“เอียน นายดูมั่นใจนะวันนี้”
ทั้งสองคนยืนอยู่ด้านหน้าของดันเจี้ยนฟอลัน
เมื่อฟิโอลันพูด เอียนยิ้ม
“ฉันมีกำลังเสริมที่ฉันสร้างไว้น่ะ”
“กำลังเสริม?”
เพราะว่าฟิโอลันไม่เคยเห็นเอียนพูดแบบนี้มาก่อน เธอแสดงออกถึงการตกใจเล็กน้อย
“ใช่ ฮุฮุ”
“มันคืออะไร?”
“ฉันจะแสดงให้เธอเห็นเมื่อเราเข้าไป”
ก่อนที่เอียนจะเข้าไปในดันเจี้ยน เขาตรวจสอบอันดับรายชื่อการเคลียร์ดันเจี้ยน
เพราะว่ามันนานมาแล้วตั้งแต่เขามาที่ฟอลัน เขาอยากรู้เกี่ยวกับสถิติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
‘ไหนดูสิมีใครที่มาทำลายสถิติของฉันไหม?’
และเอียนที่ตรวจสอบสถิติแสดงอาการผ่อนคลาย
นี่เป็นเพราะหน้าต่างอันดับไม่ได้เต็มไปด้วยชื่อของเอียนเหมือนเมื่อก่อน แต่ชื่อของเอียนและฟิโอลันยังเฉิดฉายอยู่อันดับที่ 1
‘ยังคงมีความแตกต่างเกือบ 3 นาทีกับอันดับที่ 2 ฉันควรสร้างความแตกต่างที่เหมาะสมระหว่างเราในวันนี้’
เอียนหันความสนใจมาหาฟิโอลัน
“เธอสามารถเล่นห้ารอบต่อวันในวันนี้ได้ใช่ไหม?”
เมื่อเขาพูด ฟิโอลันพยักหน้าราวกับว่าเธอรอคำนี้อยู่
“แน่นอน ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะสามารถผูกขาดนายจากทุกคนได้ยังไง?”
ฟิโอลันขยิบตาเมื่อเธอพูด
เอียนยิ้มเมื่อเขาเริ่มเดิน และข้อความระบบที่แจ้งเตือนทั้งสองคนที่เข้าไปข้างในโผล่ขึ้นมาต่อหน้าทั้งสองคน
- ท่านได้เข้าสู้ดันเจี้ยน ‘หลุมศพของฮีโร่แห่งฟอลัน’
* * *
เอียนและฟิโอลันไม่เพียงแค่ผ่านดันเจี้ยนฟอลันครั้งเดียวหรือสองครั้ง
ยิ่งกว่านั้นทั้งสองคนได้ล่าหลายร้อยครั้งจนถึงตอนนี้และปรับตัวเข้าหากันผ่านสิ่งนั้น
ราวกับว่าพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาเป็นปาร์ตี้ที่มีสถิติสูงสุดในปัจจุบัน เอียนและฟิโอลันขยับอย่างเชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มต้น
ตามปกติเอียนจะใช้ฮัลลิทะลุผ่านหุบเขาอย่างรวดเร็วและเข้าไปในหลุมรุดหน้าไปยังช่วงหลัก ขณะที่ฟิโอลันใช้การเคลื่อนที่เว้นช่องว่างและตามเอียน
เมื่อถึงจุดนี้ มันไม่แตกต่างจากเมื่อก่อน
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เอียนอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งหมด ตาของฟิโอลันเบิกโพลง
กร๊าา-
เธอได้เห็นไลที่รูปลักษณ์ภายนอกเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
“เอียน ไลวิวัฒนาการหรอ?”
เอียนหัวเราะเมื่อเขาพยักหน้า
“ใช่ เขาวิวัฒนาการหลังจากเควสต์ของเราเมื่อเร็วๆนี้ เธอสามารถคาดหวังกับเขาได้นะ”
เอียนหันหน้าไปหาไล
“ไล กำจัดพวกมันให้สิ้นซาก”
- รับทราบครับท่าน
ในช่วงแรกซึ่งเป็นมอนสเตอร์ของหุบเขา เรคและพินกำจัดพวกมันในทันทีด้วยการโจมตีผสานของพวกมันเหมือนก่อน
พวกมันจัดการกับมอนสเตอร์ที่ออกมาจากหุบเขาแคบๆด้วยการใช้การโจมตี AoE ของพวกมัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันใช้สกิล AoE ทั้งหมดเช่นนี้มาก่อน ช่วยไม่ได้ความเร็วในการล่าจะลดลงจนกว่าเวลาคูลดาวน์จะสิ้นสุดลง แต่เอียนวางแผนที่จะทิ้งส่วนนี้ให้กับไล
อาวู้วว-!
เสียงหอนของไลดังไปทั่ว
- สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้ใช้พลังแฝง ‘ความโกรธของเฟนเรียร์’
- ความสามารถการต่อสู้ทั้งหมดของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ จะเพิ่มขึ้น 50%
- อัตราการโจมตีคริติคอลของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ จะเพิ่มขึ้น 30%
เปลวเพลิงสีขาวที่ปะทุออกมาจากร่างของไลเริ่มเผาอย่างรุนแรงขึ้น
และทันทีที่เริ่มช่วงที่สอง ไลก็เริ่มกระโดดไปรอบๆ
“เอียน ฉันแค่ต้องปกป้องแท่นบูชาของฮีโร่เหมือนเมื่อก่อนหรอ?”
เมื่อฟิโอลันพูด เอียนส่ายหน้า
“ไม่ เธอแค่ต้องสู้ ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับแท่นบูชาและแค่ทำดาเมจ ฉันคิดว่าเราสามารถป้องกันไม่ให้พวกมันมาถึงที่นี่ได้”
ตามที่เอียนพูด
ราวกับว่าไลกำลังเผชิญหน้ากับเด็กๆ เขาเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่หลั่งไหลออกมาจากทุกทิศทุกทาง
“ถ้างั้นฉันจะใช้ม่านน้ำแข็งนะ”
“โอเค!”
เมื่อความสามารถการต่อสู้ทั้งหมดของไลที่มีค่าสถานะเหลือเชื่อเพิ่มขึ้น 50% แล้ว มันก็มีพลังการต่อสู้ที่มหาศาล
แคว่กก-!
เมื่อใดก็ตามที่ไลลงเล็บด้วยอุ้งเท้าหน้าขนาดใหญ่ มอนสเตอร์ที่มีพลังชีวิตอ่อนแออย่างสโนว์การ์กอยล์ก็ถูกฆ่าตายทันที
- สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ สร้างความเสียหายให้สโนว์การ์กอยล์
- พลังชีวิตของสโนว์การ์กอยล์ลดลง 20,795 หน่วย
- เมื่อสัตว์เลี้ยงไลโจมตีสร้างความเสียหายคริติคอลให้กับคู่ต่อสู้ เวลาคูลดาวน์ของพลังแฝง ‘ความโกรธของเฟนเรียร์’ ลดลง 5 วินาที
- ท่านได้สังหาร ‘สโนว์การ์กอยล์’
- ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 17,492 หน่วย
เวลาคูลดาวน์ของสกิลความโกรธของเฟนเรียร์คือ 10 นาที
และระยะเวลาของมันคือ 3 นาที
จากนั้นนั่นหมายความว่าเมื่อมันผ่านไปแล้วมันไม่สามารถใช้งานได้ 7 นาที แต่ต้องขอบคุณผลเพิ่มเติมที่แนบมากับความโกรธของเฟนเรียร์ ‘เวลาคูลดาวน์ 5 วินาทีถูกฟื้นฟูเมื่อใดก็ตามที่สร้างความเสียหายคริติคอล’ เขาสามารถฟื้นฟูได้เกือบทั้งหมด ของเวลาคูลดาวน์ใน 3 นาที
ในท้ายที่สุด มันหมายความว่าความสามารถมันสามารถใช้ได้ไม่มีจำกัด
“ไล ใช้การรุกล้ำแห่งความมืดหลังบอสออกมา”
- ข้าจะทำเช่นนั้นครับท่าน
ศักยภาพของไลนั้นดีมาก แต่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆของเอียนก็ทำหน้าที่ของตนได้ดีเช่นกัน
หากไม่รวมไลที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงคือพลังการต่อสู้ของพินที่เพิ่มเลเวลขึ้นมากและใกล้เคียงกับเลเวล 110
ราวกับว่าพินพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาก็เป็นสัตว์เลี้ยงในระดับ Legendary เขาก็ฆ่ามอนสเตอร์ที่เทออกมาโดยไม่เลือกปฏิบัติ
‘หากเป็นกรณีนี้ไม่มีเหตุผลที่จะรวบพวกมันก่อนที่จะฆ่าพวกมัน’
ราวกับว่าพวกเขากำลังกินข้าวโพดคั่วด้วยสายฟ้า ฟิโอลันก็รู้สึกงุนงงเมื่อเธอมองเอียนซึ่งได้จัดการแม้แต่ช่วงที่สองในทันที
“ฉันยังไม่แม้แต่จะร่ายถึงสามสกิล แต่ช่วงที่สองก็จบลงแล้ว”
ช่วงที่สองจบก่อนที่จะถึง 10 นาที
แม้แต่เอียนที่ตรวจสอบสถิติก็แสดงความพึงพอใจ
- 00:08:15
“เพียงเวลาที่เราลดลงจากที่นี่เป็นเวลามากกว่า 3 นาที แม้ว่าเราจะทำต่อไปเหมือนที่เราทำตามปกติมันก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะได้ระดับ S”
มันเป็นอย่างที่เอียนพูด
หากเขานึกถึงสถิติที่ใช้เวลา 13 นาทีถึงช่วงที่สองเมื่อเขาท้าทายสิ่งนี้กับฟิโอลัน มันเป็นความเร็วที่เร็วมากอย่างแท้จริง
“เหอะ… นายแน่ใจหรอว่าเราจะไม่ถึง 20 นาทีน่ะ?”
เวลาจำกัดสำหรับระดับ S คือ 25 นาที
อย่างไรก็ตามหากพวกเขาลดเวลาอย่างต่อเนื่องด้วยพลังเช่นนี้ พวกเขารู้สึกว่ามันเป็นไปได้ที่จะเคลียร์ภายใน 20 นาที
เอียนยิ้มและยืนขึ้นอีกครั้ง
“ลองดูมั้ยล่ะ?”
และระหว่างที่สองคนคุยกัน ช่วงที่สามได้เริ่มขึ้น
- ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง’ ตื่นขึ้นจากการหลับไหล
เอียนจัดการความคิดของเขา
‘แต่เดิมนี้เป็นช่วงที่ฉันต้องพึ่งพาการทำให้สตันที่ไม่มีที่สิ้นสุดของฮัลลิ แต่ตอนนี้ฉันน่าจะสามารถฆ่าพวกมันทีละตัวโดยไม่ต้องทำอย่างนั้น’
มันเป็นแผนที่เป็นไปได้ต้องขอบคุณพลังโจมตีของสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งมาก
ทันทีที่ยักษ์ปรากฏขึ้น เอียนก็เริ่มโจมตียักษ์ทางขวาซึ่งมีพลังชีวิตอ่อนแอที่สุดในสามตัวนั้น
“ดุ๊กเด ผูกมันไว้สองตัวด้วยหลุมอเวจีสักพักหนึ่ง!”
Deu-reu-reuk-!
เมื่อเอียนพูด ดุ๊กเดเคลื่อนไหวและใช้หลุมอเวจีที่เขาเก็บไว้และทั้งสองตัวติดอยู่ตรงระยะของหลุมอเวจี
“ฟิโอลันใช้เวทโจมตีเป้าหมายเดียวที่แข็งที่สุดที่เธอมีเลย!”
“โอเค!”
ถ้ามันเป็นมอนสเตอร์ธรรมดา เขาก็จะสามารถผูกมันไว้ได้นาน แต่เพราะยักษ์ทั้งสามนั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับรองบอส การต่อต้านต่อสถานะของพวกมันจึงแข็งแกร่ง ดังนั้นพวกมันจะได้รับการปลดปล่อยในไม่กี่นาที
เอียนใช้วิธีการทั้งหมดที่เขาทำได้และทุ่มการโจมตีของเขา
Bang- Ba-bang-!
วิวัฒนาการไลรวมถึงพินที่เพิ่มเลเวลขึ้นมาก
และในขณะที่เขาสวมใส่ไอเทมพิเศษของสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงของเอียนซึ่งมีพลังในการต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้กำจัดยักษ์หนึ่งตัวในทันที
Thud-
- ท่านได้สังหาร ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง (ยัครัม)’
ทันใดนั้นหลุมอเวจีของดุ๊กเดก็ปะทุขึ้นและเอียนก็เปลี่ยนจุดสนใจของเขาไปยังยักษ์ตัวกลางขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นสิ่งที่คุกคามมากที่สุด
“เอียน! ไปด้านข้าง!”
เมื่อฟิโอลันพูด เขาไม่ลืมที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย
นี่เป็นเพราะพันธมิตรยังได้รับความเสียหายค่อนข้างมากหากพวกเขาถูกโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ AoE อย่างไม่เหมาะสม
Ba-ba-bang-.
เวทมนตร์น้ำแข็งของฟิโอลันชนกับยักษ์โดยตรงและเมื่อการใช้เวทมนตร์เสร็จสิ้น ไลซึ่งอยู่ใกล้กับด้านหน้ามากที่สุดก็พุ่งเข้าใส่ยักษ์ราวกับว่าเขากำลังรออยู่
Chwa-ra-rak-!
ไลซึ่งปิดช่องว่างระหว่างยักษ์กับเขาที่ดูเหมือนจะอยู่ห่างประมาณ 5 เมตรในชั่วขณะหนึ่งเจาะเข้าไปในเกราะของยักษ์และขุดเข้าไปในส่วนด้านใน
และเมื่อกรงเล็บยาวของไลเข้ามาในท้องของยักษ์ ยักษ์ก็ดูเหมือนจะเจ็บปวดเมื่อมันปล่อยเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวออกมา
Keu-aah-!
และเมื่อไลสัมผัสได้ถึงเส้นทางของมือขวาของยักษ์ซึ่งลงมาในช่วงเวลาต่อมา เอียนตะโกนด้วยเสียงเร่งด่วน
“ไลไปทางขวา!”
เอียนสั่งด้วยความหมายว่าให้ไลหลีกเลี่ยงการโจมตี แต่ด้วยเหตุผลแปลกๆบางอย่างไลก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตี
เขาไม่ได้ยกแขนขวาของเขาและบล็อคการโจมตีของยักษ์หรอ!?
- สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ถูกโจมตีโดยยักษ์แห่งความเกลียดชัง (คาราฮาน) และได้รับความเสียหายคริติคอล
- พลังชีวิตของสัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ลดลง 15,892 หน่วย
เขาบล็อคมัน แต่ไลซึ่งมีพลังป้องกันตัวเองไม่สูงพอ ช่วยไม่ได้ที่จะได้รับความเสียหายเล็กน้อย
เอียนงุนงง
‘เขาสามารถหลีกเลี่ยงมันได้แน่นอน ดังนั้นทำไมเขาถึงโดนโจมตีล่ะ?’
อย่างไรก็ตาม คำถามของเขามีเพียงชั่วครู่
ขณะมองไปยังการโจมตีต่อไปของไล ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะพยักหน้า
ไลฟื้นฟูความเสียหายทั้งหมดที่เขาได้รับทันทีผ่านการโจมตีสองสามครั้ง
มันเป็นพลังของพลังแฝง ‘การดูดซับพลังชีวิต’
‘ฉันลืมเรื่องการดูดซับพลังชีวิต แต่แล้วอีกครั้งในกรณีที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ถ้าเขาได้รับการสนับสนุน จากนั้นจะมีความเสียหายมากมายที่เขาจะเสียไป การตัดสินใจของไลถูกต้อง’
เช่นนั้น ปาร์ตี้ของเอียนและฟิโอลันสามารถเสร็จสิ้นช่วงที่สามทันที
- ท่านได้สังหารยักษ์แห่งความเกลียดชังทั้งหมด
ตามด้วยข้อความโผล่ขึ้นมา ฟิโอลันและเอียนหันมาเพ่งมองเวลาที่ผ่านไป
- 00:14:29
ฟิโอลันอ้าปากค้าง
“สถิติไร้สาระที่สามารถเป็นไปได้…”
ตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ที่ระดับ S ไม่ทำงาน
แน่นอนว่าพวกเขาจะสามารถเห็นการเคลียร์ใน 20 นาทีที่พวกเขาพูดในลักษณะที่ล้อเล่น
และในที่สุดบอสใหญ่แห่งฟอลันดันเจี้ยนก็เริ่มปรากฏตัวในตอนท้ายของดันเจี้ยน
- ขณะนี้นี้ฮีโร่แห่งฟอลันตื่นขึ้น
* * *
Deu-reu-reu-reu-reuk-
ห้องซ้อมที่ซึ่งเสียงของเครื่องแป้งดังกึกก้อง
เพื่อที่จะทำการบ้านในชั้นเรียนของเธอ ฮารินก็นวดแป้งอย่างขยันขันแข็ง
ในห้องซ้อมฮารินและเพื่อนสนิทของเธอเยจุงอยู่ด้วยกัน
“ฮารินเธอใกล้เสร็จหรือยัง?”
“ใกล้แล้ว ฉันแค่ต้องการเทมันลงกระทะและเอามันเข้าไปในเตาอบ แล้วเธอล่ะ?”
เยจุงยกแขนเธอขึ้นด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
“ฉันเสร็จแล้ว!”
“เอ่อ เสร็จแล้วหรอ?”
“ห้ะ? เธอหมายถึงอะไรว่าเสร็จแล้ว เธอน่ะช้า”
เยจุงที่ดึงขนมปังของเธอออกมาจากเตาอบเดินเข้าไปหาฮารินหลังจากบรรจุหีบห่อให้ดูดี
และหลังจากดูมัฟฟินที่อยู่บนโต๊ะฝึกของฮาริน เธอก็ประหลาดใจ
“เฮ้ ไม่ต้องสงสัยเธอน่ะช้า”
“อะไรนะ”
“เธอทำมากกว่าฉันสองเท่าที่ฉันทำ ทำไมเธอทำเยอะจัง? เธอวางแผนที่จะให้ใครหรอ?”
เยจุงพูดโดยไม่คิดมาก แต่เมื่อฮารินลังเลเธอก็ใส่ท่าทางที่ซุกซน
“อะไรกันเนี่ย ดูเหมือนว่าเธอจะเอาไปให้ใครจริงๆนะเนี่ย?”
ฮารินโบกมืออย่างรวดเร็วและพูด
“มะ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น”
“เธอหมายถึงอะไรไม่ใช่แบบนั้น เพียงแค่มองฉันก็เห็นว่าจะเอาไปให้แฟนใช่ไหม? ไม่ต้องมาโกหกฉันเลย!”
ในขณะที่มองไปที่เยจุงผู้ตะคอกใส่เธอราวกับไฟไหม้อย่างรวดเร็ว ฮารินถอนหายใจ
“เยจุงจริงๆนะ ฉันมีปัญหานิดหน่อย”
เยจุงที่ตกใจเล็กน้อยเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดถึง ลังเลเมื่อเธอดึงเก้าอี้ที่อยู่ถัดจากฮารินและนั่งลง
“ปัญหาหรอ? ปัญหาอะไรล่ะ?”
และฮารินที่ลังเลชั่วครู่ เริ่มเล่าเรื่องของเธอ
ปัญหาของฮารินไม่ใช่อื่นใดนอกจากความสัมพันธ์กับจินซุง
เยจุงผู้ที่ได้ยินเรื่องราวของฮารินมาเป็นเวลานาน แสดงสีหน้าที่ดูงุนงงขณะที่เธอพูด
“ดังนั้นจินซุงที่เธอหมายถึง…คือผู้ชายจากแผนก VR ที่เธอกินข้าวด้วยครั้งที่แล้วหรอ? เธอเดทกับเขาหรอ?”
เมื่อถึงตอนนั้นฮารินสวมหน้าบูดบึ้งขณะที่เธอพยักหน้า
“ใช่…”
ในท่าทางของฮารินที่ซึ่งความน่ารักของเธอไม่สิ้นสุด เยจุงแทบจะไม่กลั้นเสียงหัวเราะที่เกือบจะระเบิดออกมาจากเธอ
“นี่เด็กโง่ มันเป็นเดทยังไง? ไม่เห็นจะเป็นอย่างนั้น เธอสองคนยังไม่ได้เดทกันเลย”
เมื่อคำพูดเหล่านั้น หน้าของฮารินน้ำตาคลอเบ้า
“ยะ… อย่างนั้นหรอ? ถ้างั้นฉันควรทำอะไรดี?”
เยจุงส่ายหน้า
“อ๊ะ ฮารินนี่ไม่เหมาะกับเธอจริงๆ ถ้าฉันเป็นแบบเธอนะ ฉันจะใช้ชีวิตอย่างเสเพลเลยเด็กน้อย”
เมื่อคำเหล่านั้น ฮารินจ้องไปที่เยจุง
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ถ้าเธอมีความคิดดีๆถ้างั้นก็บอกฉันเร็วๆ ลีเยจุง”
ความจริงแล้ว เยจุงก็ไม่ได้น่าเกลียดเช่นกัน
ไม่ เธอมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามจนถึงจุดที่เธอไม่ได้อยู่ห่างไกลจากฮาริน
ยิ่งไปกว่านั้น ต่างจากฮารินซึ่งใกล้ชิดกับคนโง่ เธอไม่เคยเดทสักนิดเลย ดังนั้นฮารินจึงคาดหวังให้เยจุงแนะนำทางออกที่ดี
“อืมมม… ความคิดดีนี่…”
เยจุงที่หยุดพักหายใจสักครู่ พูดต่อ
“ขอให้เขาจับมือระหว่างทางกลับบ้านจากโรงเรียนเพราะเธอหนาว”
“อะไรนะ? มันตุลาคมแล้วไม่ใช่หรอ?”
“ตุลาคมมันใช่เรื่องใหญ่ที่ไหนล่ะ? ฉันสามารถทำมันกลางฤดูร้อนเลยแหละ”
“ไม่มีโอกาสนั้นอ่ะสิ”
“ทำไมล่ะ?”
หน้าของฮารินแดง
“มัน… น่าอาย”
“…”
เยจุงที่พูดไม่ออกสักครู่หนึ่งให้ข้อเสนออีกอันหนึ่ง
“ถ้างั้นอย่างงี้ล่ะ?”
“บอกฉันมา”
“ไปดูหนังอย่างหนังผีและเมื่อถึงฉากน่ากลัวแค่กอดเขา”
“มันยากไป…”
เยจุงผู้ให้คำแนะนำต่างๆก่อนที่จะเหนื่อยล้า ถอนหายใจขณะที่เธอพูด
“จากที่ฉันได้ยินมาจินซุงนั้น ฉันคิดว่าเขาเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยและไม่เคยออกเดทมาก่อนเลย”
ฮารินพยักหน้า
“ถูกต้อง นั่นอาจเป็นอีกกรณี”
“ยิ่งไปกว่านั้น เขาออกมาจากโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายของโรงเรียนชายล้วนใช่ไหม?”
ตาของฮารินโตขึ้นเล็กน้อย
“เธอ เธอรู้ได้ยังไง?”
นั่นเป็นสิ่งที่เธอจำได้จากการได้ยินจากจินซุงเมื่อนานมาแล้ว
ต่อหน้าฮารินที่งุนงง เยจุงโอบไหล่ของเธอเมื่อเธอพูดต่อ
“ฉันเห็นเพียงแวบแรกก็รู้แล้ว อย่างไรก็ตามถ้าเธอไม่ต้องการที่จะทนทุกข์อีกต่อไปเธอต้องเริ่มต้นก่อน ถ้าเธอทำตามที่ฉันบอกเธอมันจะได้ผลทั้งหมด!”
เยจุงพูดด้วยความมั่นใจ
ในทางตรงกันข้ามฮารินก็ยังไม่มั่นใจ
“ฉันจะไม่ถูกทิ้งโดยทำอย่างนั้นเหรอ?”
คำพูดเหล่านั้น เยจุงอสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเธอตอบ
“ผู้ชายแบบไหนที่จะบอกว่าเขาเกลียดเมื่อผู้หญิงสวยเหมือนเธอเข้าหาล่ะ?”
“ถึงอย่างนั้น…”
“นอกจากเขาจะเป็นขันที เธอก็จะประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ฮารินรู้สึกเย็นหลังวาบทันที
‘อย่างไรก็ตาม จินซุง… ไม่ใช่ขันทีใช่ไหม?’