แสงที่ 84 บดขยี้ทุกสิ่ง..!
ท่ามกลางกองกำลังของไฮสโตเรียที่ได้แต่นอนช็อคอ้าปากค้าง หลังจากที่หมายเลขห้าทำการยิงกระสุนแรงดันเวทนัดที่สองเข้าใส่เหยื่อตัวใหม่ซ้ำอีกครั้ง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“ทะ..ท่านครับ..! มะ..มันใช้ดาบประหลาดปัดกระสุนแรงดันเวทเราได้อีกแล้วครับ แถมมันยังปัดกระสุนแรงดังเวทของหน่วยที่สองได้ด้วย..!”เสียงรายงานของหมายเลขห้าที่ดังขึ้น
“บะ..บ้าน่า นะ..นี่ มันเรื่องบ้าอะไรกัน..?”ฮิไรม์ที่ถึงกับหน้าเสียกล่าวออกมา สายตาของเธอกำลังจ้องมองไปยังร่างของเป้าหมายที่หยุดนิ่ง ก่อนที่เธอจะชะงักไป เมื่อจู่ๆเป้าหมายก็หันมามองยังทิศทางของเธอ..
“อะ..อึก..ทุกนาย ถะ..ถอยออกม..า หะ..หืม..? เดี๋ยวนะ..”ฮิไรม์ที่กำลังจะตะโกนออกคำสั่งกับเหล่าทหาร เมื่อเห็นว่าศัตรูหันมามองยังพิกัดที่เธออยู่ แต่ทว่าเธอกลับต้องหยุดชะงัก จากการกระทำของศัตรูคนดังกล่าวที่ทำการเสยผมขึ้น พร้อมกับใช้นิ้วเคาะลงไปบนหน้าผากเหมือนกำลังท้าทายให้เธอยิงแสกหน้าของเขา..
ซึ่งภาพที่สะท้อนผ่านเลนส์แว่นตาส่องทางไกล มันทำให้ฮิไรม์ค่อยๆก้มหน้าลง ก่อนที่เธอจะสบถออกมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยือกว่า..
“หมายเลขหก หมายเลขเจ็ด บรรจุกระสุน..แล้วฆ่าไอ้เวรนั่นทิ้งซะ..!!!!”ฮิไรม์ที่แผดเสียงตวาดออกมาด้วยความโกรธ ก่อนที่เหล่าทหารจะส่งเสียงขานรับ..
“รับทราบ..!! บรรจุกระสุน ล็อคเป้าหมาย ยิง..!!!!”หมายเลขเจ็ดและหมายเลขแปดที่ทำการบรรจุกระสุน ก่อนจะพร้อมใจกันปลดปล่อยกระสุนแรงดันเวทยิงออกไปยังร่างของสตาร์ แต่ทว่า..
เฟี้ยวๆ ๆ
ตุ้มๆ ๆ..!!!
“เฮ้ย..!!!!!”ฮิไรม์และเหล่าทหารที่ต่างพากันร้องตะโกนแหกปาก เมื่อร่างของศัตรูที่ยืนอยู่กลับเอี่ยวตัวหลบกระสุนแรงดันเวททั้งสองนัด มิหน่ำซ้ำร่างๆนั้นยังหลบกระสุนแรงดันเวทกลุ่มที่สองที่ยิงออกมาพร้อมกันได้ด้วย รวมแล้วเป็นสี่ลูก..
“ทะ..ทุกนายบรรจุกระสุน ฆ่ามัน..! ฆ่าไอ้เจ้านั่นซะ..! ไอ้เวรนั่นน่ะ มันเป็นปีศาจ..”ฮิไรม์ที่ตะโกนออกคำสั่งด้วยความตื่นตระหนก..
ตัดกลับมาที่สตาร์..
“อะไรกัน..? ขนาดเปิดเถิกให้ยิงแล้วนะเนี่ย..”ผมที่สบถออกมาอย่างเซงๆ เมื่อหันไปมองข้างหลังก็พบเข้ากับสไปร์สและเซนิน รวมไปถึงเหล่าทหารที่กำลังยืนตาเหลือกอ้าปากช็อคค้างกันอยู่..
“หึ..ข้างหน้ามีหนูซ่อนอยู่อีกสิบตัวสินะ..”ผมที่สบถกับตัวเอง คงจะมีเพียงแค่ผมที่สังเกตเห็นว่าภายในลานหิมะแห่งนี้ มันมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่..
ฟุบ..!
ผมที่ออกตัวก้าวเดินไปข้างหน้า ในระหว่างนั้นก็คำนวนวิถีกระสุน เท่าที่ดูจากวิถีกระสุนแล้ว ศัตรูทั้งสองกลุ่มที่ซุ่มอยู่จากทั้งสองทิศทางมีจำนวนอยู่ด้วยกัน 7 คน แต่มันอาจจะมีมากกว่านั้น
แถมวิถีกระสุนที่พุ่งมายังบ่งบอกว่าพวกมันกำลังนอนเรียงกันอยู่เป็นตับ ประกอบกับวิถีกระสุนที่เปลี่ยนไปในทุกๆครั้งที่ยิง จึงทำให้ผมคาดเดาได้ว่าพลซุ่มยิงหนึ่งคนสามารถยิงกระสุนได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น ก่อนจะเปลี่ยนให้คนที่นอนอยู่ข้างๆมายิงต่อ..
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ
ทันใดนั้นจู่ๆก็มีกระสุนแรงดันเวทที่ถูกยิงเข้ามาจากทั้งสองทิศทาง ทิศทางละ 5 นัด รวมเป็น 10 กะแล้วเชียวว่าทั้งสองกลุ่มมีจำนวนมากกว่าเจ็ดคน ตอนนี้นับได้ 10 คน
หวิ่ง
ฉ่าๆ ๆ
ผมที่เปิดการทำงานของดาบแสง ก่อนจะตวัดคมดาบปัดป้องกระสุนแรงดันเวททั้งสี่นัด พร้อมกับย่อตัวลงนั่งยองๆ พลางป้องปากหาว ส่วนเหตุผลที่ผมต้องยั่วโมโหพวกมันก็เพื่อที่จะดึงความสนใจไม่ให้มันยิงไปที่ไอรินกับอาเซีย และก็ดูเหมือนว่าจะเป็นผล..
“ยิงมัน..!!!!!!!!”ฮิไรม์ที่แผดเสียงตะโกนออกมา
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
กระสุนแรงเวทที่ถูกปลดปล่อยพลันพุ่งทะยานตรงเข้ามายังทิศทางของผม กระสุนจำนวนกว่า 10 นัดได้ถูกยิงเข้ามา..
ฟุบ..!
ผมที่กำลังนั่งยองๆพลันดีดตัวกระโดดไปข้างหน้า เพื่อหลบกระสุนแรงดันเวททั้งหมด ก่อนจะกลิ้งม้วนตัวหนึ่งจังหวะและลุกกลับขึ้นมายืน..
“อีกแค่ 6 นัด..”ผมที่สบถออกมา ดูเหมือนว่ากระสุนของศัตรูจะเหลืออีกเพียงแค่ 6 นัด และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ
กระสุนจำนวนหกนัดที่พุ่งทะยานเข้ามา และอาจจะเป็นทั้งหมดที่เหลืออยู่..
ฟุบๆ ๆ
ตู้มๆ ๆ ๆ
ผมที่เอี่ยวตัวโยกตัวหลบสลับซ้ายขวาราวกับเดอะแมททริก ทำให้กระสุนทั้งหกนัดพุ่งเฉี่ยวร่าง ก่อนจะไประเบิดลงที่พื้น..
“บ้าน่า..!!!!!!!!!!!!”ฮิไรม์ที่แผดเสียงตะโกนออกมา ในตอนนี้สีหน้าของเธอดูบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้ เหล่าทหารทุกๆหมายเลขรวมไปถึงหน่วยซุ่มยิงที่สองที่เหลืออยู่ได้ปลดปล่อยกระสุนแรงดันเวททั้งหมดที่มีออกไป แต่กลับไม่สามารถทำอะไรเหยื่อตัวนั้นได้เลย..
“ทะ..ท่านครับ พะ..พวกเราควรจะทำยังไงต่อ..”หมายเลขหนึ่งที่หันมาเอ่ยถามต่อฮิไรม์..
“หะ..หึ เรายังมีหน่วยที่สามอยู่ ยังไงไอ้เจ้านั่นก็ไม่รอดแน่ๆ เอาล่ะ..!”
ฟุบ..
ฮิไรม์ที่กล่าวออกมา พร้อมกับแสยะรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะชันตัวลุกขึ้นยืน
“ส่งสัญญาณให้หน่วยที่สามเข้าจู่โจม ส่วนพวกเราจะแอบลอบเข้าไปโจมตีไอ้พวกที่ซ่อนตัวอยู่หลังโขดหิน..!”ฮิไรม์ที่ออกคำสั่งกับทหาร ก่อนที่หมายเลขสองจะหยิบแตรเขาสัตว์เอาออกมาเป่า..
ฟุบ..
ร่างของผมที่ก้าวเดินไปจนถึงตัวของไอรินและอาเซีย ในตอนนี้พวกเธอที่นั่งอยู่กำลังเบิกดวงตากว้างโตเป็นไข่ห่าน..
“สะ..สตา..ร์..”อาเซียที่กำลังจะอ้าปากกล่าวกับผม แต่ทว่าผมที่เดินเข้ามากลับทรุดตัวลงไปหาไอริน พร้อมกับเอื้อมไปจับมือของเธอขึ้นมาดูแสดงความเป็นห่วงเป็นใย..
“เป็นอะไรหรือเปล่า..?”ผมที่ถามกับไอริน..
“ฉะ..ฉัน มะ..ไม่เป็นไร นายไม่ต้องห่วงฉัน ตอนนี้นายระวังตัวก่อนเถอะ พวกมันอาจจะกำลังซุ่มโจมตีเราอยู่ก็ได้..”ไอรินที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก..
“อย่าลดการป้องกัน..!!!”สไปร์สที่ตะโกนบอกผม เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่..
แปร..~~~
ทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงแตรที่กึกก้องไปทั่วทั้งหุบเขา ดูเหมือนว่าไอ้พวกที่ซุ่มยิงกำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ไม่แน่ว่าสัญญาณนั้นอาจจะเป็น..
“หมอบลง..แล้วนั่งอยู่เฉยๆ ห้ามขยับตัวเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงเชื่อในตัวของฉันอย่างที่ฉันเชื่อในตัวของเธอ..”ผมที่บอกกับไอริน ซึ่งจากคำพูดนี้มันก็ทำให้ไอรินหยุดชะงักไปชั่วขณะ เธอดูเหมือนจะไม่เข้าใจ ส่วนอาเซียที่โดนประโยคนี้เข้าไปก็ถึงกับหน้าชา..
“นะ..นายหมายถึงอะไ..ร..?”
ฟุบ..!!!!
พรึ้บ..!!!!!!
ยังไม่ทันที่ไอรินจะได้เอ่ยถามอะไรกับผม จู่ๆทันใดนั้นร่างของทหารไฮสโตเรียจำนวนสิบคนที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้กองหิมะก็เผยตัวออกมา ทำให้อาเซียกับไอรินถึงกับหน้าถอดสี..
“ไฮสโตเรีย..!!!!!”สไปร์สที่แผดเสียงตะโกนบอกกับผม ท่ามกลางร่างของผมกับหญิงสาวทั้งสองที่กำลังนั่งอยู่ ในตอนนี้พวกเรากำลังถูกข้าศึกที่ยืนล้อมเป็นวงกลมอยู่รอบด้าน..
“ฆ่าไอ้สวะเอลเดียนั่นซะ..!!!”เสียงตะโกนของหนึ่งในทหารจากไฮสโตรเรียที่ดังกึกก้อง
โดยที่การปรากฏตัวของพวกมัน ดูเหมือนว่าพวกมันจะเปิดวงจรเตรียมพร้อมเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่โผล่ออกมาทหารแต่ละนายก็ต่างยกแขนขึ้น ก่อนจะกราดยิงกระสุนแรงดันเวทเข้าใส่ผมและหญิงสาวทั้งสอง..
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่..!!!!!!!!!”สไปร์สที่กู่ร้องออกมาจนสุดเสียง ส่วนทางด้านของอาเซียกับไอรินก็ข่มตาลงแน่น..
ฟุบ..!
“หึ..!”
ภายในชั่วพริบตานั้น ผมที่ยืนอยู่พลันแสยะรอยยิ้มออกมา พร้อมกับทำการกดเปิดสวิตซ์ของดาบแสง ก่อนที่จะ..
“สตาร์เบริสตรี…”ไอ้จ้อนที่ตะโกนชื่อท่าออกมา..
หวิ่งๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ฉ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ผมที่ตวัดดาบแสงด้วยความเร็วสูง พร้อมกับหมุนตัวเป็นวงกลมใช้มันปัดป้องกระสุนแรงดันเวทที่พุ่งทะยานเข้ามาจากทุกทิศทาง ทำให้กระสุนแรงดันเวทเหล่านั้นพลันสลายหายไปในอากาศ..
หวิ่งๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“อะ..อึก..”ไอรินกับอาเซียที่ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น ทันทีที่พวกเธอลืมตา ภาพที่ปรากฏให้เห็นก็ถึงกับทำให้พวกเธอต่างต้องพากันอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก..
ในตอนนี้ร่างของสตาร์ที่กำลังยืนค้ำอยู่เหนือร่างของพวกเธอกำลังตวัดคมดาบปัดป้องการโจมตีที่พุ่งเข้ามา มีอยู่หลายครั้งที่กระสุนแรงดันเวทบางนัดได้พุ่งทะยานเข้ามาหาพวกเธอ แต่กระสุนเหล่านั้นก็กลับต้องถูกใบดาบสีแดงที่ตวัดเข้ามาปัดป้องเอาไว้..
ซึ่งสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้คงไม่ต้องบรรยายว่าสไปร์สกับเซนินรวมไปถึงเหล่าทหารจะแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน แน่นอนว่าทุกๆคนกำลังช็อคจนตาค้าง..
หวิ่งๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ฉ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“บ้าน่า..?!!!”
“ทะ..ทำไมทำอะไรมันไม่ได้เลย..”
“ชะ..ใช่ดาบปัดกระสุนเนี่ยนะ..?!”
เสียงของไอ้พวกไฮสโตเรียที่เริ่มจะตื่นตระหนก ใบหน้าของมันเริ่มที่จะบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ..
ท่ามกลางร่างของผมที่กำลังหมุนรอบตัวควงตวัดดาบแสงไปมา มีอยู่หลายจังหวะที่ผมต้องเอี่ยวตัวหลบ ผมเลือกที่จะปัดเฉพาะกระสุนที่จะเข้ามาทำอันตรายต่อตัวของผมและหญิงสาวทั้งสอง เพราะถ้าจะให้ปัดทุกนัดก็คงจะไม่ได้ จากกระสุนห้าสิบนัดที่กระหน่ำยิงเข้ามา..
ฉ่า..!!!!
ผมที่ตวัดดาบปัดกระสุนนัดสุดท้ายที่กำลังจะพุ่งเข้ามายิงแสกหน้า ก่อนจะรีบปิดการทำงานของดาบแสง..
“บ้าน่า..!!!!”เสียงตะโกนกู่ร้องของไอ้พวกทหารไฮสโตเรีย ใบหน้าของพวกมันในตอนนี้บิดเบี้ยวจนดูไม่ได้..
“กระสุนแรงดันเวทห้าสิบนัด นั่นคือการโจมตีทั้งหมดที่พวกแกสิบคนทำได้อย่างงั้นเหรอ..?”ผมที่ก้มหน้าสบถถามออกมา ท่ามกลางไอ้พวกไฮสโตเรียที่ผงะก้าวถอยหลังและเตรียมที่จะรีโหลดกระสุน..
“หึ..ถ้างั้นถึงตาฉันบ้าง..!”
พรึ้บ..!
ผมที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา พร้อมกับทำการล้วงมือเข้าไปในผ้าคลุมคว้าเอามีดสั้นจำนวนสองเล่มที่เหน็บเอาไว้ ก่อนสะบัดกางแขนทั้งสองข้างออกข้างลำตัวปลดปล่อยมีดสั้นออกไปอย่างรวดเร็ว..
ซึ่งในช่วงจังหวะที่ผมกางแขน มันก็ทำให้ผ้าคลุมโบกสะบัดขึ้น จนเผยให้เห็นมีดสั้นจำนวนกว่าสามสิบเล่มที่ถูกเหน็บซ่อนเอาไว้อยู่รอบตัวของผม
ซึ่งก็แน่นอนว่าหลังจากที่จบศึกกับพวกไอ้พวกโนโทเปีย ก่อนที่ผมจะถูกเรียกตัวมายังศูนย์บัญชาการของหน่วยพยัคฆ์คลั่ง ผมก็ได้นำมีดสั้นทั้งหมดมาเช็ดทำความสะอาดและเหน็บติดตัวเอาไว้กับชุดลำลองสีดำตลอด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อกี้ผมถึงต้องถอดเสื้อนอกออก..
ฟ้าวๆ..!!!!!
ฉึกๆ..!!!!!
มีดสั้นทั้งสองเล่มที่ถูกขวางปาพลันทะยานปักเข้าที่กลางหน้าผากของทหารทั้งสองนายของไฮสโตเรียอย่างแม่นยำจนพวกมันหงายหลังล้มตึงลงไปนอนตายอยู่ที่พื้น
ฟุบๆ ๆ ๆ
ฟ้าวๆ ๆ ๆ
ฉึกๆ ๆ ๆ
ผมที่หยิบมีดสั้นออกมาอีกสองเล่มพร้อมกับเหวี่ยงแขนขวางปามันออกไปทะยานปักเข้าสู่กลางหน้าผากของเป้าหมายอีกสองนายอย่างแม่นยำ..
ก่อนที่ต่อจากนั้นมหกรรมปาโป่งงานวัดจะเริ่มต้นขึ้น ร่างของผมที่ยืนอยู่ได้คว้ามีดออกมาก่อนจะหมุนไปรอบตัวและปามันออกไปอย่างรวดเร็ว..
ฟ้าวๆ ๆ
ฉึกๆ ๆ ๆ
ฟ้าวๆ ๆ ๆ ๆ
ฉึกๆ ๆ ๆ ๆ
ภายในชั่วระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 10 วินาที ร่างของทหารไฮสโตเรียทั้งหมดที่ยืนอยู่ก็ถูกมีดสั้นของผมปักเข้าไปที่กลางหน้าผาก ร่างของพวกมันหยุดนิ่งไม่ไหวติง ก่อนที่ต่อจากนั้น..
“ล้มไปซะ ไอ้พวกขนตูด..!”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา น้ำเสียงของมันฟังดูสะใจแบบสุดๆ
ตุบ..!!!!
ร่างทั้งแปดที่หงายหลังพร้อมกัน ก่อนจะล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น หนึ่งในนั้นมีผู้นำทหารที่บนหมวกมีตราสัญลักษณ์อยู่ 4 ขีด ไอ้เจ้านั่นเป็นเพียงคนเดียวที่ทำท่าเหมือนจะหลบมีดผมได้ แต่สุดท้ายก็หลบไม่พ้น เพราะถูกผมปามีดดักทางเอาไว้..
“ปิดวงจร..”ผมที่เก็บ X เซเบอร์เข้าไปในช่องว่าง พร้อมกับทำการปิดวงจร โดยที่ไอรินกับอาเซียในตอนนี้ พวกเธอกำลังนั่งช็อคพูดอะไรไม่ออก
“เธอไม่บาดเจ็บตรงไหนนะ..?”ผมที่ถามกับไอริน..
“มะ..ไม่..”ไอรินที่ตอบกลับ ดวงตาของเธอในตอนนี้นอกจากจะกำลังตกตะลึงอยู่ มันยังเปล่งประกายแสงระยิบระยับ..
“ไม่ต้องมาทำตาแบบนั้นเลย เธอขัดคำสั่งฉัน..ถ้าเกิดว่าฉันไม่ออกมาช่วย เธอคงตายไปแล้วด้วยซ้ำ..”ผมที่กล่าวกับไอรินด้วยน้ำเสียงดุๆ แต่นอกจากเธอจะไม่สลด เธอยังทำตาเป็นประกายหนักกว่าเดิม
“เธอเองก็ด้วย อย่าคิดว่าจะรอด..”ผมที่หันไปกล่าวกับอาเซีย แต่ทว่าสีหน้าของผมในตอนที่คุยกับเธอ มันต่างจากตอนที่คุยกับไอรินอย่างลิบลับ..
“อะ..อึก อะ..อืม..”อาเซียที่ดูเหมือนจะกำลังจิตตกเรื่องของไอ้เมจอยู่พลันตอบกลับ แต่ถึงมันจะเป็นแบบนั้นผมก็อดที่จะสงสารเธอไม่ได้
ฟุบ..!
“อะ..อ้ะ..?”อาเซียที่ร้องออกมา เมื่อจู่ๆผมก็ได้สอดแขนอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าหญิง
“สถานการณ์น่าจะคลี่คลายแล้ว ยังไงพวกเรากลับไปที่โขดหินกันก่อน..”ผมที่หันไปบอกกับไอริน พอเธอได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเบาๆ แต่ทว่าแววตาของเธอที่มองผมมันกำลังแสดงออกถึงความไม่พอใจอยู่นิดๆ น่าจะเป็นเพราะว่าผมกำลังอุ้มอาเซียอยู่..
“สะ..สตาร์..”อาเซียที่ส่งเสียงเรียกขาน เธอค่อยๆเอื้อมมือขึ้นมาโอบคล้องคอของผม..
“ว่าไง..?”
“ขะ..ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆที่เข้ามาช่วย ฮึก..”อาเซียที่กล่าวออกมา พร้อมกับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้..
“อย่าได้เข้าใจผิด ฉันไม่ได้อยากจะเข้ามาช่วยเธอเลยสักนิด ฉันก็แค่ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่ได้รับมอบหมายก็เท่านั้น..”ผมที่กล่าวออกมา โดยไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองอาเซีย คำตอบนี้มันคงจะทำให้เธอเจ็บปวดอยู่ไม่ใช่น้อย..
“ฮึก..นายยังเกลียดฉันอยู่สินะ..?”อาเซียที่ถามผม น้ำตาที่เอ่อคลอค่อยๆไหลรินออกมา..
“เปล่า..ฉันไม่ได้เกลียดหรือโกรธเธอเลยสักนิด..”ผมที่บอกกับอาเซียในขณะที่กำลังเดินกลับไปยังโขดหิน ซึ่งเมื่อเธอได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองผม แต่ทว่า..
“แต่ฉันเกลียดและโกรธตัวเองที่ครั้งหนึ่งเคยรักและเชื่อใจเธอ..”ผมที่กล่าวออกมาด้วยสีหน้าและแววตาที่เย็นชา สิ่งที่ผมได้พูดออกไป มันทำให้อาเซียที่ได้ยินต้องเบิกดวงตากว้างขึ้น ก่อนที่ใบหน้าของเธอจะเบะย่นอย่างหนัก พร้อมทั้งปล่อยโฮออกมา
โดยที่การสนทนาระหว่างสตาร์กับอาเซีย ไอรินที่เดินตามมาเธอก็ได้ยินทุกอย่าง หญิงสาวนั้นเกือบจะชะงักไป เมื่อรู้ว่าทั้งสองเคยเป็นอดีตคนรักกัน
“แต่ก็ช่างมันเถอะ..เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วกันไป ยังไงก็ไม่สามารถเรียกคืนอะไรกลับมาได้ ก็อย่างที่เธอบอกกับฉันก่อนหน้านี้นั่นแหละ พวกเราน่ะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว..”ผมที่พยายามตอกย้ำอาเซียด้วยคำพูด พยายามทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุด ถ้าให้เทียบกับสิ่งที่เธอเคยทำกับเจ้าของร่างแล้ว แค่นี่มันยังถือว่าน้อยเกินไป..
“ฉันน่ะไม่ได้อยากจะทิ้งนายหรอกนะ ฉันน่ะ ฮือออออ..”อาเซียที่ได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ถึงเธออาจจะมีเหตุผลเป็นของตัวเองแต่ผมก็ไม่สน ก่อนที่ผมจะปิดฉากด้วยประโยคคำพูดสุดท้ายเอาไว้ว่า..
“สุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกกับเธอเอาไว้ ถ้าถามว่าฉันเคยรักเธอมากแค่ไหน ก็รักมากพอที่จะผูกคอตายตอนที่ถูกเธอทิ้งไป..”
และนั่นก็คือคำพูดประโยคสุดท้ายที่ผมได้กล่าวเอาไว้ เมื่ออาเซียได้ยินเธอก็ร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ผมจะเดินมาถึงยังกำแพงโขดหิน..
“ใครก็ได้ฝากดูแลทหารนายนี้ที..”ผมที่หันไปกล่าวกับพวกทหาร แต่ทันทีที่หันไป..ผมที่เดินอยู่ก็ถึงกับต้องหยุดชะงักฝีเท้าแถมยังผงะ จากการที่สไปร์ส เซนินและเหล่าบรรดาทหารนับเกือบยี่สิบนายในตอนนี้กำลังยืนอ้าปากค้างทำตาถล่นกันอยู่..
“เฮ..? ไม่ได้ยินหรือไง..?”ผมที่ส่งเสียงออกมาทำให้ทุกๆคนถึงกับร่างกระตุก ก่อนที่ทหารนายหนึ่งจะข้ามโขดหินเดินเข้ามาหาผม พร้อมกับยื่นแขนออกมาเตรียมที่จะมาประคองรับร่างของอาเซียไป..
ฟุบ..
“ฮือ..”อาเซียที่ได้แต่ร้องไห้เอามือปิดหน้า โดยที่พวกทหารก็กำลังเข้าใจผิดคิดว่าเธอกำลังเสียขวัญ หลังจากที่ผ่านสถานการณ์เฉียดตายมา แต่ทว่าความจริงแล้วมันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น
“เอาล่ะ..ต่อไปฉันอยากจะอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้..น หืม..? นี่ตั้งใจฟังกันอยู่หรือเปล่าวะ..”ผมที่เดินผ่านร่างของทุกๆคนไป ก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับและเตรียมที่จะเปิดประเด็น แต่ทว่าทุกๆคนกลับยังคงทำสีหน้าแบบเดิมเหมือนไม่ได้ตั้งใจที่จะฟัง..
“กะ..แก ทำได้ยังไงกัน..?”สไปร์สที่เป็นคนเปิดประเด็นเอ่ยถามผม..
“ทำได้ยังไง..? ท่านกำลังหมายถึงเรื่องไหนกันล่ะ อ้อ ขอเสื้อด้วยครับ..”ผมที่เอ่ยถามสไปร์สกลับ พลางแบมือขอเสื้อที่ผมถอดฝากเธอเอาไว้..
ในระหว่างนั้นทหารที่อุ้มอาเซียอยู่ก็ได้พาเธอไปส่งให้นั่งพิงตรงโขดหินก้อนหนึ่ง..
“กะ..แกฟันกระสุนแรงดันเวทได้ยังไง..? อะ..ไอ้ที่โจมตีมาจากระยะไกลฉันยังพอเข้าใจอยู่ แต่ไอ้ที่ถูกกราดยิงตั้ง 50 กว่านัดในวงล้อม กะ..แกไม่น่าที่จะรอดมาได้เลยด้วยซ้ำ..”สไปร์สที่เปิดประเด็นเอ่ยถาม พลางยื่นเสื้อนอกที่ผมฝากเอาไว้ให้กับทหารนายหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนที่ทหารนายนั้นจะลุกเดินเอาเสื้อตัวดังกล่าวมาส่งให้ผมด้วยท่าทีที่นอบน้อมแบบจัดๆ
“เออ..นั่นดิ ถ้าไม่ได้ตกกลายเป็นเป้านิ่งก็ไม่เท่าไหร่ แต่นี่แกตกกลายเป็นเป้านิ่ง แถมยังต้องคอยปกป้องยัยสองคนนั้นอีก คนธรรมดาเขาทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ..”เซนินที่กล่าวเสริม สีหน้าของเขาแลดูอึ้งๆ..
“เฮ้อ..เรื่องแค่นี้เองน่ะเหรอ ถ้าให้เทียบกับภารกิจล่าสุดที่ผมบุกเดี่ยวไปถล่มกองกำลังของโนโทเปียเกือบสองร้อย กะอีกแค่ข้าศึก 50 นาย ถือว่ากระจอกไปเลย..”ผมที่โชว์ขิงไปหนึ่งสเต็ป ในระหว่างนั้นผมก็ทำการถอดผ้าคลุมสีขาวออกมา เพื่อเตรียมที่จะใส่เสื้อนอก..
และจากคำพูดนี้มันก็ทำให้ทุกๆคนต่างต้องพากันแสดงรีแอ็คชั่นที่ตกตะลึงแบบสุดขีดออกมา
“บะ..บุกเดี่ยว..”สไปร์สที่กล่าวและหยุดเว้นวรรค สีหน้าของเธอกำลังแสดงออกถึงความตกตะลึง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมก็เล่าให้เธอฟังไปแล้ว แต่ทว่าเธอกลับไม่เชื่อ จนได้มาเห็นด้วยตาของตัวเอง
“ไปถล่มกองกำลังสองกองร้อย..? นะ..นี่แกเป็นปีศาจหรือยังไงกัน..”เซนินที่กล่าวต่อจากสไปร์สที่หยุดเว้นวรรคเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเอ่ยถาม..
ฟุบ..!
ผมที่สะบัดเสื้อนอก พร้อมกับทำการสวมใส่มัน แต่ทว่าในขณะที่กำลังสวมใส่ ทุกๆคนที่จ้องมองมากลับต้องพากันตกตะลึงซ้ำอีกครั้ง จากตราสัญลักษณ์หรือเหรียญกล้าหาญที่ประดับอยู่บนหน้าอก..
“ระ..เหรียญ กล้าหาญ..?”เซนินที่เบิกดวงตากว้างขึ้น ก่อนที่ผมจะให้คำตอบที่เขาถามเอาไว้..
“ปีศาจ..? ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียกผมแบบนั้น แต่จากภารกิจล่าสุด..ผมถูกขนานนามโดยกองกำลังทหารของทารอนและคีทารัส เจ้าพวกนั้นมันเรียกผมว่า..”ผมที่กล่าวออกมา พลางก้มหน้าติดกระดุมเสื้อ ทันทีที่กระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายถูกติดจนเสร็จ ผมก็ได้ยกฝ่ามือขึ้นมาเสยผม พร้อมกับแสยะรอยยิ้มออกมา..
“ปีศาจทมิฬแห่งเอลเดีย..”
สิ้นคำพูดสุดท้ายที่ผมลั่นออกไป ทุกๆคนที่ได้ยินแบบนั้นก็ต่างพากันหยุดชะงักพูดอะไรไม่ออก โดยเฉพาะเหล่าทหารที่ต่อว่าผมไปในตอนก่อนหน้านี้ ในตอนนี้พวกมันกำลังยืนหน้าชา แถมเบ้าหน้าเหล่านั้นยังถอดสีและบิดเบี้ยวจนแทบจะดูไม่ได้..
“ส่วนฉันน่ะเหรอ..?! ก็คือไอ้จ้อนของปีศาจทมิฬแห่งเอลเดียยังไงล่า..!!!~”ไอ้จ้อนที่อยากจะมีบทพลันตะโกนออกมา แถมมันยังขยายตัวชูชันขึ้นอย่างหล่อเท่ หดกลับไป๊..!