Taming Master – ตอนที่ 405

โดยปกติเมื่อสัตว์เลี้ยงถูกสังหารสามารถอัญเชิญกลับมาได้หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกับผู้เล่น

อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างกันสำหรับทาส

ผู้ติดตามที่ตายแล้วจะใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการฟื้นคืนชีพและสามารถอัญเชิญทาสได้ภายใน 3 วัน

การเสียชีวิตของกาก้าเป็นการระเบิดครั้งใหญ่สำหรับเอียน

‘เอ่อ… จะมีมอนสเตอร์อันเดธจำนวนมากที่ฉันจะต้องจัดการในภายหลังเนื่องจากฉันจะต่อสู้โดยไม่มีกาก้าเป็นเวลาสามวัน…’

ยกเว้นการโจมตีลักษณะแสงไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำร้ายกาก้าได้

กาก้าทำอะไรไม่ได้กับการโจมตีด้วยแสงต่างๆ

สิ่งที่กาก้ามองหาคือมังกรแห่งแสง เอลคาริกซ์ ดังนั้นเอียนจึงเข้าใจได้ว่าทำไมกาก้าถึงตาย

‘ฉันประมาทเกินไป เมื่อคิดว่ามังกรแห่งแสงยังคงอยู่ในไข่ ฉันจึงส่งเธอเข้าไป…’

แม้ว่ามังกรจะยังอยู่ในไข่ แต่มันก็ยังคงอยู่ในที่ซ่อนของมัน

ไม่สิ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามังกรในถ้ำยังคงอยู่ในไข่ของมันและสถานที่ที่กาก้าพบนั้นเต็มไปด้วยพลังธาตุแสง

เช่นเดียวกับกรณีในที่ซ่อนของลูการิกซ์ อาจมีอันตรายบางอย่างที่คาดไม่ถึงในที่ซ่อนนี้เช่นกัน

ถ้ากาก้าอยู่ในที่ซ่อนของมังกรแห่งแสงจริงๆ การตายของกาก้าก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

เอียนสงบสติอารมณ์และพูดกับคนอื่นๆ

“นี่น่าจะเป็นทางที่ถูกต้องแล้วล่ะ”

เลฟย่าตอบกลับเขาทันที

“ทำไมล่ะ?”

“กาก้าตายแล้ว”

“…?!”

“ดูเหมือนว่ากาก้าได้พบที่ซ่อนของเอลคาริกซ์แล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้กาก้าบาดเจ็บได้คือการโจมตีด้วยแสง”

“อ่อ…”

สมาชิกปาร์ตี้ของเอียนพยักหน้าเห็นด้วยและเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่เลเวลของอันเดธยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เอียนมั่นใจว่าพวกเขากำลังไปในทิศทางที่ถูกต้องและก้าวต่อไป

หลังจากผ่านไปสองสามชั่วโมง พวกเขาก็สามารถหาที่ซ่อนของเอลคาริกซ์ได้

 

* * *

 

ถ้ำหินในภูเขาหิมะขาวโพลน

ตรงกันข้ามกับทางเข้าของรังของลูการิกซ์ที่มีกลิ่นอายที่น่ากลัว รังนี้ค่อนข้างเรียบง่ายและเล็ก

จากนั้นฮูนี่ย์ก็พึมพำ

“ดูเหมือนจะเล็กกว่าที่ซ่อนของลูการิกซ์นะ…?”

หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ลูการิกซ์ก็กอดอกด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง

“หุหุ ถ้ำของข้าค่อนข้างใหญ่โต…!”

ลูการิกซ์ยืดอกของเขาให้ตรงและเริ่มโอ้อวดเกี่ยวกับที่ซ่อนของเขา

อย่างไรก็ตาม เอียนตัดบทเขาออกและถามบางสิ่งที่เขาอยากรู้

“อย่าเพิ่งพูดเรื่องไร้สาระลูการิกซ์ ดูถ้ำนี้อย่างระมัดระวัง นี่คือที่ซ่อนของเอลคาริกซ์จริงหรอ?”

ลูการิกซ์กำลังจะตอบคำถามของเอียนก็มีคนแทรกเข้ามาในบทสนทนา

“มันคือที่นี่แหละบุ๊กค์! ฉันสัมผัสได้ถึงพลังของมังกรแห่งเทพในนั้น บุ๊กค์!”

บุ๊กค์ได้ตอบแทนซึ่งอยู่บนหลังของไล

จากนั้นลูการิกซ์ก็พูดตามสิ่งที่บุ๊กค์กล่าวไว้

“ใช่แล้ว นี่แหละเอียน นี่ดูเหมือนที่ซ่อนของเอลคาริกซ์แน่นอน”

เอียนตอบด้วยเสียงบ้าๆบอๆ

“บุ๊กค์บอกไปแล้ว! นายพูดช้าไปนะ เจ้าเด็กน้อย”

ดวงตาของลูการิกซ์เบิกกว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่เอียนพูด

“ไม่ใช่ ข้ากำลังจะพูด! ข้ารู้แล้วว่าคือที่นี่!”

เอียนส่ายหัวและนิ้วของเขาในเวลาเดียวกัน

“ฉันควรจะเชื่ออย่างนั้นได้ยังไง?”

ลูการิกซ์ตกตะลึง

ลูการิกซ์ดูเหมือนเหยื่อที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมที่พยายามอ้างว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์

“เอ่อ เอลคาริกซ์เป็นพี่น้องฝาแฝดของข้า! เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ที่ซ่อนของพี่น้องของข้าจริงๆหรอ?!”

ลูการิกซ์เริ่มเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่พวกเขาไม่ได้ถาม

เอียนสังเกตเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ ฮูนี่ย์มองไปที่ลูการิกซ์ด้วยดวงตาสีแดง

“หมายความว่านายรู้แล้วว่าที่ซ่อนของเอลคาริกซ์อยู่ที่ไหน แต่นายก็ยังเลือกที่จะไม่พูดอะไรจนถึงตอนนี้งั้นหรอ?”

คำกล่าวหาของฮูนี่ย์ทำให้ลูการิกซ์ประหม่าและอับอายในเวลาเดียวกัน

“มันไม่ใช่อย่างนั้น…!”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอ? มันฟังเป็นอย่างนั้นชันๆ! เจ้าคนโกหกนี่นิ!”

“ข้า… ข้าไม่ได้โกหก!”

“แล้วทำไมไม่พูดอะไรล่ะ ถ้ารู้ก็ควรบอกเราทันทีเราจะได้ไม่เสียกาก้าไป!”

“นั่น… มัน…!”

น้ำตาของลูการิกซ์กำลังจะไหล

ปากของเขาสั่น

ลูการิกซ์ไม่ต้องการที่จะให้เป็นแบบนี้เพราะเขาต้องการกำจัดมอนสเตอร์อันเดธและเป็นประโยชน์ให้กับพวกเขา

 

* * *

 

“ออร์เดน แน่ใจหรอว่าเป็นทางนี้?”

“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นครับเจ้านาย ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออีกหน่อยคือที่ที่หุบเขาพริลาเนียครับ”

“เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นฉันขอพักที่นี่สักพักได้ไหม?”

“เข้าใจแล้วครับเจ้านาย แล้วผมจะนั่งบนคอกม้าตรงนั้น”

“อือ โอเค”

ทางตอนเหนือสุดของทวีปทางตอนเหนือ

มังกรกระพือปีกบนท้องฟ้าของทุ่งหิมะที่มีลมเพียงพอที่จะทำให้คนๆหนึ่งเย็นยะเยือก

ชายคนหนึ่งกำลังขี่มังกรตัวนี้

เขาเป็นผู้สืบทอดของโอ๊คเลย์ ซัมมอนเนอร์

Flap – Flap –

ทุกครั้งที่มังกรกระพือปีก มันจะสร้างลมกระโชกแรง

มังกร ออร์เดน ผู้แบกคาโนเอลได้นั่งลงและห่อตัวเจ้านายของมันไว้ในปีกเพื่อปกป้องเจ้านายของมันจากลมหนาว

“ไม่เป็นไร ออร์เดน ลมนี้จะไม่สำคัญสำหรับฉันมากนักและฉันก็มีอาหารที่พี่ฮารินทำให้ฉัน”

คาโนเอลหยิบโอนิกิริ (ข้าวปั้นญี่ปุ่น) ออกมาจากคลังของเขาและมองดูด้วยสีหน้าเหมือนตกใจ

ข้าวเป็นสีแดงและมีบางอย่างที่ดูเหมือนปลาบินอยู่ด้านบน

ออร์เดนที่เห็นมันถามคาโนเอลด้วยความกังวล

“ท่าน… คิดจะกินจริงๆหรอ เจ้านาย?”

คาโนเอลพูดติดอ่างในขณะที่เขาเองก็ไม่แน่ใจ

“ฉะ… ฉันควรจะกิน… ถ้าฉันกินเจ้านี่ ฉันก็จะฝ่าลมหนาวพวกนี้ไปได้”

คาโลเอลลังเลและกัดข้าวปั้น

ข้อความของระบบเริ่มปรากฏต่อหน้าเขา

กริ๊ง-!

 

[ท่านกินอาหาร ‘ข้าวปั้นแม็กม่า’ แล้ว]

[รสชาติเผ็ดของข้าวปั้นแม็กม่ามากเกินไป]

[ท่านไม่มีความต้านทานต่อรสชาติเผ็ดร้อน]

[เป็นเวลา 30 นาที ท่านจะได้รับความเสียหาย 20 หน่วยต่อวินาที]

[ความต้านทานต่ออาหารรสเผ็ดของท่านเพิ่มขึ้น 2 หน่วย]

[ความต้านทานความเย็นเพิ่มขึ้น 30% ในอีก 2 ชั่วโมงถัดไป]

[ความต้านทานเปลวไฟลดลง 15% ใน 2 ชั่วโมงถัดไป]

 

อย่างไรก็ตาม คาโนเอลไม่สามารถยืนยันข้อความได้

เขาหลับตาแน่น

ตามที่ข้อความกล่าวไว้ ความเผ็ดของมันมากเกินไป!

“อ่า… อ๊ากกกก!”

คาโนเอลที่เพิ่งกัดมันรู้สึกได้ว่าหลอดอาหารของเขากำลังละลายและเริ่มกินหิมะที่อยู่รอบตัวเขาซึ่งเขาไม่ควรจะทำ

 

[ท่านได้กิน ‘หิมะที่เย็นยะเยือก’]

[ระวัง! ไม่ใช่ของที่ควรกิน!]

[ความต้านทานความเย็นจะลดลง 1% เป็นเวลา 5 นาที]

 

ออร์เดนปลอบคาโนเอลด้วยท่าทางเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรครับเจ้านาย อาจเป็นแบบนั้นก็ได้ ผมเข้าใจ”

ชื่อเล่นของออร์เดนคือ กรูเมตดาร์กอน

งานอดิเรกของเขาคือการชิมอาหารใหม่ของฮาริน!

ออร์เดนมี ‘ข้าวปั้นแม็กม่า’ อยู่แล้ว

ในช่วงเวลานั้น ออร์เดนต้องกินตุ๊กตาหิมะ 5 ตัวที่เด็กๆทำจากเมืองไพโรเพื่อระงับความรู้สึกแสบร้อน

นั่นเป็นสาเหตุที่ออร์เดนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเจ้านายของเขากำลังเผชิญกับอะไร

คาโนเอลที่กำลังกินหิมะอยู่ทั่วบริเวณนั้นก็นั่งลง

“เฮอะๆ นี่มัน… ยากกว่าการต่อสู้กับมอนสเตอร์อันเดธถึงห้าเท่าเลยนะออร์เดน”

“ถูกต้องครับเจ้านาย ถ้าท่านสามารถทานได้ เราอาจจะกำจัดริชชี่คิงได้อย่างง่ายดาย”

“ฮิฮิ อย่างไรก็ตามฉันไม่รู้สึกหนาวหรอก โอนิกิรินั้นได้ผลแน่นอน”

ออร์เดนพูดหลังจากที่ได้เห็นคาโนเอล ทุกคนประทับใจกับผลของโอนิกิริ

“ตอนนี้ภายในของท่านกำลังเจ็บอยู่ นั่นคือเหตุผลที่ท่านไม่รู้สึกหนาว”

“…”

คาโนเอลปีนกลับขึ้นไปบนหลังของออร์เดนหลังจากทำทุกอย่างเสร็จ

“ถึงอย่างนั้น ยิ่งเราเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากเท่าไหร่ ฉันก็คิดว่ามอนสเตอร์อันเดธจะปรากฏตัวน้อยลงนะออร์เดน เป็นเพราะอากาศหนาวแบบนี้หรือเปล่า?”

“มอนสเตอร์อันเดธจะไม่ถูกหยุดด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นครับ”

“เอ่อ… จริงหรอ? อืม ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเรา…”

เมื่อคาโนเอลนั่งลงบนหลังของออร์เดนแล้วเขาก็กระพือปีกและบินขึ้นไปบนอากาศ

จุดหมายปลายทางของพวกเขาคือหุบเขาพริลาเนียทางตอนเหนือสุดของทวีปทางเหนือ

มันเป็นสถานที่ที่มีการฝังร่างของเทมเมอร์จำนวนมากในอดีต เนื่องจากการรุกรานของมังกร

‘เมื่อฉันเจอหุบเขาพริลาเนียแล้ว… ฉันจะสามารถใช้กำลังของพวกเขาต่อสู้กับกองทัพของริชชี่คิงได้’

ในขณะที่อยู่บนออร์เดน ดวงตาของคาโนเอลเปล่งประกายด้วยความหวัง

 

* * *

 

[ท่านได้เข้าสู่ที่ซ่อนของมังกรแห่งแสง เอลคาริกซ์]

[ท่านได้เข้าไปในพื้นที่แรกของถ้ำ ‘พื้นที่แห่งแสง’]

[ท่านเป็นคนแรกที่ค้นพบ ‘รังของเอลคาริกซ์’]

[ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 50,000 หน่วย]

[ท่านเป็นคนแรกที่ค้นพบดันเจี้ยนนี้]

[ค่าประสบการณ์ทั้งหมดที่ท่านได้รับจากดันเจี้ยนจะเพิ่มเป็นสองเท่าใน 5 วันถัดไป]

[อัตราการดรอปของไอเทมในดันเจี้ยนจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 5 วันถัดไป]

 

สายตาของเอียนจับจ้องไปที่ข้อความของระบบ

‘รังของเอลคาริกซ์ไม่ใช่การค้นพบครั้งแรก แต่เป็นพื้นที่’

รังของเอลคาริกซ์ไม่ใช่ดันเจี้ยนที่หาได้ยาก แต่เป็นสถานที่ที่ผู้เล่นทุกคนสามารถหาได้

อย่างไรก็ตาม เขามีความสุขที่พบดันเจี้ยนหลังจากนั้นไม่นาน

หากความยากของดันเจี้ยนนี้ใกล้เคียงกับที่ซ่อนของลูการิกซ์ พวกเขาก็จะได้รับประสบการณ์และไอเทมที่ยอดเยี่ยม

‘เรามีลูการิกซ์อยู่กับเราด้วย’

ลูการิกซ์ที่สามารถกวาดมอนสเตอร์ได้ด้วยการโจมตีเพียงหนึ่งหรือสองครั้งก็ยังไม่ถือว่าดีที่สุด

นอกจากนี้เนื่องจากคุณสมบัติของแสงและความมืดมีความสัมพันธ์กันอย่างผกผันการโจมตีจากลูการิกซ์อาจสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับศัตรูที่มีคุณสมบัติแสง

ลูการิกซ์ก็สามารถถูกโจมตีด้วยการโจมตีธาตุแสงและได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในบรรดาคนในปาร์ตี้

เอียนแค่หัวเราะกับความคิดที่ว่าเขาพยายามแบกมันไว้อย่างหนัก!

และทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นในแบบที่เขาต้องการ

 

[ท่านเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายแล้ว ‘พื้นที่แห่งแสง’]

[หลังจากผ่านไป 10 วินาที โฮลี่เดรค (เลเวล 375) ที่เฝ้าชั้นใต้ดินชั้นแรกจะปรากฏขึ้น]

 

“สุดท้าย…?!”

ซึ่งแตกต่างจากรังของลูการิกซ์ ที่ซ่อนของเอลคาริกซ์ไม่ใช่ดันเจี้ยนที่มีเป็นชั้น!

ความฝันของเอียนในการล่ามอนสเตอร์และได้รับค่าประสบการณ์ถูกทำลายลง

Grrrong-!

มีบางอย่างออกมาและดังก้องไปทั่วถ้ำ

คลื่นสีขาวบริสุทธิ์มาจากด้านในของมังกร

 

[‘อิลูชั่นไลท์’ ถูกเปิดใช้งาน]

[ท่านได้รับความเสียหายจากแสง]

[พลังชีวิตลดลง 2,350 หน่วย]

[คุณลักษณะความมืดไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่แห่งแสงได้]

 

ข้อความของระบบที่เอียนไม่คาดคิดก็ปรากฏขึ้น

ตอนนี้เอียนเข้าใจแล้วว่าทำไมกาก้าถึงตาย

‘หึ นี่คือสาเหตุที่กาก้าตายสินะ’

จริงๆแล้วความเสียหายระดับนั้นไม่เพียงพอที่จะฆ่าอาชีพวอร์ล็อคได้

อย่างไรก็ตาม กาก้านั้นแตกต่างออกไป

หากการโจมตีเป็นธาตุแสง แม้ความเสียหายเพียงเล็กน้อยก็สามารถฆ่าเธอได้

“จะยากไหมนะ…?”

ในเวลาเดียวกันกับที่ข้อความออกมา ฮูนี่ย์และมังกรแห่งความมืด – ลูการิกซ์ – ถูกโยนออกจากดันเจี้ยน

เลฟย่าเปิดใช้ปีกและยิ้ม

“ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ เราแค่ต้องพยายาม”

เอียนหัวเราะและจับการพิพากษาของราชาวิญญาณของเขา

“ใช่ มันไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถฆ่าเดรคได้หากไม่มีเด็กสองคนนั้นใช่มั้ยล่ะ?”

Kyahh-!!

โฮลี่เดรคมีเกล็ดที่ขาวราวกับหิมะออกมา

เลฟย่าและเอียนรีบวิ่งไปที่เดรคทันทีที่มันออกมา

Taming Master

Taming Master

เกมเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ‘Kailan’ ‘เอียน’ นักเล่นเกมเสมือนที่ใครๆต่างก็รู้จัก เขาลบตัวละครเลเวล 93 ของตนเพื่อที่จะได้รับอาชีพลับ… แต่อาชีพที่เขาเลือกนั้นเป็นอาชีพที่ไร้ประโยชน์ที่สุดใน ‘Kailan’ นั่นคือ นักอัญเชิญ? ยิ่งไปกว่านั้น การโทรตามจากศาสตราจารย์ทำให้เขาสติแตก! เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนคุมความประพฤติ เขาจะต้องรีบเพิ่มเลเวลของตนให้ถึงระดับเดิมกับที่เขาได้ลบไป ภายใน2เดือน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset