ธงของกิลด์โอ๊คลันปลิวไสวอยู่กลางทะเลทราย
และด้วยผู้เล่นมากกว่าร้อยรายมีทหารกิลด์นับร้อยที่เข้าสู่ทวีปกลางภายใต้ธงนั้น
“เฮ้อ เลเวลของมอนสเตอร์แตกต่างจากโซนอื่นอย่างชัดเจน ฉันคิดว่าเราเตรียมตัวอย่างดี สำหรับเราที่ต้องสูญเสียคนสิบคนไปแล้ว”
เมื่อผู้เล่นอัศวินเพศหญิงพูดซึ่งเป็นหัวหน้าขบวน ลิ่มหล่งพยัดหน้าเล็กน้อยขณะที่เขาตอบ
“ถูกต้องริฮันน่า เนื่องจากช่วยเลเวลมอสเตอร์นั้นสูงเมื่อเทียบกับพื้นที่ล่าอื่นๆที่เรามี”
ริฮันน่าเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งของกิลด์โอ๊คลันรวมถึงนักจัดอันดับและยังเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกผู้บริหารของกิลด์
และเธอรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าหลักของการสำรวจครั้งแรกของทวีปกลาง
บทบาทของลิ่มหล่งคือการช่วยเหลือเธอ
“การพูดแบบนั้น ลิ่มหล่งนายแตกต่างจากผู้เล่าอาชีพแอสซาซินคนอื่นๆอย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหัวหน้าถึงให้ความไว้วางใจกับนาย”
“วู้ฮู้ อะไรที่ทำให้เธอพูดอย่างนั้นล่ะ?”
“ความจริงที่ว่าผู้เล่นอาชีพแอสซาซินไม่สามารถแสดงความสามารถของพวกเขาใน PVE ได้อย่างดีเป็นความจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว พวกเขาแทบจะไม่มีการโจมตี AoE และร่างกายของพวกเขาอ่อนแอพอๆกับกระดาษสำหรับการต่อสู้แบบประชิด…”
ตามที่เธอพูด อาชีพแอสซาซินเป็นอาชีพที่ไม่เก่งใน PVE มากที่สุด แม้แต่ในการสำรวจทวีปกลางนี้ ความจริงที่ว่ามีการยกเว้นอาชีพแอสซาซินจำนวนมากก็เป็นหลักฐานที่ตรงกันข้ามกัน
ลิ่มหล่งยิ้มขณะที่เขาพูด
“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลหรอ? ถึงมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่เนื่องจากยังมีวิธีเอาชนะพวกมันได้”
อย่างไรก็ตามในขณะที่คนสองคนกำลังพูดคุยเรื่องต่างๆ จากนั้นทหารพรานได้วิ่งกลับมาจากที่ไกลๆ
“ริฮันน่า ฉันกลับมาจากลาดตระเวนแล้ว”
ริฮันน่าพยักหน้าขณะที่เธอตอบกลับ
“ทำได้ดี รายงานให้เราฟังหน่อย”
คำพูดของทหารที่หยุดหายใจสักครู่เพื่อที่จะพูดต่อไป
“ถ้าคุณมุ่งหน้าไปด้านหน้าเป็นเวลาประมาณ 10 นาทีจะมีราชินีแมงป่อง เลเวลของมอนสเตอร์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 160 ถ้าคุณต้องเผชิญหน้ากับพวกมันมีโอกาสสูงที่คุณจะชนะ แต่เลเวลที่แน่นอนของราชินีแมงป่องนั้นไม่สามารถหาได้ มันเป็นอันตรายเกินไป”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น แม้ว่าเราจะชนะความเสียหายก็จะมหาศาล”
เมื่อริฮันน่าพูด ทหารคนนั้นพยักหน้า
“ถูกต้องริฮันน่า ดูเหมือนว่ามันจะดีกว่าถ้าอ้อมและไปต่อ”
ลิ่มหล่งที่ยืนอยู่ข้างเธอ ช่วยเหลือเธอ
“รางวัลผู้ค้นพบดันเจี้ยนครั้งแรกรู้สักว่าจะสูญเปล่า แต่ตอนนี้เราต้องรักษาพลังการต่อสู้เท่าที่จะทำได้และยึดครองฐานก่อนริฮันน่า”
ริฮันน่าก็เห็นด้วยกับคำพูดนั้น
“ฉันก็คิดอย่างนั้น”
สายตาของเธอหันกลับไปหาทหาร
“นอกเหนือจากรังแมงป่องแล้ว เราควรจะสามารถไปยังจุดหมายปลายทางได้โดยไม่ยากลำบากใช่ไหม?”
“ถูกต้องครับ”
“ถ้าเราอ้อมไป เวลาที่คาดไว้ว่าเราจะไปถึงคือตอนไหน?”
“ผมคิดว่าอาจจะประมาณหนึ่งในสี่ของวันครับ”
“เอาล่ะ”
เมื่อรายงานของหน่วยลาดตระเวนเสร็จสิ้น กองกำลังของกิลด์โอ๊คลันก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
จุดหมายของพวกเขาคือฐานที่แนวหน้าที่พวกเขาเคยดูมาก่อน
* * *
‘ฉันนี่โชคดีจริงๆ!’
เอียนซึ่งกำลังตรวจสอบข้อมูลของ ‘บักค์’ สัตว์เลี้ยงของเขาที่เขาได้รับนั้น ไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มของเขาไว้ได้
และอีกครั้งหนึ่งที่เขาได้รับสัตว์เลี้ยงระดับ Legendary
- บักค์ (เต่ามังกรทอง)
เลเวล : 150
ประเภท : สัตว์ในตำนาน
ระดับ : Legendary
บุคลิกภาพ : รอบคอบ
ไม่สามารถวิวัฒนาการได้
พลังโจมตี : 2,730 หน่วย
พลังป้องกัน : 3,825 หน่วย
ความว่องไว : 1,575 หน่วย
สติปัญญา : 2,355 หน่วย
พลังชีวิต : 183,300/183,300
พลังแฝง
*ผู้พิทักษ์แห่งทะเลทราย (ติดตัว)
ทุกๆนาทีเกราะป้องกันที่ทำจากทรายจะถูกสร้างขึ้นและมันจะดูดซับความเสียหาย
เกราะป้องกันจะดูซับ 30% ของความเสียหายของพลังชีวิตสูงสุดและจะมีเวลา 20 วินาที
*ป้องกันสมบูรณ์ (เวลาคูลดาวน์ 2 นาที)
จะเข้าสู่สถานะ ‘คงกระพัน’ เป็นเวลา 10 วินาที
เมื่ออยู่ในสถานะ ‘คงกระพัน’ จะไม่ได้รับความเสียหายและจะกลายเป็น ‘ได้รับการยกเว้น (immune)’ ในทุกสถานะ
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาของการป้องกันสมบูรณ์ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้
*คำอวยพรของเต่ามังกร (เวลาคูลดาวน์ 10 นาที)
เป็นเวลา 2 นาที ความเสียหายที่เป้าหมายที่กำหนดจะได้รับ เต่ามังกรจะได้รับแทน
เต่ามังกรจะได้รับ 150% ของความเสียหายดั้งเดิมที่เป้าหมายที่กำหนดไว้จะต้องได้รับและหากพลังชีวิตของเต่ามังกรลดลงต่ำกว่า 10% สกิลนี้จะถูกปลดออกโดยอัตโนมัติ
*เสียงคำรามของเต่ามังกร (เวลาคูลดาวน์ 2 นาที)
ฝ่ายตรงข้ามในช่วงกว้างจะถูกยั่วยุและมันจะทำให้พวกเขาโจมตีเต่ามังกร สถานะ ‘ยั่วยุ’ จะคงอยู่เป็นเวลา 30 วินาทีและการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกยั่วยุจะลดลง 40%
(เมื่อเผชิญหน้ากับผู้เล่น ผลกระทบจะลดลงครึ่งหนึ่ง)
สิ่งมีชีวิตในตำนานโบราณที่ปกป้องโบราณวัตถุในสุสานเป็นเวลานาน
มันทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ
ตามที่คาดไว้ บักค์มีค่าสถานะที่มากซึ่งคล้ายกับไลและพิน
ส่วนที่น่าผิดหวังเพียงอย่างเดียวคือข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเป็น ‘ไม่สามารถวิวัฒนาการได้’
‘ถ้าเขาสามารถวิวัฒนาการได้จากระดับ Legendary ฉันจะสามารถทำให้เขาเป็นระดับ Mythological ได้…’
ในกรณีของไล ชื่อ ‘ร่างสมบูรณ์’ ถูกแนบอยู่
นั่นหมายความว่าในหมู่สัตว์เลี้ยงประเภทหมาป่าไม่มีขั้นสูงกว่าของไลที่สามารถวิวัฒนาการได้แล้ว
หากคำเหล่านั้นคิดในทางอื่นในกรณีของเต่ามังกรหรือกริฟฟินก็หมายความว่าเป็นไปได้ว่ามีระดับที่สูงกว่าที่พวกเขาสามารถวิวัฒนาการได้
เป็นเพราะเหตุนั้น เขาจึงผิดหวัง
‘ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ฉันรู้สึกว่าการแท้งค์โดยมีเพียงดุ๊กเดเพียงอย่างเดียวนั่นขาดไป ดังนั้นผลมันจึงออกมาดีจริงๆ’
จำนวนพลังชีวิตที่มากมาย 180,000 หน่วยและพลังป้องกันที่ใกล้เคียงกับ 4,000 หน่วย
อย่างที่คาดไว้ พวกมันมีค่าสถานะเยอะมาก แม้ว่าเขาจะได้รับการพิจารณาในเลเวล 150 ก็ตาม
“ว้าว ยินดีด้วยค่ะท่านลอร์ด บักค์เท่ห์จริงๆ!”
ตาของซีเรียที่เดินไปหาบักค์เปล่งประกายขณะที่เธอลูบกระดองยักษ์ของมัน
เอียนก็ยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อตอบกลับ
“ขอบคุณนะซีเรีย”
และฮูนี่ย์ที่มองจากด้านหลังได้บ่น
“โชคดีนี่หว่า นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเก่งขึ้นโคตรไวเพราะโชคของมันนี่เอง”
แม้ในคำพูดประชดของฮูนี่ย์ เอียนก็แค่ยักไหล่
“โชคก็เป็นทักษะเจ้าหนู”
“เหอะ”
และก็มีเต่าตัวหนึ่งที่แสดงสีหน้าไม่พอใจ
บุ๊กค์- บู๊-บุ๊กค์-!
บุ๊กค์จ้องไปที่บักค์ด้วยอาการที่เต็มไปด้วยความอิจฉา
ดูเหมือนว่าเขาจะรู้แล้วว่ามันกลายเป็นเรื่องที่ไกลเกินกว่าที่เขาจะดูดีกว่าบักค์ ไม่ว่าเขาจะทานอาหารมากแค่ไหนในฐานะบุ๊กค์นั้นแสดงออกอย่างบูดบึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ
เอียนที่เห็นอย่างนั้น แสยะยิ้มขณะที่ลูบหัวของบุ๊กค์
“แกก็น่ารักนะ”
บุ๊กค์- บู๊-บุ๊กค์-!
บุ๊กค์หดเข้าไปในกระดองของมันและเอียนเดินเข้าไปหาบักค์อย่างช้าๆที่น่าภูมิใจ
อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งปัญหา
‘จะว่าไปแล้ว จากนี้ไปฉันไม่สามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของฉันทั้งหมดในการต่อสู้ได้’
ความเป็นผู้นำของเขาซึ่งเขาไม่รู้ว่าเขาขาดมาจนถึงตอนนี้เนื่องจากไอเทมและค่าสถานะลับของเขาถึงขีดจำกัดแล้ว
ต้องขอบคุณเครื่องประดับเกล็ดมังกรของเทมเมอร์ที่ทำให้ การจับสัตว์เลี้ยงนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีปัญหาในการได้รับ แต่การอัญเชิญนั้นเป็นไปไม่ได้
เอียนเริ่มใช้สมอง
‘แม้ว่าฉันจะใช้เงินทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนไอเทมทั้งหมดของฉัน ฉันก็รู้สึกว่ามันจะยากที่จะครอบคลุมถึงมัน…’
อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นซีเรียซึ่งกำลังพูดคุยอย่างมีความสุขกับบักค์ได้จับตาของเอียน
‘ถ้าเป็นซีเรียล่ะ…!’
เอียนเรียกซีเรีย
“ซีเรีย!”
“ค่ะ ท่าลอร์ด!”
“เธอยังเหลือค่าความเป็นผู้นำไหม?”
ความคิดของเอียนนั้นเรียบง่าย เขาวางแผนที่จะย้ายหนึ่งในสัตว์เลี้ยงของเขาไปยังซีเรีย
ในขณะที่ซีเรียเป็นผู้ติดตามของเอียนด้วยเช่นกัน ถ้าเขาทำเช่นนั้นเขาจะสามารถจัดการสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเขาได้
เนื่องจากซีเลียใกล้กับเลเวล 130 แล้วเช่นกัน เธอจะมีค่าความเป็นผู้นำที่เหลืออยู่แน่นอน เนื่องจากสัตว์เลี้ยงเพียงตัวเดียวที่ซีเรียจัดการคือบลูไวเวิร์น’
ซีเรียตอบสนองความคาดหวังของเอียนเธอพยักหน้ารับ
“ค่ะลอร์ด ฉันเหลือค่าความเป็นผู้นำเยอะมาก ทำไมหรอคะ?”
เอียนยิ้มอย่างสดใสขณะที่เขาพูดกับซีเรีย
“ซีเรีย ถ้างั้นจากนี้ไป เธอสามารถดูแลดุ๊กเดได้ไหม? ถ้าเป็นเธอ ฉันรู้สึกว่าสามารถไว้ใจได้”
หากเขาย้ายดุ๊กเดไปยังซีเรีย เขารู้สึกว่าเขาสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างเพื่อเพิ่มความเป็นผู้นำของเขาและมันจะเป็นไปได้ในการจัดการสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเขา
และแน่นอนว่าซีเรียพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น
“ได้เลยค่ะ ท่านลอร์ด! ขอบคุณมากค่ะ!”
ซีเรียมองไปที่ดุ๊กเดที่ยืนอยู่ด้วยการแสดงออกอย่างมีความสุข
เอียนซึ่งย้ายดุ๊กเดไปยังซีเรียเสร็จสิ้น เริ่มฟื้นฟูและเดินทางอีกครั้ง
ถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มงานเพื่อครอบครองฐาน
* * *
“โซลิน เธอเคลื่อนไหวอย่างบ้าบิ่นไปแล้ว”
เมื่ออิลาฮันพูด โซลินก้มหัวลงขณะที่เธอตอบด้วยเสียงสลด
“ขออภัยค่ะหัวหน้า ฉันไม่ทราบว่าเป็นอัศวินแห่งราชวงศ์ที่ขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์”
อิลาฮันส่ายหน้า
นี่เป็นเพราะไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นการสูญเสียที่ได้รับนั้นใหญ่เกินไป
การสังหารหมู่ของสมาชิกกิลด์อย่างมาก
ความจริงที่ว่ามีช่องว่างในพลังการต่อสู้ของพวกเขาสำหรับวันนั้นมันชัดเจน แต่เมื่อเลเวลของพวกเขาลดลงหนึ่งเลเวล โดยทั่วไปนี่คือการสูญเสียอย่างไม่น่าเชื่อ
ยิ่งไปกว่านั้น ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะฆ่าอัศวินสักคน ทำให้เขาโกรธมากที่สุด
“เฮ้อ… ไม่มีอะไรที่เราสามารถทำได้แล้ว นอกจากที่จะอยู่อย่างระมัดระวังในตอนนี้”
ในฐานะที่เป็นความล้มเหลวในการพัฒนาในแผนของเขาแล้ว อิลาฮันทุ่มไปกับความคิด
‘ฉันวางแผนที่จะครอบครองฐานอย่างน้อยสามฐานก่อนที่จะเริ่ม… แต่ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วแม้ว่าเราจะหักโหม เราก็จะสามารถดูแลได้เพียงสองแห่งเท่านั้น’
กิลด์คู่แข่งของพวกเขาคือกิลด์ไททั่นประสบความสำเร็จในการครอบครองสองฐานและในขณะที่เขาได้รับข้อมูลว่าพวกเขากำลังจะเพิ่มจำนวนอีกหนึ่งฐานเพิ่มเติม เขาเจ็บใจยิ่งขึ้น
‘ถึงกระนั้นในฐานะที่เป็นพวกกิลด์อาณาจักรลัสเปลยังไม่พบจุดที่ถูกต้อง… อย่างน้อยก็ทำให้โล่งอก’
อิลาฮันที่คิดในใจของเขาอยู่ที่นั่นเดาะลิ้นของเขาภายในใจ
กิลด์ตัวแทนที่เป็นตัวแทนของอาณาจักรลัสเปลได้แก่ สเปนดอร์ โอ๊คลันและกิลด์วาเลี่ยน
พวกเขามีความภาคภูมิใจที่พวกเขาเป็นหนึ่งใน 5 กิลด์ที่ดีที่สุด แต่อิลาฮันไม่เคยคิดว่าพวกเขาเป็นคู่แข่งของพวกเขา
การตัดสินใจของพวกเขามักจะอยู่ข้างหลังหนึ่งก้าวและพลังการต่อสู้ตามวัตถุประสงค์ก็ลดลง
เพราะประเทศที่พวกเขาเป็นพันธมิตรนั้นแตกต่างกัน พวกเขายังไม่เคยพบกันในที่สมรภูมิ แต่ถ้าพวกเขาไปเจอกันเขาคิดว่าผลลัพธ์จะชัดเจน
สำหรับสงครามดินแดนเนื่องจากความได้เปรียบที่กิลด์ป้องกันมี พวกเขาจึงไม่สามารถชนะได้อย่างง่ายดาย แต่เขามั่นใจในพบังการทำลายพวกเขาทั้งหมดในสงครามพื้นที่ที่จะเกิดขึ้นในทวีปกลางตอนนี้
ต่อหน้าของอิลาฮันที่คิดไปเรื่อยๆขณะที่ปิดตาอยู่ โซลินพูดด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง
“เอ่อ… แต่ว่าหัวหน้าคะ”
อิลาฮันตอบกลับโดยยังคงปิดตาอยู่
“ว่ามา”
“ขณะที่ฉันมาที่นี่หลังจากเวลาที่ฉันไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ ฉันก็ค้นพบสถานที่ที่น่าสนใจ”
อิลาฮันลืมตาเล็กน้อย
“สถานที่น่าสนใจ?”
“ค่ะ ขณะที่พวกกิลด์ไททั่นอยู่รอบๆมัน ฉันไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ แต่มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างอยู่ในนั้นแน่ๆ”
อาการของอิลาฮันเปลี่ยนเล็กน้อย
“โอ้โห สิ่งก่อสร้าง… แล้วเธอเห็นชื่อมันไหม?”
โซลินพยักหน้า
“ค่ะ ฉันตรวจสอบชื่อของมัน มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่ชื่อว่า ‘หอคอยแห่งสงคราม’ ค่ะ”
และทันทีที่ได้ยินคำนั้น อิลาฮันยืนขึ้นจากจุดที่เขาอยู่ทันที
“เวรเอ้ย!”
โซลินซึ่งสะดุ้งตามร่างของเขา ซึ่งเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“มีอะไรหรอคะ?”
ดวงตาของอิลาฮันนั้นแวววาว
‘ชยาคราน แกไม่คิดว่าจะแบ่งปันข้อมูลเลยหรอ?’
กิลด์ไททั่นและกิลด์ดาร์ครูน่าเป็นคู่ปรับคู่ต่อสู้ ดังนั้นพวกเขาจึงคอยตรวจสอบกันจนถึงตอนนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อการบุกเข้าไปในทวีปกลางเป็นการต่อสู้ระหว่างอาณาจักร หัวหน้ากิลด์ตกลงที่จะแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ชยาครานได้ละเมิดสิ่งนั้น
อิลาฮันหันไปหาโซลินอีกครั้ง
“โซลิน”
“ค่ะ หัวหน้า”
“เราต้องไปทันที เตรียมตัวให้พร้อม”
เมื่อเธอเดาได้ว่าอิลาฮันวางแผนจะไปไหน โซลินพยักหน้าขณะที่เธอตอบกลับ
“เข้าใจแล้วค่ะ หัวหน้า”
อิลาฮันเสริมขณะที่เขาเดินหน้า
“รวบรวมสมาชิกผู้บริหารทั้งหมด เนื่องจากพวกเราต้องไปด้วยกัน”