ระดับของกิลด์เปลี่ยนเป็น ‘อาณาจักร’
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับกิลด์จนถึงตอนนี้
มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อพวกเขาเป็นดยุคสำหรับจักรวรรดิ แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นแตกต่างกันมาก
สิ่งแรกที่พวกเขาประหลาดใจคือภาษี
ในที่เรียกว่า ‘อาณาจักร’ ภาษีที่พวกเขาต้องจ่ายมีมูลค่าเกือบ 200 ล้านทอง
มันสูงกว่าภาษีที่พวกเขาจ่ายตอนที่พวกเขายังเป็นดยุคถึงสามเท่า
‘มันเยอะมากจริงๆ มันคือทองจำนวนมหาศาล…’
แต่แน่นอนว่าใครๆก็คิดว่าทองจำนวนมาก 200 ล้านทองจะเป็นทรัพย์สินของกิลด์
แม้ว่าจำนวนเงินขั้นต่ำของทองที่ลงทุนในกิจการภายในเพื่อบริหารรัฐ – 80% ของภาษีที่พวกเขาจ่ายซึ่งเป็นทอง 160 ล้านจะถูกนำไปใช้จ่ายโดยพื้นฐานสำหรับรัฐ
ต้องใช้เงินมากกว่า 180 ล้านทองในการบริหารประเทศอย่างสบายๆเนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา พวกเขาจึงจำเป็นต้องลงทุนทองมากขึ้นเพื่อพัฒนาอาณาจักร
สมาชิกกิลด์จำเป็นต้องได้รับเงินสำหรับการกระทำนี้ แต่ไม่มีทองเหลือให้จ่ายมากนัก
ทั้งเอียนและเฮิร์ซมีทองคำ 100 ล้านต่อหน้าพวกเขาในตอนนี้
“จะใช้เป็นทุนของกิลด์ดีไหม? หรือจะมอบให้กับสมาชิกกิลด์ดี?”
เอียนส่ายหัวเพื่อตอบคำถามของเฮิร์ซ
“เก็บไว้ในอาณาจักร”
“นายแน่ใจหรอ?”
“หึ ฉันเป็นผู้นำร่วมกับพวกเขา ดังนั้นฉันจะมอบทอง 10 ล้านให้กับทุกๆคน”
“ถ้าอย่างนั้นนายกำลังบอกว่านายจะไม่เดือดร้อนตัวเองด้วยการมอบทองให้กิลด์งั้นหรอ?”
“ใช่ นอกจากนี้การชนะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ จากที่พูดไปเราไม่ได้รับความสนใจจากผู้เล่นเลยแม้แต่น้อย”
“ถ้าอย่างนั้น…”
เอียนและเฮิร์ซดำเนินการแทรกแซงกิลด์มานานกว่าหนึ่งปีแล้วและพวกเขาก็คิดถูกบางส่วน
เมื่อพูดถึงการบริหารกิลด์ ทั้งคู่มีตำแหน่งที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน
ถ้าเฮิร์ซเป็นคนรับใช้ที่ดูแลกิลด์พร้อมกับกิจการภายใน เอียนก็มีบทบาทอย่างแข็งขันในการกำหนดเป้าหมายและกิจการภายนอก
สมาชิกกิลด์มีความไว้วางใจอย่างเต็มที่ในทั้งสองคน พวกเขาเป็นแรงผลักดันของกิลด์โลตัส
“อืม… กิลด์จะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ… จินซุง ตอนนี้นายมีแผนจะทำอะไร?”
จินซุงแค่ยักไหล่ให้กับคำถามของเฮิร์ซแล้วตอบว่า
“แผนอะไรล่ะ? เราได้ตัดสินใจไปแล้วนิว่าจะเริ่มจากอาณาจักรเอริกา”
เฮิร์ซเอียงคอของเขาและพูดอีกครั้ง
“ไม่สิ ฉันหมายถึงนายกำลังวางแผนที่จะดำเนินการต่อไปอย่างไร? เราไม่สามารถทำการประท้วงล่วงหน้าได้เหมือนที่เคยทำในอดีตนะ”
เนื้อเรื่องใหม่ได้ทำลายทั้งสองจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่และการเป็นอาณาจักรก็ไม่เป็นที่พอใจของพวกเขา
ขนาดของมันนั้นเล็กและคุณภาพของอัศวินและกองทหารก็ไม่ได้ต่ำไปกว่าของจักรวรรดิมากนัก
ตัวอย่างเช่น อัศวินแห่งอาณาจักรเอริกาที่พวกโลตัสจับตามองมีมอนสเตอร์ใกล้ถึงเลเวล 400
เอียนตอบหลังจากที่เขาส่ายหัวช้าๆ
“อ่า แน่นอนว่ามันเป็นแผนของฉันที่จะยึดที่ดินขนาดกลางขนาดเล็กโดยรอบก่อน”
“อืม… ไม่ใช่ความคิดที่เลวร้าย ถ้าเราสามารถพิชิตพวกมันได้ เราก็จะสามารถแยกย้ายกันไปเป็นกองกำลังหลักของอาณาจักรของเราได้ แล้วสงครามจะเริ่มทันทีใช่ไหม?”
ริมฝีปากข้างหนึ่งของเอียนยกขึ้นเมื่อได้ยินคำถามของเฮิร์ซ
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น”
“…?”
“นั่นทำได้ แต่เราต้องเสียเลือดเสียเนื้อเร็วขนาดนั้นเลยหรอ?”
* * *
เอียนเป็นผู้เล่นที่วิเคราะห์เนื้อหาใหม่ของอาณาจักรอย่างละเอียดถี่ถ้วน
และผลลัพธ์ของมันคือ…
ส่วนที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือ ‘การฑูต’
ก่อนการอัปเดต ดูเหมือนว่าจะไม่มีเนื้อหาที่เรียกว่าการทูต
อย่างไรก็ตาม มันใช้งานไม่ได้และเป็นการมองโลกที่มีจักรวรรดิเป็นศูนย์กลางซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงไม่คุ้นเคย
ความขัดแย้งระหว่างกิลด์ไม่ใช่สิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเนื้อหาทางการทูต
‘มันคนละเรื่องกัน’
การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดในเนื้อหาทางการทูตคือสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถเช่น ‘การฑูต’ และ ‘Triple play’
พลังขนาดเล็ก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ต่ำกว่าดยุคจะสามารถรวมตัวเองเข้ากับอาณาจักรโลตัสได้โดยไม่ต้องนองเลือด หากพวกเขามีการทูตที่ดี
มันไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างไรก็ตาม วิธีเดียวที่เป็นไปได้ในการปราบดินแดนขนาดเล็กและขนาดกลางคือทักษะทางการทูต
อย่างไรก็ตามเอียนมั่นใจ
“เราควรเดินไปอย่างช้าๆอย่างนี้หรอ…?”
เอียนซึ่งอยู่หลังคฤหาสน์โลตัสก็อัญเชิญคาร์เซอุส
Kyahh-!
ด้วยเสียงคำรามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหนึ่งครั้ง คาร์เซอุสได้นั่งลงตรงหน้าเอียน
[พลังงานอัญเชิญฟื้นฟูแล้ว เราควรล่าอีกครั้งเลยไหมครับ?]
พลังงานอัญเชิญคือเวลาคูลดาวน์สำหรับการอัญเชิญสัตว์เลี้ยง
เอียนยิ้มตอบคาร์เซอุส
“ไม่ ยังไม่ถึงเวลา”
[นี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเล็กน้อย เราไม่ได้ออกล่ามาสามชั่วโมงแล้วนะครับ… นี่ไม่เหมือนท่านเลยเจ้านาย]
“ฉันมีงานต้องทำ ให้ฉันขี่ไปมูแรนหน่อย”
เมื่อเอียนอยู่บนหลังของมัน คาร์เซอุสกระพือปีกใหญ่ของมันและเริ่มบินไปทางทิศตะวันออก
สถานที่ที่เขามุ่งหน้าไปคือ มูแรน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิลัสเปลในอดีต แต่ตอนนี้มันพังพินาศไปแล้ว
เอียนที่อยู่บนหลังของคาร์เซอุสพึมพำด้วยเสียงเบาๆ
“โชคดีที่ฉันสามารถโฟกัสได้จนจบตอนของวิดีโอ”
เขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เอียนก็ยิ้มออกมาขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังมูแรน
* * *
Hwark-!
คลื่นของเปลวไฟขนาดใหญ่แผ่กระจายไปทั่วพื้นดินที่ว่างเปล่า
มันเป็นเปลวไฟลที่มุ่งไปยังมอนสเตอร์!
เปลวไฟหายไปพร้อมกับเปลวไฟขนาดเล็กที่ต่างๆ หลังจากหลอมมอนสเตอร์หลายตัวร่วงลงสู่พื้น
ในขณะเดียวกันก็สามารถได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งในดันเจี้ยน
“คลื่นเพลิงแห่งความบ้าคลั่ง! โจมตีต่อเนื่อง!”
Kwang- Kwakwang-!
เปลวไฟจำนวนเล็กน้อยและต่อเนื่องระเบิดและความร้อนมหาศาลแผ่ออกมาอีกครั้ง
การต่อเนื่องของการโจมตีในพื้นที่กว้างและเวทมนตร์ได้แสดงพลังทำลายล้างมหาศาล
มอนสเตอร์จำนวนมากปรากฏตัวพร้อมกันในดันเจี้ยน
“ไม่มีใครรู้ว่ามีดันเจี้ยนที่แสนหอมหวานแบบนี้ด้วยสินะ?”
‘ราชินีแห่งเปลวเพลิง’ แม่มดหญิงเพียงคนเดียวที่มีอาชีพลับในระดับสูงสุด
เธอเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากอาชีพย่อยของเธอ ‘นักเวทย์เปลวเพลิง’
เสียงหัวเราะดังขึ้นจากปากของรีเมียร์
ในไม่ช้าเธอจะไปถึงเลเวล 350 และนั่นทำให้เธอตื่นเต้นมาก
“นี่เป็นดันเจี้ยนแห่งเดียวที่ดูเหมือนว่าจะทำให้ฉันมีความสุขได้ในขณะนี้…”
เธอเริ่มฮัมเพลงและรวบรวมไอเทมจากร่างไร้วิญญาณจำนวนมากที่นอนอยู่บนพื้น
ร่างต่างๆของอันเดธที่นอนอยู่บนพื้นมีตั้งแต่เลเวล 200 ถึงกลาง 300
“เยี่ยม ฉันดูสิ่งนี้ในวิดีโอตอนนี้!”
รีเมียร์ค่อนข้างเหมือนเอียน
เธอเดินเข้าไปจนสุดดันเจี้ยน เมื่อเธอไปถึงจุดสิ้นสุดเธอลังเลและหันกลับไป
เธอเห็นบันไดลงไปเมื่อเธอไปถึงจุดสิ้นสุดของดันเจี้ยน เธออยากจะลงบันไดเหล่านั้น แต่ทำไม่ได้
‘จนกว่าฉันจะเรียนรู้สกิลต่อไปของเลเวลของฉัน… แต่จะเป็นเมื่อไหร่กัน?’
รีเมียร์เพิ่งตัดสินใจออกไปจากดันเจี้ยน
ในความเป็นจริงไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการลงดันเจี้ยน
เธออยากจะลงไปข้างล่างเนื่องจากเธอได้เห็นพื้นที่ล่าที่จะให้ผลดีเพียงพอที่นั่น
เธอลังเลเพราะอาจมีเดธไนท์เลเวล 300 เฝ้าอยู่ที่นั่น
“เป็นเวลานานมากแล้วที่ฉันเล่นเป็นปาร์ตี้ ฉันควรหาปาร์ตี้ดีไหม…? ฉันสามารถท้าทายมันได้ถ้ามีแท้งค์อันดับหนึ่งหรือสอง…”
เสน่ห์ของดันเจี้ยนชั้นล่างนั้นมหาศาลมากซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจไปปาร์ตี้ล่ามากกว่าการเล่นโซโล่
รีเมียร์นึกถึงใครบางคนในช่วงเวลาถัดไป
มันเหมือนกับรูปร่างของมนุษย์
‘ไม่ ไม่… ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น มันจะดีสำหรับการล่ากับเขาจนถึงชั้น 1 … แต่เขาสูญเสียความมีเหตุผลเมื่อออกล่า’
รีเมียร์ซึ่งรู้สึกดีขึ้นได้จัดการคลังของเธอและกลับเข้าไปในดันเจี้ยน
เหตุผลที่การออกจากดันเจี้ยนเป็นเรื่องยากสำหรับเธอเพราะมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนั้นวิเศษกว่ามอนสเตอร์ใดๆ
มันเป็นข้อดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ ‘เควสต์ฉุกเฉินไม่จำกัด’ ซึ่งจะได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มเติมและทองแม้ว่าจะออกล่าอันเดธอย่างต่อเนื่องก็ตาม
“เอาล่ะ ไปล่าใหม่กันเถอะ”
ด้วยการแสดงออกที่น่าพอใจ รีเมียร์เริ่มเดินเข้าไปในดันเจี้ยน
เธออยู่ระหว่างการร่ายเวทย์มนตร์ จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงดังจากทางเข้าของดันเจี้ยน
“ล่องหน…!”
การล่องหนเป็นเวทย์มนตร์ระดับกลางที่นักเวทย์สามารถเรียนรู้ได้เมื่อพวกเขากลายเป็นเลเวล 150
รีเมียร์เริ่มล่องหนทันทีหลังจากร่ายเวทย์เสร็จ
เป็นภาพที่มีเพียงนักเวทย์เท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้
แม้ว่าจะเป็นเวทย์มนตร์ระดับกลาง แต่ก็มีนักเวทย์เพียงไม่กี่คนที่สามารถร่ายมันได้ในเวลาอันสั้น
รีเมียร์ผู้ปกปิดตัวเองด้วยการล่องหน – เดินออกไปนอกดันเจี้ยน
เพื่อซ่อนรอยเท้าของเธอ เธอใช้การร่ายสองครั้งและบินออกจากที่นั่น
‘อะไรน่ะ? เป็นใครกัน…? มีใครรู้เกี่ยวกับสถานที่นี้นอกจากฉันด้วยหรอ?’
ไม่มีใครรู้ที่ตั้งของสถานที่แห่งนี้เว้นแต่พวกเขาจะเฝ้าดูดันเจี้ยนด้วยสมาธิอย่างเต็มที่
รีเมียร์ซึ่งคิดว่าเธอเป็นคนเดียวที่รู้จักดันเจี้ยนนี้จึงสงสัยว่าเขาเป็นใคร
ดวงตาของรีเมียร์เบิกกว้างเมื่อเธอเห็นว่าเป็นใคร
‘ทำไมเขาถึงมาที่นี่ในเมื่อเขาควรจะอยู่ในอาณาจักรโลตัสนิ…?!’
* * *
ไม่ไกลจากเมืองมูแรนมีภูเขาขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น
มันเป็นพื้นที่ล่าสุดโปรดของผู้เล่นมือใหม่
เอียนจำได้ว่าเขาจับหมีในเขตภูเขานั้น
อย่างไรก็ตาม เทือกเขานิวรอนกลายเป็นอดีตไปแล้ว
Kwakwang- Kwang-!
เอียน ไคซาร์และคาร์เซอุสที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ต่างก็แกว่งอาวุธด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
“ว้าา มอนสเตอร์ของมูแรนกลายเป็นเลเวล 300 ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ไคซาร์ตอบคำถามสั้นๆของเอียนว่า
“แต่พวกมันยังคงเป็นอันเดธ”
เอียนหัวเราะเมื่อได้ยินสิ่งที่ไคซาร์พูด
“ใช่น่ะสิ”
พวกมันไม่ใช่มอนสเตอร์ที่ทรงพลังสำหรับพวกเขา
พวกเขาเพียงแค่แกว่งดาบด้วยกำลังทั้งหมดเพื่อมุ่งหน้าไปยังภูเขาเพราะพวกเขาต้องการที่จะเคลื่อนที่ให้เร็วที่สุด
เอียนกำลังมองหา “ชายชรา” บนภูเขา
‘ชั้นหนังสือของเฮลเลี่ยม – หลุยเซย์’
จักรวรรดิลัสเปลถูกทำลาย แต่อาณาจักรของ NPC ทั้งหมดไม่ได้ถูกทำลายทั้งหมด
มี NPC จำนวนมากที่กระจัดกระจายไปทั่วทั้งทวีปรวมถึงเฮลเลี่ยมหัวหน้าอัศวินที่ต่อสู้เพื่อจักรวรรดิจนถึงที่สุด
วิดีโอไม่ได้เปิดเผยทุกอย่าง แต่เบาะแสกระจัดกระจายกันไป
เอียนยืนยันจากการเห็นเบาะแสในตอนนี้ว่าหลุยเซย์ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขานิวรอน
“ฉันแน่ใจนะว่าอยู่ฝั่งนี้…?”
เอียนกำลังมองหาหลุยเซย์
ทันใดนั้น…
สายตาของเอียนเคลื่อนไปในทิศทางที่อื่นและดวงตาของเขาก็จับบางอย่างได้
‘มันคืออะไร? ดูเหมือนว่า…?’