วืดดดด-
สายลมที่ฟังดูน่าเบื่อ
บุ๊กค์- บุ๊กค์-
และระหว่างนั้น เต่าตัวหนึ่งตัดผ่านสายลมแห่งอาณาจักรปีศาจที่หนาวเหน็บขณะที่มันเดินอย่างช้าๆทีละก้าว
บุ๊กค์- บู๊-บุ๊กค์-
บุ๊กค์เต่าแห่งอาณาจักรปีศาจที่อ้างว้างกำลังจ้องมองบางสิ่งด้วยสายตาของสัตว์ป่าดุร้ายที่จ้องมองเหยื่อของมัน
‘ตะ ตรงนั้นต้องมีหญ้าจิตวิญญาณปีศาจที่น่าอร่อยแน่ๆเลยบุ๊กค์!’
Pak Pa-pak-!
เท้าหน้าของบุ๊กค์ผ่านป่าทึบอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาขุดไปบนพื้นเย็นๆของอาณาจักรปีศาจ
Whoong-.
เมื่อเขาทำอย่างนั้น เขาสามารถได้ยินเสียงสะท้อนเบาๆจากภายใน
‘เป็นไปตามที่คาด! ฉันเจอมันแล้วบุ๊กค์!’
บุ๊กค์ผู้ตื่นเต้นเริ่มใช้เท้าหน้าอย่างรวดเร็วและขุดหญ้าจิตวิญญาณปีศาจด้วยทักษะความสามารถ
ใบของหญ้าจิตวิญญาณปีศาจนั้นอร่อย แต่เนื่องจากรากที่หนานั้นน่ารับประทานมาก เขาจึงต้องขุดมันออกมาอย่างระมัดระวัง
Chomp- Chomp-.
บุ๊กค์ซึ่งทำทุกอย่างเสร็จได้กินอย่างอร่อยเริ่มจากใบสีม่วงและเริ่มกินรากของหญ้าจิตวิญญาณปีศาจอย่างระมัดระวัง
‘บุ๊กค์… กลิ่นนี้…!’
คากหวานๆของหญ้าจิตวิญญาณปีศาจละลายในปากของมัน
จากความหนาและกลิ่น หญ้าจิตวิญญาณปีศาจที่เข้าไปในปากของบุ๊กค์ตอนนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่รอดชีวิตมาได้กว่า 100 ปี
และราวกับว่ามันกำลังรออยู่ ข้อความของระบบโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของบุ๊กค์
กริ๊ง-
แน่นอนว่าหญ้าจิตวิญญาณปีศาจที่บุ๊กค์กินนั้นเป็นหญ้าจิตวิญญาณปีศาจระดับสูง
‘บุ๊กค์ ฉันยังเห็นหญ้าจิตวิญญาณปีศาจระดับ Legendary ที่ฉันกินเมื่อสองสามวันก่อนบุ๊กค์ ถ้าฉันกินอีกสองสามต้น ฉันรู้สึกว่าฉันจะสามารถเพิ่มค่าการฝึกฝนของจิตวิญญาณแห่งเต่าได้บุ๊กค์…!’
หญ้าจิตวิญญาณปีศาจระดับ Legendary เพิ่มเลเวลของจิตวิญญาณแห่งเต่าของบุ๊กค์ขึ้น 17.5% ในครั้งเดียว
บุ๊กค์ไม่สามารถลืมความหวานนั้นได้
‘ตอนนี้ ถ้าฉันกินสมุนไพรอีกสักสองสามวัน ฉันควรจะไปถึงเลเวลของจิตวิญญาณแห่งเต่าของฉันบุ๊กค์…!’
ยิ่งเลเวลจิตวิญญาณแห่งเต่าของเขาสูงขึ้นเท่าใด บุ๊กค์ก็ยิ่งรู้สึกพลังงานที่อยู่ภายในตัวเขาเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
‘ฉันจะวิวัฒนาการไปสู่เต่าที่เท่ห์กว่าบักค์อย่างแน่นอนบุ๊กค์!’
ในความจริงแล้วในตอนแรก ไม่มีข้อความระบบโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของบุ๊กค์หรืออะไรทำนองนั้น แต่เพราะเขากินสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตามเมื่อจิตวิญญาณของบุ๊กค์เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น บุ๊กค์ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับบุ๊กค์ก่อนคือความจริงที่ว่าเขาพูดได้และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเขาครั้งที่สองคือเขาสามารถตรวจสอบข้อความของระบบและหน้าต่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณแห่งเต่าของเขาได้
และบุ๊กค์ผู้ตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณแห่งเต่าก็สามารถค้นพบความจริงที่เหลือเชื่อ
‘วิวัฒนาการ…! ฉันกำลังจะวิวัฒนาการบุ๊กค์!’
บุ๊กค์เป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะรู้เกี่ยวกับข้อมูลที่ไม่ปรากฏในข้อความระบบเหล่านี้
อย่างที่กรณีนี้ งานที่บุ๊กค์สามารถทำได้ในตอนนี้ก็เพื่อยกระดับความชำนาญและเลเวลของจิตวิญญาณแห่งเต่าของเขาอย่างต่อเนื่อง
‘ฉันจะกลายเป็นเต่าที่หล่อกว่าบักค์ให้ได้เลยบุ๊กค์!’
บุ๊กค์นึกถึงคาร์เซอุสสักครู่หนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในเพื่อนของเขา
จากมุมมองของบุ๊กค์ สัตว์เลี้ยงที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่หล่อที่สุดคือเทพมังกรคาร์เซอุส
‘บุ๊ก-ค์! ฉันต้องการหล่อเหมือนคาร์เซอุสบุ๊กค์!’
และในขณะที่เขานึกถึงสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพื่อนของเขา ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงอ้อมกอดของเอียน
‘เจ้านายชั่วร้ายกำลังทำอะไรอยู่นะบุ๊กค์…? ถึงเขาจะทำกับฉันไว้มาก… ถึงกระนั้นวันนี้ฉันก็คิดถึงเขาเป็นพิเศษบุ๊กค์’
เร็วๆนี้ บุ๊กค์คิดถึงการต่อสู้ที่เขาได้ต่อสู้ร่วมกับเอียน
‘ถึงอย่างนั้น มีตบอลหวานๆหลังจากการต่อสู้ 17 ชั่วโมงนั้นอร่อยจริงๆบุ๊กค์’
เวลาที่เขาจากมาจากเจ้าของนั้นคือ 2 เดือน
สิ่งชั่วร้ายที่เรียกว่า ‘เสน่ห์แห่งอดีต’ เริ่มย้อนความทรงจำของบุ๊กค์
‘แต่เมื่อเร็วๆนี้เจ้าของคนนั้นไม่ได้ส่งข้อความอัญเชิญเลย ไม่ใช่ว่าเขาจะลืมฉันหรอกนะบุ๊กค์…?’
เมื่อนั้นในขณะที่บุ๊กค์คิด ข้อความที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของบุ๊กคน
มันเป็นข้อความที่เอียนอัญเชิญขึ้นมาซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งเดือน
“บุ๊กค์…!”
นอกเหนือจากการมีความสุขมาก บุ๊กค์ซึ่งเกือบจะทำผิดพลาดในการยอมรับการอัญเชิญในทันทีก็สงบลง
“บุ๊กค์…! ถ้าฉันยอมรับการอัญเชิญตอนนี้ ฉันจะกลายเป็นเต่าที่ดูใจง่ายเกินไปบุ๊กค์”
บุ๊กค์ผู้ใจสงบลงอย่างใจเย็น ปฏิเสธการอัญเชิญของเอียน
“ฉันไม่อยากไปบุ๊กค์! ฉันยังไม่อยากกลับไปบุ๊กค์!”
บุ๊กค์ผู้ชำเลืองมองที่ข้อความที่โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง แสดงสีหน้ากระสับกระส่ายขณะที่เขาเริ่มจ้องมองที่หน้าต่างข้อความ
‘ไม่มีทางที่เขาจะอัญเชิญฉันซักครั้งแล้วก็ล้มเลิกใช่ไหมบุ๊กค์…? เจ้านายอาจจะอยากเห็นฉันแน่นอนบุ๊กค์!’
อย่างไรก็ตามแม้ผ่านไปหนึ่งนาทีก็แล้ว 2 นาทีก็ผ่านไป ข้อความการอัญเชิญของเอียนก็ไม่ได้กลับมาอีกครั้ง
บุ๊กค์ที่เริ่มรู้สึกกังวล รู้สึกเหมือนหญ้าจิตวิญญาณปีศาจที่เข้าไปในท้องของเขาไม่ได้ย่อยอย่างถูกต้อง
‘เจ้านาย รีบอัญเชิญฉันอีกครั้งสิบุ๊กค์!’
5 นาทีผ่านไป
ก่อนที่น้ำตาแห่งความเศร้าจะตกจากดวงตาทั้งสองของบุ๊กค์ เอียนส่งข้อความที่เขารอคอยมาอีกครั้ง
บุ๊กค์ไม่รอช้าและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“บุ๊กค์! ฉันจะไปบุ๊กค์!”
และช่วงเวลาที่บุ๊กค์พูดเสร็จสิ้น ร่างกายของเขาก็เริ่มเปล่งแสงสีขาวสว่างเมื่อเขาหายไปในอากาศ
Whoong-.
* * *
เอียนจ้องไปที่เงาของเต่าหัวโตที่ปรากฏต่อหน้าเขาพร้อมกับแสงสีขาวในขณะที่เขาพึมพำ
“เจ้านี่กลับมาแล้ว”
Whiiing-!
เต่าหัวโตปรากฏตัวพร้อมกับเสียงกังวานเบาๆ
เอียนก้มศีรษะลงต่อหน้าบุ๊กค์และลูบหัวของมันในขณะที่เขาถาม
“บุ๊กค์ เป็นยังไงบ้าง?”
และทันทีที่มันเห็นเอียน ดวงตาทั้งสองของบุ๊กค์เต็มไปด้วยน้ำตา
“บุ๊กค์! เจ้านาย ฉันคิดถึงท่านบุ๊กค์!”
มันเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่ระลึกถึงการรวมตัวครั้งใหญ่ของครอบครัวที่แยกจากกันเนื่องจากสงคราม
แตกต่างจากบุ๊กค์ที่เปลี่ยนไป ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะงุนงง
“ไงบุ๊กค์ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นายสามารถพูดได้เนี่ย?”
นี่เป็นเพราะเป็นครั้งแรกที่เอียนเห็นบุ๊กค์พูด
“ฉันไม่รู้เหมือนกันบุ๊กค์ อย่างไรก็ตามอยู่ดีๆฉันก็สามารถพูดได้บุ๊กค์!”
เอียนคิดกับตัวเองสักครู่หนึ่ง
‘อะไรวเนี่ย? หรือว่าเขาจะวิวัฒนาการงั้นหรอ?’
เอียนสแกนด้วยบุ๊กค์ด้วยสายตาที่เฉียบคม
อย่างไรก็ตามเพื่อบอกว่าเขามีวิวัฒนาการ แต่บุ๊กค์ก็อยู่ในรูปแบบที่ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง
“อืมมม…”
เอียนเปิดหน้าต่างข้อมูลของบุ๊กค์
‘เนื่องจากมีโอกาสที่บางอย่างจะเปลี่ยนไป…’
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะดูมากแค่ไหนก็ไม่มีสิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับบุ๊กค์ไปจนถึงจุดที่มันน่างุนงงอย่างแท้จริง
‘อะไรวะเนี่ย…?’
เนื่องจากความจริงที่ว่าบุ๊กค์สามารถพูดคุยได้ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่อย่างใดเอียนก็ใช้ความคิดของเขาครู่หนึ่ง
“มันเป็นเรื่องดีที่ได้พบนายอีกครั้งหลังจากผ่านไปนาน ได้พักสบายไหม?”
ร่างกายของบุ๊กค์แข็งตัวเหมือนน้ำแข็งอยู่ครู่หนึ่ง
“บุ๊กค์…? ฉันก็ไม่ได้พักมากหรอกบุ๊กค์ ความจริงแล้วฉันก็เหนื่อยเช่นกันบุ๊กค์ เนื่องจากอยากจะเห็นหน้าของเจ้านาย เลยดูเหมือนว่าฉันต้องกลับมาบุ๊กค์”
เอียนจับบนกระดองของบุ๊กค์ด้วยมือข้างหนึ่งซึ่งเริ่มคลานไปที่ไหนสักแห่งแล้วดึงเขากลับมาตรงๆ
Bbook- Bbook- Bboobbook-
ราวกับว่าเขาถูกลากไปที่โรงฆ่าสัตว์ บุ๊กค์ส่งสายตาที่น่าสงสารไปยังไล
อย่างไรก็ตามแม้แต่ไลซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานานของเขาก็มองไปหาสายตาของบุ๊กค์
“กร๊าา-! ฉันยินดีที่ฉันจะได้ต่อสู้ร่วมกับนายอีกครั้งบุ๊กค์”
คราวนี้เขามองไปยังบักค์
“เพื่อนเท่ห์ๆของฉันกลับมาแล้ว ฉันมีความสุขที่มีคนที่แชร์ความเจ็บปวดจากการทำงานตลอดทั้งคืนแล้ว”
ในดวงตาของบุ๊กค์ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตา เอียนกระดิกนิ้วของเขาขณะที่เขาก้มลง
“นายอาจมาเมื่อใดก็ตามที่นายต้องการ แต่นายจะไม่สามารถไปไหนได้ทุกเมื่อที่นายต้องการ”
เมื่อเอียนพูด บุ๊กค์ประท้วงเล็กน้อย
“แม้ตอนที่ฉันมา ฉันไม่ได้มาเมื่อใดก็ตามที่ฉันต้องการบุ๊กค์! ฉันสามารถมาได้เพราะท่านอัญเชิญฉันบุ๊กค์!”
Thud-.
“เงียบๆ เนื่องจากแกมาแล้วก็ไปทำงานเลยบุ๊กค์”
“บุ๊ก-ค์…”
บุ๊กค์นั่งลงครู่หนึ่งด้วยสายตาที่มืดมนก่อนที่ทันใดนั้นเขาดูเหมือนจะจำบางสิ่งบางอย่างในขณะที่เขาเคาะกระเป๋าของเอียน
“เจ้านาย ถ้างั้นก่อนที่ฉันจะทำงาน อย่างน้อยให้ฉันได้กินมีตบอลหน่อยสิบุ๊กค์ ฉันรู้สึกว่าฉันต้องการมันเพื่อจะมีแรงในการทำงานบุ๊กค์!”
เช่นนั้น เอียนแสยะยิ้มขณะที่เขาเปิดคลังของเขา
และเป็นครั้งแรกในระยะเวลาหนึ่ง เขาหยิบมีตบอลโอสถออกมาซึ่งถูกเก็บไว้ในมุมหนึ่งของคลังของเขาและส่งให้กับบุ๊กค์
“แน่นอน ฉันใจกว้างนิดหน่อย กินนี่ซะแล้วทำงานบุ๊กค์”
ด้วยค่าจ้างของเอียนซึ่งมอบมีตบอลให้เขาถึงสามลูก บุ๊กค์ประทับใจ
“บุ๊ก-กกกค์…! เป็นไปตามที่คาดเจ้านายของเรานั้นเท่ห์จริงๆบุ๊กค์…!”
บุ๊กค์เริ่มกัดมีตบอลอย่างบ้าคลั่งซึ่งเขาไม่ได้กินมาเป็นระยะเวลาสองเดือนเต็ม
รสชาติที่น่าดึงดูดใจของมีตบอลที่วิ่งไปตามลิ้นของเขาเริ่มต้นจากปลายทำให้บุ๊กค์มีความสุข
“บุ๊ก-กกกค์ ฉันมีความสุขจังบุ๊กค์!”
ในขณะที่มองบุ๊กค์ซึ่งเป็นคนเซ่อซ่าไม่สิ้นสุด เอียนก็หัวเราะออกมาในตอนนั้น
กาก้าซึ่งมองทั้งสองจากด้านหลังก็บินมาหาพวกเขาและจ้องไปที่บุ๊กค์
“เจ้านาย เต่าที่ดูโง่ๆนี่ที่ชื่อบุ๊กค์ใช่ไหม?”
“ใช่ มันคือบุ๊กค์”
สายตาของบุ๊กค์ซึ่งกำลังกินมีตบอลได้มองไปหากาก้าสักครู่หนึ่ง
จ้อง-!
และกาก้าซึ่งได้รับการมองที่รุนแรงก็สั่นไหว
“…?”
เช่นนั้น เอียนแสดงท่าทางงุนงง
“เฮ้ กาก้าไม่ใช่ว่าแกจะกลัวเขาหรอ? อืม… ด้วยค่าสถานะของแก แกก็อาจจะกลัวเขาล่ะนะ”
กาก้าซึ่งจ้องมองไปที่บุ๊กค์ชั่วครู่ด้วยท่าทางงุนงง ส่ายหัวในขณะที่เขาหันไปมองเอียน
“ไม่ใช่อย่างนั้นท่าน”
เมื่อกาก้าพูดอย่างจริงจังซึ่งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน เอีนนถามกลับทันที
“ห้ะ? ถ้างั้นเป็นอะไรล่ะ?”
กาก้าพูดต่อ
“เต่านี้มันต้องเป็น…!”
“…?”
เมื่อกาก้าหยุดหายใจสักครู่สายตาทั้งหมดที่อยู่รอบๆเขาก็เพ่งไปที่ปากของเขา
“ชิ้นส่วนสุดท้ายของตำนานทั้งเจ็ด!”
เอียนสวมสีหน้างุนงงอีกครั้งเมื่อเขาถามกลับ
“อะไรนะ? อะไรคือตำนานทั้งเจ็ด?”
อย่างไรก็ตามคำตอบของคำถามของเอียนไม่ได้มาจากกาก้า แต่มาจากที่อื่น
“ข้าจะบอกเอง”
เอียนหันมองไปที่ที่ซึ่งเสียงนั้นมาจากและตรงนั้น ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไคซาร์ที่นั่งอยู่
“หืมม? นายรู้จักตำนานทั้งเจ็ดหรอ?”
ไคซาร์พยักหน้า
“ถูกต้อง และความจริงที่ว่ามันไม่ใช่แค่ข้า แม้แต่เจ้า เอียนก็เคยได้ยินมันมาก่อน”
เอียนยิ่งสงสัยมากขึ้น
“เอ๋? ใช่หรอ”
ไคซาร์ค่อยๆมองไปที่คาร์เซอุส
“ตำนานทั้งเจ็ดที่กำลังพูดถึงมีแนวโน้มมากที่สุดเกี่ยวกับตำนานของเทพมังกรทั้งเจ็ดที่คาร์เซอุสมีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าคำพูดของเจ้านั่นถูกต้องก็หมายความว่าบุ๊กค์เป็นสายเลือดเดียวกันกับหกมังกรที่เหลือยกเว้นคาร์เซอุส”
ดวงตาของทุกคนเบิกโพลง
และบักค์ซึ่งกำลังตื่นเต้นกับการสนทนาอยู่ข้างๆพวกเขาก็เงยหน้าขึ้นในขณะที่เขาพูดพึมพำ
“หืมม? นั่นมันแปลกนิดหน่อย… บุ๊กค์ต้องเป็นหนึ่งในสายเลือดของเราสิ”
ทั้งปาร์ตี้ที่สงสัยในคำพูดของไคซาร์ได้หันหน้าไปหากาก้าซึ่งเป็นแหล่งที่มาของ ‘ทฤษฎีเทพมังกรของบุ๊กค์’ อีกครั้ง
เช่นนั้น กาก้าค่อยๆส่ายหน้าขณะที่มันพูดต่อ
“คำพูดของไคซาร์นั้น… ถูกครึ่งหนึ่งและผิดครึ่งหนึ่ง”