..!”เสียงของทหารนายหนึ่งที่ตะโกนขึ้น ก่อนที่เขาและทหารอีกนายจะกระโดดข้ามโขดหินและวิ่งตรงเข้าไปช่วยไอ้เมจ ไม่เว้นแม้กระทั่งอาเซีย..

ฟุบ..!!!

“เฮ้ย..กลับมานะ ฉันสั่งเอาไว้ว่ายังไง..!”ผมที่ตะโกนออกมา อะไรกัน..แม่งยังมีคนโง่ที่กล้าวิ่งออกไปช่วยจริงๆอยู่เหรอเนี่ย..

“ชิบหายแล้วไง..!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่จู่ๆหัวใจของผมจะกระตุกวูบ และสัมผัสได้ถึงอะดรีนาลีนที่กำลังสงบลง..

ในขณะเดียวกัน..

ณ จุดๆหนึ่งของหุบเขาลาติส..

ท่ามกลางหน้าผาของภูเขาลูกหนึ่ง ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือกองกำลังของไฮสโตเรียจำนวนสิบนายที่กำลังนอนหมอบระนาบอยู่กับพื้น 

“เรียนท่านฮิไรม์ ไอ้เจ้าพวกโง่นั่นมันออกมาช่วยแล้วครับ รอบนี้ออกมาสามคน..”เสียงของทหารไฮสโตเรียนายหนึ่งที่กล่าวรายงาน โดยที่ทางเบื้องหลังของมันมีร่างของหญิงสาววัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังนั่งไขว้ห้างสูบบุหรี่อยู่บนก้อนหิน..

โดยที่หญิงวัยกลางคนคนนี้เธอเป็นนักรบระดับ 4 และยังเป็นผู้นำของทหารกลุ่มนี้ จากตราสัญลักษณ์บนหมวกที่มีอยู่ด้วยกันถึง 4 ขีด

“หมายเลขหนึ่ง หมายเลขสองและหมายเลขสาม บรรจุกระสุน รอให้พวกมันเข้าไปใกล้ๆไอ้เจ้าเหยื่อตัวล่าสุดก่อน ค่อยยิงไปที่ขาของพวกมัน ระวังอย่ายิงให้ตายซะล่ะ พวกเราจำเป็นต้องใช้มันเป็นเหยื่อชุดต่อไป..”หญิงสาววัยกลางคนหรือฮิไรม์ที่ออกคำสั่งกับเหล่าทหาร ถึงเธอจะไม่ได้ยืนดูสถานการณ์อยู่ตรงขอบหน้าผาก็ตาม..

ซึ่งตรงบริเวณหน้าผาแห่งนี้อยู่ห่างจากแนวกำแพงโขดหินไปประมาณ 500 เมตร โดยที่กองกำลังทหารดังกล่าวคือหน่วยซุ่มยิงที่ถูกส่งให้มาสกัดกองกำลังสนับสนุนของเอลเดีย..

 

จุดสีแดง:ทหารเอลเดีย จุดสีเขียว:พลซุ่มยิงไฮสโตเรีย จุดสีชมพู:ทหารสองนาย จุดสีเหลือง:อาเซีย จุดสีน้ำเงิน:เมจ

 

“รับทราบ..! ทำการบรรจุกระสุน..”เสียงของทหารที่ขานรับ ก่อนที่ทหารสามในสิบจะทำการบรรจุกระสุน ร่างที่นอนอยู่พลันยืดแขนชี้นิ้วออกไปยังเป้าหมายทั้งสามที่อยู่ห่างไกลออกไป อีกทั้งที่ดวงตาของพวกเขายังสวมใส่แว่นตาชนิดพิเศษที่มีเลนยื่นออกไป จนสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลออกไปได้ 

 

แต่ถึงจะมองเห็นได้ไกล แต่ทว่ารัศมีการมองเห็นกลับแคบจะมองเห็นเฉพาะเพียงแค่จุดที่โฟกัสเท่านั้น ส่วนรัศมีโดยรอบจะมองไม่เห็น..

“เป็นไปได้ยังไงกัน กลุ่มที่สี่และห้าถูกกวาดล้างอย่างงั้นเหรอ..? ทั้งๆที่มีไอ้เจ้าเนโรกับซันย่าเป็นผู้นำเนี่ยนะ..”ฮิไรม์ที่สบถกล่าวออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ จากการที่กองกำลังของไฮสโตเรียกลุ่มที่สี่ได้ถูกกวาดล้างไป ทั้งๆที่มีนักรบระดับ 4 ถึงสองคนเป็นผู้นำกองกำลัง

ฟุบ..!

ทันใดนั้นวงแหวนเวทสีฟ้าจำนวน 4 วงที่คล้องอยู่บนแขนของทหารสามนายก็ได้ไหลจากแขนมาอยู่ที่ปลายนิ้ว โดยที่วงแหวนทั้ง 4 วง แต่ละวงกำลังขยายและหดตัวอยู่ตลอด

“ซู้ด..~!”ทหารทั้งสามนายที่สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด พร้อมกับกลั้นหายใจเอาไว้ ส่งผลทำให้วงแหวนทั้งสี่วงหดตัวเล็กลงจนมีขนาดที่เท่ากัน ก่อนที่ต่อจากนั้น..

เฟี้ยว..!!!!!~

ทหารทั้งสามนายที่ทำการปลดปล่อยกระสุนแรงดันเวท ก่อนที่กระสุนทั้งสามลูกจะพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง แรงถีบของการปลดปล่อยทำให้แขนที่วางตั้งถึงกับหงายชี้ขึ้น..

ฟุบ..

“ดูเหมือนใกล้จะถึงขีดจำกัดของพวกแกแล้วสินะ เวทนี้มันคงกินมานาไปเยอะจริงๆ หนึ่งคนยิงได้แค่ 2 นัด กว่าจะใช้ได้ใหม่ต้องรอมานาฟื้นฟูไปอีก 1 ชั่วโมง แต่ก็นะ..ยังไงอีกเดี๋ยวกลุ่มที่สองก็คงจะยิงสนับสนุนเองแหละ แล้วไหนจะกลุ่มที่สามที่กำลังซุ่มโจมตีอยู่อีก..”ฮิไรม์ที่กล่าวออกมา..

“เมจ..!”อาเซียที่ตะโกนเรียกขานเมจด้วยความเป็นห่วง เธอและทหารอีกสองนายที่กำลังวิ่งเข้าไปใกล้ที่จะเข้าไปถึงตัวของไอ้เมจแล้ว แต่ทว่า..

เฟี้ยวๆ ๆ ๆ.!!!!!!!

ตุ้มๆ ๆ ๆ..!!!

แพละๆ ๆ..!!!

ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทจำนวนสามลูกที่ทะยานเข้ามา ก่อนที่กระสุนสองลูกจะเป่าหัวของทหารทั้งสองนายจนแหลกกระจุย แต่ทว่ากระสุนลูกที่สามกลับพุ่งทะยานเฉียดขาของอาเซียไปแบบถากๆ..

“เวร..! ผมกับหมายเลขสอง พลาดครับ เข้าหัวจังๆเลย..”ทหารไฮสโตเรียหมายเลขหนึ่งที่หันไปบอกกับฮิไรม์ ทั้งๆที่เล็งขาแต่ทว่ากกระสุนกลับเคลื่อนเข้าไปที่หัว..

“สะ..ส่วนของผมเฉียดขาไปครับ..”หมายเลขสามที่กล่าวออกมา..

“ไอ้พวกโง่เอ้ย หมายเลขสี่ เตรียมตัว..ยิงที่ขาแล้วอย่าให้พลาดล่ะ..!”ฮิไรม์ที่สบถออกมา ก่อนจะออกคำสั่งกับหมายเลขสี่ ส่วนหมายเลขหนึ่งถึงสามก็คลานถอยออกมา เพราะถึงขีดจำกัดแล้ว..

“เฮือก..!”อาเซียที่หยุดชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาของเธอกำลังเบิกกว้างขึ้น เมื่อเห็นว่าทหารสองนายได้ถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา..

“อะ..อาเซีย ชะ..ช่วยฉัน ช่วยฉันเร็วๆเข้า..”ไอ้เมจที่กล่าวออกมา สีหน้าของมันกำลังแสดงออกถึงหวาดกลัวแบบถึงขีดสุด จึงทำให้อาเซียตั้งสติ ก่อนจะทำการใช้สกิลสร้างโล่บาเรียขึ้นมา..

ฟุบ..!

อาเซียที่สร้างโล่บาเรีย และเข้าไปช่วยพยุงไอ้เมจให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่เธอจะพยุงมันวิ่งตรงกลับมายังกำแพงโขดหิน แต่ทว่า..

เฟี้ยว..!!!!!!!

เพล้ง..!!!!!!

ทันใดนั้นจู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทที่พุ่งทะยานเข้ามาบรรจบชนเข้ากับโล่บาเรียจนมันแตกกระจายออก แรงปะทะทำให้อาเซียกระเด็นออกจากไอ้เมจ ก่อนจะล้มไปกองอยู่กับพื้น แต่ทว่าไอ้เมจที่ถูกพยุงกลับไม่กระเด็นไปด้วย

โดยที่อานุภาพการทำลายของกระสุนแรงดันเวท นอกจากที่มันจะสามารถทำลายบาเรียเวทได้แล้ว มันยังสามารถเจาะทะลุเข้ามา แต่โชคยังดีที่กระสุนแรงดันเวทนัดดังกล่าวไม่ได้พุ่งถูกตัวของอาเซีย จึงทำให้เธอรอดตายมาได้..

“อึก..”เมจที่กำลังยืนกระต่ายขาเดียวพลันหันไปมองยังอาเซีย เขาจ้องมองไปที่หญิงสาวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ส่วนทางอาเซียเองก็จ้องมองสบตากับเมจด้วยเช่นกัน แม้ว่าเธอจะหวาดกลัว แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาช่วยเขา ความผูกพันภายในกลุ่มเพื่อนและความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่าย มันทำให้เธอมีความกล้าขึ้น แต่ทว่า..ชีวิตจริงมันไม่สวยงามขนาดนั้น

ฟุบ..!

“เฮือก..!”ไอ้เมจที่หันหน้ากลับ ก่อนจะฝืนความเจ็บปวดรวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายกระโดดกระต่ายขาเดียวตรงไปยังโขดหิน โดยไม่คิดจะหันกลับมามองอาเซีย ปล่อยทิ้งให้เธอต้องตกเป็นเป้านิ่งอยู่อย่างนั้น

“มะ..เมจ..”อาเซียที่สบถออกมา เธอกำลังจ้องมองไปยังแผ่นหลังของเมจ..

ในตอนนี้ผู้ชายที่เคยบอกว่าชอบเธอและพยายามทำทุกวิถีทางให้ได้เธอมาเป็นคนรัก จนทำให้เธอเกิดความรู้สึกหวั่นไหวขึ้นภายในใจกลับทิ้งเธอเอาไว้ให้ต้องเผชิญหน้าอยู่กับความตายเพียงลำพัง..

สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้อาเซียถึงกับช็อค ดวงตาที่เบิกกว้างของเธอปรากฏหยดน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมา ก่อนจะไหลลงมาอาบแก้มทั้งข้าง..

“สตาร์..! ไปช่วยเธอ..!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา เมื่อเห็นว่าผมไม่คิดที่จะออกไปช่วยอาเซีย..

‘อะ..อึก กะ..ก็อยากจะทำแบบนั้นอยู่หรอก ตะ..แต่ตอนนี้มีปัญหาแล้ววะ..?’ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..

“อะไรวะ..?”

‘โหมด X กำลังจะปิดน่ะสิ..!’

“ชิบหาย..!!!!”

“รีบวิ่งมาเร็วเข้า..!!!”เสียงของทหารที่ตะโกนบอกกับไอ้เมจและอาเซีย โดยที่ไอ้เมจก็รีบกระโดดมาด้วยความรวดเร็ว แต่ทว่า..

เฟี้ยว..!!!!!!!!

ตู้ม..!!!!!!!

ท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาทหารที่กำลังรอรับไอ้เมจ และอาเซียที่กำลังนั่งช็อค จู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทที่ถูกยิงเข้ามา ก่อนจะเป่าทะลวงเข้าสู่ที่กลางเป้าของมัน..

ตุบ..!

 

“อ้ากกกกกกกกก..!!”

ร่างของไอ้เมจที่ถูกยิงของรักของห่วงพลันทรุดฮวบล้มหน้าคะมำ ก่อนจะตาเหลือกถล่นร้องตะโกนแหกปากออกมาเป็นครั้งสุดท้ายและแน่นิ่งไป

 

“เชี้ย..!!!! สะใจโว้ย..!!! แต่จะว่าไปแล้วเสียวแทนเลยวะ..?”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา อันที่จริงไอ้พวกศัตรูน่าจะเล็งขา แต่ทว่ากลับพลาดเป้าไปโดนไอ้นั่นซะงั้น

 

“อึก.. ทั้งๆที่เธอคนนั้นอุตส่าห์ออกไปช่วยแก แต่แกกลับทรยศทิ้งเธอเอาไว้..”เสียงสบถของไอรินที่ดังขึ้น

เมื่อผมหันไปมองก็พบว่าไอรินในตอนนี้กำลังนั่งก้มหน้ากำหมัดแน่น ก่อนที่จู่ๆเธอจะทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด ด้วยการกระโดดข้ามโขดหินและวิ่งออกไปช่วยอาเซีย..

“ยัยบ้า..! คิดจะทำอะไรของเธอน่ะ..!”ผมที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก..

“ขอโทษนะ ฉันทนเห็นเธอคนนั้นต้องตายเพราะไอ้สวะนั่นไม่ได้จริงๆ..”ไอรินที่กล่าวออกมา ก่อนที่เธอจะวิ่งตรงเข้าไปหาอาเซีย..

“ท่านฮิไรม์..เหยื่อล่อตัวแรกน่าจะถูกกำจัดแล้วครับ เป็นฝีมือของหน่วยที่สอง ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะกลัวว่าเหยื่อจะหนีไปได้ก็เลยตัดสินใจกำจัดทิ้ง..”เสียงทหารของไฮสโตเรียที่อยู่บนยอดเขาพลันกล่าวรายงานต่อฮิไรม์ โดยที่ในตอนนี้เธอได้สวมแว่นแล้วเขามาดูสถานการณ์ด้วยตัวเองแล้ว..

“อืม..หมายเลขสี่ ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมยิง พวกเรายังเหลือเหยื่ออยู่อีกหนึ่งตัว..”ฮิไรม์ที่กล่าวออกมา..

“รับทราบครับ..!”หมายเลขสี่ที่ตอบกลับ ก่อนจะเล็งนิ้วไปยังอาเซียที่กำลังนั่งอยู่..

“หะ..หืม ดูเหมือนจะมีเหยื่อโผล่ออกมาอีกตัวแล้วครับ..!”

ทันใดนั้นเสียงของทหารหมายเลขห้าก็กล่าวรายงานออกมา ทำให้ฮิไรม์ต้องหันกลับไปมอง ก่อนจะพบเข้ากับร่างของไอรินที่กำลังเคลื่อนตัววิ่งตรงเข้าไปช่วยอาเซีย..

“ปล่อยให้หน่วยที่สองจัดการ เล็งเป้าไปที่เหยื่อตัวเดิมของเรา..”ฮิไรม์ที่สั่งให้ทหารมุ่งความสนใจไปที่อาเซีย และปล่อยให้หน่วยซุ่มโจมตีที่สองที่ซุ่มอยู่อีกฟากเป็นคนจัดการกับไอริน..

ฟุบๆ ๆ ๆ

“จ่าสิบตรีไอรินกลับมาเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง..!”สไปร์สที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก แต่ทว่าไอรินกลับไม่สนใจ..

“เปิดวงจร..!”ไอรินที่ทำการเปิดวงจร ก่อนจะกางฝ่ามือทั้งสองออกไปข้างลำตัวและใช้เจมิไนท์สร้างโล่น้ำแข็ง พร้อมกับเคลือบมันด้วยเวทบาเรีย..

เฟี้ยว..!!!!!

ตุ้ม..!!!!!!!!

กระสุนแรงดันเวทที่ยิงมาบรรจบชนเข้ากับโล่น้ำแข็งทางฝั่งซ้าย แต่ทว่ากลับไม่สามารถเจาะทะลวงการป้องกันเข้ามาได้ โดยที่กระสุนนัดนี้ถูกยิงมาจากหน่วยซุ่มยิงที่สองของไฮสโตเรีย

ฟุบ..!

ร่างของไอรินที่เซไปทางขวาตามแรงอัดกระแทก โล่น้ำแข็งของเธอพลันปรากฏเป็นรอยร้าวขึ้น เมื่อเห็นแบบนั้นเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอาเซีย ก่อนจะมาหยุดยืนค้ำอยู่เหนือร่างของอีกฝ่าย..

“ธะ..เธอ ทะ..ทำไมถึงได้มาช่วยฉันล่ะ..?”อาเซียที่เอ่ยถามไอริน โดยที่อีกฝ่ายกำลังยืนกางแขนใช้โล่บดบังร่างของเธอเอาไว้..

“เหตุผลน่ะเหรอ เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้พวกเรารีบหนีกันเถอะ..”ไอรินที่บอกกับอาเซีย พอเธอได้ยินแบบนั้นก็ร้องไห้ออกมา ใบหน้าของหญิงสาวกำลังเบะย่น..

“ฮึก..ฮืออออ..” 

เฟี้ยว..

ตุ้ม..!!!!!

กระสุนแรงดันที่พุ่งทะยานเข้ามาประจบชนเข้ากับโล่ทางฝั่งขวา แรงกระแทกทำให้ไอรินที่ยืนอยู่ถึงกับเซจนล้มลงไปนั่งชันเข่า..

“อั่ก..ไม่มีเวลาแล้ว..! ลุกขึ้นมาซะ..!”ไอรินที่บอกกับอาเซีย แต่ทว่า..

“ก่อนหน้านี้ที่ฉันถูกโจมตีจนบาเรียเวทแตก ตอนที่ล้มมันก็ทำให้ข้อเท้าของฉันหัก..”อาเซียที่กล่าวออกมา 

เมื่อไอรินได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับชะงัก อาการของเธอในตอนนี้คงจะกำลังหน้าเสีย แต่ทว่าสีหน้าที่แสดงออกกลับยังคงเรียบนิ่ง..

“ธะ..เธอหนีไปเถอะ ฉันน่ะคงไม่รอดแล้วล่ะ..”อาเซียที่บอกกับไอริน เธอรู้ดีว่ายังไงอีกฝ่ายก็ไม่สามารถที่จะพยุงเธอไปได้ เพราะต้องคอยสร้างโล่น้ำแข็งป้องกันการโจมตี และถึงต่อให้เธอจะคลานไป ยังไงก็คงจะไปไม่ถึงโขดหิน..

แต่ถ้าเกิดให้ไอรินหนีไปคนเดียว ยังไงเธอก็คงจะกลับไปที่กำแพงโขดหินได้ทันก่อนที่โล่น้ำแข็งจะแตกอย่างแน่นอน.

“ไม่ได้การแล้ว..! ได้โปรดเถอะค่ะ สถานการณ์ในตอนนี้พวกเราจำเป็นที่จะต้องพึ่งท่าน ถ้าเกิดปล่อยให้จ่าสิบตรีไอรินตาย ทารอนต้องแย่แน่ๆ..”สไปร์สที่เห็นว่าท่าไม่ดีพลันหันไปกล่าวกับเซนิน อีกทั้งยังเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายออกมา..

“ท่านพันตรี ท่านพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจ เรียกผมซะสุภาพเชียว ถึงต่อให้ผมออกไป ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะช่วยพวกนั้นได้หรือเปล่า กระสุนแรงดันเวทนั่นมันมีอานุภาพที่รุนแรง ถึงต่อให้เป็นผมที่โดนเข้าไปยังไงก็ไม่รอดแน่ และที่สำคัญ..ไอ้คนที่ยิงมันไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น มันยังมีคนอื่นอยู่อีก ถ้าเกิดสามารถระบุพิกัดและจำนวนของมันได้อย่างแน่ชัดก็ยังพอจะหาทางหลบหรือป้องกันได้อยู่ แต่ประเด็นคือเรายังไม่รู้พิกัดและจำนวนคนของมันเลย..”เซนินที่ยังคงเล่นละคร แต่ทว่าสีหน้าของเขาที่แสดงออกมา มันกลับแสดงออกถึงความจริงจังว่าถึงต่อให้เป็นเขาก็ไม่อาจจะรับมือกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้ 

ซึ่งเมื่อสไปร์สได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับหน้าเสีย ส่วนเหล่าบรรดาทหารเองก็ได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวัง..

“ท่านพันตรี..ช่วยจัดการเงื่อนไขเอมพาสเริ่มต้นให้ผมด้วยครับ..”ผมที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่พลันบอกกับสไปร์ส ส่งผลทำให้เธอหันขวับมามองผม..

“ดะ..เดี๋ยวสิ นี่แกคงไม่ได้คิดที่จะออกไปช่วยพวกนั้นหรอกใช่ไหม..?”สไปร์สที่เอ่ยถามผม..

“ตอนนี้ผมพอจะระบุพิกัดคร่าวๆของศัตรูได้แล้ว ผมจะออกไปช่วยเอง..”ผมที่บอกกับสไปร์ส พร้อมกับจัดแจงผูกเชือกร้องเท้าของตัวเองให้แน่น พลางถอดเสื้อนอกออกจนเหลือแต่เสื้อลำลองหรือเสื้อยืดตัวสีดำ ก่อนจะนำมันไปยัดใส่มือของสไปร์สเอาไว้

“หืม..? แกเนี่ยนะจะออกไปช่วย ออกไปก็ตายเปล่าๆ..”เซนินที่กล่าวออกมา แต่ทว่าผมกลับไม่สนใจ ส่วนเหล่าบรรดาทหารที่ได้ยินแบบนั้นก็ต่างหันมามองผมอย่างอึ้งๆ..

“แต่ว่ามันเสี่ยงเกินไป ถ้าเกิดแกตายมันก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน ฉันจะตอบคำถามกับพวกท่านพลเอกและท่านเสาหลักทั้งสองยังไง..”สไปร์สที่กล่าวออกมา เมื่อเซนินได้ยินแบบนั้นก็หรี่ตาลง

‘เสาหลักทั้งสอง..’เซนินที่คิดด้วยความประหลาดใจ คนแรกคือเมอรัส แล้วอีกคนคือใครกันล่ะ..

“แล้วมันมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอครับ..? ยังไงก็เถอะ..ช่วยจัดการเงื่อนไขด้วยครับ..”ผมที่ถามกับสไปร์ส ก่อนจะขอให้เธอช่วยต่อเวลาในโหมด X 

ซึ่งเมื่อสไปร์สได้ยินแบบนั้นเธอก็แสดงสีหน้าลำบากใจ ก่อนที่สุดท้ายแล้วเธอจะข่มตาลง พร้อมกับใช้สองมือสอดเข้าในผ้าคลุมเพื่อปลดกระดุมเสื้อนอกออก..

ฟุบ..

ทันทีที่สไปร์สปลดถอดกระดุมเสื้อเสร็จ เธอก็ได้แหวกเสื้อออก ก่อนจะเผยให้เห็นชุดชั้นในตัวสีน้ำเงินที่ซ่อนอยู่ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงกับทำให้พวกทหารต่างพากันหน้าเหว๋อเบิกดวงตากว้างโต ไม่เว้นแม้กระทั่งเซนิน..

“เชิญ..”สไปร์สที่กล่าวออกมา พลางข่มตาลงด้วยความอับอาย ก่อนที่ผมจะ..

หมับ..!!!!

“ฮะ..เฮ้ย..!!!”เสียงของเหล่าบรรดาทหารบางส่วนที่เห็นเหตุการณ์พลันแหกปากร้องเสียงหลงรวมไปถึงเซนิน จากการที่ผมได้เอื้อมมือออกไปขยำหน้าอกของสไปร์ส..

《ชาร์จพลัง X ฟอร์ส 30 หน่วย》

เสียงของระบบที่แจ้งเตือนผสานกับอะดรีนาลีนภายในร่างที่พลุ่งพล่าน ร่างของผมที่นั่งอยู่พลันชันตัวลุกขึ้นมายืนหยัด ท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาทหารที่กำลังจ้องมองมากันตาถล่น.. 

“เปิดวงจร..จงออกมา X เซเบอร์..”ผมที่ทำการเปิดวงจร ก่อนที่ช่องว่างตรงกลางเป้าจะปรากฏออกมา ทำให้เหล่าทหารที่ยืนอยู่ทั้งทางซ้ายมือและขวามือต่างพากันตาถล่น..

ฟุบ..!

ผมที่ล้วงมือเข้าไปหยิบ X เซเบอร์ และกระโดดข้ามกำแพงไป ก่อนจะก้าวเดินตรงเข้าไปหาไอรินและอาเซีย..

“หมายเลขห้า..! ยังเล็งไม่เสร็จอีกเหรอ..?!”เสียงของฮิไรม์ที่เอ่ยถามต่อทหารหมายเลขห้า ในขณะที่หมายเลขสี่กำลังทำการรีโหลดกระสุน..

เฟี้ยว..!!!!!!

หมายเลขห้าที่ทำการยิงกระสุนแรงดันเวท ก่อนที่มันจะพุ่งทะยานไปบรรจบชนเข้ากับโล่น้ำแข็งทางฝั่งขวามือของไอริน เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่กองกำลังทหารไฮสโตเรียหน่วยที่สองซึ่งซุ่มอยู่อีกฟาก จะยิงกระสุนพลังเวทออกมาด้วยเช่นกัน..

เฟี้ยว..!!!!!

ตูม..!!!!!!!

เพล้ง..!!!!!!

เสียงระเบิดที่ดังสนั่น กระสุนแรงดันเวททั้งสองนัดได้พุ่งทะยานเข้ามาบรรจบชนโล่น้ำแข็งพร้อมกันโดยบังเอิญ ส่งผลทำให้มันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งแรงระเบิดที่อัดกระแทกเข้ามายังบีบอัดร่างของไอรินที่ยืนอยู่ตรงกลางให้ต้องทรุดตัวลงไป..

ตุบ..!

“ยะ..แย่แล้ว..”ไอรินที่กล่าวออกมา เธอเตรียมที่จะสร้างโล่น้ำแข็งใหม่ แต่ทว่าแขนทั้งสองข้างของเธอกลับชาจนขยับไม่ได้..

“โล่แตกแล้วครับ..!”หมายเลขห้าที่ตะโกนรายงาน..

“ดี..! ต่อไปก็..”ฮิไรม์ที่กล่าวออกมา เธอเตรียมที่จะออกคำสั่งต่อไป แต่ทว่า..

“ท่านฮิไรม์..มีเหยื่อติดกับอีกตัวแล้วครับ ตะ..แต่เดี๋ยวก่อนนะ ท่านครับ..! ไอ้เจ้านั่นมันกำลังเดินเข้ามาครับ..!”เสียงรายงานของทหารหมายเลขสี่ที่ดังขึ้น เมื่อสิ้นเสียงรานงานของเขา ฮิไรม์ที่ได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองยังร่างของเหยื่อตัวใหม่ที่กำลังเดินเข้ามา..

ซึ่งภาพที่ปรากฏสะท้อนอยู่ภายในแว่นตาส่องทางไกลของฮิไรม์ นั่นก็คือร่างของชายหนุ่มผมสีเงินที่กำลังเดินเข้าไปช่วยเหยื่อทั้งสองที่ติดกับดักอยู่อย่างใจเย็น ก่อนที่จู่ๆร่างๆนั้นจะทำในสิ่งที่ฮิไรม์ไม่คาดคิด..

ฟุบ..!

“ไอ้เวรนั่น มันคิดจะทำอะไรของมันวะ..?”ฮิไรม์ที่สบถออกมา เมื่อจู่ๆร่างของเหยื่อตัวนั้นก็กลับหยุดเดิน จนตกกลายเป็นเป้านิ่ง..

“แม่งคงจะเสียสติไปแล้ว หมายเลข 4 บรรจุกระสุนเสร็จหรือยัง..?”ฮิไรม์ที่สบถออกมา

“พร้อมยิงทุกเมื่อ เมื่อได้รับคำสั่งครับ..!”

“ดี..! ถ้างั้นเปลี่ยนเป้าหมาย ยิงไปที่ขาของไอ้เหยื่อตัวใหม่ก่อน..!”

“รับทราบ..!”

ฮิไรม์ที่ออกคำสั่ง ก่อนที่หมายเลขสี่จะขานรับพร้อมกับทำการยิงกระสุนแรงดันเวทออกไป..

เฟี้ยว..!!~

“แกทำบ้าอะไรอยู่..!”เสียงของสไปร์สที่ตะโกนออกมา ทันทีที่เธอเห็นว่าจู่ๆผมก็หยุดเดิน

และจากเสียงตะโกนของสไปร์ส มันก็ทำให้ไอรินกับอาเซียที่กำลังนั่งสิ้นหวังกันอยู่ต่างพากันหันมามองยังทิศทางของผม..

“อะ..อึก ทำไมกันล่ะ มะ..ไม่นะ..!”ไอรินที่สบถออกมา ดวงตาของเธอที่กำลังฉายแววพลันแสดงออกถึงความตื่นตระหนก ไม่เว้นแม้กระทั่งอาเซีย..

“ไม่นะ..!!!!!!”ไอรินที่ตะโกนออกมา จากการที่จู่ๆหางตาของเธอก็เหลือบชำเลืองไปพบเข้ากับแสงสว่างที่กำลังพุ่งทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูง ตรงเข้ามายังทิศทางของสตาร์

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ไอรินตะโกนออกมาจนสุดเสียงพร้อมกับร่างที่เตรียมจะลุกวิ่งเข้ามาช่วยผม แต่ทว่า..

เฟี้ยว..!!!

หวิ่ง..!!!!!

ฉ่า..!!!!

และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น แม้จะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา แต่ทว่าทุกๆคนต่างจับสังเกตเห็นมัน..

ภายในชั่วพริบตานั้นร่างของผมที่ยืนอยู่ก็ได้สะบัดข้อมือพร้อมกับเปิดการทำงานของดาบแสง ใบดาบที่ถูกตวัดได้ฟันปาดเข้าไปยังกระสุนแรงดันเวท จนมันสลายตัวหายไป..

“อะ..อึก..”สไปร์สกับเซนินรวมไปถึงเหล่าทหาร ไม่เว้นแม้แต่ไอรินกับอาเซีย ทุกๆคนต่างต้องพากันตาเหลือกถล่นจากภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น..

“หึ..!”ผมที่แสยะรอยยิ้มออกมา ดอกเมื่อกี้ใครเห็นก็ว่าฟลุ๊ค ถ้างั้นมาลองดูอีกดอกก็แล้วกัน

เฟี้ยว..!!!!!

หวิ่ง..!!!

ฉ่า..!!!!

ผมที่เปิดการทำงานของดาบแสงอีกครั้ง ก่อนจะตวัดข้อมือปัดกระสุนแรงเวทอีกนัดที่ยิงมาจากอีกทิศทางจากฝั่งซ้ายมือ จนมันแหลกสลายหายไป..

“บะ..บ้าน่า..!”เซนินที่สบถออกมาด้วยความตกตะลึง..

เฟี้ยวๆ ๆ

กระสุนแรงดันเวทอีกสองนัดที่ถูกยิงตามมาติดๆ ผมที่ยืนอยู่พลันเหวี่ยงข้อมือสองจังหวะปัดกระสุนทั้งสองนัด ก่อนจะทำการปิดสวิตซ์ของดาบแสง พร้อมกับใช้มือข้างที่ถือด้ามดาบเสยผมเปิดหน้าผากขึ้น..

ตึกๆ..

ผมที่ค่อยๆยกฝ่ามืออีกข้างที่ว่างเปล่าขึ้นมา ก่อนจะใช้นิ้วชี้เคาะลงไปที่หน้าผากของตัวเอง พลางหันหน้าสลับซ้ายขวาไปยังพิกัดที่ศัตรูอยู่ราวกับกำลังท้าทายให้พวกมันยิงเข้ามาที่กลางหน้าผาก..

ท่ามกลางเหล่าบรรดาทหารของเอลเดียที่เห็นเหตุการณ์ ทุกๆคนได้แต่ยืนอ้าปากช็อคค้างตาเหลือกถล่นจากการกระทำของสตาร์ แตกต่างจากไอรินที่ในตอนนี้กำลังหยุดชะงัก สายตาของเธอกำลังโฟกัสไปที่ใบหน้าของชายหน่ม เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นใบหน้าเต็มๆของเขา..

ซึ่งภาพที่สะท้อนอยู่ภายในแววตาของไอริน นั่นก็คือภาพใบหน้าของชายหนุ่มรูปงามที่สะกดสายตา จนมันทำให้หัวใจของเธอต้องเต้นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ ทั้งๆที่สถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องพรรค์นี้.

“หึๆ ไอ้พวกนายพรานกระจอก เดี๋ยวฉันจะแสดงให้พวกแกได้เห็นถึงความแตกต่างเองว่าระหว่างพยัคฆ์ของจริงกับของปลอมมันเป็นยังไง..”ผมที่กระตุกรอยยิ้มออกมา ก่อนจะโยกตัวหลบกระสุนแรงดันเวทกว่าหลายนัดที่ถูกยิงเข้ามาจากทั้งสองทิศทาง..

เฟี้ยวๆ ๆ ๆ

ตุมๆ ๆ ๆ 

“ไม่โดน..~ ยิงยังไงก็ไม่โดน วู้หู้ว..!!!! มาเซ้ เข้ามา..!!!!!!”เสียงของไอ้จ้อนที่ตะโกนกู่ร้องอย่างบ้าคลั่ง ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหากล่ะ..!

 

Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ..

Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ..

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ..แสงที่ 1 ชายผู้หลงไหลในดาบแสงและสงครามแห่งดวงดาว.. สงครามคือสิ่งที่อยู่กับมวลมนุษย์มาตั้งแต่ที่อารยธรรมถือกำเนิดขึ้นบนผืนโลก เหตุของการเกิดสงครามมาจากคนสองกลุ่มหรือมากกว่านั้นที่เกิดความขัดแย้ง ณ คอนโดแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองหลวงในประเทศเล็กๆที่มีผู้นำโง่ๆ [มันจบแล้วอนาคิน..~] เสียงตะโกนของตัวละครชายผู้หนึ่งที่ดังออกมาจากภายในจอของโน๊ตบุ๊ค โดยที่ตัวละครดังกล่าวกำลังยืนอยู่บนหินเหนือธารลาวาที่กำลังปะทุ ภายในห้องแคบๆที่มืดสนิทของคอนโดที่เกือบจะรกร้างปรากฏเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังนั่งกอดเข่าของตัวเองอยู่บนเก้าอี้ เขาเป็นชายที่มีรูปร่างสูงโปร่ง เส้นผมที่ปล่อยยาวจนถึงบ่าดูกระเซอะกระเซิงลงมาปรกหน้าราวกับไม่เคยหวี่หรือดูแลมัน โดยที่ในเวลานี้สายตาของชายคนดังกล่าวกำลังจับจ้องไปยังหนังที่ดูซ้ำและซ้ำเล่ากว่าหลายพันครั้ง จนเกือบจะจำบทพูดและเนื้อเรื่องได้.. “เฮ้อ..~ ข้าเกลียดท่าน..!”เสียงถอนหายใจของชายวัยกลางคนที่เอ่ยบทพูดของตั

Comment

Options

not work with dark mode
Reset