The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา – ตอนที่ 194 ต้อนรับด้วยกำปั้น

“ท่านผู้นำ พะ…พวกเรา…” ทหารรับจ้างมังกรผงาดตกตะลึง ไม่รู้ว่าหลินมู่อวี่ผู้นี้กินโอสถอะไรเข้าไป ชายผู้นี้ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าหลินมู่อวี่กำลังคิดสิ่งใดอยู่

หลินมู่อวี่ปลดปล่อยปราณยุทธ์ออกมาเพื่อสร้างกำแพงน้ำเต้าเพิ่ม “มีเพียงคนขี้ขลาดเท่านั้นที่ร้องขอความเมตตา กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดมีชื่อเช่นนี้ก็เพราะร่างกายมนุษย์เต็มไปด้วยความกล้าหาญ หากพวกเจ้าไม่ใช่คนขลาดก็ลองหาวิธีเอาชนะข้าให้ได้สิ มิเช่นนั้นพวกเจ้ามีค่าพอที่จะเป็นทหารแห่งกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดเหรอ? เหอะ เข้ามาเลย…”

ทันทีที่หลินมู่อวี่ยั่วยุ พวกเขาก็ชักอาวุธขึ้นมาและพุ่งเข้าใส่

หลัวอวี่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยอาการตกตะลึง

จากนั้นการต่อสู้ก็ถูกดำเนินขึ้น ทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่ใช้อาวุธโจมตีหลินมู่อวี่ด้วยทักษะที่หลากหลาย

“หมาในจู่โจม!”

“มังกรนภา!”

“ราชสีห์คำราม!”

“ลูกเตะสายฟ้า!”

การโจมตีหลายรูปแบบกระแทกใส่กำแพงน้ำเต้า ก่อนที่หลินมู่อวี่จะตอบโต้กลับ หมัดแล้วหมัดเล่าถูกปล่อยใส่เหล่าทหารรับจ้างกระเด็นออกไป ถึงกระนั้นราวกับเหล่าทหารรับจ้างกำลังโกรธแค้น พวกเขาพุ่งเข้ามาไม่หยุดพร้อมเลือดอาบหน้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้หลินมู่อวี่แทบจะควบคุมพลังไม่ได้ การเผชิญหน้ากับขอบเขตมนุษย์และขอบเขตปฐพี หลินมู่อวี่ใช้ได้เพียงสองประทีปส่งพวกเขาถอยกลับไป หากทหารเหล่านี้โจมตีพร้อมกันทั้งหมดตั้งแต่แรก เขาคงใช้ปราณยุทธ์จัดการได้เร็วกว่านี้

ช่องว่างเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วบนกำแพงน้ำเต้า ดาบยักษ์ ไม้เท้า และอาวุธหลากหลายกระแทกลงบนเพลิงกั้นของกระดองเต่าทมิฬ ทหารรับจ้างกว่าครึ่งมีวิญญาณยุทธ์ และพวกเขาโจมตีโดยการใช้วิญญาณยุทธ์ควบแน่นบนอาวุธ แม้ว่าหลินมู่อวี่จะซัดทหารกว่าแปดนายกระเด็นไป ทว่าการถูกล้อมเช่นนี้ก็ทำให้หลินมู่อวี่เคลื่อนไหวได้ยาก โชคดีที่เขามีวิญญาณยุทธ์น้ำเต้า หากเป็นวิญญาณยุทธ์ที่เน้นการโจมตีอย่างเฟิงจี้สิงและฉู่ฮว่ายเหมี่ยน…ถ้าไม่ตายก็คงบาดเจ็บสาหัส และไม่สามารถยื้อไว้นานเช่นนี้

‘เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ…’

สายฟ้าควบแน่นอยู่บนฝ่ามือหลินมู่อวี่ กระบี่เหลียวหยวนพุ่งออกมาจากหลังม้า ด้วยพลังของกระบี่สายฟ้าแห่งจักรวรรดิ หลินมู่อวี่โจมตีทั้งสี่ทิศจนทำให้อาวุธของทหารรับจ้างกระเด็นหายไป จากนั้นหลินมู่อวี่คำรามเสียงทุ้มต่ำ และวาดกระบี่สร้างลมกระโชกรอบตัวส่งทุกคนถอยหลังไปหลายก้าว

“เอาล่ะ!”

หลินมู่อวี่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมขณะที่กระบี่เหลียวหยวนลอยอยู่เหนือไหล่ ส่องแสงเป็นประกายสายฟ้า เขาพลันยิ้มออกมาบางๆ “พวกเจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ทำได้ถึงเพียงนี้ถือว่าไม่เลวเลย!”

ขณะเดียวกันเหล่าทหารรับจ้างที่กองอยู่บนพื้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนทีละคน มีชายร่างใหญ่คนหนึ่งเช็ดเลือดที่จมูกและกล่าวว่า “ท่านผู้นำ ท่านคือ…หลินมู่อวี่ผู้ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิและหญิงงามอันดับหนึ่งองค์หญิงอิน ณ ตำหนักกวางโศกาใช่หรือไม่?

“อืม”

“โอ้…ท่านเคยเห็นองค์หญิงมาก่อนใช่หรือไม่? นางงามถึงเพียงไหน?” ทุกคนเบิกตากว้าง

“แม่ง…”

หลินมู่อวี่อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวว่า “พวกเจ้าควรให้ความสนใจกับองค์หญิงอินหรือ? ตระหนักไว้บ้างว่าสถานะที่องค์หญิงอินกับพวกเจ้าคือสิ่งใด…ไปฝึกฝนให้เพียงพอ และทำให้กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดเป็นกลุ่มทหารรับจ้างอันดับหนึ่งในเมืองหลวงให้ได้ นั่นคือก้าวแรกของพวกเรา!”

หัวใจหลัวอวี่ถูกม้าเหยียบย่ำกว่าล้านตัว ไม่คิดเลยว่าการฝึกของหลินมู่อวี่จะแปลกประหลาดเช่นนี้ โดยการให้การต้อนรับด้วยกำปั้น เขาประสานมือทักทายหลินมู่อวี่ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านผู้นำช่างชาญฉลาด!”

ทุกคนต่างคำนับหลินมู่อวี่ ซึ่งทำให้เขารู้สึกพอใจ ราวกับว่ากลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดมิได้มีเพียงคนเขลา แม้ว่า…รูปลักษณ์และท่าทางของพวกเขาจะเหมือนกับคนไม่ดีก็ตาม

หลัวอวี่ยื่นทะเบียนรายชื่อและกล่าวว่า “ท่านหลิน เราคัดเลือกทหารรับจ้างได้หกสิบสองคนแล้ว อีกทั้งในอีกสองชั่วโมง จะมีกลุ่มทหารรับจ้างมาเข้าร่วมกับเราเพิ่มอีกสามสิบคน พวกเขาเป็นทหารรับจ้างพเนจรจากเมืองชีไห่ขอรับ”

“ทหารรับจ้างพเนจรอย่างนั้นหรือ?” หลินมู่อวี่เอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้ว

หลัวอวี่เผยยิ้มพร้อมประสานมือกล่าว “วางใจเถิด แม้ทหารรับจ้างเหล่านี้จะมือเปื้อนเลือด ทว่ามิใช่คนที่มีบาปอย่างไม่น่าให้อภัย พวกเขาไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ขอรับ”

“อืม นั่นเป็นเรื่องดี เตรียมตัวให้ไว้ หลังจากพวกเขามาถึง เราจะเดินทางไปยังค่ายแห่งใหม่ทันที”

“โอ้? ทว่าม้าของพวกเรายังไม่มาเลยขอรับ คงมาถึงราวพลบค่ำ”

“เช่นนั้นเราจะรอจนกว่าจะถึงเวลานั้น”

“ขอรับ!”

ตกบ่ายกลุ่มคนจำนวนหนึ่งก็มาเยือนยังค่ายร้างแห่งนี้ พวกเขาคือทหารรับจ้างจากเมืองชีไห่ แต่ละคนมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อย ผู้นำกลุ่มเป็นสหายเก่าของหลัวอวี่ เขาจึงตัดสินใจมารวมกลุ่มพร้อมทหารสามสิบเก้านาย จึงทำให้กลุ่มทหารมังกรผงาดมีทหารกว่าร้อยนายแล้ว ไม่นานกลุ่มพ่อค้าขายม้าก็นำม้าศึกมาให้ทั้งหมดหนึ่งร้อยห้าสิบตัว ซึ่งเป็นม้าศึกทะเลทรายตอนเหนือหลากหลายพันธุ์ พวกมันทั้งเร็วและอึด จึงมีราคาถึงตัวละหนึ่งร้อยเหรียญทอง รวมทั้งสิ้นเป็นหนึ่งหมื่นห้าพันเหรียญทอง!

ต่อมาก็ต้องมีชุดเกราะและเครื่องแบบพิเศษประจำกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด ซึ่งเป็นรายจ่ายทั้งหมด รวมทั้งอาวุธ อาหาร และอื่นๆ…การสร้างกองทัพเป็นการโยนเงินทิ้งอย่างเห็นได้ชัด!

โชคดีที่หลินมู่อวี่ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน ทักษะการหลอมที่มีก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเป็นมหาเศรษฐี

พวกเขามาถึงกองบัญชาการของสำนักอัศวินในเวลาพลบค่ำ เหล่าทหารรับจ้างมังกรผงาดมองสำรวจไปทั่วบริเวณ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารอวี้หลินเข้ามาต้อนรับหลินมู่อวี่อย่างสุภาพ “ผู้บัญชาการหลินมู่อวี่ ท่านแม่ทัพของเราต้องการให้รออยู่ที่นี่เพื่อมอบทุกอย่างให้ท่าน นี่คือกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดของท่านหรือ? ฮ่า…เป็นกลุ่มที่ไม่เลวเลย”

รอยยิ้มของเขาดูแปลกไปเล็กน้อย!

ทันใดนั้น! ทหารนายหนึ่งจากกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดก็พุ่งเข้ามาด้วยหอกพร้อมชี้ใบดาบใส่ “เจ้าทำตัวลึกลับเพื่อสิ่งใด! ถ้าแข็งแกร่งพอก็มาสู้กับข้าสักสามร้อยหน!”

หลินมู่อวี่รีบกล่าวอย่างรวดเร็ว “เงียบ! แล้วกลับไปซะ!”

“ขอรับท่านผู้นำ…”

เขาเดินออกมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง นี่เป็นผลจากการโจมตีของหลินมู่อวี่ ผู้คนเหล่านี้จำเป็นต้องสูญเสียความทระนงตน มิเช่นจะไม่สามารถกลายเป็นทหารได้อย่างแท้จริง

หลินมู่อวี่ประสานมือและกล่าวว่า “อืม พวกเขาเป็นทหารรับจ้างมังกรผงาด…ขอบคุณท่านนายพล แล้วข้าจะขอบคุณท่านแม่ทัพเฟิงเป็นการส่วนตัวเมื่อกลับไป เยี่ยงนั้นข้าขอตัว ขอบคุณทุกท่านมาก…ต่อไปภูเขาแห่งนี้จะถูกปกครองโดยกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด”

“เอาล่ะ เช่นนั้นพวกเราเองก็ต้องขอตัว”

“ขอบคุณมาก”

จากนั้นทหารอวี้หลินทั้งห้าร้อยนายก็ถอยทัพลงจากภูเขาตามคำสั่ง ทำให้เหล่าทหารรับจ้างอันธพาลต่างตกตะลึง เมื่อหลินมู่อวี่หันมาเห็นก็หัวเราะออกมา “อย่าอิจฉาพวกเขาเลย สักวันหนึ่งพวกเจ้าก็เป็นเช่นนั้นได้ และอาจแข็งแกร่งกว่าอีกด้วย!”

“ขอรับท่านผู้นำ…”

เหล่าทหารรับจ้างมังกรผงาดประสานมือรับ ในขณะนี้แววตาของพวกเขาที่มองไปยังหลินมู่อวี่ไม่เพียงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทว่าด้วยความเคารพอีกด้วย! นี่เป็นกระบวนความคิดของบุคคลทั่วไป…ใครกันจะอยากใช้ชีวิตในฐานะนักเลงไปตลอด? หากเป็นไปได้พวกเขาทุกคนต่างก็อยากสวมใส่ชุดเกราะแพรวพราวของทหารรักษาพระองค์ การรับใช้แผ่นดินและเป็นที่เคารพรัก ต่างก็นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นทหารปกป้องแผ่นดิน

หลัวอวี่ยืนอยู่ด้านข้างคอยดูและรับฟังทุกคำพูดและทุกการกระทำของเขา ราวกับว่ากำลังติดเชื้อจากหลินมู่อวี่ทีละน้อย

กลุ่มทหารรับจ้างขึ้นไปบนภูเขาซึ่งจัดแจงที่พักไว้แล้ว อย่างน้อยก็เพียงพอสำหรับกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ธงของกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดถูกปักด้านในกองบัญชาการ มันสะบัดพลิ้วไหวไปตามสายลมยามค่ำคืน

“ภูเขาลูกนี้ยังไม่มีชื่อ…” หลินมู่อวี่ครุ่นคิดขณะที่กล่าว

หลัวอวี่เผยยิ้มจางๆ “ภูเขาแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหน้าผา เป็นแห่งเดียวที่ยอดเขาสูงตระหง่านขึ้นไปบนชั้นนภา และมีลักษณะราวกับหัวมังกร หากเรียกมันว่า ‘ภูเขาหลงหยาน’ ล่ะ? ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?”

“ภูเขาหลงหยาน…ภูเขาหลงหยาน…” หลินมู่อวี่พูดซ้ำสองครั้ง ครุ่นคิดเกี่ยวกับหลงหยานทหารเหรียญทองแห่งสำนักอัศวิน เขาใช้ชีวิตไล่ตามชื่อเสียงและโชคลาภ ก่อนจะถูกเจียงเฟิงลี่สังหาร กระนั้นชื่อหุบเขาหลงหยานก็ไม่แย่นัก และถือว่าเป็นอนุสรณ์ถึงนักเดินทางนิรนามผู้นั้น “อืม เช่นนั้นพาช่างฝีมือมาในวันรุ่งขึ้นเพื่อสลักคำว่าภูเขาหลงหยานไว้ที่ผนังหน้าผา และภูเขาจะกลายเป็นของกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดนับจากนี้!”

“ขอรับ!”

“จริงสิ ส่งคนไปยังเมืองหลันเยี่ยนเพื่อคัดเลือกคนที่มีคุณธรรมอันดีเพื่อเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด และให้เบี้ยเลี้ยงที่เพียงพอสำหรับพวกเขาในแต่ละทุกเดือน อีกทั้งให้มีการฝึกหนักทุกวัน ไม่ว่าจะฝึกขี่ม้า ยิงธนู ฟันดาบ และอื่นๆ”

“ขอรับ ข้าน้อยจะดูแลเรื่องการฝึกเอง ท่านมิต้องเป็นกังวล จริงสิ…เราต้องรับภารกิจจากสมาพันธ์ทหารรับจ้างหรือไม่ขอรับ?”

“ไม่…ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น” ดวงตาหลินมู่อวี่เปล่งประกายขณะที่กล่าว “เจ้าสามารถส่งคนไปยังหมู่บ้านโดยรอบเพื่อช่วยเหลือหากได้รับคำร้องขอใดๆ เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีทหารรับจ้างพเนจรสร้างความหวาดหวั่นให้กับหมู่บ้านแถวนี้ คิดหาวิธีจัดการพวกมันทั้งหมด บริเวณภูเขาหลงหยานต้องมีทหารรับจ้างมังกรผงาดกลุ่มเดียวเท่านั้น! จัดการพวกอันธพาลที่เหลือให้หมดซะ!”

หลัวอวี่อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ท่านขอรับ…พละกำลังของเราเพียงพอเพื่อการนั้นหรือไม่? ตามที่ข้ารับรู้มา มีทหารรับจ้างพเนจรมากมายอยู่รอบภูเขาหลงหยาน และกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดนั้นล้วนเต็มไปด้วยโจรกว่าสองพันคน ซึ่งคงจัดการได้ยาก เราสามารถเป็นศัตรูกับคนเหล่านั้นได้จริงหรือ?”

“ได้แน่นอน”

ริมฝีปากหลินมู่อวี่ยกขึ้นขณะที่กล่าวว่า “ทุกครั้งที่ทหารรับจ้างพเนจรถูกทำลาย เราจะสามารถคัดเลือกผู้ที่มีศีลธรรมและผู้ที่มีพละกำลังเพียงพอ หลังจากฝึกหนักก็จะสามารถขยายกลุ่มเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีบางสิ่งที่เจ้าต้องให้ความสนใจ”

“อะไรหรือขอรับ?”

“กฎของทหารต้องเข้มงวดและต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากทหารของกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน ต้องลงโทษพวกเขาอย่างไม่มีข้อแม้!”

“ขอรับ วางใจเถิด ข้าน้อยจะจดจำสิ่งนี้เป็นอย่างดี!”

“อืม ดีมาก ข้าจะกลับไปเมืองหลวงและฝากฝังให้เจ้าดูแลที่นี่ หากขาดแคลนเรื่องเงินก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ”

“ขอรับ!”

………………..…

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา หลินมู่อวี่ บุตรชายมหาเศรษฐีพันล้านที่ชีวิตสมบูรณ์แบบสุดๆ คนทั้งโลกต่างพากันอิจฉา เขามีโลกอีกใบคือการเป็นเซียนเกมที่ไต่ไปถึงระดับเทพยุทธ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง และหันหลังให้โลกที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะพ่อต้องการให้เขาไปช่วยสืบทอดกิจการ ในวันที่เขาตัดสินใจหันหลังให้โลกใบนี้ หลินมู่อวี่ตัดสินใจลบแอคเคาน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโหยหาโลกใบนี้อีกต่อไป ในระหว่างที่เขาลบแอคเคาน์และรีเซ็ทระบบเพื่อออฟไลน์นั้น จู่ๆ รอบตัวก็เต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกฉุดกระชากลงไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มีเพียงเสียงชายชราผู้หนึ่ง ที่บอกว่าเส้นทางของเขายังไม่จบง่ายๆ หลินมู่อวี่ต้องเอาตัวรอดในโลกใหม่พร้อมปริศนาว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้เขาติดอยู่ในเกมและไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ การผจญภัยในโลกแฟนตาซีสุดล้ำของหลินมู่อวี่จึงต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง…

Options

not work with dark mode
Reset