‘ตอนนี้คงได้แต่คิดว่าฉันจะใช้สกิลอะไรได้มากกว่า’
เอียนเลิกคิดถึงเรื่องสกิลของพินไปก่อน และมองไปที่ไลกับฮัลลิที่กำลังทำหน้าที่ของตนอย่างขันแข็ง
Grrr- Grr-!
ไลนั้นทำหน้าที่ล่ากับเอียนมาโดยตลอดมันจึงลากมอนสเตอร์ได้อย่างเชี่ยวชาญ ขณะที่ฮัลลิก็เรียนรู้จากการดูไลและทำหน้าที่ของตนได้ดีเหมือนกัน
ขณะที่มองไปยังเอียนที่กำลังล่อมอนสเตอร์จากทั้งสามทิศอยู่ ฟิโอลันก็ตะโกนขึ้นมา
“เอียนเร็วเข้า! ม่านน้ำแข็งจะแตกแล้ว!”
ตรวบใดที่แท่นบูชายังมีพลังชีวิตเหลืออยู่มันก็ยังถือว่าโอคแม้ม่านน้ำแข็งจะแตกไป แต่ว่าพวกเขาล่อมอนสเตอร์จำนวนที่มากเกินไปมันอาจจะทำให้แท่นบูชาแตกเป็นเสี่ยงๆได้ถ้าหากผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว
‘..พวกเราจัดการได้มากกว่าที่คิดเอาไว้’
มันค่อนข้างน่ากังวล เอียนตรวจเวลาคูลดาวน์ของหลุมอเวจีอีกครั้ง
‘3 2 1 ตอนนี้แหละ!’
“ดุ๊กเด หลุมอเวจี!”
หลุมอเวจีของดุ๊ดเดที่เพิ่งหมดคูลดาวน์ก็ใช้ออกมาในทันที
เพราะว่ามันไม่ใช่ช่องหุบเขาแบบครั้งก่อน ดุ๊กเดจึงไม่สามารถตรึงมอนสเตอร์ทั้งหมดได้
มือทั้งสองของเอียนเริ่มขยับอย่างไม่หยุดพัก
เขากำลังยิงCurrent Proliferationออกไปใส่มอนสเตอร์ที่เหลืออยู่อย่างต่อเนื่องและทำให้พวกมันติดสถานะเหน็บชาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
Za-Zap- Za-Za-Zap-!
และเขาก็ไม่ลืมที่จะออกสั่งสัตว์เลี้ยงของตน
“ไล ฮัลลิ! พวกแกฆ่ามอนสเตอร์ที่อยู่ไกลที่สุดด้วยการกัดที่คอของมัน!”
Grr- Grr-!
สัตว์เลี้ยงทั้งสองเมื่อได้ยินคำพูดของเอียนก็รีบพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์ตรงหน้าทันทีและเอียนก็ยิงCurrent Proliferationออกมาอย่างไม่หยุดพัก
แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะคอยหล่อเลี้ยงค่าเวทอัญเชิญของเขาไม่ให้หมดไป
เรคก็สู้ได้ดีโดยที่ไม่มีเอียนคอยสั่ง
สัตว์เลี้ยง ‘เรค’ ได้ใช้งานความสามารถแฝง ‘พ่นไฟลาวา’
มอนสเตอร์ที่ถูกตรึงเอาไว้ก็ถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็วด้วยลมหายใจลาวาของเรค Current Proliferationของเอียน และเวทAoEธาตุน้ำแข็งของฟิโอลัน
แม้หลังจากผลของหลุมอเวจีของดุ๊กเดหมดลง ด้วยผลทับซ้อนเหน็บชาของCurrent Proliferationของเอียนและผลแช่แข็งเพิ่มเติมของเวทน้ำแข็งของฟิโอลัน พวกมันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากโดนตรึงเอาไว้อยู่กับที่
เมื่อเป้นเช่นนั้นจึงทำให้ฟิโอลันร่ายเวทAoEได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นมากกว่าตอนที่เฮิร์ซคอยป้องกันให้
Bang- Ba-Ba-Bang-!
และหลังจากผ่านไป10นาทีตั้งแต่ที่เริ่มช่วงที่สอง ข้อความระบบก็แจ้งว่าช่วงนี้ได้จบลงแล้ว
ท่านป้องกัน ‘แท่นบูชาวีรชนแห่งฟอลัน’ สำเร็จ
เมื่อข้อความระบบแจ้งเตือนขึ้นมา ทั้งฟิโอลันและเอียนก็มองไปที่เวลาที่ทำได้
00:13:24
ในช่วงที่สองจบลงด้วยเวลาที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ฟิโอลันถึงกับอึ้ง
‘พวกเราทำเวลาได้เร็วกว่าเดิมเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่ฉันเข้ามากับเฮิร์ซ!’
มันเป็นเพราะว่าเอียนใช้วิธีการที่ไม่เหมือนใครแต่มันก็เป็นเพราะว่าเฮิร์ซมีความเสียหายที่น้อยมากเมื่อเทียบกับเอียนเช่นกัน ซึ่งมันก็เป็นเอกลักษณ์ของอาชีพ อัศวิน
ฟิโอลันพูดให้กำลังใจตัวเอง
‘พวกเราอาจจะได้ระดับสูงกว่าBตั้งแต่ครั้งแรกก็ได้’
ถ้าหากด้วยความเร็วเท่านี้ละก็ ระดับSก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ทำให้ความเร็วนี้มีความเป็นไปได้เพราะว่าสกิลของทั้งสองนั้นเน้นไปที่การโจมตีแบบAoE และเริ่มที่ช่วงที่สามที่มันจะเริ่มมีอะไรที่แตกต่าง มันแทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรักษาความเร็วนี้เอาไว้
และไม่นานนัก ช่วงที่สามของดันเจี้ยนก็เริ่มขึ้น
‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง’ ได้ตื่นจากการหลับไหล
Fiolan urgently spoke .
ฟิโอลันรีบพูดออกมา
“The biggest one among the three is the one that uses the stun skill! It will probably be the one in the middle . ”
“ตัวที่ใหญ่ที่สุดในสามตัวเป็นตัวที่ใช้สกิลสตั้น! มันเป็นตัวตรงกลาง”
“Is there nothing to be cautious of for the other two?”
“แล้วอีกสองตัวที่เหลือไม่มีอะไรน่ากลัวงั้นหรอ?”
ฟิโอลันตอบกลับ
“ตัวที่อยู่ทางซ้ายถือกระบองเหล็กใช้สกิลคลื่นกระแทก แต่เวลาที่จะใช้งานได้นั้นถือว่าไม่เร็วเท่าไหร่สามารถหลบได้สบายๆ ถึงอย่างนั้นถ้าหลบไม่ได้จะโดนผลสโลว์และก็อาจจะโดนสตั้นได้ นายระวังเอาไว้ด้วย”
“แล้วตัวทางขวาหล่ะ?”
“ตัวที่อยู่ทางขวาถือขวานเป็นมอนสเตอร์ที่มีความเสียหายสูงมาก แต่ฉันจำได้ว่าค่าพลังชีวิตของมันต่ำที่สุด”
เอียนพอเข้าใจแล้วก็พยักหน้า
‘ตัวที่อันตรายที่สุดตอนที่ฉันดูวิดีโอดูเหมือนจะเป็นตัวตรงกลาง ฉันจะต้องตรึงมันเอาไว้ด้วยสกิลสตั้นของฮัลลิให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้…’
ความสามารถแฝงของฮัลลิ ‘ตะปบ’ มันจะมีโอกาส10%ที่จะทำให้อีกฝ่ายสตั้นได้ด้วยการโจมตีปกติ
และถ้าเขาใช้สกิล ‘ผู้พิทักษ์แห่งลม’ และเพิ่มค่าความว่องไวให้สูงที่สุด ความเร็วโจมตีของฮัลลิก็น่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว
ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถที่จะสตั้นมันได้อย่างต่อเนื่องจนทำให้ยักษ์แทบขยับไม่ได้
นั่นเป็นสิ่งที่เอียนเล็งเอาไว้
ถ้าเขาสามารถทำให้ยักษ์ติดสตั้นได้ต่อเนื่องไม่ว่าสกิลมันจะอันตรายขนาดไหน มันก็ไม่น่ากลัวถ้ามันไม่สามารถใช้ออกมาได้
ถึงกระนั้นเขาใช้สกิลผู้พิทักษ์แห่งลมไปตอนช่วงแรกแล้ว เขาจะต้องรออีก6-7นาทีเพื่อที่จะใช้อีกครั้ง
‘ในเมื่อบอสตัวสุดท้ายมันมีความต้านทานค่าสถานะสูงอยู่แล้ว ฉันจะใช้สกิลผู้พิทักษ์แห่งลมในช่วงนี้แหละ’
ขณะที่มองไปยังพวกยักษ์ที่กำลังเดินเข้ามาด้วยเสียงเดินที่ดังสนั่น เอียนถามฟิโอลัน
“ฟิโอลันตัวตรงกลางมันใช้สกิลสตั้นตั้งแต่เริ่มเลยมั้ย?”
ฟิโอลันที่เข้าใจความหมายของเอียนดีก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้ใช้ตั้งแต่เริ่ม ฉันคิดว่ามันจะใช้สกิลสตั้นตอนที่พลังชีวิตมันลดต่ำกว่าครึ่งแล้ว นั่นจึงทำให้พวกเราจะฆ่ามันเป็นตัวสุดท้ายเสมอเมื่อเข้าดันเจี้ยนนี้”
“เข้าใจละ งั้นก็เริ่มจากตัวขวาก่อน”
“ได้เลย!”
เอียนวาดภาพเอาไว้ในหัวของเขา
‘พวกเราจะจัดการตัวขวาให้เร็วที่สุดจากนั้นเราก็จะโจมตีตัวกลางจนกว่าคูลดาวน์ของความสามารถแฝงของฮัลลิจะหมดลง’
ตัวที่อยู่ทางซ้ายเป็นตัวที่เอียนคิดว่าอันตรายน้อยที่สุด
แม้สถานะสโลว์จะค่อนข้างอันตราย แต่ถ้าเวลาในการเรียกใช้มันช้ามันเราก็สามารถหลบมันได้อยู่แล้ว
ไม่ใช่แค่เอียนแต่ฟิโอลันที่ใช้ความสามารถในการควบคุมได้ดีก็มั่นใจว่าไม่มีทางโดนโจมตีโดยสกิลแบบนั้นแน่นอน
มันคงจะน่ารำคาญถ้าสกิลคลื่นกระแทกยังคงบินไปมาเรื่อยๆขณะที่มอนสเตอร์ตัวตรงกลางเริ่มที่จะใช้สกิลสตั้น แต่เอียนก็วางแผนที่จะป้องกันเรื่องอันตรายแบบนั้นด้วยการใช้ผลสตั้นของฮัลลิต่อเนื่อง
ถ้าหากเขาฆ่าตัวตรงกลางได้ภายในระยะเวลาสองนาทีที่ฮัลลิใช้สกิล ‘ผู้พิทักษ์แห่งลม’ และจากนั้นก็จะโจมตีตัวซ้ายเป็นตัวสุดท้าย ทุกอย่างก็จะจบลงอย่างสวยงาม
เอียนที่วางแผนเรียบร้อยแล้วก็เรียกดุ๊กเดให้มายินด้านหน้าและเริ่มที่จะเดินเข้าหายักษ์แห่งความเกลียดชังที่อยู่ด้านขวา
“ทุกคน โจมตีแค่ตัวนั้นตัวเดียว!”
เพราะว่าเวลาคูลดาวน์ของความสามารถแฝงสัตว์เลี้ยงมันไม่หมดลง พวกเขาจำเป็นต้องโจมตีด้วยการโจมตีปกติไปก่อน และเอียนก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูพร้อมกับควบคุมการเคลื่อนไหวสัตว์เลี้ยงของตน
‘ฉันจะเก็บสกิลกระหายเลือดของไลเอาไว้ก่อน’
เขาวางแผนที่จะใช้สกิลกระหายเลือดเมื่อเวลาคูลดาวน์ผู้พิทักษ์แห่งลมของฮัลลิหมดลง
ทันใดนั้น ฟิโอลันตะโกนออกมา
“เอียนซื้อเวลาให้ฉันหน่อย!”
เอียนเข้าใจว่าฟิโอลันวางแผนที่จะร่ายสกิลโจมตีเวทระดับสูง เขาจึงรีบสั่งฮัลลิ
“ฮัลลิ ล่อสองตัวนั้นเอาไว้!”
Roar-!
แม้ว่าความเสียหายส่วนของฮัลลิจะหายไป แต่ความเสียหายที่ฟิโอลันจะสามารถทำได้จากการโจมตีเวทของเธอก็ย่อมมากกว่า นั่นจึงทำให้เอียนไม่ลังเลที่จะออกคำสั่ง
และฮัลลิก็รีบพุ่งตัวเองออกไป เอียนยิงบอลเวทออกมาใส่ยักษ์ตัวทางขวา
“ทางนี้โว้ยย!”
ต่อด้วยการที่เอียนใช้สกิล ‘ตรวจจับจุดอ่อน’
“ฟิโอลันเธอจำสกิลนี้ได้ใช่มั้ย?”
เมื่อเอียนถาม ฟิโอลันก็ยิ้มพร้อมกับพยักหน้า
“แน่นอน นี่เป็นสกิลทำมาหากินของนายก่อนที่จะรีเซ็ต ฉันว่านายคงได้มาด้วยวิธีการบางอย่างมาละสินะ?”
“ก็นะ”
ฟิโอลันเริ่มร่ายสกิลเวทของใส่จุดอ่อนของยักษ์ที่ไฮไลต์ด้วยสกิลตรวจจับจุดอ่อนของเอียน
และการเคลื่อนที่ที่ช้าของยักษ์ทั้งสามจึงทำให้เขาสามารถใช้สกิลCurrent Proliferationได้
Za-Zap- Za-Za-Zap-!
เมื่อยักษ์ทั้งสามอยู่ในระยะที่ใกล้พอแล้ว ดุ๊กเดก็ใช้สกิลหลุมอเวจีอีกครั้ง
“ดุ๊กเด ตอนนี้แหละ!”
Whoong-!
ดุ๊กเดสามารถตรึงยักษ์ทั้งสามเอาไว้ได้ในระยะของหลุมอเวจีแต่เมื่อพวกมันเป็นระดับบอสที่มีขนาดใหญ่และร่างที่หนัก ผลของมันจึงไม่ได้ดีเท่าตอนที่ใช้กับมอนสเตอร์ทั่วไป
อย่างไรก็ตามเพราะว่าพวกมันเข้ามาในระยะที่คาดเอาไว้แล้ว เอียนจึงไม่ได้สับสนแต่อย่างใด
‘ในเมื่อฉันจะต้องซื้อเวลาให้ฟิโอลันร่ายสกิลของเธอ’
และเหมือนกับที่เอียนคาดการณ์เอาไว้ หลุมอเวจีของดุ๊กเดก็ซื้อเวลาได้เยอะทีเดียว
“ฮ่า!”
พร้อมกับเสียงตะโกนสั้นๆ น้ำแข็งทรงกลมขนาดใหญ่ก็ถูกปล่อยออกมาจากคฑาของฟิโอลัน
“พายุน้ำแข็ง!”
Bang- Ba-Ba-Ba-Bang-!
ทิศทางของมันนั้นตรงไปที่จุดอ่อนของยักษ์
‘ตอนนี้แหละ!’
ไม่มีทางที่เอียนจะไม่จัดการกับยักษ์ต่อหลังจากที่มันได้รับความเสียหายจากฟิโอลัน
Whoong-
บอลเวทสีฟ้าถูกปล่อยออกมาจากคฑาของเอียนมุ่งหน้าไปยังจุดอ่อนของยักษ์อย่างต่อเนื่อง
Pung- Pu-pung!
บอลเวทโจมตีโดนเป้าหมาย ทำความเสียหาย 4973 หน่วยให้แก่ ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง (3)’ เนื่องจากโจมตีศัตรูสำเร็จ ได้รับการฟื้นฟูเวทจิตวิญญาณ 5 หน่วย
ฟิโอลันโจมตียักษ์ด้วยเวทระดับสูงอันแสนจะแข็งแกร่งของเธอสำเร็จ ก็ยิงเวทระดับต่ำที่ไม่มีระยะเวลาร่ายอย่างต่อเนื่องใส่ยักษ์
Swaaeek-!
และเมื่อทั้งคู่โจมตีต่อเนื่องได้อย่างไร้ที่ติ พลังชีวิตของยักษ์ก็หายไปในทันที
Thud-!
ร่างใหญ่ของยักษ์ก็ได้อันตรธานหายไป ทั้งสองก็รีบเปลี่ยนเป้าหมายทันที
ฟิโอลันวิ่งไปที่ตัวซ้ายสุดก่อนและพยายามที่จะโจมตีมันเหมือนอย่างทุกทีที่เธอทำ
ถึงกระนั้น เอียนก็หยุดเธอ
“ฟิโอลัน! ตัวใหญ่ก่อน!”
“หา?”
ฟิโอลันตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็คิดว่าเอียนน่าจะมีแผนบางอย่างจึงทำตามเขาโดยไม่มีคำถามใด
เอียนตรวจสอบเวลาคูลดาวน์สกิลของฮัลลิ
‘เยี่ยม อีกสองนาทีและเวลาคูลดาวน์ของผู้พิทักษ์แห่งลมก็จะหมดลง!’
เอียนและฟิโอลันค่อยๆตอดเลือดยักษ์ตัวกลางทีละเล็กทีละน้อยเหมือนกับที่พวกเขาทำกับตัวขวา
เมื่อเวลาผ่านไป การควบคุมของทั้งสองก็ถูกลับคมมากยิ่งขึ้น
‘เอาละ เวลาคูลดาวน์หมดแล้ว…’
ยักษ์ยังเหลือพลังชีวิตมากกว่าครึ่ง
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นการใช้สกิลในตอนนี้มันก็จะไม่มีประสิทธิภาพ
‘อีกนิดเดียวมันก็จะถึงเวลาที่จะใช้สกิลแล้ว เมื่อฉันเห็นมันเริ่มใช้สกิลสตั้นฉันก็ควรจะใช้สกิลผู้พิทักษ์แห่งลม’
และอย่างที่เอียนคาดเอาไว้ ยักษืตัวหนึ่งเริ่มที่จะมีแสงสีแดงขึ้น
“ฮัลลิ ผู้พิทักษ์แห่งลม!”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ผ่านไปราบลื่นอย่างที่เอียนวางแผนเอาไว้
ก็ไม่เชิงแบบนั้นเสียทีเดียว สตั้นของฮัลลิถูกใช้งานออกมาอย่างต่อเนื่องพวกเขาจัดการกับยนักษ์ได้ง่ายดายโดยที่มันไม่อาจทำอะไรได้เลย
Puck- Pu-puck-!
ความสามารถแฝง ‘ตะปบ’ ของสัตว์เลี้ยง ‘ฮัลลิ’ ถูกใช้งาน ‘ยักษ์แห่งความเกลียดชัง’ ติดสถานะสตั้นเป็นเวลา1วินาที
ในที่สุดยักษ์ตัวที่สองก็ตายลง พวกเขาก็จัดการกับตัวสุดท้ายอย่างง่ายดาย
เพราะว่านอกจากที่พวกเขาใช้สกิลแล้ว รุปแบบการโจมตีของมันก็คล้ายกับอีกสองตัว
“โอเค!”
ฟิโอลันที่จัดการกับยักษ์ตัวสุดท้ายก็กำหมัดแน่น
หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็ตรวจสอบข้อความระบบที่แจ้ว่าพวกเขาได้ทำช่วงที่สามสำเร็จแล้ว
ท่านได้สังหารยักษ์แห่งความเกลียดชังหมดแล้ว
ผ่านไปประมาณ23นาทีเท่านั้น
ฟิโอลันหัวเราะแห้งออกมาเมื่อดูมัน
“ว้าว แม้ว่าเราจะทำกันขนาดนี้ก็ใช้เวลาตั้ง23นาที พวกเขาคาดหวังให้เราใช้เวลาเท่าไหร่ในการเคลียร์ระดับSกันเนี่ย?”
พวกเขาต้องฆ่าบอสด้วยเวลาที่เหลือเพียงสองนาทีเพื่อที่จะเคลียร์ให้ได้ระดับS
เธอบอกว่าเพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้
เมื่อฟิโอลันบ่นออกมา เอียนก็ยิ้มและตอบ
“ฉันคิดว่าพวกเราสามารถทำให้มันจบลงได้เร็วกว่านี้”
“ห้ะ? จริงหรอ?”
เอียนพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
อีกไม่นานแท่นบูชาวีรชนก็เริ่มที่จะแตกออกไปในอากาศและบอสดันเจี้ยน ‘ยักษ์แห่งฟอลัน’ ก็จะออกมา
ทั้งสองสูดหายใจเข้าพร้อมกับจ้องไปที่ ‘แท่นบูชาวีรชน’
“มันจะจบแล้ว เราคงต้องจริงจังกันอีกหน่อย”
“แน่นอน แม้ว่าเราจะไม่ได้ระดับS เราก็ยังได้ระดับAใช่มั้ย?”
“แน่นอน!”
เมื่อการพูดคุยสั้นๆของทั้งสองจบลง ข้อความระบบก็แจ้งขึ้นมาราวกับมันกำลังรออยู่
วีรชนแห่งฟอลันได้ตื่นขึ้นแล้ว