“เอ่อ… ดูเหมือนว่าฉันจะต้องพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้และทำเควสต์ต่อไปเพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
เอียนแต่งตั้งนักบวชอีกสองคนและหลังจากเพิ่มจำนวนผู้ติดตามสูงสุดที่เขาสามารถครอบครองได้ เขาก็ออกจากศูนย์ทรัพยากรมนุษย์
จำนวนผู้ติดตามสูงสุดในปัจจุบันที่เอียนสามารถแต่งตั้งได้คือ 40
เนื่องจากฉายาขุนนางของเอียนคือ ‘มาร์ควิส’ เขาจึงได้รับช่องที่เทียบเท่ากับฉายานั้น
‘อืม ฉันเห็นคนสองคนที่ฉันต้องการนำออก…’
เอียนตรวจสอบรายชื่อผู้ติดตามของเขา
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีข้อเสียอย่างร้ายแรงหากเขาต้องปลดผู้ติดตามจึงไม่ใช่ปัญหาที่เขาสามารถตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย
‘ถ้าเราขาดพลังการต่อสู้จริงๆ ฉันเดาว่าฉันคงต้องขึ้นไปฉายาดยุค’
ถ้าเขากลายเป็นดยุค เขาสามารถแต่งตั้งผู้ติดตามได้เพิ่มเติม 10 คน
ชื่อเสียงที่เขาต้องการเพื่อที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากตำแหน่งขุนนางมาร์ควิสไปดยุคคือ 3 ล้านและถ้าเป็นด้วยชื่อเสียงที่เอียนครอบครอง แม้ว่าหลังจากที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งเขายังคงมีชื่อเสียงเหลืออยู่มากมาย
จำนวนชื่อเสียงที่เอียนครอบครองอยู่ในปัจจุบันนั้นใกล้ถึงสิบล้านแล้ว
แม้จะมีชื่อเสียงเพียงพอ แต่เหตุผลที่ทำให้เอียนไม่เลื่อนตำแหน่งฉายาของเขานั้นเรียบง่าย
นี่เป็นเพราะชื่อเสียงที่เขาครอบครองยิ่งมีประโยชน์ต่อการเล่นเกมมากขึ้นเท่านั้น
บทบาทของค่าสถานะ ‘ชื่อเสียง’ ในไคลันนั้นไม่มีที่สิ้นสุด
หากเนื้อหานั้นได้รับการจัดระเบียบอย่างง่าย มันจะเป็นดังต่อไปนี้
แน่นอนว่าอันดับของบุคคลที่ปรากฏในศูนย์ทรัพยากรมนุษย์นั้นได้รับผลกระทบจากเลเวลสถานที่ของศูนย์ด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นความจริงที่ว่าอิทธิพลของชื่อเสียงนั้นไม่มีเงื่อนไข
พื้นที่นั้นอาจเป็นพื้นที่ล่าหรือพื้นที่ที่จำเป็นต้องผ่านเพื่อดำเนินการต่อด้วยเควสต์หรืออาจเป็นพื้นที่ เช่นพื้นที่จัดเก็บสมบัติที่สามารถได้รับโบราณวัตถุลับ
ตำแหน่งขุนนางเป็นหนึ่งในข้อกำหนดสำคัญที่จำเป็นในการเพิ่มระดับของเมืองที่ครอบครองและต้องมีชื่อเสียงที่สูงเพื่อรักษาความซื่อสัตย์ของผู้ติดตามและผู้คนในเมือง
ในกรณีของเอียน เขากำลังดำรงตำแหน่ง ‘มาร์ควิส’ และฉายาดยุคที่สูงกว่าขั้นหนึ่ง เช่นเดียวกับชื่ออาร์คดยุคเป็นเพียงฉายาเดียวที่เขาสามารถได้รับการเลื่อนตำแหน่งด้วยชื่อเสียงและในกรณีของฉายากษัตริย์หรือฉายาจักรพรรดิซึ่งเป็นระดับที่สูงขึ้น เขาจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆเช่นกัน
เนื่องจากเป็นกรณีนี้ ชื่อเสียงเป็นค่าสถานะที่มีค่ามากกว่าสิ่งอื่นๆในไคลัน
และในขณะที่เอียนรู้สึกถึงพลังของเกียรติยศมากขึ้น เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากเลื่อนตำแหน่งที่เขาต้องการใช้ชื่อเสียงจำนวน 3 ล้านหน่วย
เอียนซึ่งเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเข้าไปในอาณาจักรปีศาจอีกครั้ง ได้มุ่งหน้าไปยังโซน 115 ทันที
เนื่องจากผู้เล่าส่วนน้อยไม่ถึงหนึ่งพันคนที่ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่อาณาจักรปีศาจ จึงหายากมากที่ผู้เล่นจะพบกันได้ในพื้นที่อาณาจักรปีศาจขนาดใหญ่
เอียนซึ่งในที่สุดก็มาถึงโซน 115 หลังจากเคลื่อนที่ข้ามพื้นที่เป็นเวลาหลายชั่วโมงค่อยๆมองรอบๆเขา
“ถ้ามันเป็นอย่างที่ยันโคพูด อสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนส่วนมาจะปรากฏขึ้นที่นี่”
เมื่อเอียนพูด ไคซาร์ซึ่งอยู่ข้างเขาได้พยักหน้า
“ถูกต้อง ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น”
ไคซาร์หยิบดาบใหญ่ของเขาขณะที่เขายิ้มและพอลลีนก็เข้าหาเอียนขณะที่เขาถาม
“ท่านลอร์ดครับ เราควรวางตำแหน่งนักบวชที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่อย่างไร?”
เอียนตอบกลับโดยไม่ลังเล
“ต่อจากนี้ไปพอลลีน นายต้องสวมบทบาทเป็น ซัพ-แท้งค์ ฉันจะทำให้นักบวชที่ได้รับคัดเลือกใหม่รับผิดชอบการฟื้นฟูพลังชีวิตของนายอย่างเต็มที่ เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดจะเน้นไปที่นาย”
พอลลีนพยกหน้า
“รับทราบครับ ท่านลอร์ด ถ้างั้นดูเหมือนว่าผมจะต้องขยับไปด้านหน้าสักเล็กน้อย”
“ถูกต้อง นายต้องอยู่ภายในระยะที่เวทย์ศักดิ์สิทธิของนักบวชไปถึงด้วยนะ”
“ครับ ท่านลอร์ด”
ปาร์ตี้ของเอียนซึ่งเปลี่ยนรูปแบบของพวกเขาให้เป็นแนวป้องกันมากขึ้นเริ่มสำรวจโซน 115 อย่างระมัดระวังมากขึ้นซึ่งแตกต่างจากแนวทางของพวกเขาจนถึงปัจจุบัน
และอีกไม่นานพวกเขาก็สามารถพบอสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อน
‘ช่วงเลเวลและจำนวนอสูรเวทย์มนตร์จะสูงกว่าเมื่อก่อนอย่างแน่นอน’
ดูเหมือนว่ามีอสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนเกือบ 20-30 ตัว
เพราะแม้แต่ตัวที่มีเลเวลสูงสุดก็คือมากกว่า 290 เอียนจึงเริ่มเข้าหาพวกเขาอย่างระมัดระวัง
“เราแค่ต้องเคลื่อนไหวอย่างใจเย็นอย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ถ้าเรากระจัดกระจายไปเล็กน้อยอาจเป็นไปได้ว่าด้านที่ถูกทำลายคือด้านของเรา ดังนั้นจงเกาะกลุ่มไว้”
“ค่ะ ท่านลอร์ด”
“รับทราบครับ!”
แม้แต่ซาร์เซอุสผู้ต่อสู้ในร่างของมนุษย์เพื่อป้องกันไม่ให้ความสนใจดึงกลับเข้าไปในร่างของมังกรยักษ์
เมื่อคาร์เซอุสถาม เอียนพยักหน้า
“โอเค เรามาเริ่มด้วยไฟที่สดชื่นกันเถอะ!”
เอียนตรวจสอบข้อความระบบดัวยท่าทางงุนงง
‘หินเวทย์มนตร์ระดับกลางที่ปนเปื้อนอะไรกันอีกละเนี่ย? นี่เป็นครั้งที่สามที่ฉันเห็นหินเวทย์มนตร์ระดับกลาง แต่ยังไม่เคยเห็นหินเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนเลย’
เขาไม่รู้วิธีที่จะชำระหินเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนได้อย่างไร แต่จนกว่ามันจะถูกทำให้บริสุทธิ์มันก็เป็นเพียงหินไร้ประโยชน์
เอียนบ่นขณะที่เขาเดินผ่านโซน 115
‘ในระหว่างนี้ฉันควรจะหาเบาะแสได้ที่ไหน?’
สาเหตุของการพัฒนาจิตวิญญาณที่ปนเปื้อน
เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าของเควสต์กว่าหนึ่งในสี่ของวัน เอียนซึ่งคิดว่าเขาต้องการค้นหามันและทำลายมันก็เริ่มหงุดหงิด
“บักค์”
“อะไรเป็นเหตุผลว่าทำไมอสูรเวทย์มนตร์จึงปนเปื้อนงั้นหรอ?”
เมื่อเอียนถาม บักค์ตอบกลับด้วยท่าทางเย็นชา
“… ฉันไม่ควรพูดสินะ”
อย่างไรก็ตามทันใดนั้นพินผู้ซึ่งบินผ่านอากาศเพื่อลาดตระเวนในพื้นที่ บินไปหาเอียนและกระพือปีกไปทางด้านหน้า
Kku-ruk- Kku-ru-ru-ruk-!
และทันทีที่เขาได้ยิน เอียนมีลางสังหรณ์ว่าพินได้ค้นพบบางสิ่ง
‘ในที่สุด…!’
ตามการนำทางของพิน ปาร์ตี้ของเอียนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็สามารถค้นพบคริสตัลยักษ์ที่ส่องแสงสีแดงสด
เอียนเข้าใกล้คริสตัลขณะที่เขามองไปรอบๆด้วยท่าทางงุนงง
“อะไรกันเนี่ย?”
เพียงแค่มองจากด้านนอก มันไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่าโครงสร้างทำมาจากอะไร
ทันใดนั้น ไคซาร์ซึ่งอยู่ถัดจากเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างฉับพลัน
“เจ้าหนูลอร์ด สีนี้ทำให้รู้สึกแย่… นายไม่รู้หรอจากการที่ดูมันเนี่ย? ข้าคิดว่านี่คือแหล่งของการปนเปื้อน”
เขาเหวี่ยงดาบใหญ่ไปยังลูกบอลคริสตัลโดยไม่ลังเล
เอียนซึ่งรู้สึกสงสัยค่อนข้างมากกำลังจะหยุดยั้งเขา แต่หลังจากนั้นดาบใหญ่ของไคซาร์ก็พุ่งไปที่ด้านข้างของคริสตัลอย่างไร้ความปราณี
“เดี๋ยว!”
Bang-!
ไคซาร์หันกลับมามองเอียนด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“มีอะไรเอียน? ข้าไม่ควรทำอย่างนี้งั้นหรอ?”
ในขณะเดียวกันเอียนก็อ่านข้อความของระบบที่โผล่ขึ้นมาทันที
เอียนรีบจับไหล่ของไคซาร์ขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ
“รอก่อน ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น ฉันไม่คิดว่าเราควรโจมตีมันอย่างนั้นเพื่อทำลายมัน”
เอียนรู้สึกว่าได้ยินชื่อ ‘เซอร์เวี่ยน’ มาจากที่ไหนสักแห่ง
‘เซอร์เวี่ยน… เป็นชื่อที่ฉันคุ้นเคยอย่างแน่นอน เป็นชื่อที่ฉันได้ยินมาไม่นานแล้วทำไมฉันถึงนึกไม่ออกเลยล่ะ?’
และหลังจากนั้นไม่นาน เอียนสามารถจำได้
“อ้อใช่! มันเป็นชื่อที่อิเรียลพูดถึง!”
เอียนเปิดคลังของเขาทันทีและเปิดหนังสือภาพแห่งอสูรเวทย์มนตร์ที่เขาได้รับจากอิเรียล
และเขาสามารถค้นพบชื่อ ‘เซอร์เวี่ยน’ จากภายในนั้น
เซอร์เวี่ยนนั้นเป็นซัมมอนเนอร์ครึ่งปีศาจที่อิเรียลพูดถึง
เอียนหันไปมองที่ไคซาร์อีกครั้ง
“ไคซาร์ ดูเหมือนว่ามีคนอยู่ในนั้น”
“คนงั้นหรอ?”
“ถูกต้อง มีคนติดอยู่ข้างในนั้นแน่ๆ”
คราวนี้ บักค์ถาม
เอียนตอบกลับทันที
“ไม่มีสิ่งไหนที่ฉันไม่รู้ เจ้าเต่า”
เอียนมองขึ้นไปที่บักค์
“ฉันก็รู้ว่านายต้องการเข้าไปในกระดองของนายในตอนนี้และหลับไปเลยหนึ่งชั่วโมง”
ไม่สนใจบักค์ผู้ซึ่งแสดงออกอย่างงุนงง เอียนก็เริ่มตัดด้านนอกของคริสตัลอย่างขยันขันแข็ง
เอียนแสดงสีหน้าให้เห็นว่าเขาเหนื่อยและเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว เมื่อเขาพึมพำกับตัวเอง
‘เอ่อ ความทนทานอะไรจะมากขนาดนี้? ฉันจะลดพลังชีวิตทั้งหมดลงในอัตรานี้ได้ยังไง?’
และพลังชีวิตของเซอร์เวียนซึ่งเขาแน่ใจว่าติดอยู่ข้างในโดยการจู่โจมเขาทีละเล็กทีละน้อย
“เจ้าหนูลอร์ด เราจะสามารถหาแหล่งที่มาของการปนเปื้อนได้หรือไม่ถ้าเราช่วยคนข้างในนี้?”
เมื่อไคซาร์ถาม เอียนส่ายหน้า
“ไม่ ฉันไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่อย่างแรก เราต้องช่วยคนที่ติดอยู่ในนั้นไม่ว่ายังไงก็ตาม”
“ทำไมล่ะ?”
เอียนซึ่งสูญเสียคำพูดอย่างฉับพลัน ขมวดคิ้วขณะที่เขาตอบกลับ
“ถ้าฉันพูดก็แค่ทำตามซะ เจ้าผู้ติดตาม”
เซอร์เวี่ยนซัมมอนเนอร์ครึ่งปีศาจจะมีข้อมูลหลักที่เกี่ยวข้องกับอาชีพคู่ของซัมมอนเนอร์หรือแม้กระทั่งเป็นกุญแจลับ
การช่วยเหลือเซอร์เวี่ยนจากภายในผลึกในขณะนี้มีความสำคัญต่อเอียนมากกว่าการค้นหาแหล่งที่มาของการปนเปื้อน
ไคซาร์บ่นในขณะที่เขาเริ่มช่วยเอียนตัดคริสตัลลงและพอลลีนและไลก็เริ่มช่วยเหลือเช่นกัน
ผ่านไปประมาณ 30 นาที
Cra-cra-crack-!
รอยแตกเกิดขึ้นที่คริสตัลสีแดงเนื่องจากความทนทานที่มีมากกว่า 3 ล้านหน่วยในที่สุดก็มาถึง 0
Thud-!
ในขณะเดียวกัน ข้อความระบบก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน
และในข้อความนั้น มีเนื้อหาที่ทำให้ดวงตาทั้งสองของเอียนเบิกโพลง