The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา – ตอนที่ 181 กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด

เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า ม่านราตรีคล้อยต่ำลง

หลินมู่อวี่และหลัวอวี่ควบม้าลงจากภูเขาอย่างเชื่องช้า ห่างออกไปมีหมู่บ้านซึ่งจุดโคมไฟสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ทว่าบริเวณใกล้เคียงนั้นเงียบสงบ

หลินมู่อวี่คว้าบังเหียนและกล่าวว่า “ท่านหลัวอวี่ การลอบโจมตีองค์หญิงถังเสี่ยวซีและการลอบเข้าค่ายองครักษ์อวี้หลินเพื่อโจมตีองค์หญิงฉินอิน สำนักอัศวินมีส่วนเกี่ยวข้องกับทั้งสองเหตุการณ์หรือไม่?”

หลัวอวี่ตกตะลึงเล็กน้อย “ท่านหลินหยาน…เหตุใดจู่ๆ จึงถามเรื่องนี้?”

“เพราะข้ามาก็เพื่อการนี้…” หลินมู่อวี่เผยยิ้มเล็กน้อย “ท่านหลัวอวี่เชื่อจริงๆ หรือว่าข้าเป็นเพียงหลินหยานผู้ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม?”

“แล้วท่าน…เป็นใครกัน?” หลัวอวี่หยุดม้าและถามขึ้น

หลินมู่อวี่เผยยิ้มขณะที่ผายฝ่ามือออกพร้อมเรียกวิญญาณยุทธ์น้ำเต้า ทันใดนั้นวิญญาณยุทธ์ก็ปรากฏขึ้นและเปล่งประกายในยามค่ำคืน “นี่คือวิญญาณยุทธ์น้ำเต้าระดับสิบ ซึ่งมิได้ด้อยไปกว่าพันธะเทวาระดับหนึ่งเลย ท่านเดาได้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”

ดวงตาหลัวอวี่เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ล…หลินมู่อวี่? ท่านคือหลินมู่อวี่แห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่?”

หลินมู่อวี่ยิ้มรับพร้อมประสานมือกล่าวว่า “ครูฝึกระดับดาวสีทองแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ และหลินมู่อวี่แห่งองครักษ์อวี้หลินทำความเคารพต่อท่านหลัวอวี่ขอรับ?”

หลัวอวี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “คิดไว้แล้วเชียว…เหตุใดทหารรับจ้างพเนจรจึงมีรัศมีพลังและท่าทางสง่างามเยี่ยงนี้ ท่านหลินมู่อวี่…ฮ่าๆๆ เป็นท่านจริงด้วย…วีรบุรุษในตำนาน!”

“ข้ารู้…” หลินมู่อวี่กล่าว “เรามิได้มีเวลามากนัก ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าเหตุใดสำนักอัศวินจึงลอบโจมตีองค์หญิงถังเสี่ยวซีและองค์หญิงฉินอิน? พวกเขามิได้ล่วงรู้ถึงพลังอำนาจเบื้องหลังถังเสี่ยวซีและฉินอินหรือ?”

“นั่น…”

หลัวอวี่ก้มหน้าก่อนจะกล่าวว่า “ข้าเกรงว่าอาจทำให้ท่านหลินมู่อวี่ต้องผิดหวัง เนื่องจากจีหยางมิเคยเอ่ยถึงจุดประสงค์ของภารกิจทั้งสองนี้…ข้าเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่งในฐานะราชทูตเท่านั้น ทว่ามิได้ล่วงรู้ถึงสิ่งอื่นใด”

“เป็นเช่นนั้นหรือ…”

หลินมู่อวี่ผิดหวังเล็กน้อยและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้าจะค้นหาความจริงด้วยตนเอง จริงสิหลัวอวี่…ท่านวางแผนจะทำสิ่งใดในอนาคตหรือ?”

“ข้ามิได้นึกถึงสิ่งนั้นเลย”

หลัวอวี่ถอนหายใจและกล่าวว่า “ข้าเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน และแม้ว่าจะฝึกฝนอย่างหนัก ข้าก็ไม่สามารถเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตนภาได้ สำนักอัศวินหรือแม้แต่กองทัพแห่งจักรวรรดิมิอาจยอมรับราชทูตไร้ฝีมือเยี่ยงข้า คงมีเพียงกลุ่มทหารรับจ้างที่ข้าสามารถเข้าร่วมได้ และในเมื่อมีทหารรับจ้างหลายกลุ่มในเมืองหลวง ข้าอาจไปเข้าร่วมสักกลุ่มกระมัง?”

“ฮ่า…อย่างนั้นหรือ?” หลินมู่อวี่พลันหัวเราะเยาะ

หลัวอวี่งุนงง “ท่านหัวเราะสิ่งใดกัน?”

หลินมู่อวี่กล่าวว่า “ท่านยังไม่เข้าใจเรื่องคติธรรมของกลุ่มทหารรับจ้างแห่งเมืองหลันเยี่ยนเหรอ? ดูทหารรับจ้างเทียนจิงสิ…พวกเขาปฏิบัติตัวเยี่ยงทหารรับจ้างอย่างนั้นหรือ? พวกเขาแทบไม่แตกต่างจากโจรกระจอกเลย แล้วท่านยังต้องการไปสถานที่แบบนั้นจริงๆ หรือ?”

หลัวอวี่รู้สึกหดหู่ “ละ…แล้วข้าต้องทำเยี่ยงไร ข้ายากจนแถมตัวคนเดียว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามื้อถัดไปจะตกถึงท้องเมื่อใด ความยากจนนั้นบั่นทอนความทะเยอทะยานของคนผู้หนึ่งจนหมดสิ้น…”

“แล้วเหตุใดท่านไม่สร้างด้วยตัวเองล่ะ?” หลินมู่อวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“สร้างด้วยตัวเองหรือ?” หลัวอวี่ตกตะลึง

หลินมู่อวี่พยักหน้า “ไปเมืองหลวงแล้วขึ้นทะเบียนกลุ่มทหารรับจ้างของท่านเอง ท่านหลัวอวี่สามารถเป็นทหารรับจ้างแห่งเมืองหลวงและสังหารโจรในคราบทหารรับจ้างเหล่านั้น”

“ทว่า…”

หลัวอวี่รู้สึกท้อแท้ขณะที่กล่าว “กฎระเบียบของทหารรับจ้างแห่งจักรวรรดินั้นเข้มงวดมาก เพียงจัดตั้งกลุ่มก็ต้องใช้เงินถึงหนึ่งหมื่นเหรียญทอง คนธรรมดาเยี่ยงข้ามิสามารถหาเงินจำนวนนั้นได้หรอก มิเช่นนั้นคงมีผู้คนมากมายเข้าร่วมทหารรับจ้างแล้ว”

“มิต้องกังวลไป ข้ามีเงิน”

หลินมู่อวี่ตบถุงสรรพสิ่งก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา…ปัญหาอยู่ที่ท่านหลัวอวี่จะยินดีติดตามข้าและร่วมสร้างกองทัพด้วยกันหรือไม่?”

“ข้า…”

หลัวอวี่ตกตะลึงก่อนจะลงจากม้าทันที เขาพลันคุกเข่าหนึ่งข้างและประสานมือกล่าวว่า “ข้าน้อยหลัวอวี่ยินดีจะติดตามท่านหลินมู่อวี่ตราบเท่าที่ท่านไม่ละทิ้งข้า หลัวอวี่จะคอยรับใช้เคียงข้างท่านเสมอ!”

หลินมู่อวี่ลงจากม้าก่อนจะพยุงหลัวอวี่ขึ้นมาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดี…เยี่ยงนั้นไปเมืองหลวงและขึ้นทะเบียนกลุ่มทหารรับจ้างของพวกเรากัน กองทัพจักรวรรดิมิอนุญาตให้ผู้บังคับบัญชาระดับล่างมีกองทัพส่วนตัว ทว่าคงไม่มีปัญหาหากจะมีกลุ่มทหารรับจ้างเป็นกองทัพส่วนตัว ข้าจะเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเอง ส่วนท่านจัดการเรื่องกำลังพลและเสบียง”

“ขอรับ! หลัวอวี่จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!” ดวงตาหลัวอวี่เปล่งประกาย เขาใช้ชีวิตเยี่ยงคนหลงทางมาเป็นกว่าสามสิบสองปี ในที่สุดก็พบทิศทางชีวิตที่ควรจะเป็น

จากนั้นหลินมู่อวี่ควบม้าออกไปและกล่าวว่า “กลุ่มทหารรับจ้างของเราจะไม่ปล้นสะดม แก้แค้น หรือรับภารกิจชั่วช้าใดๆ เรารับเฉพาะภารกิจปกป้อง คุ้มกัน หรือภารกิจใดๆ ตามกฎของจักรวรรดิ ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมต้องไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับทหารจักรวรรดิ ไม่ทำร้ายชาวบ้าน และปฏิบัติตามจรรยาบรรณแปดประการคือ อ่อนน้อมถ่อมตน มีศีลธรรม เสียสละ กล้าหาญ เมตตา ซื่อสัตย์ กระตือรือร้น และยุติธรรม คำปฏิญาณเหล่านี้จะเป็นจิตวิญญาณของกลุ่มเรา”

หลัวอวี่พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ขอรับ!”

หลินมู่อวี่แอบพอใจ คำปฏิญาณแปดประการแห่งเกียรติยศอัศวินตะวันตกใช้งานง่ายจริงๆ …แน่นอนว่าในโลกยุทธภพการฝึกตนนั้นสูงส่งกว่า ทว่าอุดมการณ์และอารยธรรมของพวกเขายังคงป่าเถื่อนและโบราณ คำปฏิญาณแปดประการแห่งเกียรติยศเป็นแนวคิดขั้นสูงในผืนแผ่นดินนี้ และจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน!

จากนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองหลันเยี่ยนยามพลบค่ำ

หลัวอวี่เปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนหลินมู่อวี่ก็ถอดตราสำนักอัศวินออกก่อนจะเดินเข้าสมาพันธ์ทหารรับจ้าง สมาพันธ์ทหารรับจ้างแห่งจักรวรรดิตั้งอยู่ไม่ไกลจากค่ายทหารอวี้หลิน ซึ่งภายนอกราวกับตึกร้างเมื่อเทียบกับค่ายทหาร ทว่าป้ายสีทองยังคงส่องสว่างในยามค่ำคืน

‘แอ๊ด…’

หลินมู่อวี่เปิดประตูพร้อมเดินเข้าไปในห้องโถงก่อนจะพบว่าห้องว่างเปล่า…ทว่าเมื่อมองไปที่โต๊ะก็เห็นชายชราผมขาวเท้าคางหลับอยู่

“ท่านขอรับ…” หลินมู่อวี่เคาะโต๊ะพร้อมร้องเรียก “โปรดตื่นด้วยขอรับ!”

“หืม?”

ชายชราลืมตาขึ้นก่อนจะเห็นหลินมู่อวี่และหลัวอวี่อยู่ตรงหน้า เขาขยี้ตาและกล่าวว่า “มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างหรือ? ปัจจุบัน…มีทหารรับจ้างยี่สิบสามกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนในเขตหลิงเป่ย กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือทหารรับจ้างหลิงเป่ยซึ่งมีสมาชิกกว่าหนึ่งหมื่นคน ทว่ามีค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วมที่หนึ่งหมื่นเหรียญทอง ดังนั้น…เอาเงินมา!”

หลินมู่อวี่ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีขณะที่กล่าวว่า “ท่านอาวุโส…เรามิได้มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างขอรับ ทว่าเราต้องการก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างขึ้นมาใหม่”

“โอ้?”

ชายชรารู้สึกประหลาดใจก่อนจะหรี่ตาลงและเผยยิ้ม “เจ้าต้องการก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างอย่างนั้นรึ?”

“ขอรับ”

“เจ้าหนุ่ม เจ้ามีเงินถึงหนึ่งพันเหรียญทองรึ?”

“ข้ามี”

หลินมู่อวี่หยิบเหรียญเพชรสิบเหรียญออกมาจากถุงสรรพสิ่งและวางลงบนโต๊ะ มันส่องแสงแวววาวภายใต้ตะเกียงน้ำมัน

สีหน้าชายชราพลันเปลี่ยนเป็นจริงจังก่อนจะตะโกนขึ้น “เฮ้ย! ได้เวลาทำงานแล้ว! มีผู้มาขอก่อตั้งทหารรับจ้างกลุ่มใหม่! เร็วเข้า! นี่เป็นทหารรับจ้างกลุ่มที่ยี่สิบสี่ที่เรารับเข้ามา!”

ทันใดนั้นก็เกิดความอลหม่านขึ้นภายในห้องโถง มีคนราวแปดคนซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าของสมาพันธ์ทหารรับจ้างเดินออกมา ก่อนจะจุดตะเกียงสว่างไสวและเริ่มร่างเอกสาร

หลังจากหลินมู่อวี่ชำระเหรียญเพชรสิบเหรียญ ชายชราก็เดินเข้ามาพร้อมเอกสาร ก่อนจะเอ่ยถามโดยมิได้เงยหน้ามอง “เจ้าหนุ่ม เป็นผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างใช่หรือไม่? ชื่อแซ่อะไร?”

“หลินมู่อวี่ขอรับ”

“โอ้ ช่างคุ้นหูยิ่งนัก…แล้วชื่อกลุ่มของเจ้าล่ะ?”

“กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด”

“กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดรึ? ชื่อแปลกประหลาดเสียจริง…เหตุใดกลุ่มทหารรับจ้างจึงมีชื่อละม้ายคล้ายคลึงกับค่ายทหาร?”

“ท่านเขียนๆ มันลงไปเถิด…”

หลัวอวี่ผู้ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มอย่างพึงพอใจกับชื่อมังกรผงาด หลินมู่อวี่ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ในผืนแผ่นดินที่แสนจะป่าเถื่อนและโบราณแห่งนี้ หากไม่มีความกล้าหาญเยี่ยงมังกร ก็คงไม่ต้องพูดถึงคำปฏิญาณอย่าง ‘ถ่อมตน มีคุณธรรม เสียสละ กล้าหาญ เมตตา ซื่อสัตย์ กระตือรือร้น และยุติธรรม’

ไม่นานกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดก็ได้ก่อตั้งขึ้น ชายชรามอบเหรียญตราผู้นำสีทองหนึ่งอันและเหรียญตรารองผู้นำสีเงินสองอันให้ หลินมู่อวี่ยื่นตรารองผู้นำทั้งสองให้หลัวอวี่ก่อนจะวางเหรียญตราสีทองลงถุงสรรพสิ่ง

ชายชราเงยหน้าขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กลุ่มทหารรับจ้างที่มีสมาชิกเพียงสองคนช่างน่าสนใจจริงๆ ฮ่าๆๆ…พวกเจ้าจะมารับภารกิจเมื่อใด? หนทางเดียวที่จะเพิ่มระดับกลุ่มทหารรับจ้างได้ก็คือการรับภารกิจระดับสูง…”

หลัวอวี่เผยยิ้มจางๆ “แล้วเราจะกลับมาขอรับ ท่านหลินมู่อวี่กลับกันเถิด”

“อืม”

ทั้งคู่เดินออกจากสมาพันธ์ทหารรับจ้าง…ถนนทงเทียนเงียบสงบภายใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน

“ครานี้ก็เหลือเพียงคัดเลือกสมาชิก” หลินมู่อวี่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “หลัวอวี่ เจ้ารู้วิธีคัดเลือกผู้คนหรือไม่?”

“วางใจได้เลยขอรับ”

หลัวอวี่ประสานมือพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าน้อยจะไปที่โรงเตี๊ยมและเกณฑ์ผู้มีพละกำลังและคติธรรมเหมาะสมกับกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดของเราขอรับ!”

“อืม…อยู่ให้ห่างคนชั่วช้าไว้ กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดมิต้อนรับคนไร้ประโยชน์เหล่านั้น!”

“ขอรับ!”

หลินมู่อวี่ควักเหรียญเพชรอีกหนึ่งร้อยเหรียญออกจากถุงสรรพสิ่งก่อนจะใส่ลงไปในถุงเงินและยื่นให้หลัวอวี่ จากนั้นเขากล่าวว่า “หนึ่งแสนเหรียญทองนี้เป็นกองทุนสำคัญของกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด เมื่อเกณฑ์คนได้แล้วก็นำไปซื้ออาวุธ ชุดเกราะ และม้าให้พวกเขา ข้าหวังว่าสมาชิกที่คัดเลือกมาจะเป็นนักสู้ที่แท้จริง เข้าใจหรือไม่?”

หลัวอวี่พยักหน้ารับ “วางใจได้เลยขอรับ กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดจะคัดเลือกเฉพาะผู้ที่อยู่ขอบเขตปฐพีระดับที่สองขึ้นไปเท่านั้น!”

“ดี!”

หลินมู่อวี่เหม่อมองขึ้นบนฟ้าและกล่าวว่า “มันค่อนข้างดึกแล้ว ข้าต้องรีบกลับกองบัญชาการ ต่อไปข้าจะหาเจ้าเจอได้อย่างไรในภายภาคหน้า?”

หลัวอวี่ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ข้าจะส่งคนมาอยู่ที่สมาพันธ์ทหารรับจ้าง เมื่อใดที่ท่านเอ่ยถามถึงกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด เขาจะเป็นผู้ที่ช่วยท่านตามหาข้าขอรับ”

“ดี เยี่ยงนั้นข้าไปล่ะ”

“เดินทางปลอดภัยขอรับ โปรดดูแลตัวเองด้วย…”

“จริงสิ นี่คือขวดโอสถฝันคืนสู่สูงสุด หากมีเวลาว่างจงใช้มันเพื่อฝึกฝน เจ้าอาจสามารถเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตนภาได้ เอาล่ะ…ข้าต้องไปแล้ว”

“ท่านหลิน…”

หลัวอวี่ถือขวดโอสถฝันคืนสู่สูงสุดไว้ในมือ ขณะที่มองแผ่นหลังหลินมู่อวี่เดินจากไปบนถนนทงเทียนภายใต้แสงจันทร์…

………………………………….

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา หลินมู่อวี่ บุตรชายมหาเศรษฐีพันล้านที่ชีวิตสมบูรณ์แบบสุดๆ คนทั้งโลกต่างพากันอิจฉา เขามีโลกอีกใบคือการเป็นเซียนเกมที่ไต่ไปถึงระดับเทพยุทธ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง และหันหลังให้โลกที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะพ่อต้องการให้เขาไปช่วยสืบทอดกิจการ ในวันที่เขาตัดสินใจหันหลังให้โลกใบนี้ หลินมู่อวี่ตัดสินใจลบแอคเคาน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโหยหาโลกใบนี้อีกต่อไป ในระหว่างที่เขาลบแอคเคาน์และรีเซ็ทระบบเพื่อออฟไลน์นั้น จู่ๆ รอบตัวก็เต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกฉุดกระชากลงไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มีเพียงเสียงชายชราผู้หนึ่ง ที่บอกว่าเส้นทางของเขายังไม่จบง่ายๆ หลินมู่อวี่ต้องเอาตัวรอดในโลกใหม่พร้อมปริศนาว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้เขาติดอยู่ในเกมและไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ การผจญภัยในโลกแฟนตาซีสุดล้ำของหลินมู่อวี่จึงต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง…

Options

not work with dark mode
Reset