‘นั่นคือ… บัลโร๊ค…!’
อิลาฮันไม่ได้เข้าสู่ระบบ เนื่องจากเขารู้สึกไม่สบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเอียน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะรู้สึกกดดันแค่ไหนเขาก็ต้องเชื่อมต่อเข้าสู่เกม เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสงครามมิติอิลาฮันจึงปรากฏตัวในสนามรบ
เควสต์ ‘กองทัพของราชาปีศาจ’
ด้วยเควสต์นี้อิลาฮันสามารถเข้าร่วมวันสุดท้ายของสงครามได้โดยหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเอียนอย่างปลอดภัย
ในขณะที่เควสต์ของกองทัพราชาปีศาจเริ่มขึ้น อิลาฮันก็เริ่มเควสต์ของเขาเช่นกัน
เควสต์ที่มอบให้กับอิลาฮันคือการนำบัลโร๊คและอสูรเวทย์มนตร์ตัวอื่นเข้าสู่สนามรบ
นี่เป็นเควสต์ที่อิราฮานต้องการอย่างมากในขณะนี้
เหตุผลที่อิลาฮันได้รับเควสต์นี้เป็นเพราะเขาเป็นเพียงผู้เล่นระดับสูงที่ยังอยู่ในสงคราม
แม้ว่าเขาจะลดไป 7เลเวล แต่เขาก็ยังอยู่ใน 20 อันดับแรกของชาวแอสโมเดียน
“นี่คือคำสั่งจากท่านมาฮูมา! ถึงอสูรเวทย์มนตร์ทั้งหมดที่นี่! พวกแกต้องทำลายศัตรูที่อยู่ตรงหน้า!”
เสียงของอิลาฮันดังขึ้นทั่วสนาม บัลโร๊คทั้งเจ็ดพร้อมกับอสูรเวทย์มนตร์และชาวแอสโมเดียนนับพันก็กระโจนเข้าสู่สนามรบ
และนี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งใหญ่
Kuahh-!
ทันทีที่ Balrog เข้าสู่สนามรบพวกเขาเริ่มวิ่งไปรอบ ๆ อย่างดุเดือด
Kung- Kung-!
ทุกครั้งที่บัลโร๊คก้าวเท้าลงบนพื้น ความปั่นป่วนครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นและผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ในระยะที่กำหนดจะจมอยู่กับ ‘ความกลัว’ และความเสียหายเวทย์มนตร์ในเวลาเดียวกัน
[อสูรเวทย์มนตร์ ‘บัลโร๊ค’ ใช้สกิล ‘คลื่นสั่นสะเทือน’ แล้ว]
[พลังชีวิตลดลง 79,809 หน่วย]
[สถานะของ ‘หวาดกลัว’ เกิดขึ้น]
[ลด ATK และ DEF ลง 30% เป็นเวลา 3 วินาทีและลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลง 50%]
[ท่านไม่สามารถโจมตี ‘บัลโร๊ค’ ได้เมื่ออยู่ในสถานะ ‘ความกลัว’]
‘หวาดกลัว’ เป็นสถานะที่เป็นดีบัฟระดับสูงสุดในเกือบทุกประเภท
แต่โชคดีที่ระยะเวลาสั้นมาก
แต่ระยะเวลา ‘หวาดกลัว’ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการโจมตีบัลโร๊ค
[มนุษย์ผู้ต่ำต้อย…! หายไปในนรกพร้อมกับเสียงร้องของพวกแกซะ!]
กร๊าก -!
บัลโร๊คขยับมือทั้งสองข้างและลำตัวเล็กน้อย ในเวลานั้นมีเปลวไฟสว่างวาบรอบตัวเขา
Bang- Babang-!
“หลบมัน…!!”
“เอื้อก! มันสร้างความเสียหายอย่างบ้าคลั่ง!”
“ให้ตายเถอะ! ฉันแทบจะไม่โดน แต่พลังชีวิตของฉันหายไปครึ่งหนึ่ง!”
ผู้เล่นเริ่มหนีไปจากมัน แต่ผู้เล่นที่ยังคงได้รับผลกระทบจาก ‘หวาดกลัว’ ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ พวกเขาก็ตายทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
“เอ่อ…! ใครก็ไดัจัดการมอนสเตอร์ตัวนั้น!”
“เสร็จแล้ว! เราเสร็จแล้ว! ฆ่ามอนสเตอร์บ้านี่ทีเถอะ!”
ขวัญกำลังใจของผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณสูงลดลงในไม่กี่วินาทีและในขณะนั้นชาวแอสโมเดียนก็สามารถจัดการได้
ผู้เล่นที่เป็นมนุษย์รู้สึกท่วมท้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น จุดสีแดงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าของสนามรบและรอยแตกเริ่มปรากฏขึ้นในชั้นบรรยากาศ
Woong–!
ผู้เล่นสร้างความเสียหายที่สังเกตเห็นมันต่างกังวลมากและมุ่งโจมตีไปที่ตรงนั้น
“จะมีบางอย่างออกมาจากที่นั่น!”
จากอากาศที่บิดเบี้ยว ชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำตัวยาวแห่งความมืดปรากฏตัวขึ้นและในขณะนั้นการโจมตีระยะไกลของผู้เล่นมนุษย์ก็พุ่งไปในทิศทางของชายที่ไม่ปรากฏชื่อ
Swoosh- swoosh-!
ตั้งแต่ผู้เล่นเวทมนตร์ระยะไกลไปจนถึงนักธนู พวกเขาใช้พละกำลังทั้งหมดในการโจมตี
การโจมตีหลายครั้งมุ่งตรงไปที่ชายคนนั้น แต่ชายคนนั้นก็ยิ้ม
[พวกน่ารำคาญ…]
Weik-!
ชายที่ลอยอยู่ในอากาศเพียงแค่โบกมือหนึ่งครั้งและเปลวไฟที่สร้างขึ้นโดยเวทมนตร์ได้ดูดซับการโจมตีทั้งหมดที่พุ่งเข้าหาเขา
ผู้เล่นที่พบเห็นสิ่งนี้ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“นั่นมันอะไรกัน?”
“นายไม่สามารถโจมตีผู้ชายคนนั้นได้ เปลี่ยนเป้าหมายของนาย!”
ชายผู้ซึ่งปรากฏตัวออกมา – มองไปรอบๆสนามรบ เขาพอใจมากกับสิ่งที่เห็น
[ข้าฮาร์เซนมาที่นี่ ทหารม้าของข้า เชื่อข้าและทำลายศัตรูของเรา!]
ชายที่เพิ่งแนะนำตัวเองว่าฮาร์เซนหลับตาทั้งสองข้างและยื่นมือทั้งสองข้างไปที่หน้าอกของเขา
และต่อหน้าเขาพลังงานสีแดงเริ่มปรากฏขึ้น มันเป็นทรงกลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆทุกนาที
Goo-ohh-!
พายุแห่งเวทย์มนตร์กำลังจะเข้ามาในสนามรบ
ผู้เล่นที่เป็นมนุษย์รอให้ใครบางคนพูดในสิ่งที่พวกเขาควรจะทำ
“นั่นอะไรน่ะ? พวกเราควรจะทำยังไงดี?”
“บางทีมันอาจจะเป็นการโจมตีด้วยเวทย์มนต์ในวงกว้างก็ได้! นักเวทย์ร่ายโล่เป็นวงกว้าง!”
แต่แล้ว
จากใจกลางสนามรบ ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่ง
เสียงไม่ดังขนาดนั้น อย่างไรก็ตามมีการสื่อสารกับผู้เล่นอย่างชัดเจนด้วยการใช้โบราณวัตถุ
[ทุกคนย้ายไปด้านหลัง! ย้ายกลับไปที่เซอร์เรี่ยน จอร์จ!]
ทันทีที่ผู้เล่นได้ยินเสียง พวกเขาก็เริ่มหันกลับไปในทันที
เสียงที่ดังก้องอยู่ในหูของผู้เล่น เป็นเสียงที่พวกเขารู้จักเป็นอย่างดี
“เขาคือเอียน!”
“เอียน มีวิธีแก้ปัญหาแบบไหนกัน!”
“ออกจากที่ราบอัลไพน์พร้อมกัน! ทั้งหมด! ถอย!”
และด้วยเหตุนี้ผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ทั้งหมดจึงเริ่มล่าถอยออกจากสนามรบ
ทรงกลมขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยเวทมนตร์ของฮาร์เซนระเบิดออกมาและมันก็ระเบิดออกด้านหลังผู้เล่นที่เป็นมนุษย์
Kwang-!
มันเป็นการระเบิดเวทย์มนตร์ขนาดใหญ่และใครๆก็บอกได้ว่ามันอันตรายเพียงแค่มองไปที่มัน
“หลบ!!”
พวกเขาส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าผู้เล่นที่อยู่ด้านหลังจะถูกกำจัดออกจากคลื่นแห่งเวทมนตร์ที่บริสุทธิ์ ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างโล่สีขาวเพื่อป้องกันด้านหลังของพวกเขา
Weing-!
“คำอวยพรแห่งท้องฟ้า!”
“เรฟย่า!”
“เธอคือเลฟย่า!”
“ฉันยังมีชีวิตอยู่!”
‘คำอวยพรแห่งท้องฟ้า’ เป็นสกิลที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดในบรรดาพลังของอาชีพนักบวชเพื่อการปกป้อง
และเป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่าผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้สิ่งนี้ได้คือ ‘เรฟย่า’ ซึ่งเป็นผู้เล่นในการจัดอันดับ
Kwang-!
พายุของจอมเวทย์สีแดงและวิญญาณสีขาวเข้ามาปะทะกัน
มันเป็นโล่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความทนทานมหาศาลเกิน 1 ล้านหน่วย
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การระเบิดยังคงพุ่งไปข้างหน้าโล่สีขาวก็เริ่มแตก
Crrk- crrrrk-!
แม้ว่าโล่จะดูดซับเวทมนตร์เป็นจำนวนมาก แต่คำอวยพรแห่งท้องฟ้าก็ไม่สามารถป้องกันเวทย์ระยะกว้างได้
และภายใน 5 วินาทีที่ คำอวยพรแห่งท้องฟ้าสามารถทนได้ ผู้เล่นคนอื่นๆก็เริ่มดำเนินการ
Weing- wheing-!
นักบวชและนักเวทย์จากทุกทิศทุกทางเริ่มสร้างโล่ซึ่งป้องกันพายุได้ในที่สุด
ความเสียหายที่เข้ามาจากรอยแตกของโล่ทั้งหมดได้รับการฟื้นฟูโดยการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากนักบวช
“เฮ้อ”
“เราหลีกเลี่ยงภัยพิบัติครั้งใหญ่ได้แล้ว”
เมื่อเรฟย่าป้องกันพายุเวทมนตร์เสร็จแล้ว เอียนพร้อมกับรีเมียร์ ฟิโอลันและนักเวทย์ระดับอื่นๆอีกสองสามคนได้ทำการโจมตีในวงกว้าง
พร้อมกับการทุบของคาร์เซอุสและพินและการจุดระเบิดของรีเมียร์และนรกเยือกแข็งของฟิโอลัน
การโจมตีพร้อมกันจำนวนมากระเบิดออกมาซึ่งทำให้การโจมตีของศัตรูที่มีต่อผู้เล่นที่เป็นมนุษย์หยุดลง
จนถึงขณะนี้มีช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างชาวแอสโมเดียนและผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ ในขณะนั้นแสงสีม่วงเริ่มเปล่งประกายในกลุ่มมนุษย์
Weing- weing-!
มันเป็นม้วนเวทย์มนตร์ระยะกว้างที่เหล่านักเวทย์ร่ายเวทย์จากทั่วทั้งสนาม
ฉากนี้สร้างภาพที่งดงามและในที่สุดแสงก็หายไปในอากาศ ผู้เล่นที่เป็นมนุษย์จำนวนมากออกจากที่ราบอัลไพน์โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
หากการเปิดใช้งานช้าไป 10 วินาที บัลโร๊คจะจัดการทั้งสนามรบ
มันเป็นสถานการณ์ที่ได้รับการจัดการอย่างรวดเร็ว
และริมฝีปากของฮาร์เซนที่เห็นทุกอย่างก็ยกขึ้น
[นี่คือความสนุก มันสนุกกว่าที่คิดซะอีก]
ฮาร์เซนมองไปยังทิศทางของผู้เล่นที่เป็นมนุษย์และออกคำสั่งของเขา
[ทหารม้าของข้า [1] ตามข้ามา…!]
* * *
“ฮาร์เซนน่าจะเป็นราชาปีศาจที่อายุต่ำกว่า 90 ปี”
คำพูดของยันโคทำให้เอียนขมวดคิ้ว
‘ราชาปีศาจ… อาจจะเป็นอย่างนั้น ไม่มีทางที่ใครจะทำได้นอกจากราชาปีศาจ’
ค่ายมนุษย์สามารถเอาชนะภัยพิบัติได้เนื่องจากคำสั่งของเอียนและนักเวทย์ที่อยู่ในการจัดอันดับ
พวกเขาให้แผนที่ทั้งหมดและการจัดเตรียมที่ดินในปัจจุบันจะใช้เวลาพอสมควร
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ต้องการเวลามากนัก
‘15 นาทีอาจจะดีที่สุด อสูรเวทย์มนตร์เหล่านั้นจะมาที่นี่ในไม่ช้า’
เอียนมองดูภูมิประเทศของเซอร์เรี่ยน จอร์จอย่างใกล้ชิด
โชคดีที่เซอร์เรี่ยน จอร์จเป็นแผนที่แคบและยาว
ไม่ว่าพวกเขาจะถูกต้านอย่างไร การป้องกันก็เป็นเรื่องง่าย
นี่จะเป็นภูมิประเทศที่ดีสำหรับผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ที่มีการโจมตีระยะไกลค่อนข้างกว้างเมื่อเทียบกับชาวแอสโมเดียน
ในเซอร์เรี่ยน จอร์จไม่มีพื้นที่ใดๆให้หลีกเลี่ยงการโจมตีระยะกว้าง
“เอียนเราจะทำยังไงดี? แม้ว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ออกไปได้… ความแตกต่างในพลังของเรานั้นมากเกินไป”
คำพูดเหล่านี้จากฟิโอลันทำให้เอียนหันหัวไป
อาจเป็นเพราะการปรากฏตัวของบัลโร๊คและราชาปีศาจนั้นล้นหลามเกินไป
ถึงแม้ว่าบัลโร๊คจะต่ำกว่าราชาปีศาจถึง 100 อันดับ แต่ก็ยังเป็นอสูรเวทย์มนตร์ที่แตกต่างกันเมื่อเทียบกับขุนนาง
ถ้าเราไม่ต้านมันไว้ที่เซอร์เรี่ยน จอร์จ… เราจะไม่สามารถหยุดพวกมันได้จากที่อื่น
เอียนอธิบายสั้นๆว่าฟิโอลันและผู้จัดอันดับสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร
“ถ้าเราอยู่บนแผนที่แบบนี้ก็จะไม่มีโอกาสใดๆ แต่เธอรู้อยู่แล้วว่านี่คือหุบเขาแคบๆ”
เอียนกลืนน้ำลายและพูด
“เราจำเป็นต้องใช้ประโยชน์สูงสุดจากเวทย์มนตร์บริเวณกว้างที่เรามีเราจำเป็นต้องคำนวณเวลาคูลดาวน์สำหรับผู้เล่นแต่ละคนอย่างแม่นยำและเราจำเป็นต้องทำโดยไม่ต้องปิดโล่ หากเวทย์มนตร์บริเวณกว้างใช้อย่างต่อเนื่อง การป้องกันจะไม่เจาะง่ายนัก อาจเป็นบัลโร๊คหรือราชาปีศาจก็ได้”
เอียนมองเวลาและพูดอีกครั้ง
“เรามีเวลาอีกประมาณสี่ชั่วโมงครึ่ง เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับพวกมันเพื่อที่จะชนะหากเราสามารถรั้งพวกมันไว้ได้จนกว่าเวลาจะมาถึง นั่นคือชัยชนะของเรา”
รีเมียร์พยักหน้าตอบกลับ
“ส่วนนั้นถูกต้อง ฉันไม่รู้ว่ากลยุทธ์นั้นใช้ได้จริงหรือไม่ แต่…”
เวลาคูลดาวน์ทั่วไปสำหรับสกิลการแช่แข็งบริเวณกว้างอยู่ระหว่าง 10 ถึง 30 นาที
สิ่งที่เอียนหมายถึงคือการรู้เวลาคูลดาวน์และสร้างเกราะป้องกันที่จะไม่ถูกเจาะ
แต่นี่เป็นกลยุทธ์ที่เป็นไปไม่ได้ในทางทฤษฎี
อย่างแรกนี่เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นต้องเข้าใจเวลารอคอยของสกิลโล่ของนักเวทย์และนักบวชทั้งหมดในสนามรม
เอียนมองไปรอบๆและพูดอีกครั้ง
“ถ้าเราไม่ใช้ความสามารถของเราในลักษณะนี้ ไม่ว่าเราจะเลือกตัวเลือกใดก็ตามเราจะไม่สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม”
เอียนจ้องมองไปที่รีเมียร์
“รีเมียร์จัดการคำสั่งโจมตีและทำให้เสร็จ ฉันจะเรียกใช้เวทย์มนตร์โล่หนึ่งครั้ง”
รีเมียร์แล้วถามอย่างกังวล
“เป็นไปได้จริงเหรอ? แม้ว่านายจะเป็นเอียน…”
เอียนยิ้มและตอบกลับ
“เราต้องพยายาม ไม่สิ ต้องทำให้ได้ผล”
เอียนถามรีเมียร์ถึงเวลาคูลดาวน์ทั้งหมดสำหรับโล่พื้นฐานของอาชีพนักเวทย์
เขาถามเรฟย่าเกี่ยวกับอาชีพนักบวชด้วย
‘โอ้ย ฉันปวดหัว แต่นี่เป็นสกิลทั้งหมดที่ฉันรู้อยู่แล้ว’
เอียนรู้สึกกังวล
มันยากที่จะควบคุมสกิลของผู้คนกว่าสิบคน แม้ว่าจะเป็นเอียนที่รีบจดจำเวลาคูลดาวน์ของสกิลทั้งหมดและเรียกใช้มันเป็นวงจร
นอกจากนี้สถานการณ์นี้จะไม่เป็นไปด้วยดีหากมีข้อผิดพลาดใดๆ
เอียนอ้าปากหาผู้เล่นที่รออยู่ในช่องเขา
“ผู้เล่นทุกคน แชร์ 2 ไอคอนสำหรับสกิลหลักของคุณ”
แชร์ไอคอนของสกิลที่มีความหมายโดยพูดคุยกับสมาชิกปาร์ตี้เกี่ยวกับคูลดาวน์ของสกิลและคุณลักษณะการโจมตี
“สกิลอื่นๆสามารถใช้ได้ตามดุลยพินิจของคุณเอง แต่คุณจะต้องเปิดใช้งานสกิลการป้องกันและฟื้นฟูบริเวณกว้างตามคำสั่งที่กำหนด ฉันต้องการตรวจสอบเวลาคูลดาวน์ในตอนนี้ ดังนั้นฉันขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือของคุณ”
นี่ไม่ใช่ฟังก์ชั่นที่ใช้อย่างลึกซึ้งในการล่าแบบปาร์ตี้ นั่นเป็นเพราะผู้เล่นแสดงข้อมูลของตนต่อผู้อื่นอย่างหมดเปลือก
แต่สถานการณ์นี้เรียกร้องให้เกิดขึ้นและทุกคนก็เริ่มแชร์สกิลของตนโดยไม่ปฏิเสธ
และด้วยข้อมูลของผู้เล่นที่รวบรวมมาได้
จากปากทางเข้าอีกด้านหนึ่ง เอียนเห็นฝุ่นฟุ้งขึ้น
[1] Horseman = บัลโร๊คและชาวแอสโมเดียน