The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา – ตอนที่ 178 พาไปหนึ่งร้อยไมล์

หงอวี่คือหญิงสาวที่ฉลาดที่สุดในสามนางนี้ หลินมู่อวี่โกรธเกรี้ยวเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงพุ่งเข้าใส่พร้อมคำราม “ฉือไห่ หยุด!”

ชายผู้นี้คือหนึ่งในสามทหารเหรียญทอง ‘ฉือไห่’

ฉือไห่หันไปมองพร้อมเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ทว่าก็เผยรอยยิ้มทันทีพลางกล่าว “ว่าอย่างไร…ท่านหลินหยาน กลับมาแล้วหรือ?”

หลินมู่อวี่ไม่ตอบพลางชักกระบี่เหลียวหยวนฟันไปยังคอของฉือไห่ หากเบี่ยงตัวหลบไม่ทันเวลา หัวของเขาคงหลุดออกจากบ่าเป็นแน่!

“ฉัวะ!”

ฉือไห่ก้มศีรษะหลบคมกระบี่และยืนขึ้นคว้าหอกข้างกำแพงด้วยความโกรธ “เจ้าจะสังหารข้าจริงๆ หรือ…หลินหยาน? อย่าลืมว่าเจ้าเป็นแค่เด็กเหลือขอที่เพิ่งจะเข้าร่วมกองทัพ ขณะที่ข้าต่อสู้เพื่อท่านราชทูตใหญ่มานับสิบปี คิดจะต่อต้านข้ารึ?”

หลินมู่อวี่พุ่งไปอุ้มหงอวี่ขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วก่อนถาม “เจ้าปลอดภัยดีหรือไม่?”

ใบหน้าหงอวี่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา “โชคดีที่ท่านมาทันเวลา…”

“ขอโทษ ข้าผิดเอง”

หลินมู่อวี่หันมองฉือไห่พลางกระชับกระบี่ในมือ เขาเผยให้เห็นใบหน้าขุ่นเคืองขณะปราณยุทธ์เข้มข้นแผ่คลุมรอบกระบี่เหลียวหยวน

ความห้าวหาญและความมึนเมาแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวเมื่อเห็นใบหน้าหลินมูอวี่ ทั้งแผ่นหลังท่วมไปด้วยเหงื่อ “ขะ…ขอบเขตนภา? ทะ…ท่านหลินหยานเราคุยกันได้นะขอรับ หญิงผู้นี้เป็นเพียงข้ารับใช้ที่ไม่มีแม้แต่ชื่อ ท่านจะให้หญิงชั้นต่ำเช่นนี้มาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราหรือท่านพี่?”

หลินมู่อวี่มองด้วยสายตาเย็นชาและกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ “ใครนับญาติกับเจ้า?! หญิงเหล่านี้เป็นคนของข้าหากเจ้าทำร้ายนางแล้วข้ายังอยู่เฉยๆ ไม่ฆ่าเจ้าให้ตายล่ะก็ อย่ามาเรียกข้าว่าลูกผู้ชาย!”

“บังอาจ!” ฉือไห่คว้าหอกคู่กายทันที! ปราณยุทธ์ของเขาแผ่จากมือไปปกคลุมหอกก่อนจะฟาดมันหวังทำร้ายหลินมู่อวี่!

เมื่อหอกได้สัมผัสกระบี่เหลียวหยวนเพียงเล็กน้อยมันก็ได้กระเด็นออกไปทันควัน! ความแข็งแกร่งของทั้งคู่แตกต่างกันมาก ฉือไห่มีพลังระดับสี่สิบเจ็ดและอยู่ในขอบเขตปฐพีระดับที่สอง แต่ในขณะเดียวกันหลินมู่อวี่อยู่ในระดับหกสิบกว่าซึ่งเป็นขอบเขตนภา หลินมู่อวี่เก่งกว่าเขาหลายขั้นพลังนัก!

“ฉึก!”

กระบี่เหลียวหยวนพุ่งทะลุหัวใจของฉือไห่อย่างรวดเร็ว

“อะ…อั่ก…”

ฉือไห่เบิกตากว้างขณะที่ใบหน้าซีดเผือด

หลินมู่อวี่ดึงกระบี่ที่อาบเลือดออกอย่างช้าๆ ‘ผัวะ!’ เขาชกหมัดซ้ายที่รุนแรงราวกับระเบิดซัดฉือไห่กระเด็นจนทะลุกำแพงร่วงใส่กองไฟที่กำลังย่างแกะอยู่

“ทะ…ท่านทหารเหรียญทองฉือไห่?” เมื่อเห็นรอยเลือดขนาดใหญ่บนหน้าอกและสายตาว่างเปล่าของฉือไห่ ทหารหลายนายอยู่ในความตกตะลึงและรู้ในทันทีว่าเขาตายแล้ว! เหล่าทหารพลันจิตสำนึกเลื่อนลอยไม่ได้สติ ขณะที่ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น “มะ…มีการฆาตกรรม! ท่านทหารเหรียญทองฉือไห่สิ้นชีพแล้ว!”

ผู้คนต่างถือคบเพลิงและกรูกันออกมาอย่างรวดเร็ว ณ ลานกว้างหน้าที่พักของหลินมู่อวี่ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คน วันนี้ถือเป็นวันสำคัญของสำนักอัศวินเพราะมีทหารเหรียญทองตายถึงสามคน!

หลินมู่อวี่นั่งบนซากกำแพงพร้อมถือกระบี่เหลียวหยวน พลางใช้สายตาเย็นชามองไปยังเหล่าทหารเหรียญทอง ทหารเหรียญโลหะและเหล่าทหารฝึกหัดที่ทำหน้าเหมือนต้องการจะถามบางอย่าง ทว่าก็ไม่กล้าเอ่ย…

“เกิดอะไรขึ้น?!”

จีหยางเดินตรงมาพร้อมกับมือไพล่หลัง เมื่อเห็นศพฉือไห่…ใบหน้าของเขาก็กระอักกระอ่วนทันที “ผู้ใดฆ่าฉือไห่?!”

“ข้าเองขอรับ ท่านราชทูตใหญ่…” หลินมู่อวี่ตอบเสียงเรียบเฉย

“เจ้ารึ?!”

จีหยางขมวดคิ้ว “ข้าสงสัยว่าเหตุใดท่านหลินหยานถึงฆ่าฉือไห่?”

“มันลวนลามผู้หญิงของข้า!” หลินมู่อวี่ชี้ไปยังห้องด้านหลัง

“เจ้า!”

จีหยางเผยสีหน้าโกรธเกรี้ยวพลางกัดฟันแน่นขณะมองไปยังร่างฉือไห่ ทว่าไม่นานก็ยกยิ้มและกล่าว “น้องชาย…นี่เจ้าโกรธเคืองเพราะเรื่องผู้หญิงอย่างนั้นรึ? ช่างเลือดร้อนเสียจริง! ฉือไห่มิทำตามกฎแถมยังลวนลามผู้หญิงของเจ้า เยี่ยงนั้นก็สมควรตายแล้วล่ะ มาเถิด…เอาศพของฉือไห่ไปโยนให้หมาป่ากินเสีย”

หลังพูดจบจีหยางก็มองลึกเข้าไปในดวงตาของหลินมู่อวี่และกล่าว “น้องชาย…คราวหน้าถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกข้าก่อนมิจำเป็นต้องลงมือฆ่าใคร กฏของเราคือผู้กล้าล้วนไม่เข่นฆ่ากันเอง!”

“ขอรับท่านราชทูตใหญ่”

หลินมู่อวี่ประสานมือทำความเคารพ ทว่าภายในใจกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ‘ผู้กล้ามิเข่นฆ่ากันเองเพื่อเงินหรือผู้หญิงอย่างนั้นรึ?!’

เมื่อจีหยางเดินนำทุกคนออกไป หลินมู่อวี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางคลายมือจากกระบี่เหลียวหยวนอย่างช้าๆ หากจีหยางเปิดฉากโจมตีก่อน เช่นนั้นมันคงเป็นการต่อสู้เพื่อตัดสินว่าจะอยู่หรือตาย!

“นายท่าน…ปลอดภัยหรือไม่เจ้าคะ?”

หงอวี่จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและกล่าวทั้งน้ำตา “เป็นความผิดของหงอวี่ที่ลากท่านเข้ามาเกี่ยวข้อง มิฉะนั้นท่านคงมิต้องฆ่าทหารเหรียญทองผู้นั้นเพื่อหงอวี่”

หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “มิใช่ความผิดของเจ้า มันเป็นเพราะฉือไห่รนหาที่ตายเอง หลังจากวันนี้เจ้าจะอยู่บนเขาต่อไปมิได้ข้าจึงวางแผนพาเจ้าหลบหนี และระหว่างนี้จงรอข้าอยู่ในห้องห้ามออกไปไหนเด็ดขาด! เข้าใจหรือไม่?”

“เจ้าค่ะ!”

หงอวี่พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า แม้แต่เสี่ยวฉินและหญิงสาวคนอื่นๆ ก็คงตื่นกลัวและร้องไห้หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ครั้งเหยียบห้องโถงของสำนักอัศวินพวกนางก็เตรียมใจสำหรับการลงทัณฑ์แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าหลินมู่อวี่จะฆ่าทหารเหรียญทองเพื่อพวกนาง!

กองไฟที่ใช้ย่างเนื้อแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง งานเฉลิมฉลองยังคงดำเนินต่อแม้ทหารเหรียญทองฉือไห่จะสิ้นชีพไปแล้ว

หลินมู่อวี่สวมเสื้อคลุมสีดำและมาถึงที่พักของหลัวอวี่อย่างเงียบๆ หลังจากเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง เสียงของหลัวอวี่ก็ดังมาจากด้านใน “ผู้ใดรึ?”

“ข้าเอง…หลินหยาน”

“โอ้…ข้ากำลังไป รอสักครู่ขอรับ”

หลังจากสวมเสื้อคลุมไม่นานหลัวอวี่ก็เปิดประตูพร้อมเชิญหลินมู่อวี่เข้าไปด้านในโดยมิกล่าวอันใด เขาอาศัยอยู่เพียงลำพังไม่มีภรรยาหรือหญิงรับใช้ หลัวอวี่หยิบถ้วยสุราออกมาและรินให้หลินมู่อวี่ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านหลินหยานฆ่าทหารเหรียญทองฉือไห่เพื่อผู้หญิงรึ…ช่างใจกว้างเสียจริง! ท่วาข้าไม่สามารถเข้าข้างท่านต่อหน้าสาธารณชนได้! ฉือไห่เป็นปีศาจ! วิปริต! ชอบพรากพรหมจารีของหญิงสาวมากมายบนเขาลูกนี้ การตายของเขาในวันนี้จึงถือว่าเป็นเวรกรรม!”

หลินมู่อวี่หัวเราะอย่างขมขื่น “หยุดยกย่องเถิด ข้ามาที่นี่เพื่อถามบางอย่าง…ข้าอยากถามว่า เจ้ามีวิธีอันใดเพื่อช่วยให้ข้าส่งพวกนางลงจากเขาไปยังสถานที่ปลอดภัยได้บ้าง?”

หลัวอวี่ตกตะลึง “ท่านหลินหยานต้องการส่งพวกนางออกไปจริงหรือขอรับ?”

“อืม”

“เป็นไปได้หรือไม่…” หลัวอวี่ประหลาดใจเล็กน้อยขณะมองไปยังหลินมู่อวี่แล้วกล่าว “เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านมิชอบสตรี?”

หลินมู่อวี่ตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขณะกล่าว “หลัวอวี่…เจ้าพูดอะไรออกมา?! มีชายที่ไหนมิชอบสตรีรึ? อย่างไรก็ตาม…ข้ามีนางในใจที่ดีกว่าทั้งสามเป็นพันเท่าดังนั้นข้าจึงไม่อย่างแตะต้องพวกนาง”

“เป็นเช่นนี้เอง!”

หลัวอวี่หัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนท่านหลินหยานจะเป็นคนใจเย็น ทว่าการส่งหญิงสาวเหล่านี้ลงจากเขา…ออกจะยุ่งยากเสียหน่อย อันดับแรกพวกเราจะให้ทหารยามเห็นพวกนางมิได้! เพราะกองบัญชาการมีกฏว่าหญิงสาวที่ขึ้นมาบนเขาจะต้องตายบนนี้เท่านั้น! รถม้าและรถลากทุกคันจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด!”

“เป็นเช่นนี้…”

หลินมู่อวี่ขมวดคิ้วพลางกล่าว “อย่างนั้นให้พวกนางแต่งเป็นทหารเหรียญทองได้หรือไม่?”

“ได้ขอรับ!”

หลัวอวี่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างพร้อมกล่าว “คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ดังนั้นจึงยากต่อการมองเห็น…พวกเราน่าจะหลอกทหารเหล่านั้นได้ ท่านหลินหยานต้องการให้ข้าช่วยพาพวกนางลงจากเขาหรือไม่?”

“มิจำเป็น ยิ่งคนมากเท่าไรก็ยิ่งดึงดูดความสนใจมากเท่านั้น เจ้าช่วยหาม้าสามตัวให้ข้าพร้อมเครื่องแบบทหารฝึกหัดสามชุดก็พอ”

“ง่ายมากขอรับ! ทว่าข้าสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง…ท่านจะส่งพวกนางทั้งสามไปที่ใดกัน?”

“ข้ายังมิได้คิด”

“ถ้าอย่างนั้น…” หลัวอวี่ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าว “เท่าที่ข้ารู้…ในเมืองหลวงมีกลุ่มคนที่ทำงานซักล้างเสื้อผ้าให้กับผู้มีฐานะ พวกเขาเปิดรับสมัครหญิงสาวตลอดทั้งปีดังนั้นถ้านางไม่มีสหายหรือครอบครัว พวกเราก็สามารถส่งทั้งสามคนไปที่นั่นได้ขอรับ”

“อืม!”

หลินมู่อวี่บังคับม้าหลายตัวกลับที่พักท่ามกลางแสงมืดสลัว เขาเรียกหงอวี่พร้อมหญิงสาวคนอื่นๆ ออกมาและบอกให้พวกนางแต่งกายเป็นทหารฝึกหัด ตราสีขาวของทหารฝึกหัดเปล่งประกายท่ามกลางแสงสลัว มันเป็นเรื่องดีที่หญิงสาวทั้งสามรู้วิธีขี่ม้าดังนั้นพวกนางจึงขี่ม้าตามหลินมู่อวี่ลงเขาได้อย่างง่ายดาย เมื่อมาถึงเชิงเขาพวกเขาก็เห็นทหารยามสิบสองนายกำลังนั่งร่ำสุราและพูดคุยกัน…ทหารยามที่เดินมาตรวจนั้นจำหลินมู่อวี่ได้จึงพูดด้วยน้ำเสียงเคารพทันที “ท่านหลินหยาน! ข้าได้ยินมาว่าท่านจะได้เลื่อนขั้นเป็นราชทูต…ผู้ใต้บังคับบัญชาขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ!”

“ขอบใจ…” หลี่มู่อวี่เอ่ยเบาๆ

“ข้าสงสัยว่าทำไมท่านถึงลงเขาตอนดึกเช่นนี้ขอรับ?”

“ข้าต้องการใช้ประโยชน์จากค่ำคืนนี้เพื่อสังหารสัตว์วิญญาณที่ปรากฏตัวแค่ในเวลากลางคืน เจ้ามีปัญหารึ?” หลินมู่อวี่เผยความโกรธ

“มะ มิกล้าขอรับ…” ทหารผู้นั้นพลันประสานมือพร้อมกล่าว “เช่นนั้น…ท่านราชทูตกำลังจะลงจากเขา เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

ประตูที่ปกคลุมไปด้วยหนามแหลมค่อยๆ เปิดออกขณะที่หลินมู่อวี่กระตุ้นม้าไปด้านหน้า หงอวี่และคนอื่นๆ ก็ขี่ม้าตามไปไม่ห่าง ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เป็นเรื่องดีที่ไม่ถูกเปิดโปงมิฉะนั้นผลที่ตามมาคงยากที่จะจินตนาการได้!

พวกเขาใช้เวลาเกือบหกชั่วโมงกว่าจะถึงเมืองหลันเยี่ยน หลินมู่อวี่รู้สึกกระปรี้กระเป่าทันทีที่เห็นตัวเมืองในระยะไกลๆ ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว ทว่าว่าน่าเสียดายที่ไม่ได้พบถังเสี่ยวซีและฉู่เหยาเพราะติดภารกิจ จึงทำได้เพียงรอคอยจนกว่าจะได้เข้าเมืองอีกครั้ง

“เงินนี่เอาไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น!”

หลินมู่อวี่ล้วงถุงใส่เหรียญที่มีเหรียญทองประมาณหนึ่งร้อยเหรียญออกมา ตราบใดที่พวกนางประหยัด…มันก็มากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้หลายสิบปี เขาไม่กล้าให้เงินแก่หญิงสาวมากเกินไปเพราะเหรียญทองนั้นสามารถฆ่าชีวิตมนุษย์ได้ง่ายๆ

“ขอบพระคุณอย่างยิ่งเจ้าค่ะ…”

หงอวี่ร้องไห้ขณะรับกระเป๋าใส่เหรียญ นางมองไปยังหลินมู่อวี่ด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์พลางกล่าว “ท่านหลินหยาน…หาก…หากท่านเต็มใจ หงอวี่ก็เต็มใจที่จะติดตามท่านและข้ายังเต็มใจที่จะเป็นนางบำเรอด้วยเจ้าค่ะ…”

หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะยิ้มในขณะที่แอบบ่นอยู่ในใจ เขาโบกมือลาพลางเอ่ย “อย่าทำให้ตนเองเดือดร้อนเลย…ด้วยความงามเช่นนี้ เจ้าสามารถเป็นภรรยาตามกฎหมายของผู้ใดก็ได้ เอาล่ะ…ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าได้เพียงเท่านี้ ไปเถิด ข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลตนเองให้ดี”

“เจ้าค่ะ…”

หลินมู่อวี่ขี่ม้าออกไปในขณะที่หญิงสาวทั้งสามนางเคาะประตูของกลุ่มคนที่ทำงานซักล้างเสื้อผ้า และหญิงชราคนหนึ่งออกมาต้อนรับและเชิญพวกนางเข้าไปด้านใน

………………………………….

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา หลินมู่อวี่ บุตรชายมหาเศรษฐีพันล้านที่ชีวิตสมบูรณ์แบบสุดๆ คนทั้งโลกต่างพากันอิจฉา เขามีโลกอีกใบคือการเป็นเซียนเกมที่ไต่ไปถึงระดับเทพยุทธ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง และหันหลังให้โลกที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะพ่อต้องการให้เขาไปช่วยสืบทอดกิจการ ในวันที่เขาตัดสินใจหันหลังให้โลกใบนี้ หลินมู่อวี่ตัดสินใจลบแอคเคาน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโหยหาโลกใบนี้อีกต่อไป ในระหว่างที่เขาลบแอคเคาน์และรีเซ็ทระบบเพื่อออฟไลน์นั้น จู่ๆ รอบตัวก็เต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกฉุดกระชากลงไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มีเพียงเสียงชายชราผู้หนึ่ง ที่บอกว่าเส้นทางของเขายังไม่จบง่ายๆ หลินมู่อวี่ต้องเอาตัวรอดในโลกใหม่พร้อมปริศนาว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้เขาติดอยู่ในเกมและไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ การผจญภัยในโลกแฟนตาซีสุดล้ำของหลินมู่อวี่จึงต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง…

Options

not work with dark mode
Reset