ลูการิกซ์นั้นทรงพลัง
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ เอียนยังไม่สามารถเข้าใจพลังและความสามารถของลูการิกซ์ได้อย่างแม่นยำ
แค่เดาคร่าวๆ
‘มังกรระดับ Myth และแน่นอนว่าจะต้องมีลมหายใจแห่งมังกร , บัฟมังกรก็ด้วย… และจะเป็นเผ่ามังกรด้วย’
ก่อนบัฟจะหมด จำเป็นต้องรู้สกิลของลูการิกซ์ให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อดึงพลังที่เขาทำได้จากลูการิกซ์
ด้วยเหตุนี้ เอียนจึงจัดการเสี่ยงโชคเล็กๆน้อยๆให้กับลูการิกซ์ที่ยังรู้สึกสงสัยอยู่
“ลูการิกซ์ เวทย์มนตร์มหึมาที่นายใช้ครั้งล่าสุดคืออะไร?”
“คุณหมายถึงอะไร?”
เมื่อเอียนกำลังจะพูดอีกครั้ง ก็มีคนอื่นเข้ามาในการสนทนาอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเด็กน้อย ทำไมเอาแต่พูดกับพ่อของฉันโดยไม่ให้เกียรติอย่างนั้นล่ะ?”
“อ๊ะ หายตัวสักทีได้ไหม! เรากำลังคุยกันอยู่”
“บู่!”
สองพี่น้องเริ่มทะเลาะกัน
เมื่อเห็นเช่นนั้น เอียนก็รู้สึกสับสน
‘เอล มันเป็นเรื่องดีที่เธอเข้าข้างฉัน แต่…’
เขารู้สึกดีมากแต่ไม่มั่นใจในสถานการณ์
เมื่อการสนทนาระหว่างพวกเขายังไม่จบ เอียนพยายามทำให้พวกเขาสงบลงในขณะที่เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของเด็กๆ
เอียนอุ้มเอลคาริกซ์ไว้ในอ้อมแขนของเขา และพยายามเปล่งเสียงที่เป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้
เป็นที่เข้าใจได้ว่าเขาเลือกข้างเอลคาริกซ์
“เอลคาริกซ์ที่น่ารักและสุภาพของเราจะเข้าใจ เด็กคนนี้เกิดมานิสัยเสียนิดหน่อยน่ะ”
และเอลคาริกซ์ด้วยสีหน้าที่ระบุว่า ‘ทำอะไรไม่ได้แล้ว’ ก็ส่ายหน้า
“หึ ถ้าป๊ะป๋าพูดแบบนั้นล่ะก็”
ลูการิกซ์ต่อต้านอย่างรุนแรง
“ไม่! ไม่นิสัยเสีย! คุณกำลังพูดถึงใคร”
“มีใครอีกบ้างตรงนี้ นอกจากเอลคาริกซ์กับฉัน นายแล้วก็นาย”
“อ๊าาาา”
ไม่มีอะไรนอกจากเสียงที่ออกมาจากปากของลูการิกซ์และเอียนก็ไม่สนใจ
ผู้ที่ดูแข็งแกร่งมากในแวบเดียวก็แสดงให้เห็นด้านที่อ่อนแอเล็กน้อยระหว่างการต่อสู้กับพี่น้องของเขา
“ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติฉันเลย ตอบฉันมาสิ เจ้าหนู ครั้งสุดท้ายที่เจ้าใช้เวทมนตร์คืออะไร?”
ในการต่อสู้ที่คฤหาสน์คีตัน เอียนเป็นคนที่แสดงผลงานที่โดดเด่นมาก
อย่างไรก็ตาม การมีส่วนร่วมของเอียนไม่ได้ยิ่งใหญ่ที่สุด
เพราะเอียนเป็นราชาและเป็นผู้เปลี่ยนกระแสการต่อสู้ทั้งหมด ผู้คนมากมายจึงสนใจเอียน
พูดตามตรง เขาไม่ได้มีส่วนร่วมมากนักเมื่อเทียบกับลูการิกซ์ที่เลเวล 500
เมื่ออัญเชิญสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเขาจะทำให้ประสบการณ์สะสมของเอลคาริกซ์ลดลง เอียนได้อัญเชิญสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก และแน่นอนว่าไม่ว่าใครก็เห็นว่าเขาไม่ได้มีส่วนร่วมน้อยกว่าผู้ติดอันดับอย่างฮูนี่ย์และเลฟย่า
แล้วใครที่มีส่วนร่วมมากที่สุดสำหรับชัยชนะของพวกเขา?
น่าแปลกที่มันไม่ใช่หน่วยของมังกรหรือคาเมเรสผู้บังคับบัญชาผู้กล้าหาญ แต่เป็นลูการิกซ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการอัญเชิญครั้งใหญ่ของดุ๊กเดในคลื่นมอนสเตอร์ลูกสุดท้าย พายุทอร์นาโดที่มีกำลังมากพอที่จะทำให้ทุกคนอ้าปากค้างได้ก่อตัวขึ้น
ถ้าหลุมอเวจีของดุ๊กเดเป็นเหมือนหลุมดำ ลมกรดของลูการิกซ์ก็เหมือนกับ ‘หลุมดำที่กำลังเคลื่อนที่’
มันเป็นเวทย์มนตร์โจมตีแบบระยะเวลาที่ทรงพลังที่กวาดล้างและทำลายผ่านทุกสิ่ง
และไม่ใช่แค่ความสามารถพิเศษเพียงอย่างเดียวของลูการิกซ์
ลูการิกซ์ใช้ความสามารถหลายอย่างที่เอียนไม่รู้
และเอียนต้องการทราบพลังของพวกมันทั้งหมด
ถ้าเขาสามารถใช้สกิลเหล่านั้นได้ ประสิทธิภาพของการล่าก็จะเพิ่มขึ้น
ทันทีที่การทะเลาะวิวาทของพี่น้องมังกรทั้งสองจบลง ลูการิกซ์ก็เริ่มอธิบายสกิลของเขา
“อ่อ สกิลนั้น แทนที่จะเป็นความสามารถของฉัน มันคือเวทย์มนตร์”
“เวทย์มนตร์?”
“ใช่ โซลสตอร์ม กลุ่มเวทย์มนตร์มืด 9 วง”
“9 วงเลยเหรอ…? จริงเหรอ?”
“ใช่ จริงๆ แล้วเทพมังกรเคยโกหกด้วยเหรอ?”
“อืม ฉันไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องโกหก แค่แปลกใจว่าตั้ง 9 วง…”
“หุหุ เจ๋งมากใช่ไหมล่ะ? สกิลเวทย์มนตร์มืดของฉันยอดเยี่ยมมาก”
ความคิดของเอียนเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว
พายุแห่งความมืดมหึมาเริ่มหมุนเข้ามาในหัวของเอียน
วงเวทย์ 9 วงก็เพียงพอที่จะเข้าใจพลังของมัน
เวทย์มนตร์ที่เป็นมนุษย์ ไม่มีใครเคยใช้เวทย์มนตร์ที่สร้างวงเวทย์ได้ 9 วง
‘ไม่ใช่ความสามารถแต่เป็นเวทย์มนตร์… ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นสิ่งที่คิดว่าคือกลุ่มเวทย์มนตร์’
และเวทย์มนตร์มืดที่สามารถสร้างเวทย์มนตร์โจมตีอันทรงพลัง การต่อสู้ของลูการิกซ์ก็มีสัดส่วนที่เท่ากันกับค่าสติปัญญาของเอลคาริกซ์
เมื่อเขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับลูการิกซ์ เอียนก็เริ่มยิ้ม
หวังว่าเขาจะสามารถเรียนรู้สกิลของลูการิกซ์แล้วสอนสกิลวงเวทย์ 9 วงให้กับเอลคาริกซ์ด้วย
เอียนเปลี่ยนน้ำเสียงของเขา
“ว้าว ลูการิกซ์ ยิ่งฉันเห็นนายก็ยิ่งดูแข็งแกร่งขึ้น นายเรียนรู้เวทย์มนตร์จากที่ไหน?”
ลูการิกซ์มีจิตใจที่เรียบง่ายและมีสติปัญญาพื้นฐาน
และเป็นที่ชัดเจนว่าลูการิกซ์มีจุดอ่อนสำหรับการชมเชย
เป็นความเข้าใจที่เอียนได้รับจากการมีสัตว์เลี้ยงมากมาย
ตามที่เอียนทำนายไว้ ลูการิกซ์ก็เริ่มให้ข้อมูล
“อะแฮ่ม คุณรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของร่างกายนี้หรือไม่”
“นั่นคือสิ่งที่ฉันพูดล่ะ! ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเวทย์มนตร์ที่ใช้วงเวทย์ 9 วงได้ด้วย”
“โอ้ อย่างนั้นเหรอ”
“การเรียนรู้เวทย์วงเวทย์ 9 วง…”
แล้วเรื่องราวก็ออกมาจากปากของลูการิกซ์ทีละเรื่อง—สิ่งที่น่าทึ่งคือ
ข้อมูลขั้นสูงที่ไม่มีใครเคยได้ยินในไคลัน
“หนังสือสกิลวงเวทย์ 9 วง เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ มันมีไว้สำหรับสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติเท่านั้น ดังนั้น เราต้องไปที่โลกกลางจึงจะได้รับสกิลวงเวทย์ 9 วงขึ้นไป”
“โลกกลาง…?”
“โลกกลางไม่ใช่คำที่ใช้เรียกระบบมิติเดียว ขออธิบายสั้นๆ…”
ลูการิกซ์อธิบายว่าโลกหลายมิติสามารถจำแนกได้เป็นสามประเภท
ในหมวดแรก ‘กราวน์ซิสเต็ม’ ซึ่งระบบมิติพื้นฐานเช่น มนุษย์และแอสโมเดียน
และมีหลายมิติในกราวน์ซิสเต็ม ไม่ใช่แค่มนุษย์หรือปีศาจ
หมู่เกาะทางใต้ที่จักรวรรดิเมารยาตั้งอยู่ เป็นมิติโบราณที่เรียกว่า ‘ฮัลลีย์’ ในอดีต
แม้แต่ลูการิกซ์ก็ไม่รู้ว่าระบบมิติมีอยู่กี่ระบบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้น สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวของเอียนคือ ‘เซิร์ฟเวอร์’
‘การมีอยู่ของมิติมนุษย์และมิติปีศาจดูเหมือนเซิร์ฟเวอร์จากประเทศอื่น…’
ไม่รู้ว่ามันถูกต้องแค่ไหน แต่ดูเหมือนเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผล
และในขณะที่เอียนกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คำอธิบายของลูการิกซ์ยังคงดำเนินต่อไปเกี่ยวกับการจำแนกประเภทที่สองของระบบมิติ
เรื่องราวที่ออกมาจากปากของลูการิกซ์นั้นเหมือนกับคำอธิบายที่ออกมาจากคำอธิบายไอเทม ‘สัญลักษณ์ของอัศวินมังกร’ จากคาเมเรส
“โลกมีอาณาเขตไม่มาก แต่ในโลกกลางยังมีมิติมากมาย มิติวิญญาณ—มิติสวรรค์ และบ้านเกิดของพวกเรา ‘มังกร’ เหมือนกับที่อยู่ในหุบเขามังกร เพราะฉันไม่รู้เรื่องพวกนั้นทั้งหมด ไม่สามารถให้คำอธิบายอย่างละเอียดได้”
มีความแตกต่างมากมายระหว่างโลกกลางและกราวน์ซิสเต็ม แต่ความแตกต่างที่โดดเด่นที่สุดคือไม่มีมิติมากมายในนั้น
และหากสมมติฐานก่อนหน้าของเอียนถูกต้อง เอียนก็สามารถสร้างบางสิ่งที่นั่นได้
‘ถ้าจำนวนของระบบมิติหมายถึงเซิร์ฟเวอร์ จะเป็นไปได้ไหมที่จะพบกับผู้เล่นเซิร์ฟเวอร์โลกกลางซึ่งมีเพียงแผ่นดินเดียวเท่านั้น’
ขณะที่ความคิดแล่นเข้ามาในหัว หัวใจของเอียนก็เริ่มเต้นแรง
เซิร์ฟเวอร์จัดอันดับของเกาหลีนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ก็คงจะน่าตื่นเต้นมากหากพวกเขาสามารถแข่งขันกับผู้ติดอันดับจากประเทศอื่นๆได้
และเนื้อหาที่ได้รับอาจไม่แน่นอน
‘มันเป็นสิ่งที่ฉันควรตั้งตารอใช่ไหม?’
ขณะที่เอียนกำลังครุ่นคิดอยู่ลึกๆ คำอธิบายของลูการิกซ์ก็ตามมา
“และในที่สุด บนโลกกลางก็มีสถานที่ที่เรียกว่าระบบสวรรค์”
“ระบบสวรรค์?”
“อืม และฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกัน ฉันไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับมัน เพราะมันมีเพียงระบบเดียวในระบบสวรรค์”
“…?”
“กล่าวอีกนัยหนึ่ง ระบบสวรรค์เป็นเหมือน ‘โลกใหม่’ ”
และคำอธิบายของลูการิกซ์ก็จบลง
อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นทำให้จิตใจของเอียนซับซ้อนไปด้วยความคิด
เป็นเพราะว่าเมื่อเล่นไคลันในอนาคต มีหลายปัจจัยให้เขาพิจารณา
และเอียนที่รวบรวมข้อมูลมากมายเกี่ยวกับโลกทัศน์ของไคลันก็ลูบหัวลูการิกซ์
“ฮ่าฮ่า นายฉลาดกว่าที่เห็นนะเนี่ย”
“ใช่ ฉันรู้หลายอย่าง!”
“ใช่ น่าแปลกที่นายมีมุมดีๆด้วย”
“ทำไมฉันถึงรู้สึกแย่… นั่นเป็นคำชมใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ”
ในตอนแรก มันทำให้ลูการิกซ์สอนเวทมนตร์ที่เขารู้จักให้กับเอลคาริกซ์
แต่เมื่อเรื่องต่างๆเพิ่มขึ้น เอียนตัดสินใจถามคำถามเพิ่มเติม
“ถ้าอย่างนั้น ลูการิกซ์ นายไปอยู่ที่ไหนมาในโลกกลางล่ะ?”
“ฉันไม่ได้ไปที่อื่นนอกจากสวรรค์ของมังกร”
“หือ? นายไม่รู้วิธีไปยังมิติอื่นเหรอ?”
“เฮ้อ ไม่รู้จะไปยังไงน่ะสิ”
“อืม แต่นายรู้วิธีไปที่สวรรค์ของมังกรใช่ไหม?”
“ใช่”
อย่างไรก็ตาม ลูการิกซ์ระบุว่าเขาไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าจะไปที่สวรรค์ของมังกรได้อย่างไร
อันเนื่องมาจากคำสั่งของเทพมังกร
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขารู้สึกดี เขาก็คอยบอกใบ้
“แท่นบูชาของมังกร อาจมีคำใบ้เกี่ยวกับสวรรค์ของมังกร นั่นคือทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดได้”
“ใช่ แท่นบูชามังกร… ฉันรู้สึกเหมือนเคยได้ยินที่ไหนสักแห่ง”
เอียนจำทุกอย่างที่ลูการิกซ์บอกเขา
เป็นเพราะเขาใส่ข้อมูลใหม่ทั้งหมดไว้ในหัวของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาของเอียนก็เบิกกว้าง
ความทรงจำแล่นผ่านความคิดของเอียนในทันที
‘แท่นบูชามังกร…! ประตูมิติที่อยู่ลึกที่สุด!’
ในดินแดนมังกร—ซึ่งตั้งอยู่ในทุ่งกว้างของหมู่เกาะทางใต้
และหอคอยขนาดใหญ่ก็เข้ามาในความคิดของเอียน
สถานที่ที่เอียนไปขโมยซินตะมานิ
ดันเจี้ยนชื่อ ‘แท่นบูชามังกร’ เข้ามาในความคิดของเอียน
‘ใช่สิ ในตอนนั้น ประตูมิติที่จำเป็นต้องเปิดสำหรับเควสต์นับเวลาโจมตีที่จะเคลียร์คือประตูสู่สวรรค์ของมังกร!!’
การล่ากับลูการิกซ์ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดของเขา
มันทำให้เอียนมีข้อมูลที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน
*ตอนนี้ก็ประมาณว่ารวมเซิร์ฟเวอร์จากนานาประเทศมาอยู่ที่เดียว