เมืองโลตัสได้รับการพิจารณาว่าเป็นสถานที่ที่ร้อนแรงที่สุดในทวีปทางเหนือเมื่อเร็วๆนี้
และแม้แต่ในนั้น หัวข้อสำคัญที่สุดคือพื้นที่ฝึกฝนเมืองโลตัส
สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับกิลด์โลตัสซึ่งเป็นสถานที่ฝึกฝนที่เลเวลเต็มเพียงแห่งเดียวในไคลัน
“ฮุฮุ นี่เป็นข้อมูลที่น่าสนใจอย่างแท้จริง”
ชายชราที่มีผมมีจุดกระดำกระด่างดำลูบคางลูกหมาป่าสองตัวเดินไปมาในมุมหนึ่งของห้องทำงานของสนามฝึกฝนขณะที่เขาเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดของเขา
เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศาสตราจารย์ลีจีนุก
“คิดว่าการทดลองเกี่ยวกับระบบการผสมพันธุ์สัตว์เลี้ยงจะเป็นเรื่องสนุกขนาดนี้”
ลีจีนุกอาศัยอยู่ในพื้นที่ฝึกฝนโลตัสในขณะที่เขาจัดการพื้นที่ฝึกฝนและในขณะที่เขาพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง เขาก็สามารถที่จะได้รับสกิล ‘ผสมพันธุ์สัตว์เลี้ยง’
และหลังจากที่เขาได้รับทักษะการผสมพันธุ์ เขาได้ทำการทดลองตลอดทั้งวัน
‘แม้กระทั่งตอนที่จินซุงเสนอครั้งแรก ฉันก็ยังไม่รู้ว่ามันจะสนุกแบบนี้
ในขณะเดียวกันเขาได้รับบันทึกการทดลองเกี่ยวกับค่าสถานะสัตว์เลี้ยงจากเอียนและด้วยรากฐานนั้น เขากำลังวิเคราะห์ว่าค่าสถานะของตัวใหม่ที่สามารถได้รับจากการผสมพันธุ์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
“ดูกันหน่อยสิ อัตราการเติบโตของพลังโจมตีของหมาป่า A อยู่ที่ประมาณ 3.25 หน่วยในขณะที่อัตราการเติบโตของพลังป้องกันอยู่ที่ประมาณ 1.7 หน่วย”
บันทึกของเขาเต็มไปด้วยค่าสถานะและอัตราการเติบโตของสัตว์เลี้ยงตามเลเวลของพวกมัน
อัตราการเติบโตเป็นค่าเฉลี่ยของค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นเมื่อใดก็ตามที่เลเวลของสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น
“แกได้รับพลังโจมตีและการตอบสนองจากแม่”
ลีจีนุกลูบลูกหมาป่าตัวนั้นขณะที่เขาพูดพึมพำ
เนื้อหาของคำพูดของเขาเพียงพอที่จะทำให้คนที่ได้ยินแสดงอาการงุนงง
“ดูเหมือนว่าแกจะได้รับพลังป้องกันจากพ่อ บุคลิกภาพและศักยภาพของแกก็มาจากพ่อของแกงั้นเหรอ?”
เมื่อลีจินุกพึมพำในขณะที่เขาวิเคราะห์บันทึกของเขาอย่างต่อเนื่อง ประตูก็เปิดออกเมื่อมีคนเข้ามา
และในห้องที่เงียบสงบเสียง เสียงแจ่มใสก็ดังขึ้น
“ไม่นะคะ ศาสตราจารย์ ไม่ใช่ว่าใบหน้าของพวกมันจะดูเหมือนกัน แต่ควรบอกว่าพวกเขามีพลังป้องกันเหมือนกัน ศาสตราจารย์คุณรับตำแหน่งจินซุงด้วยหรอคะ?”
เสียงของนางเอกคือฮาริน
“โฮะโฮะ เธอมาเองหรอฮาริน?”
ในขณะที่มองไปที่ลีจินุกผู้ที่หัวเราะเยาะเธอในขณะที่เขาไม่ได้ละสายตาจากโน้ต ฮารินพูดขณะถอนหายใจ
“หนูมาพบอาจารย์ก่อนและอาจารย์จะกลายเป็นเหมือนจินซุงอีกก้าวหนึ่ง ไม่มีอะไรอื่นนอกจากติดเกม”
เมื่อฮารินพูด ลีจีนุกแสยะยิ้ม
“ฉันยังอีไกลที่จะถามจินซุงได้ ฉันเพิ่งเริ่มเปิดตาของฉันสำหรับความเพลิดเพลินในการทดลองเล่นเกมตอนนี้ โฮะโฮะ”
ฮารินส่ายหน้าขณะที่เทอมอง
สถานที่ที่เธอจ้องมองคือกำแพงที่ลีจินุกจดรหัสที่ไม่รู้จักและวางมันอย่างหนาแน่น
“ศาสตราจารย์คะ พวกนี้คืออะไรหรอคะ?”
เมื่อฮารินถาม ลีจีนุกวางปากกาลงขณะที่เขาหันหน้าไป
“โฮะโฮะ เธอเรียกมันว่าข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเลือกตัวที่น่าทึ่งที่สุดท่ามกลางสัตว์เลี้ยงประเภทเดียวกันได้นะ? “
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ฮารินแสดงท่าทางงุนงง
“อะไรนะคะ? หมายความว่าอะไรหรอคะ? สัตว์เลี้ยงเหมือนกันสามารถมีค่าสถานะที่แตกต่างได้หรอคะ?”
เมื่อฮารินเป็นอาชีพพระและกุ๊ก ช่วยไม่ได้ที่เทอจะไม่รู้เกี่ยวกับอาชีพซัมมอนเนอร์
ลีจีนุกพูดต่อ
“เช่นเดียวกับที่แต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกัน สัตว์เลี้ยงในไคลันก็มีค่าสถานะที่แตกต่างกันเช่นกัน การทดลองที่ฉันทำอยู่ตอนนี้ เธอสามารถเรียกมันว่าการทดลองเพื่อค้นหาตัวที่สุดยอดที่สุดผ่านการผสมพันธุ์”
ด้วยความตื่นเต้นลีจินุกเริ่มพูดเนื้อหาทั้งหมดที่เขาทดลองมาจนถึงตอนนี้
“โอ้ จริงหรอคะ?”
อย่างแรกฮารินก็เริ่มฟังคำอธิบายด้วยอาการสนใจ
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปไม่ถึง 5 นาที เธอก็ส่ายหัวเพราะช่วยไม่ได้ที่เธอจะลุกขึ้นยืน
‘เฮ้อ… ศาสตราจารย์ ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะเขียนบทความด้วยการผสมพันธุ์สัตว์เลี้ยง’
ในบางแง่มุม ลีจินุกมีแรงใจอย่างแรงกล้ามากกว่าแม้แต่เอียน
และการทดลองของเขารวบรวมผลที่แท้จริงอย่างมาก
ลีจีนุกหยิบสมุดบันทึกออกจากลิ้นชักในขณะที่เปิดขึ้น
ด้วยการเขียนแบบว่องไวและการกำหนดหมายเลข ข้อมูลในบันทึกจะถูกจดไว้
- ค่าสถานะของสัตว์เลี้ยงที่เกิดจากการผสมพันธุ์นั้น แน่นอนว่าได้รับอิทธิพลจากค่าสถานะของบุคคลซึ่งจะเป็นพ่อแม่ของพวกมัน
- ท่ามกลางความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์เลี้ยงที่เกิดจากการผสมพันธุ์ พวกมันจะได้รับค่าสถานะจากพ่อแม่ของพวกมันแบบสุ่มและค่าสถานะที่เหลืออีกสองประเภทจะได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมการผสมพันธุ์
- สัตว์เลี้ยงที่ผ่านการผสมพันธุ์จะได้รับศักยภาพจากตัวผู้ในอัตราคงที่
นั่นคือสมุดบันทึกที่เป็นหลักการของการผสมพันธุ์ที่ลีจีนุกค้นพบ ถูกจัดระเบียบไว้
อย่างไรก็ตามฮารินหมุนศีรษะของเธอออกไปอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ ศาสตราจารย์คะ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าหนูกำลังดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการทดสอบกลางภาค”
ลีจีนุกหัวเราะ
“โฮะโฮะ อย่างนั้นหรอ? คุณกำลังบอกว่าสิ่งต่างๆในการทดสอบกลางภาคสำหรับชั้นเรียนทำอาหารเต็มไปด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจเช่นนั้นใช่มั้ย?”
“…”
ฮารินผู้ที่สูญเสียคำพูดเพียงแค่ส่ายหัวเธอไปมาและลีจินุกพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงที่ตื่นเต้น
“จะว่าไปแล้ว เมื่อไหร่จินซุงของเราจะมาที่นี่กัน? ฉันอยากจะแสดงสมุดบันทึกนี้ให้เขาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาจะชอบมันมากแน่ๆ”
ฮารินต้องการปฏิเสธโดยบอกว่าไม่มีทางที่จินซุงจะชอบ แต่เธอปิดปากแน่น
‘ฉันรู้สึกเหมือนว่าเขาจะชอบมันจริงๆ’
แผนการของฮารินในการขอให้ศาสตราจารย์ลีจีนุกพยายามลดเวลาการเล่นเกมของจินซุงแม้แต่นิดเดียวก็ล้มเหลวก่อนที่เธอจะได้เริ่มมัน
* * *
“เฮ้อออ…”
จินซุงซึ่งเหยียดตัวลุกขึ้นจากเตียง ขยี้ตาของตัวเองหลังจากตรวจดูเวลา
“อ้าา… เพราะว่าเควสต์ที่คาดไม่ถึง ฉันเลยใช้เวลามากเกินไป”
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถแม้แต่จะเริ่มเควสต์เชื่อมที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบของเผ่าเซลามัสได้
เนื่องจากแม้ว่าเขาจะหักเงื่อนไขอื่นๆข้อจำกัดเลเวลคือ 200
จากคำพูดของอีคริปส์ระดับความยากของเควสต์เชื่อมได้รับการตัดสินจากอันดับนักรบที่ได้รับ แต่เมื่อเอียนได้รับยศสูงเช่นนั้น ข้อกำหนดเลเวลจึงสูง
‘มันอาจกลายเป็นสิ่งที่ดีขึ้นจริงๆ แม้ว่าฉันจะสามารถทำเควสต์ต่อไปได้ทันที แต่ว่าฉันจะไม่มีเวลาเพียงพอ “
หากเควสต์เชื่อมดำเนินการต่อ จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามวัน
และไม่มีทางที่กองกำลังพันธมิตรของอาณาจักรไคม่อนจะรอจนกว่าจินซุงจะเสร็จสิ้นเควสต์ของเขา
หัวใจของจินซุงเร่งรีบ
‘ถึงเวลาแล้วที่กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรจะต้องมาต่อรองกันในตอนนี้…’
แน่นอนว่าการโจมตีเต็มรูปแบบของกองกำลังพันธมิตรจะเกิดขึ้นในวันนี้หรือพรุ่งนี้และจินซุงต้องการตรวจสอบส่วนการป้องกันโดยรวมของเมืองด้วยตาสองข้างของเขาก่อนหน้านั้น
“แน่นอนว่าคนจะไม่ตายเพียงเพราะพวกเขาข้ามอาหารเช้าครั้งเดียว”
จินซุงผู้วางแผนอย่างน้อยก็ทานซีเรียลเป็นอาหารมื้อเบา ได้เปลี่ยนใจและเข้าไปในแคปซูล
เมื่อจินซุงไปอย่างคล่องแคล่วและนอนลงในแคปซูลประตูของแคปซูลก็ปิดลงเบาๆ
- ยินดีต้อนรับสู่โลกของไคลัน
- ซัมมอนเนอร์ ‘เอียน’ ได้โปรดเพลิดเพลินกับเวลาของท่าน
ความคิดเห็นที่เปลี่ยนไปอย่างละเอียดทุกครั้งที่เขาเข้าสู่ระบบ
จินซุงซึ่งรู้สึกว่ามันเท่ห์ทันใดนั้น แสยะยิ้มเมื่อเขาพึมพำกับตัวเอง
‘แม้แต่ NPC แต่ละตัวก็มี AI ที่แตกต่างกัน’
เอียนซึ่งเข้าสู่เกมมองไปรอบๆเขา
สถานที่ที่เอียนได้เข้าสู่ระบบนั้นเป็นที่ตั้งแคมป์ที่สร้างขึ้นชั่วคราว
และเสียงที่คุ้นเคยที่ทักทายเอียน
“ตื่นแล้วหรอ เจ้าหนูลอร์ด?”
ด้วยเสียงที่คุ้นเคยที่เขาได้ยินจากข้างหลังเขา เอียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เมื่อไหร่จะนายจะเรียกฉันว่าลอร์ดเฉยๆห้ะ เจ้าผู้ติดตาม?”
“อืม… สักวันหนึ่งคงมาถึงมั้ง?”
เอียนซึ่งกำลังจะโกรธจากการถากถางของไคซาร์ทันใดนั้นเอง เขาก็เริ่มสงสัยในความซื่อสัตย์ของเขา
‘มันจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยผ่านเควสต์นี้หรือไม่?’
เอียนเปิดหน้าต่างข้อมูลผู้ติดตาม
และเขาถอนหายใจภายในใจ
‘มันขึ้น แต่เพียงหนึ่งก้าวของมด’
ความซื่อสัตย์ของไคซาร์คือ 10/100
‘ถึงกระนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่มีตัวเลขถึงสองหลัก ดังนั้นฉันควรจะพอใจหรือไม่?’
เหตุผลที่ว่าทำไมถึงได้รับสิ่งนี้มากอาจเป็นเพราะเขาต่อสู้กับอีคริปส์ได้ดี
“เอาล่ะ เรากลับไปเมืองกันเลยดีไหม?”
เมื่อเอียนพูด ซีเรียและพอลลีนตอบกลับพร้อมกัน
“ครับ/ค่ะ ท่านลอร์ด!”
เอียนเริ่มเดินอย่างรวดเร็วขณะที่นำเหล่าผู้ติดตาม
He needed to return to the domain even one minute faster and inspect the fortress.
เขาต้องการที่จะกลับไปยังเมืองได้เร็วขึ้นหนึ่งนาทีและตรวจสอบป้อมปราการ
‘ฉันสงสัยว่าสมาชิกกิลด์คนอื่นกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้’
เอียนก็เปิดหน้าต่างแชทของกิลด์ในขณะที่ขยับเท้า
- เอียน : ทุกคน เมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?
- ฟิโอลัน : ใช่ จะว่าไปแล้ว เอียน นายทำเควสต์ทั้งวันเลยหรอเมื่อวานน่ะ? นายไม่ได้เข้าร่วมการล่าของกิลด์ตอนเย็นด้วย…
- เอียน : ใช่ เควสต์ใช้เวลามากไปหน่อย จะว่าไปแล้ว มีการเคลื่อนไหวจากฝั่งกองทัพอาณาจักรไคม่อนหรือยัง?
- โครบาน : ดูเหมือนว่าค่อนข้างไกล อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะโจมตีเร็วๆนี้ พวกเขาได้ยึดฐานทั้งหมดที่อยู่ด้านหน้านอกจากเมืองของเราตอนนี้
- เอียน : อ่ะฮ่า ทุกคนที่เห็นแชทของกิลด์อยู่ในตอนนี้ ได้โปรดบอกสมาชิกกิลด์ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบให้เข้ามาทั้งหมด เราต้องรักษาสถานะการเข้าสู่ระบบให้มากที่สุดสำหรับวันนี้และวันพรุ่งนี้
- คาร์วิน : เอาล่ะ เข้าใจแล้ว
- เฮิร์ซ : ฉันก็เพิ่งเข้ามา กลับมาที่เมืองด่วนๆ มีบางสิ่งที่เราต้องคุยกัน
- เอียน : โอเค
เอียนซึ่งปิดหน้าต่างแชทตรวจ สอบแผนที่ขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังเมืองในระยะทางที่สั้นที่สุด
เนื่องจากที่ตั้งแคมป์ซึ่งเขาเข้าสู่ระบบและเมืองไพโรนั้นอยู่ไม่ไกลกัน เอียนก็สามารถมาถึงเมืองได้ในไม่ช้า
อย่างไรก็ตามจากนั้น เงาน่าสงสัยจับตาของเอียน
‘ใครกัน? พวกเขาจะปรากฏที่ด้านข้างได้ยังไง? พวกเขาเป็นสมาชิกของกิลด์หรือไม่?’
เงาดำปรากฏขึ้นใต้กำแพงป้อมปราการที่มุมถนนและหายตัวไปอย่างสะดวกสบาย
‘ไม่ควรมีทางผ่านเช่นนั้น แต่…?’
เอียนซึ่งเป็นผู้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างป้อมปราการเมืองไพโร รู้ถึงโครงสร้างทั้งหมดของป้อมปราการ
เพราะในกรณีนี้ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ เขารู้ว่าจะไม่มีใครที่ปรากฏขึ้นใกล้ยอดสูง
เอียนซึ่งมีลางว่ามีอะไรแปลกๆ อัญเชิญฮัลลิทันที
“อัญเชิญ ฮัลลิ!”
กร๊าา-!
เอียนซึ่งรีบขึ้นบนหลังฮัลลิ พูดกับไคซาร์
“ไคซาร์ เข้าไปในเมืองกับพอลลีนและซีเรียก่อน”
เมื่อเอียนพูด ไคซาร์พยักหน้าด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ
“เข้าใจละ พวกเราจะทำอย่างนั้นละกัน”
และก่อนที่เขาจะได้ยินไคซาร์ตอบกลับ เอียนขึ้นบนหลังฮัลลิและเริ่มวิ่ง
“ฮัลลิ คำอวยพระแห่งสายลม!”
เอียนซึ่งได้เรียกใช้พลังแฝงของฮัลลิซึ่งเพิ่มความว่องไวสูงสุดของเขา ลดระยะห่างระหว่างพวกเขากับเงาดำอย่างรวดเร็ว
และเงาที่มุ่งหน้าไปยังที่ใดที่หนึ่งดูเหมือนว่าจะรู้สึกว่าเอียนติดตามพวกเขา ขณะที่พวกเขายืนอยู่ตรงจุดนั้น
ขณะที่เขาใกล้เข้ามา เงาของมนุษย์โผล่ออกมา
‘อะไรวะนั่น? พวกเขาเป็นแอสซาซิน?’
เริ่มต้นด้วยเครื่องแบบและหน้ากากสีดำของพวกเขา ชายผู้ซึ่งร่างกายทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยแสงสีดำยืนขึ้นสูงในขณะที่เผชิญหน้ากับเอียน
Tat-.
เอียนซึ่งรู้สึกว่าชายคนนั้นไม่มีความตั้งใจที่จะวิ่งหนีลงมาจากด้านหลังของฮัลลิ ในขณะที่เขาจ้องมองชายคนนั้น
“แกเป็นใคร?”
เอียนหยิบ ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ออกมาซึ่งเขาได้รับเป็นรางวัลสำหรับต่อสู้กับอีคริปส์
ในขณะที่มองเอียนผู้ซึ่งปลดปล่อยจิตวิญญาณที่ข่มขู่ซึ่งรู้สึกราวกับว่าเขาจะควงหอกของเขาแกว่งไปรอบๆได้ตลอดเวลา ชายผู้นั้นก็หัวเราะออกมา
“ซัมมอนเนอร์ที่ขี่ฮัลลิคานไปรอบๆ… แกจะต้องเป็นคนมีชื่อเสียง ‘เอียน’ ”
ชายผู้นั้นยิ้มเยาะขณะที่เขายื่นมือออกมาข้างหลังและดึงอาวุธออกมา
สิ่งที่ถืออยู่ในมือทั้งสองของเขาคือลมและล้อไฟขนาดใหญ่ซึ่งส่องแสงสีขาว เนื่องจากแสงอาทิตย์ที่สะท้อนออกมาจากพวกมัน
เอียนก้าวอีกหนึ่งกัาวขณะที่เขาพูดอีกครั้ง
“ฉันจะดีใจนะถ้าแกตอบคำถามฉันมาก่อน”
อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของเขาซึ่งไม่ได้ถูกข่มขู่แม้แต่น้อยจากการข่มขู่ของเอียน ทำให้ท่าทีของเขาโน้มตัวลงเมื่อเขาจ้องมองตาสองข้างของเอียน
“ลองหามันจากความสามารถของแกสิ ถ้าแกสงสัยนัก”