“จัดการทั้งหมดเสร็จแล้ว ตอนนี้ไม่มีคนอื่นอยู่แถวนี้ เธอรวบรวมทั้งหมดไปได้เลย”
“โอเค!”
หลังจากฆ่าเยติสองตัวขนาดใหญ่เลเวล 120 เอียนเอาบุ๊กค์ลงจากหลังของตน
มันไม่มีการต่อสู้ขนาดใหญ่แต่พวกเขาก็ยังคงเดินทางต่ออย่างสม่ำเสมอโดยไม่หยุดพัก พวกเขาค่อนข้างเหนื่อยแล้ว
“บุ๊กค์พวกเราพักกันสักหน่อยไหม?”
บุ๊กค์-!
เมื่อเอียนวางเขาลงบนพื้น บุ๊กค์ออกมาจากกระดองของมันและวิ่งไปรอบๆก่อนที่มันจะเริ่มเคลื่อนตัวไปยังที่บางแห่ง
แตกต่างจากเอียนที่เหนื่อยล้าดูเหมือนว่าบุ๊กค์ซึ่งอยู่ในกระดองของเขาตลอดเวลาเต็มไปด้วยพลังงาน
ฮารินที่เห็นอย่างนั้น แสดงอาการกังวลขณะเธอถามเอียน
“จินซุงมันจะไม่เป็นอะไรสำหรับบุ๊กค์ที่วิ่งไปรอบๆอย่างนั้นหรอ? มันจะไม่อันตรายใช่ไหม?”
เมื่อเธอพูด เอียนส่ายหน้าและยิ้ม
“ไม่ มันไม่อันตรายหรอก ถึงมันจะโดนโ๗มตีจากมอนสเตอร์จากที่นี่ทั้งวันเลือดของมันก็ลดแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นแหละ”
“ห้ะ? ได้ยังไง?”
“ค่าสถานะของบุ๊กค์นั้นเต็มไปด้วยพลังป้องกันของเขา มันจึงยากที่จะทำความเสียหายได้ถึง10หน่วย”
“ฉันเข้าใจแล้ว บุ๊กค์สุดยอดจริงๆ”
ดูเหมือนมันจะได้ยินฮารินพูดว่ามันสุดยอด บุ๊กค์ก็เปล่งเสียงออกมาราวกับมันตอบรับคำชม
บุ๊กค์- บุ๊กค์-!
เมื่อเห็นเช่นนั้นเอียนก็หัวเราะออกมา
”บุ๊กค์ถ้าแกเจอมอนสเตอร์ตอนที่วิ่งเล่นอยู่ ก็หาที่ซ่อนตามที่นายทำเป็นประจำ เข้าใจไหม?”
บุ๊กค์-!
หลังจากบุ๊กค์พยักหน้าด้วยความกระตือรือร้น มันก็หายไปที่ไหนซักที่หนึ่ง
ระหว่างที่พักในช่วงที่ล่าหรืออะไรก็ตาม เอียนจะให้บุ๊กค์วิ่งอย่างอิสระเช่นนี้
ไม่ว่าจะประสาทสัมผัสด้านกลิ่นที่น่าทึ่งของบุ๊กค์หรือเขามีความลับพิเศษบางอย่างไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เขาก็มีความสามารถพิเศษที่เขาสามารถหาส่วนผสมที่หาได้ยาก,แร่ธาตุ,ฯลฯ
เพราะอย่างนั้น เอียนจึงสนับสนุนความเฉื่อยช้าของมัน (?)
ถ้าบุ๊กค์เจอมอนสเตอร์ตอนที่วิ่งเล่นอยู่และได้รับความเสียหายข้อความระบบก็จะแจ้งเตือนกับเอียน แล้วเขาก็จะรีบวิ่งไปหาบุ๊กค์
ฮารินที่กำลังมองบุ๊กค์ที่วิ่งออกไปไกลเรื่อยๆ ก็ได้หันมาหาจินซุงและพูดขึ้น
“แต่ว่าจินซุง”
“หือ?”
“ฉันแค่สงสัยว่าทำไมนายถึงไม่ให้บุ๊กค์กินมีตบอลเยอะๆละ? มันมีเหตุผลอะไรพิเศษหรอ?”
เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเห็นบุ๊กค์ทำหน้ามุ่ยเพราะว่ามันไม่อาจจะกินมีตบอลได้ มันก็ทำให้ฮารินเจ็บปวดดังนั้นเธอจึงตั้งใจมาถามกับเอียน
“นั่น…”
เมื่อเอียนลังเลสักครู่ ฮารินกดดันเขา
“มันคืออะไร บอกฉันมาหรือว่าจะ…?”
“หรือว่าจะอะไร?”
“ไม่ใช่ว่าเพราะนายไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากการที่จะแกล่งบุ๊กค์หรืออะไรทำนองนั้นใช่มั้ย?”
เมื่อเธอพูด เอียนสะดุ้งเล็กน้อย
‘นั่นไม่ใช่เหตุผล แต่มันก็เจ็บปวดเล็กน้อย…’
เพราะว่าจริงๆแล้วเขาอารมณ์ดีทุกครั้งที่เห็นบุ๊กค์ทำท่าน่ารักๆเพื่อที่จะขอกินมีตบอลเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม เหตุผลจริงๆนั้นแตกต่างกัน
“ไม่มีทาง เธอรู้มั้ยว่าฉันชอบบุ๊กค์ขนาดไหนฉันถึงต้องทำแบบนั้น?”
“มันจริงใช่ไหม?”
ฮารินซึ่งโล่งใจ (?) ที่เอียนไม่มีความผิดปกติทางด้านจิตใจจึงถามอีกครั้งด้วยความสงสัย
“ถ้างั้นทำไมนายถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?”
“ก็…อย่างแรก เนื่องจากฉันไม่สามารถเอามีตบอลจากเธอได้บ่อย ดังนั้นฉันก็เลยจะต้องเก็บมันไว้บ้าง…”
เอียนพักหายใจสักครู่หนึ่งและพูดต่อ
“แต่ถ้ามันกินมีตบอลเยอะ บุ๊กค์ก็จะอ้วนขึ้นอย่างช้าๆ”
เมื่อคำตอบเป็นไปตามคาด ฮารินแสดงอาการบูดบึ้ง
“ห้ะ? ถ้างั้นแสดงว่านายทำไปแบบนั้นเพราะว่ากลัวว่าบุ๊กค์จะกลายเป็นเต่าที่อ้วนใช่มั้ย? ฉันคิดว่าถ้าบุ๊กค์มันน้ำหนักขึ้นนิดหน่อยมันก็จะอ้วนกลมและน่ารักขึ้นไปอีก”
เอียนส่ายหน้า
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าหากมันน้ำหนักขึ้นละก็มันก็จะหนักเกินไปที่ฉันจะแบกมันไว้บนหลังได้…”
“…”
ขณะมองไปยังเอียนที่ตอบอย่างเขินอาย ฮารินก็พูดไม่ออก
เอียนยังคงแก้ตัวต่อไป
“บุ๊กค์ต้องมีความเบาเพื่อให้ฉันสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นเล็กน้อยในการต่อสู้ ไม่ใช่ว่าน้ำหนักของบุ๊กค์จะเกี่ยวข้องกับพลังป้องกันของมันสักหน่อย…”
ฮารินซึ่งได้รู้ความจริงอย่างไรก็ตาม ก็ยิ้มอย่างปลงๆพร้อมกับพยักหน้า
“ถ้ามันเป็นแบบนั้นละก็ เราก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้”
ฮารินได้เหตุผลแปลกๆก็ยิ่งรู้สึกสงสารบุ๊กค์
‘เพราะว่ามันต้องไปเจอกับเจ้าของที่เสพติดการล่า เจ้าบุ๊กค์ตัวน้อยก็เลยต้องอดกินมีตบอล…”
ฮารินเมื่อไขข้อข้องใจของตนแล้วก็ยืนขึ้นและเริ่มที่จะรวบรวมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารของเธอ
ดูเหมือนจะเป็นเพราะว่ามันเป็นพื้นที่ล่าเลเวลสูงที่มีเพียงผู้เล่นระดับสูงเท่านั้นที่สามารถมาล่าได้ เธอจึงสามารถรวบรวมวัตถุดิบระดับสูงได้มากมายเธอรู้สึกคุ้มค่าที่มาเป็นอย่างมาก
ประมาณ20นาทีผ่านไป
เอียนที่นั่งบนหินจู่ๆก็ยืนขึ้นและเรียกฮาริน
“ฮาริน เธอเก็บรวบรวมเสร็จหรือยัง?”
“ยังเลย มันยังมีเหลืออีกนิด”
“หืมมม… เหลือไว้สักต้นก่อนก็ได้ เราจะไปกันแล้ว”
เมื่อเอียนพูดฮารินก็สงสัยว่ามีมอนสเตอร์ปรากฏตัวหรือป่าวจึงหันมองรอบๆ แล้วเธอก็สงสัย
นั่นเพราะว่าเธอไม่ได้เห็นอะไรใกล้ๆเลย
“ทำไมล่ะ? หรือมีอะไรที่เร่งด่วนขึ้นมาหรอ?”
เอียนเกาหัวเมื่อเขาตอบ
“มันก็ไม่มีอะไรด่วนหรอกแต่ดูเหมือนบุ๊กค์จะเจอกับมอนสเตอร์เข้าน่ะ ฉันอยากจะไปช่วยมันสักหน่อย”
เมื่อเอียนพูด ฮารินโยนส่วนผสมที่เธอรวบรวมและยืนขึ้นทันที
“อ่อ ถ้างั้นพวกเราก็ต้องไป”
เอียนคิดว่าบางทีฮารินอาจจะชอบบุ๊กค์มากกว่าเขาที่เป็นเจ้าของอีกก็ได้ เขาจึงทำท่าทางแปลกๆและเริ่มเดินไป
เขารู้สึกถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขาเล็กน้อย
* * *
สถานที่ที่ทั้งสองมาถึงนั้นเป็นพื้นที่หิมะที่บุ๊กค์อยู่และใช้สกิลขยายกระดองเอาไว้ ตอนนี้มันถูกล้อมด้วยเยติยักษ์หลายตัว
“บุ๊กค์อยู่ตรงนั้นไง แต่มันก็ไม่มีอะไรอันตรายเท่าไหร่”
เมื่อฮารินพูด เอียนพยักหน้า
“ฉันบอกเธอแล้ว มันไม่มีทางที่บุ๊กค์จะตกอยู่ในอันตรายหรอก”
นอกจากจะไม่ได้อยู่ในอันตรายแล้ว บุ๊กค์ก็ไม่ได้รับความสนใจจากมอนสเตอร์แม้แต่น้อย
บุ๊กค์ถูกทำให้เป็นเหมือนสิ่งที่อยู่รอบๆตัวทั่วไป
มันไม่มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากการใช้สกิล ‘ขยายกระดอง’
เป็นเพราะหนึ่งในผลเพิ่มเติมของสกิลการขยายตัวของกระดอง
** ในช่วงระยะเวลาของการขยายกระดอง ท่านจะได้รับการยอมรับว่าเป็นวัตถุที่ไม่มีชีวิต
มอนสเตอร์จึงไม่เห็นว่ามันเป็นศัตรู
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบุ๊กค์ถึงได้รับหน้าที่สำรวจ
เอียนเมื่อตรวจสอบเลเวลของเยติทั้งหมดแล้วก็คิดครู่หนึ่งเพื่อหาแผนที่ดีที่สุด
“หืมมม…ถ้ามันมีประมาณสี่ตัวมันก็อันตรายเล็กน้อยถ้าเราล่อพวกมันแล้วจัดการมันในทีเดียว”
อย่างแรก เอียนเตือนฮารินให้ระวังตัว
“ฮาริน ฉันจะพูดมันอีกครั้ง แค่ใช้บัฟทั้งหมดของเธอและฟื้นฟูแค่ตัวเองเข้าใจไหม?”
ฮารินเคยโดนเยติโจมตีมาแล้ว
หลังจากที่เห็นพลังชีวิตสูงสุดของเธอหายไปครึ่งหนึ่งจากการโจมตีเดียว เธอรู้ดีอยู่แล้ว
“อืม เข้าใจแล้ว ฉันจะใช้เกราะของฉันตลอดเวลาดังนั้นฉันจะไม่ตายง่ายๆหรอก ฉันไม่รู้ว่านายให้ฉันมาทำไมแต่ฉันเป็นนักบวชนะะ”
เอียนยิ้มพร้อมกับตอบ
“โอเค ระวังตัวล่ะ”
เอียนที่พูดจบ เดินไปข้างหน้าเยติกับสัตว์เลี้ยงของเขา
และเขาเริ่มฆ่าตัวที่ห่างไกลที่สุดจากตัวที่เหลือก่อนอย่างช้าๆ
เนื่องจากเยติมีพลังชีวิตที่สูงและมีพลังโจมตีที่โดดเด่นรวมถึงสกิลในการฟื้นฟูพลังชีวิตถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าโทรล์ก็ตามแต่พวกมันก็อยู่ในหมวดมอนสเตอร์ที่มีความยุ่งยากในการล่า
พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่จะฟื้นฟูพลังชีวิตทันทีเมื่อพยายามโจมตีมันอย่างหนัก ถ้าหากเผลอไปเพียงชั่วครู่หรือลังเลแม้แต่น้อยมันก็จะฟื้นพลังชีวิตของพวกมันในทันที
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพวกมันเป็นมอนสเตอร์เลเวลมากกว่า120 มันก็อันตรายเกินไปสำหรับเอียนที่จะล่าแบบกลุ่มที่เขาถนัด
กลยุทธ์ของเอียนในการล่าเยติคือการใช้ตะปบ ความสามารถแฝงของฮัลลิที่มีการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมและมีโอกาสที่จะทำให้มันติดสตั้นอีกด้วยและทำให้พวกเขาสามารถใช้โอกาสนั้นฆ่าพวกมันทีละตัวได้
เพราะว่ากริฟฟินของเขาที่ตอนนี้มีเลเวลมากกว่า100แล้วก็เริ่มที่จะแผลงฤทธิ์ของสัตว์เลี้ยงระดับLegendaryออกมา ปาร์ตี้ของเอียนจึงแข็งแกร่งขึ้นมาก
Thud- .
ท่านได้สังหาร ‘เยติน้ำแข็ง’ ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 128,500 หน่วย ท่านได้รับเหรียญทอง 3845 หน่วยจาก ‘เยติน้ำแข็ง’ ท่านได้รับ ‘ขนหนาของเยติ’
รางวัลที่ได้นั้นจากเยติเลเวลมากกว่า120มันค่อนข้างน่าดึงดูดทีเดียว
เอียนแสดงสีหน้าพึงพอในขณะที่เขาบ่นอยู่ในใจ
‘ราคาตลาดสำหรับทองมันไม่สูงเท่าเมื่อก่อน แต่มันก็ยังเป็นเงินประมาณ5พันวอนสำหรับเยติแต่ละตัวอยู่ดี’
เอียนนั้นสนใจแต่การเพิ่มเลเวลและการเล่นมาจนถึงตอนนี้ เขามักจะใช้เงินไปกับการซื้ออุปกรณ์ระดับสูงมาตลอด
ดูเหมือนเพราะเช่นนั้นแล้วเมื่อเทียบกับเงินที่เขาได้มา มันก็ไม่มีมากเท่าไหร่ที่เขาเก็บเอาไว้
‘ฉันจะต้องเริ่มเก็บเงินใหม่อีกครั้งแล้วแหะ’
เอียนล่าเยติอย่างตั้งใจพร้อมกับคิดไปด้วยว่าเขาสามารถทำเงินในแต่ละวันซื้อข้าวได้หนึ่งวันเลยทีเดียวถ้าหากเขาฆ่าเยติตรงหน้าทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้นมันมีบางสิ่งที่เขาอยากจะซื้อในตอนนี้
‘เมื่อหมดเทอมนี้แล้ว ฉันก็ควรจะซื้อแคปซูลรุ่นใหม่เหมือนกัน’
ใจของเขาถูกขายไปโดยแคปซูลรุ่นใหม่ที่ทางLB Corporationปล่อยออกมาล่าสุดซึ่งเขาเห็นมันในทีวีขฯะที่ทานอาหารอยู่
แน่นอนว่า มันเป็นไปได้ที่จะควบคุมอุณหภูมิภายในแคปซูลแม้ว่าคุณจะไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศหรือเครื่องทำความร้อนในห้องและคุณสามารถควบคุมความชื้นและสร้างสภาพแวดล้อมการเล่นเกมที่ดีที่สุดได้ แคปซูลใหม่นี้เป็นความฝันของผู้เล่นไคลัน
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาบอกว่าพวกเขาสามารถเพิ่มอัตราการซิงค์โครไนซ์(การประสาน)ในระบบVRได้อีก2% มันจึงไม่มีทางเลยที่เอียนจะไม่อยากได้
การซิงโครไนซ์ 2% อาจจะไม่ได้เป็นที่สนใจมากนักสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเอียนที่หมกมุ่นอยู่กับแต่ตัวเลข เขารู้สึกว่าเขาได้สูญเสียบางอย่างไป
มันรู้สึกเหมือนกับว่าความเร็วในการเพิ่มเลเวลของเขาช้ากว่าผู้เล่นที่ใช้แคปซูลใหม่ไป2%
“ฟู่ว ฉันฆ่าพวกมันทั้งหมด”
นานมาแล้วที่เขามีความคิดอะไรแบบนี้แต่ยังไงเอียนก็กวาดล้างเยติทั้งหมดและช่วยบุ๊กค์ออกมาได้สำเร็จ และเดินเข้าไปหาบุ๊กค์ที่ยังไม่คิดจะออกมาจากกระดอง
ก๊อก- ก๊อก-
“คุณบุ๊กค์อยู่ที่นี่หรือปล่าวครับ?”
เมื่อเอียนเคาะบุ๊กค์ก็โผล่หัวออกมาจากกระดองของมัน
บุ๊กค์-!
และเอียนหันหลังให้กับบุ๊กค์
“โอเค ขึ้นมาบนหลังฉันมา แล้วพวกเราจะไปล่าพวกนั้นกัน”
อย่างไรก็ตามบางเหตุผล บุ๊กค์ส่ายหน้าของเขาและเริ่มเดินไปที่อื่น
บุ๊กค์- บุ๊กค์-!
“หืมมม…?”
และเพราะว่าบุ๊กค์มักจะเจออะไรใหม่ๆทุกครั้งที่มันเดินไปแบบนี้ เอียนก็เริ่มจะตามบุ๊กค์ไปด้วยความสนใจ
“ฮาริน เธอก็มานี่สิ”
ฮารินซ่อนตัวไว้ในที่ที่ปลอดภัยก็รีบมายืนข้างเอียนและตามหลังบุ๊กค์ไป
“จินซุง มันจะไปที่ไหนน่ะ?”
เมื่อฮารินถาม เอียนยักไหล่
“นั่นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเราถึงตามมันล่ะ?”
“บุ๊กค์บางครั้งพบสมุนไพรที่หายากหรือสิ่งต่างๆเช่นไอเทม ฉันคิดว่ารอบนี้มันก็คงเจออะไรแปลกๆอีกก็เลยตามมันมา”
“อ่อ…”
พวกเขาเดินตามมาเกือบจะห้านาทีแล้ว
สถานที่ที่บุ๊กค์หยุดและยืนในหน้าผาที่สูงอย่างเหลือเชื่อและหน้าผาที่ไม่มีจุดสิ้นสุดอยู่ต่อหน้าพวกเขา
และในกลางขอบหนัาผา เอียนค้นพบบางสิ่ง
“โอ้ นั่นถ้ำนิ บุ๊กค์นี่คือที่ที่แกอยากจะไปหรอ?”
เมื่อเอียนถาม บุ๊กค์พยักหน้าโดยไม่ลังเล
บุ๊กค์-!
แม้แรกเห็น มันดูเหมือนถ้ำที่มีบางสิ่งในนั้น
และสัมผัสที่หกของเอียนกำลังบอกเขาว่าเขาสามารถหาอะไรบางสิ่งที่พิเศษข้างในนั้น
อย่างไรก็ตาม นั่นมันเป็นปัญหา
“แต่ เราจะไปที่นั่นได้ยังไง?”
เหมือนกับที่ฮารินถามถ้ำมันอยู่ตรงกลางหน้าผาสูงชัน ความสูงของมันนั้นไม่สามารถไปได้ด้วยวิธีการธรรมดา
ถึงกระนั้นมันก็มีทางสำหรับเอียน
“พวกเราต้องขี่พินเข้าไป รอแปปนะ”
อย่างแรกหลังจากเรียกพิน เอียนขึ้นไปบนหลังของมันอย่างช้าๆ
ส่วนบนของพินเป็นเหมือนเหยี่ยวแต่ร่างของมันนั้นเป็นเหมือนสิงโต
เพราะอย่างนั้นถ้าพวกเขาขึ้นอย่างระมัดระวังมันก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะขี่พินไปได้
แน่นอนว่าเอียนไม่สามารถขี่พินเหมือนที่ขี่ไลได้แต่ระยะที่ไม่ไกลมันก็ไม่ยากเท่าไหร่
เอียนที่ขึ้นไปบนพิน เรียกฮาริน
“ฮาริน เธอมานี่สิ”
“ห้ะ? นายต้องการให้ฉันขึ้นไปกับนายหรอ?”
“ใช่สิ”
ฮารินถามอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
“มัน มันจะไม่หนักเกินไปหรอ?”
คราวนี้ไม่ใช่เอียนแต่พินพยัหน้าและตอบ
Kku-ruk- Kku-ruk- .
มันพยายามจะบอกเธอว่าไม่ต้องห่วง
ฮารินเมื่อได้รับการยินยอมจากพินแล้วก็ค่อยๆนั่งด้านหน้าเอียน และแขนของเอียนก็โอบที่เอวของเธอเอาไว้ราวกับพวกเขากำลังกอดกันอยู่ เธอก็ตกใจเล็กน้อยหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงขึ้นมาทันที
‘ห้ะ ห้ะ?’
นั่นเพราะว่าเธอไม่รู้ความสัมพันธ์ของเธอกับเอียน ซึ่งเธอยังไม่ได้จับมือด้วยซ้ำ(?)ไม่คิดว่ามันจะกระทันหันเช่นนี้
อย่างไรก็ตามในอีกทางหนึ่งเอียนแสดงความคิดเล็กน้อย
“พิน พาพวกเราไปที่นั่นช้าๆ”
Kku-ru-ruk-!
พินที่มีฮารินและเอียนอยู่บนหลัง บินอย่างช้าๆไปที่ถ้ำในหน้าผาด้วยการกระพือปีกอย่างระมัดระวัง
และเมื่อปีกของพินเริ่มจะกระพือ ฮารินจับมือเอียนอย่างแน่นก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว
จากนั้นไม่นาน ฮารินที่คุ้นเคยกับการรักษาสมดุลของเธอ หัวเราะขณะที่เธอหันหน้าและมองไปที่เอียน
‘ฮิฮิ นี่มันดีจริงๆ ฉันควรจะขอให้เขาพาฉันขี่อีกครั้งในครั้งหน้า’
แน่นอนว่าเธอไม่มีความตั้งใจที่จะขี่พินคนเดียว ต้องขี่กับเอียนเสมอ
ในขณะเดียวกันเอียนศึกษาการเคลื่อนไหวของพินอย่างใกล้ชิดขณะที่เขาไตร่ตรองภายใน
‘ฉันควรฝึกขี่พินมากกว่านี้… ถ้าฉันสามารถขี่เขาได้อย่างอิสระเหมือนกับไลมันจะช่วยในการต่อสู้ได้อย่างแท้จริง’
หลังจากที่พินมีเลเวลมากกว่า80แล้ว เอียนพยายามที่จะขี่หลังพินมาตลอด
เพราะว่าตั้งแต่เลเวล80มันก็โตขึ้นจนมีขนาดที่สามารถแบกเอียนได้แล้ว ถึงกระนั้นเมื่อเทียบกับไลที่เป็นมอนสเตอร์เดินเท้าแล้วมันก็ต้องใช้เวลาในปรับตัวมากกว่า
ไม่นานพินก็มาถึงยังจุดหมาย ถ้ำที่อยู่บนหน้าผา
Kku-ruk-!
“ฮาริน ลงมาช้าๆ”
เมื่อพวกเขาถึงที่หน้าถ้ำ เอียนจับมือฮารินให้เธอสามารถลงได้อย่างง่ายดาย
“ฮึบ-ฮึบ”
และทั้งสองคนที่ลงมาจากหลังของพิน เริ่มเข้าไปข้างในถ้ำอย่างช้าๆ
เมื่อเขาทำอย่างนั้น ราวกับว่ามันรออยู่ ข้อความระบบดังขึ้น
กริ๊ง-
ท่านเป็นผู้คนพบดันเจี้ยนคนแรก ค่าประสบกาณณ์ที่ท่านได้จากดันเจี้ยนจะเป็นสองเท่าเป็นเวลาห้าวัน โอกาสที่จะได้รับไอเทมเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นเวลาห้าวัน
เห็นได้ชัดว่าเอียนยิ้มบานจนแทบจะถึงหู