หลังจากเอียนและฟิโอลันเคลียร์ดันเจี้ยนด้วยกัน หน้าต่างแชทของกิลด์ก็เต็มไปด้วยหัวข้อเดียวกันทั้งวัน
สมาชิกกิลด์ ‘เอียน’ ได้เข้าสู่ระบบ
ฟิโอลัน : เอียนวันนี้นายว่างเมื่อไหร่? พวกเราต้องไปที่ฟอลันวันนี้ไม่ใช่หรือไง?
เฮิร์ซ : ไม่ฟิโอลันเธอจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรอ? เธอเพิ่งไปกับเขามาเมื่อวานสองครั้งแล้ววันนี้ก็จะไปกับเขาอีกงั้นหรอ!
ฟิโอลัน : นายหมายความว่าไงที่ไร้เหตุผล มันไม่ใช่เพราะเอียนได้สถิติสูงที่สุดเมื่อเขาไปกับฉันไม่ใช่ไง?
โครบาน : ไม่ เอียนสัญญาที่จะไปกับฉันวันนี้ ต้องตามคิวนะ
คาร์วิน : ฮ่า ทำไมทุกคนเป็นแบบนี้? เมื่อวานฉันก็อดไปเหมือนกัน วันนี้ฉันจะไปกับพี่เอียนสองครั้ง
ฮาริน : ฉัน ฉันสามารถเข้าร่วมด้วยได้ไหม?
คาร์วิน : พี่สาว พี่ยังไม่ถึงเลเวล 100 เลย พี่ยังไม่สามารถเข้าไปได้นะ
ฮาริน : T^T
เอียน : โอเค โอเค ทุกคนใจเย็นๆ วันนี้ฉันจะไปกับคนที่ยังไม่เคยเล่นกับฉันเลย
ฟิโอลัน : ไม่แฟร์เลย…
คาร์วิน : อ๊า… ฉันไปเพียงสามครั้งเท่านั้นเอง!
โครบาน : มันเป็นเพียงแค่สามครั้งสำหรับฉันเช่นกัน!
มิชเยล : ฉันเป็นน้องใหม่ของกิลด์นี้ แต่…ฉันสามารถเข้าร่วมด้วยได้ไหม?
Mishyal: I’m a lv 106 Fire-type Magician .
มิชเยล : ผมเลเวล 106 นักเวทธาตุไฟครับ
เอียน : โอเค!
มิชเยล : ผมไม่มีประสบการณ์ในการเคลียร์ดันเจี้ยนมันโอเคใช่ไหม?
เอียน : ได้สิ ไม่เป็นไร
ฟิโอลัน : อ๊า… เอียน ทำไมนายทำแบบนี้? นายต้องไปกับฉันและสร้างสถิติใหม่นะ
เอียน : หากว่าฉันตายและเกิดใหม่ ฉันก็ไม่สามารถทำระดับ S ได้หรอก ฟิโอลันให้โอกาสคนอื่นบ้างเถอะฉันจะลองทำให้ได้ระดับSในวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน ดังนั้นไว้ค่อยไปด้วยกันตอนนั้นแล้วกัน
ฟิโอลัน : โอ้ ระดับ S! โอเค ฉันเครื่องร้อนแล้ว!
ในปัจจุบันไม่ว่าใครก็ตามที่เอียนจะเข้ามาในดันเจี้ยนพร้อมกับสมาชิกในกิลด์ที่สามารถเข้าร่วมได้ มันก็เป็นจุดที่เขาสามารถทำอันดับ A ได้เกือบทุกครั้ง
เขาพยายามที่จะได้ระดับ S กับฟิโอลันโดยใช้พลังทั้งหมดที่พวกเขามี แต่สถิติที่ดีที่สุดของพวกเขาคือประมาณ 29 นาทีซึ่งไม่มีครั้งไหนเลยใกล้ 25 นาที
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ระดับ S จนกว่าเขาจะเพิ่มระดับพินและเข้าไปข้างในกับมัน
เพราะอย่างนั้นเอียนจึงลงดันเจี้ยนพร้อมกับสมาชิกกิลด์ทุกคน
‘ค่าศักยภาพของพินใกล้จะ100แล้ว…’
เอียนตรวจสอบศักยภาพของพินและกำหมัดของเขา
เขาที่เพิ่งใช้สกิลฝึกฝนไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว มันเป็นสถานการณ์ที่ค่าศักยภาพของพินอยู่ที่99แล้วและจะขึ้นเป็น100ในอีกไม่กี่ชั่วโมง
หลังจากนั้นถ้าเขาผ่านดันเจี้ยนและล่าอย่างบ้าคลั่งในอีกสองวันข้างหน้า เอียนคิดว่ามันจะสามารถทำให้อย่างน้อยพินได้ถึงเลเวลราวๆ 60-70
‘แม้ว่าพินจะไปถึงอย่างน้อยเลเวล 70 มันก็สามารถสร้างความเสียหายรอบๆเท่ากับลมหายใจของเรคด้วยสกิล AoE ของมัน’
แน่นอนว่าเขาไม่ได้แค่เข้าไปในดันเจี้ยนเฉยๆ
เมื่อใดก็ตามที่เขาเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อลดเวลาการเคลียร์ของเขาลงแม้แต่ 1 วินาทีเขาก็ลองใช้วิธีการต่างๆในขณะที่ทำการทดลองเช่นกัน
เพราะอย่างนั้นในหอเกียรติยศของหลุมศพของฮีโร่แห่งฟอลันจากที่ 1 ถึงที่ 10 ทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยชื่อเอียนข้างๆจากสองหรือสามอันดับ
อันดับ 1
ผู้ท้าชิง : เอียน (กิลด์โลตัส) ฟิโอลัน (กิลด์โลตัส)
อันดับ 2
ผู้ท้าชิง : เอียน (กิลด์โลตัส) โครบาน (กิลด์โลตัส)
อันดับ 3
ผู้ท้าชิง : คาร์วิน (กิลด์โลตัส) เอียน (กิลด์โลตัส)
อันดับ 4
ผู้ท้าชิง : เซมุส (กิลด์ดาร์ครูน่า) โช (กิลด์ดาร์ครูน่า)
อันดับ 5
ผู้ท้าชิง : เฮิร์ซ (กิลด์โลตัส) เอียน (กิลด์โลตัส)
อันดับ 6
ผู้ท้าชิง : ไซออน (กิลด์ดาร์ครูน่า) มัลค่อม (กิลด์ไททั่น)
เพราะเหตุนี้จึงเป็นครั้งแรกหลังจากลีคหน้าใหม่ที่เอียนเริ่มเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้งและกิลด์โลตัสก็โด่งดังขึ้นมา
เอียนตัดสินใจว่าเขาจะลองลงดันเจี้ยนกับมิชเยลเป็นครั้งแรกในหมู่เพื่อนฝูงมากมายที่อยากจะลงดันเจี้ยนกับเอียนตั้งแต่ที่เขาล็อกอินเข้ามา
‘ฉันจะใช้การเข้าดันเจี้ยนทั้ง 5ครั้งของฉันตอนนี้เลยและหลังจากนั้นศักยภาพของพินก็จะเต็ม ดังนั้นตั้งแต่หนึ่งทุ่มของวันพรุ่งนี้ฉันจะล่าอย่างเดียว’
เพื่อที่จะวางแผนที่มีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘เริ่มจากเจ็ดโมงถึงเที่ยงฉันจะใช้โควต้าเข้าดันเจี้ยนให้หมดและถ้าฉันวันถัดไปฉันมั่นใจว่าพินคุ้มค่าที่จะพาลงดันเจี้ยน
เอียนที่ได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลในหลายวันมานี้ก็มีเลเวลถึง107ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียอีก ขณะที่เอียนเลเวลเพิ่มขึ้น4เลเวล ฟิโอลันที่เข้าดันเจี้ยนกับเอียนมากที่สุดก็เลเวลเพิ่มขึ้นมา2เลเวลเช่นกันและตอนนี้ก็อยู่ที่เลเวล115 ขณะที่คาร์วินและเฮิร์ซก็เลเวลเพิ่มขึ้นมาคนละ1เลเวลและกลายเป็นเลเวล 103และ108
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกระแสในการเกาะเอียนเพิ่มเลเวลถึงไม่ลดลงเลย
ก่อนที่เอียนจะพบมิชเยลและเข้าไปในดันเจี้ยน เขาทิ้งหนึ่งข้อความไว้ในแชทกิลด์
เอียน : คนที่ต่อหลังจากมิชเยลเตรียมตัวให้พร้อม! คนต่อไปมารอที่ทางเข้าฟอลันในอีกครึ่งชั่วโมง
หลังจากเอียนส่งข้อความไว้ในช่องแชทของกิลด์ก็โกลาหลอีกครั้ง เขาเข้าไปในดันเจี้ยนโดยไม่รอช้า
* * *
“เป็นไงมั่ง? เมนูสำหรับวันนี้? มันอร่อยใช่ไหม?”
“ใช่ มันอร่อยจริงๆ นี่เป็นสูตรที่เธอทำขึ้นสำหรับงานภาคปฏิบัติในครั้งนี้ใช่ไหม?”
“ถูกต้อง มันเป็นข้อสอบกลางภาคของฉัน”
มุมหนึ่งของห้องอาหารนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกาหลี
จินซุงและฮารินออกไปทานอาหารกลางวันระหว่างเรียน
เมนูประกอบด้วยสองเครื่องดื่มที่ซื้อพร้อมตั๋วอาหารที่ร้านอาหารนักเรียนและกล่องอาหารกลางวันที่ฮารินบรรจุมา
ดวงตาของฮารินวิ้งวับขณะเธอมองจินซุงกินกล่องอาหารกลางวันอย่างเอร็ดอร่อย
“ฮาริน แต่ยูฮยอนล่ะ? เธอไม่ได้มากับยูฮยอนเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเธอทั้งคู่กำลังเรียนวิชาวัฒนธรรมด้วยกัน”
“เอ่อ…ยูฮยอนบอกว่ามีงานบางอย่างน่ะ เขาคงจะอยู่ที่ห้องแผนกแหละ”
“อ๊ะ จริงหรอ? แปลกมากเท่าที่ฉันรู้ฉันไม่มีงานอะไรเลย นี่ฉันพลาดอะไรไปตอนฉันหลับในห้องเรียนงั้นหรอ?”
จินซุงนั้นไม่มีเซนส์เลย ฮารินก็อยากที่จะระบายอารมณ์โดยการต่อยท้องเขาสักที
ถึงกระนั้นนี่เป็นอาหารมื้อแรกที่พวกเขากินด้วยกันหลังจากผ่านมานานแล้ว และมันก็สนุกมาก ดังนั้นเธอเลยสงบสติอารมณ์ของเธอลง
‘นี่เป็นครั้งแรกที่เรากินอาหารด้วยกันนอกแคปซูลในช่วงเวลาสองสัปดาห์…ดังนั้นฉันควรจะอยู่ต่ออีกสักหน่อยยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เรากินด้วยกันตั้งแต่วันนั้น!’
หลังจากวันแห่งประวัติศาสตร์ที่ฮารินได้รับแหวนจากจินซุง เธอก็คิดว่าจินซุงและเธอจะเริ่มออกเดท
ในตอนแรกเธอไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน แต่หลังจากเห็นจินซุงใส่แหวนคู่ (?) ที่มอบให้เธอเช่นกันหัวใจของเธอก็โน้มตัวไปในทิศทางนั้น
เธอคิดว่าจินซุงนั้นไม่มีเซนส์เอาซะเลยและเป็นคนเรียบง่ายดังนั้นเขาจึงไม่สามารถบอกเธอได้อย่างตรงไปตรงมา
ฮารินมองไปยังจินซุงอีกครั้ง
‘แต่ฉันก็ถามไม่ได้ว่า ‘ตอนนี้เราออกเดทกันอยู่งั้นหรอ?’…’
เนื่องจากฮารินไม่เคยเดทจนถึงตอนนี้มันเป็นสถานการณ์ที่เธอหัวเราะไม่ออก
‘เห้อ มีความแตกต่างไม่มากกับความเป็นจริงและไคลัน แต่ฉันก็อยากจะออกเดทนอกแคปซูลด้วยเหมือนกันนะ…’
ตั้งแต่ที่เลื่อนระดับเป็นเมือง โรงอาหารนั้นถูกสร้างขึ้นในคฤหาสน์นั่นจึงทำให้เอียนจะมาทานอาหารของฮารินเสมอ แถมเขายังได้บัฟเสริมไปก่อนที่เขาจะออกไปสู้อีกต่างหาก
เพราะเช่นนั้นแล้วพวกเขาเกือบจะทานอาหารด้วยกันตลอดในเกม และเมื่อไหร่ก็ตามที่เอียนหาบางอย่างในคฤหาสน์ฮารินก็จะอยู่กับเขาตลอด
ปัญหาก็คือมันยากมากที่จะเห็นจุดบ่งบอกของจินซุงนอกเกม
‘เดี่ยวนะแล้วทำไมศาสตราจารย์จีนุกถึงยอมให้เขาไม่ต้องเข้าเรียนละ?’
ขณะที่กำลังโทษความซื่อของจีนุก ฮารินก็ตักรีซอตโต้ครีมซีฟู้ดขึ้นมา
“จินซุงลองนี่ด้วยสิ”
ฮารินค่อยๆยื่นช้อนที่มีรีซอตโต้อยู่ไปที่ปากของเอียน
เมื่อเห็นเช่นนั้นจินซุงก็ผงะและถอยหัวหลบโดยไม่รู้ตัว
“เอ๊ะ?”
เพียงครู่หนึ่งจินซุงรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาที่เขาซึ่งสามารถทำให้เขาเหงื่อเย็นไหลออกมาได้
‘นี่มันอะไร ทำไมคนที่สวยขนาดนั้นถึงเข้าหาคนที่ดูน่าเบื่อแบบนั้นกัน?’
‘สำลักกุ้งแล้วตายไปซะ ไอเวร!’
เสียงเขม่นออกมาจากรอบด้าน จินซุงก็รีบทานอาหารที่ฮารินนำมาป้อนเขาทันที
Hoo-roo-rook-!
ครีมมันกระจายไปทั่วปากของเขาพร้อมกับรสสัมผัสที่นุ่มของกุ้ง!
จินซุงอยู่ในสถานะที่กำลังสับสนเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาหารมันเข้าทางปากหรือทางจมูกของเขากันแน่
‘นี่มันสถานการณ์อะไรกันเนี่ย? ทำไมฮารินถึงทำแบบนี้กัน?’
เมื่อเป็นเช่นนั้นแม้จินซุงผู้อยู่อย่างโดดเดี่ยวและฝันจะเป็นนักเวทที่ยิ่งใหญ๋ก็สามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่างแปลกๆ
‘มันจะเป็นอะไรไปได้? เธอหวังว่าฉันจะรีบทานรีซอตโต้แล้วบอกเธอว่ามันอร่อยงั้นหรอ?’
จินซุงจินตนาการกว้างไปเรื่อยๆ
‘คงไม่ใช่ว่าเธอเอาคืนที่ฉันแอบเอามีตบอลโอสถจากห้องครัวไปใช่มั้ย?’
และสิ่งแรกที่เขากังวลก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขาแต่มันก็จะดูเกินจริงไปหน่อยเขาเลิกที่จะสนใจมัน จากนั้นก็มีบางอย่างขึ้นมาในหัวของเขา
‘หรือว่า…ฮารินชอบฉันงั้นหรอ?’
เพื่อที่จะแก้ปัญหาที่เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ เขาจึงตัดสินใจว่าเขาจะไปปรึกษายูฮยอน
มันค่อนข้างกวนใจเขาเล็กน้อยเพราะว่ายูฮยอนก็ยังไม่มีประสบการณ์เดทแบบจริงๆจังๆเหมือนกัน แต่มันก็ไม่มีคนอื่นจะดีไปกว่ายูฮยอนอีกแล้ว
* * *
“มิลลัน มิลลัน! ถ้านายล็อกอินเข้ามาแล้วมาหาฉันแปปนึง!”
“เกิดอะไรขึ้นรูคิน ฉันบอกนายว่าฉันต้องไปล่าแล้วตอนนี้”
“ไม่ การล่าไม่สำคัญแล้วตอนนี้! ฉันกำลังจะบอกนายมานี่เร็วๆสิ!”
รูคินขอร้อง มิลลันที่เตรียมข้าวของสำหรับการล่าไว้หมดแล้วและเกือบจะใช้หินเคลื่อนย้ายก็ได้แต่เดินไปหาเขาด้วยท่าทีรำคาญ
“แล้วมีอะไรกัน?”
“เมื่อเช้านี้ฉันได้รับข้อความจากฟาลคอน”
“หืม เขาบอกว่าอะไร? นี่อย่างน้อยเขาอุปกรณ์ระดับHeroicแล้วงั้นหรอ?”
ขณะที่มองไปยังมิลลันที่ตอบด้วยความเหลืออด รูคินก็ตอบกลับอย่างฉะฉาน
“เอียน เขารู้แล้วว่าคนนั้นอยู่กิลด์ไหน!”
“เอียน? กิลด์? นายต้องการอะไรกันแน่?”
ด้วยท่าทางที่ลัง เขาเปิดปากเป็นครั้งที่สอง
“มันคือเจ้าPK ซัมมอนเนอร์จากเควสต์หัวหน้านักบวชไง! คนที่นายเจอตอนลีคหน้าใหม่! จำไม่ได้งั้นหรอ?”
ในจังหวะที่เขาได้ยินเช่นนั้น มิลลันก็เบิกตาโพลง
เขาจำฝันร้ายของกระดองเต่าที่กันลูกศรของเขาได้เป็นอย่างดี
“อะไรนะ? มันงั้นหรอ? ฟาลคอนรู้แล้วหรอว่ามันอยู่กิลด์อะไร?”
“ใช่แล้ว นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากบอก!”
“มันอยู่กิลด์อะไร? ไม่สินายหาเจอได้ยังไง? หมอนั่นมันปกปิดข้อมูลอยู่ตลอดเวลา”
รูคินกลืนน้ำลายเสียงดังก่อนที่จะตอบ
“นั่นก็ นายจำลุ่มแม่น้ำฟอลันของทวีปตอนเหนือที่กำลังฮิตในตอนนี้ได้ใช่มั้ย?”
“แน่นอนว่าฉันรู้ ฉันเพิ่มเลเวลแทบตายเพื่อที่จะไปที่นั่น ฉันจะต้องเพิ่มเลเวลอีกประมาณ10เลเวลและไปที่นั่น”
“ใช่แล้ว ในหอเกียรติยศของดันเจี้ยน มีชื่อของเอียนอยู่และจากที่ดูแล้วมันอยู่ในกิลด์โลตัส ฟาลคอนตรวจสอบในเว็บบอร์ดแล้วและมั่นใจว่าเป็นมัน”
“บอร์ด? นายหาจากในนั้นได้ยังไง?”
“ดูเหมือนว่าจะมีผู้เล่นรู้มาว่าเอียนที่ขึ้นไปติดอันดับในหอเกียรติยศมีชื่อเดียวกับที่สองของลีคหน้าใหม่”
จำนวนข้อมูลขนาดนี้มันก็น่าเชื่อถือ
มิลลันกัดฟัน
“ในที่สุดพวกเราก็หาไอหมอนั่นเจอ แต่รูคินกิลด์โลตัสมันอยู่ระดับไหนกัน?”
คูคินขมวดคิ้วเล็กน้อยและตอบ
“มันก็…สูงพอสมควร ดูเหมือนจะอยู่ประมาณระดับไดม่อน”
“ถ้าเป็นระดับไดม่อน มันก็เป็นระดับเดียวกับกิลด์เรางั้นสินะ?”
ระดับของกิลด์ ‘โพราริส’ ที่รูคินและมิลลันย้ายมาไม่นานมานี้ก็คล้ายกับกิลด์โลตัสที่เกือบจะติดท็อป400
ทางเดียวที่ทั้งสองที่ยังเลเวลไม่ถึง90ดีจะสามารถเข้ากิลด์โพราริสได้ก็คือการใช้เส้นสายและความแข็งแกร่งของร็อบบี้
รูคินพยักหน้า
“ใช่แล้ว ดูเหมือนจะอยู่ประมาณอันดับที่430”
มิลลันตกใจเล็กน้อย
เขาคิดว่ากิลด์ของเอียนนั้นจะสูงแต่เขาไม่เคยคิดว่ากิลด์ของมันจะติดอันดับท็อป500เลยทีเดียว
“มันสูงกว่าที่ฉันคิดไว้นะ มันน่ากังวลเล้กน้อยแหะ…”
พลังต่อสู้ของทั้งสองกิลด์พอๆกันแต่มันก็ไม่ใช่กิลด์ที่จะสู้กันซึ่งๆหน้าได้โดยง่ายและปัญหาก็คือการนำสมาชิกกิลด์ไปมันไม่ใช่แค่พวกเขาขอให้ทำแล้วจะสามารถทำได้
เพราะว่าพวกเขาไม่มีกิลด์ที่ผูกมิตรกับกิลด์โพราริสเลย
ซึ่งต่างจากมิลลันที่ถอนหายใจออกมา รูคินเปิดปากพูดอีกครั้งด้วยเสียงที่มีบางอย่างแอบแฝง
“ฉันมีวิธี”