The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา – ตอนที่ 18 หมาป่าวายุ 2

EP.18  หมาป่าวายุ  2

หลังจากใช้วิชาฝีเท้าดาวตกมาหนึ่งชั่วโมง ขาทั้งสองข้างของหลินมู่อวี่เริ่มหมดแรง ดังนั้นเขาจึงเดินด้วยท่วงท่าที่ตลกขบขัน จนฉู่เหยาหัวเราะคิกคักออกมา  

หลินมู่อวี่ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงเดินต่อไปด้วยท่าทางที่ตลกขบขันไปทีละก้าวๆ ฉู่เหยารู้สึกละอายใจขึ้นมา จึงเข้าไปช่วยพยุงหลินมู่อวี่ เดินไปด้วยกัน นางพูดเสียงเบาขึ้น “ยามราตรีเป็นเวลาที่สัตว์วิญญาณจะปรากฏตัวขึ้น ฉะนั้นเราต้องหาถ้ำของพยัคฆ์กระหายเลือดให้พบก่อนพระอาทิตย์ตกดิน และค้างคืนที่นั่น วันรุ่งขึ้นฟ้าสว่างค่อยออกเดินทางกลับให้ถึงเมืองหยินซานก่อนพระอาทิตย์ตกดิน”

“ อืม”  

ฉู่เหยาเป็นเด็กสาวที่มีมันสมอง รู้ว่าละแวกนี้เป็นถิ่นของพยัดฆ์กระหายเลือด ส่วนรังของพยัคฆ์กระหายเลือด พวกสัตว์วิญญาณระดับต่ำจะไม่กล้ามาท้าทายแน่นอน ดังนั้นการค้างคืนในถ้ำของพยัคฆ์ร้ายจึงค่อนข้างปลอดภัย  

โชคเข้าข้างทั้งสองคน เดินไม่ถึงสองชั่วโมงก็เจอถ้ำของพยัคฆ์กระหายเลือดแล้ว ทั้งสองใช้กิ่งไม้และยางไม้เพื่อทำคบไฟ เมื่อจุดไฟสำเร็จ ทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในถ้ำทันที กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ เศษกระดูกกระจัดกระจายไปทุกถ้ำ มันคือซากโครงกระดูกของสัตว์ร้าย กระดูกของมนุษย์ ศพบางศพยังสวมเกราะอยู่เลย แต่เนื้อถูกควักออกไม่เหลือ

“ เฮือก…”  

ความหวาดกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าของฉู่เหยา เมื่อเห็นเช่นนั้น หลินมู่อวี่จับมือของนางไว้ เป็นนัยว่าไม่ต้องตื่นตระหนก

เมื่อเดินลึกเข้าไปในถ้ำ สภาพโดยรอบกลับดูแห้งและอุ่นขึ้นมาก ที่นอนของพยัคฆ์กระหายเลือดทำด้วยหญ้าแห้ง ทว่าของมีค่าดูเหมือนจะมีแค่ก้อนหินไร้ค่า ยังมีเหรียญทองและเหรียญเงินสองสามเหรียญ น่าจะเป็นของที่นายพรานพวกนั้นทิ้งไว้ นอกจากนี้ ยังมีมีดสั้นอยู่คู่หนึ่ง ส่องประกายแวววาว ทันทีที่เห็นก็รู้เลยว่าไม่ใช่ของธรรมดา

หลินมู่อวี่หยิบมีดสั้นขึ้นมากวัดแกว่งไปมาสองสามครั้ง ก่อนที่จะยิ้มออกมา “นี่ไม่เลว พี่ฉู่เหยา มีดเป็นของท่านแล้ว!”  

ฉู่เหยารู้สึกตื่นเต้นดีใจ “ให้ข้าจริงๆ เหรอ”  

“ อือ ข้าไม่ชอบมีดสั้นน่ะ”  

“ ตกลง!”  

ฉู่เหยาถือมีดสั้นไว้ในมือ รู้สึกดีใจมากจนพูดไม่ออก มีดสั้นคู่นี้งดงามและประณีตมาก ฉู่เหยาที่จับมีดอยู่ในมือรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่อยู่ในมีดสั้นนี้ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นอาวุธที่ผ่านการดูดซับพลังวิญญาณมาก่อน ในคมมีดมีวิญญาณสัตว์บรรจุอยู่ ถึงแม้ว่าฉู่เหยาจะไม่ค่อยรู้เรื่องประเภทของอาวุธนัก แต่นางก็รู้ว่าอาวุธที่ดูดซับพลังวิญญาณนั้น ไม่ใช่อาวุธธรรมดาอย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่อาวุธที่พวกฮว๋าหวันและนัยน์ตาเหยี่ยวจะมาเทียบได้ อาวุธที่ฮว๋าหวันลูกชายท่านเจ้าเมืองหยินซานยังไม่มี ก็เพียงพอที่จะยืนยันมูลค่าของมีดสั้นคู่นี้ได้แล้ว   

ฉู่เหยาหัวใจเต้นตึกตัก มองใบหน้าด้านข้างอันหล่อเหลาของหลินมู่อวี่ แล้วรีบก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเขาอีก

นอกเหนือไปจากมีดสั้นแล้ว ที่มุมหนึ่งของถ้ำยังมีกล่องโลหะวางอยู่ เมื่อใช้มีดสั้นงัดฝาขึ้นมา พบตำราฝุ่นจับเขรอะเล่มหนึ่งอยู่ด้านใน ฉู่เหยาเป่าฝุ่นที่อยู่บนปกออก ชื่อบนปกตำราและด้ายเย็บที่เปื่อยไปแล้วโผล่ขึ้นมาให้เห็น บนหน้าปกมีตัวอักษรโบราณเขียนไว้ว่า…คัมภีร์เทพโอสถ!

“ คัมภีร์เทพโอสถ ?”  หลินมู่อวี่หัวเราะ “ดูท่าพวกเราจะเจอของดีเข้าแล้วล่ะ พี่ฉู่เหยา ท่านปู่ไม่สามารถผ่านระดับปรมาจารย์โอสถไปได้สักที คงจะต้องการตำราแบบนี้ใช่ไหม”  

ฉู่เหยาพยักหน้า “อือ ด้วยฝีมือการปรุงโอสถของข้าตอนนี้ยังอ่านไม่เข้าใจ นำกลับไปให้ท่านปู่เถอะ!”

“ ตกลง!”  

ฉู่เหยาเปิดตำราที่สภาพยับเยินนี้ออก และเป็นไปอย่างที่คิด นางไม่เข้าใจเนื้อหาที่เขียนไว้เลย แก่นโอสถและตำรับที่ต่างกันออกไปดูล้ำลึก นางสอดตำราเล่มนั้นไว้ที่หน้าอก นำกลับไปให้ปู่ฉู่เฟิงค่อยๆ ศึกษา แต่สำหรับหลินมู่อวี่ในฐานะที่เป็นนักปรุงโอสถระดับสุดยอดปรมาจารย์ ตำรับยาตั้งแต่ขั้นที่หนึ่งไปจนถึงขั้นเทวะเขารู้ดีอยู่แล้ว จึงไม่สนใจตำราเทพโอสถนี้แม้แต่น้อย เขาปรายตามองไปที่ตัวอักษรเหล่านั้น พบว่ามีหลายตัวอักษรเลยที่ไม่รู้จัก รู้สึกว่าตนเองต้องอ่านให้มากเสียแล้ว

ราตรีย่างกรายเข้ามา พวกเขาไม่สามารถเดินทางต่อได้ หลังจากทั้งสองตกลงกัน และตัดสินใจที่จะค้างแรมกันด้านนอกถ้ำ เพราะในรังของพยัคฆ์กระหายเลือดมีซากศพเต็มไปหมด ฉู่เหยากังวลว่าตัวนางคงจะหลับไม่ลง  

เดินทางโดยไม่ได้หยุดพักมาตลอดทั้งคืน ในที่สุดตอนนี้ก็มีโอกาสหยุดพักเสียที

ไม่รู้ว่าหลินมู่อวี่ไปได้หมวกเกราะมาจากไหน เขาก่อกองไฟขึ้นที่นอกถ้ำ เติมน้ำจนเต็มหมวกเกราะ และต้มเนื้อพยัคฆ์กระหายเลือดในน้ำที่กำลังเดือด เนื้อของสัตว์วิญญาณอายุสี่พันปีนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้โดยง่าย ดังนั้นจึงต้มให้เนื้อเปื่อยได้ยาก หลังจากสองชั่วโมงผ่านไป กลิ่นของเนื้อที่สุกก็ลอยขึ้นมา ทั้งสองหิวจนหน้ามืดตาลาย แบ่งเนื้อกันกิน จากนั้นผลัดกันดื่มน้ำต้มเนื้อ หลังจากอิ่มแล้ว พวกเขานำฟางแห้งมาปูเป็นเตียงสำหรับนอนที่ใต้ต้นไม้

เผลอแป๊ปเดียว ฉู่เหยาที่เหนื่อยล้าก็หลับลงอย่างรวดเร็ว

หลินมู่อวี่ใส่โอสถสมานแผลที่เขาปรุงขึ้นเองลงบนบาดแผล แผลสมานเข้าด้วยกันแล้ว จึงเอนกายนอนลงกับพื้นดูดาวบนท้องฟ้า ย้อนคิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เขามาถึงโลกใบนี้ ถ้าไม่ใช่ปู่ฉู่เฟิงและฉู่เหยาให้ที่พักพิงกับเขา ตัวเขาที่ไม่มีอะไรเลย คงเอาชีวิตไม่รอดบนโลกที่ผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่และเหยียบย่ำผู้อ่อนแอกว่าใบนี้

แต่ในเวลานี้ หลินมู่อวี่พบว่าตนเองไม่เพียงแต่มีทักษะหล่อหลอม แม้แต่ฝีเท้าดาวตกก็ถูกปลุกขึ้นมาด้วย แถมพลังปราณในร่างที่กล้าแข็งขึ้นทุกวัน เขามั่นใจว่าจะกลายเป็นยอดฝีมือได้ เช่นนั้นเรื่องที่ต้องทำตอนนี้ก็คือพัฒนาตนเองอย่าได้หยุด เพื่อปกป้องปู่ฉู่เฟิงและพี่ฉู่เหยา เป็นไปได้ว่าตัวเขาอาจจะกลับไปโลกเดิมไม่ได้อีก ฉะนั้นพวกเขาทั้งสองจึงเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวของตนเองบนโลกใบนี้

ในตอนนี้เอง ฉู่เหยาครางออกมา อาจเป็นเพราะรู้สึกหนาว นางจึงซบหน้าเข้ากับแผงอกของหลินมู่อวี่ ได้กลิ่นหอมจากตัวนาง ลมหายใจอุ่นๆ ของนางเป่ารดต้นคอหลินมู่อวี่ ทำให้เขาอดคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาไม่ได้ เขาก้มหน้ามอง ฉู่เหยากอดเขาอยู่ เนินเนื้อขาวเนียนดั่งหิมะกดแนบแผ่นอกเขาอย่างภาคภูมิ กระเพื่อมขึ้นลงตามการหายใจอยู่ใต้แสงจากเปลวไฟ ราวกับกระต่ายหิมะที่ทั้งอบอุ่นและอ่อนนุ่ม  

ในไม่ช้า หลินมู่อวี่ก็เผลอหลับไปเช่นกัน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน แต่จู่ๆ เขารู้สึกทันทีว่า ฉู่เหยาที่อยู่ในอ้อมกอดขยับตัว เขาลืมตาขึ้น กำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับถูกอีกฝ่ายใช้มือปิดปากเอาไว้ ดวงตาคู่งามของนางจ้องเขา แล้วค่อยๆ เงยหน้าเป็นนัยให้มองด้านบน หลินมู่อวี่มองขึ้นไป ตกใจจนวิญญาณเกือบจะหลุดออกจากร่าง เห็นหมาป่าขนสีครามตัวใหญ่ยืนอยู่บนโขดหิน กำลังจ้องมองคนทั้งสองด้วยสายตาโหดเหี้ยม  

มันเป็นสายตาของนักล่าที่กำลังสังเกตเหยื่อของมัน  

หมาป่าวายุ!  

หลินมู่อวี่ใจเต้นตึกตัก หมาป่าวายุเป็นสัตว์ที่เคลื่อนที่ได้ว่องไว โจมตีประหนึ่งสายฟ้าฟาด ถ้าพวกมันปรากฏตัวขึ้นเป็นกลุ่ม ก็ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่  

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา หลินมู่อวี่ บุตรชายมหาเศรษฐีพันล้านที่ชีวิตสมบูรณ์แบบสุดๆ คนทั้งโลกต่างพากันอิจฉา เขามีโลกอีกใบคือการเป็นเซียนเกมที่ไต่ไปถึงระดับเทพยุทธ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง และหันหลังให้โลกที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะพ่อต้องการให้เขาไปช่วยสืบทอดกิจการ ในวันที่เขาตัดสินใจหันหลังให้โลกใบนี้ หลินมู่อวี่ตัดสินใจลบแอคเคาน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโหยหาโลกใบนี้อีกต่อไป ในระหว่างที่เขาลบแอคเคาน์และรีเซ็ทระบบเพื่อออฟไลน์นั้น จู่ๆ รอบตัวก็เต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกฉุดกระชากลงไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มีเพียงเสียงชายชราผู้หนึ่ง ที่บอกว่าเส้นทางของเขายังไม่จบง่ายๆ หลินมู่อวี่ต้องเอาตัวรอดในโลกใหม่พร้อมปริศนาว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้เขาติดอยู่ในเกมและไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ การผจญภัยในโลกแฟนตาซีสุดล้ำของหลินมู่อวี่จึงต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง…

Options

not work with dark mode
Reset