“เพชรสีขาวใช้ทำสิ่งใดหรือ?” หลินมู่อวี่เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
ต้านู๋หรี่ตามอง “เจ้าไม่รู้รึ? เพชรสีขาวนั้นหายากยิ่งและมักถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับของหญิงขุนนาง กล่าวกันว่ามันสามารถเปล่งแสงออกมาได้ จึงมีพวกขุนนางหลายคนนำไปประดับห้องส่วนตัว อีกทั้งหญิงนางใดที่ได้ครอบครองชิ้นส่วนมันแม้จะเพียงชิ้นเดียวก็เป็นที่น่าริษยามากแล้ว”
เมื่อได้เห็นชิ้นส่วนเพชรขาวด้านล่างเหมืองแล้วหลินมู่อวี่ก็ขมวดคิ้ว มันมีค่ามหาศาลนักทว่าอีกไม่นานก็จะตกไปอยู่ในกำมือของหูเถี่ยหนิงแล้ว เขาคงไม่มีโอกาสได้ฉกฉวย
หลินมู่อวี่สูดหายใจลึก ใช้ฌานสัมผัสเข้าตรวจสอบเพชรสีขาวทว่ากลับมีพลังวิญญาณด้านในคอยสกัดกั้นเขาอยู่ พระเจ้า…เป็นไปได้หรือไม่ที่เพชรสีขาวจะมีพลัง!?
หลินมู่อวี่พยายามวิเคราะห์เพชรขาวด้วยฌานสัมผัสก่อนจะพบว่ามันมีคุณสมบัติคล้ายโลหะมากกว่าเพชร ทั้งยังเป็นโลหะที่ไม่มีลักษณะชัดเจนหรืออย่างน้อยก็ไม่ปรากฏในตารางธาตุ คริสทัลนี้สร้างมาจากโมเลกุลเล็กๆ เรียงตัวคล้ายรูปแบบของเพชรจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะแข็งเพียงใด
“กล่าวกันว่ามันมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง!” ทันใดนั้นชายแก่อายุราวหกสิบก็โพล่งขึ้นพลางลูบเคราตัวเอง
“ใช้ทำอะไรหรือ?” หลินมู่อวี่และต้านู๋ถามพร้อมกัน
ชาแก่ยิ้มก่อนจะกล่าว “ข้าเคยได้ยินคนเก่าแก่พูดไว้ว่าเพชรสีขาวนี้แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงเมื่อผสานกับปราณยุทธ์ ด้วยเหตุนี้ช่างโบราณจึงมักนำเพชรขาวไปสร้างเป็นอาวุธที่สามารถทะลวงเกราะปราณได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหมายความว่าต่อให้เป็นเกราะปราณของยอดฝีมือขอบเขตราชันย์สววรค์ก็สามารถถูกทำลายได้ในการโจมตีเดียวด้วยอาวุธเพชรขาว…”
ต้านู๋เลิกคิ้วขึ้น “ไม่จริง! ในจักรวรรดิก็มีเพชรสีขาวนี้อยู่ แล้วเหตุใดจึงไม่เคยมีอาวุธที่ถูกหลอมด้วยมันมาก่อน?”
“นั่นก็เพราะตลอดหลายชั่วอายุคนไม่เคยมีเทพหลอมอาวุธปรากฏออกมาอีกเลยอย่างไรเล่า!”
ชายชรายิ้มอย่างเหยียดหยัน “ไอ้พวกเด็กเมื่อวานซืน ต่อให้ข้าพูดไปพวกเจ้าก็ไม่มีทางเข้าใจ ฮ่าๆ”
เพชรสีขาวสามารถตัดเกราะปราณได้อย่างนั้นหรือ?
เรื่องนี้เป็นดั่งฟ้าผ่าลงกลางใจหลินมู่อวี่ มียอดฝีมือขอบเขตราชันย์สวรรค์และเหนือกว่าหลายคนที่ต้องอาศัยเกราะปราณในการรบ หากเพชรสีขาวนี้ถูกนำไปสร้างเป็นอาวุธมันต้องเป็นกลายเป็นฝันร้ายของราชันย์สวรรค์แน่! เพราะเมื่อลองจินตนาการว่ามันถูกนำไปสร้างเป็นหัวธนู…ต่อให้เป็นยอดฝีมือขอบขตไหนก็ถูกฆ่าตายได้ด้วยการยิงนัดเดียว!
ที่ร้ายกว่าคือไม่มีใครสามารถป้องกันธนูพันดอกได้อย่างแน่นอน…และคนอย่างเจิ้งอี้ฝานกับเซี่ยงอวี้ก็ไม่น่าหวาดหวั่นอีกต่อไป
เมื่อคิดได้ดังนั้นหลินมู่อวี่จึงตัดสินใจได้ทันที จะให้เพชรสีขาวนี้ตกถึงมือหูเถี่ยหนิงไม่ได้ด็ดขาด มิเช่นนั้นต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่!
“โอ๊ย…”
หลินมู่อวี่บิดตัวไปมาจนต้านู๋ถามขึ้น “น้องชายหลินจื้อ เป็นอะไรหรือ?”
“ข้า…ข้าปวดท้องขอรับ คงต้องรีบไปก่อน”
“เช่นนั้นก็ระวังตัวด้วย!”
“ขอบพระคุณขอรับพี่ต้านู๋…”
ต้านู๋ช่างเป็นคนซื่อตรงเสียจริง
หลินมู่อวี่เร่งออกจากเหมืองตรงไปยังหน้าผาทางตอนเหนือและใช้ข้ออ้างเรื่องท้องเสียเพื่อหนีขึ้นเขามุ่งหน้าไปค่ายมังกรผงาดทันที
“เรียกรวมผู้บัญชาการระดับกองพันขึ้นไป” หลินมู่อวี่สั่ง
เว่ยโฉวรีบรับคำทันที “ขอรับ!”
ไม่กี่นาที ทหารหลายคนก็วิ่งออดแอดมายังกระโจมที่หลินมู่อวี่อยู่ หนึ่งในนั้นเมื่อเห็นหลินมู่อวี่ก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีตกใจ “ท่านแม่ทัพเรียกเรามากลางดึกเช่นนี้ พวกอวิ้นจงโจมตีหรือขอรับ?”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”
หลินมู่อวี่ส่ายหัว “สั่งรวมทัพ เราจะเข้ายึดภูเขาขวานไฟให้ได้ก่อนรุ่งสาง กองทหารทะลวงนภาให้อ้อมไปด้านหลัง ส่วนข้าจะนำทัพมังกรผงาดบุกโดยตรง เราต้องทำให้สำเร็จในการโจมตีเดียว!”
“ขอรับ!”
หลัวอวี่และเฟิงสี่คำนับ “กลุ่มมังกรผงาดพร้อมรับคำสั่งขอรับ!”
ทหารรับจ้างมังการผงาดเตรียมคบเพลิงและพกน้ำติดตัวไป เพราะการขึ้นลงเขาไม่ใช่เรื่องง่ายจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเข้าปะทะกับสำนักอัศวินบนภูเขาขวานไฟ
ใต้ผืนฟ้ามืด หลินมู่อวี่นำทัพทหารม้าเต็มมังกรผงาดเต็มกำลังเข้าโจมตีทางเข้า เว่ยโฉวสังหารยามเฝ้าประตูด้วยศรดอกเดียว!
“เตรียมตั้งรับ พวกหมารับใช้บุกโจมตี!” เสียงเตือนดังมาจากบนกำแพงป้อมปราการหิน
ไม่รอช้า หลินมู่อวี่ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตนทันใด น้ำเต้าทองเข้าห่อหุ้มทั้งตัวหลินมู่อวี่และม้าศึกขณะบุกข้าศึก หลินมู่อวี่รวบรวมพลังไว้ที่หมัดข้างหนึ่งส่งผลให้บรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยว ก่อนจะใช้พลังเกือบครึ่งซัดพลังสี่ประทีปออกไป!
พลังสี่ประทีปเป็นท่าโจมตีระยะไกล ระเบิดพลังวิญญาณเหมือนกาบหอยใส่ประตูจนแหลกเป็นเสี่ยงแม้กระทั่งกำแพงหิน! เหล่าทหารชำนาญการต่างนอนร้องคร่ำครวญใต้กองเพลิงขณะกองทัพมังกรผงาดบุกเข้าไปด้านในแล้ว ไม่มีผู้กล้าออกตัวขัดขวางพลางตะโกนลั่นด้วยความหวั่นเกรง “ให้ตาย…พวกมันยังเป็นคนอยู่หรือไม่?…ท่านผู้แข็งแกร่งได้โปรดเถิด ให้ข้าได้เข้าร่วมกับกองทัพจักรวรรดิ!”
ประตูได้อย่างรวดเร็วตามที่หลินมู่อวี่คาดการณ์ไว้ บนเขามีทหารชำนาญหารอยู่ราวสองพันนายและอย่างน้อยครึ่งหนึ่งคงไปเฝ้าที่เหมือง ดังนั้นคงเหลืออีกไม่มากแล้ว เพราะสำนักอัศวินคิดว่าหลินมู่อวี่ไม่กล้าบุกโจมตีทั้งที่มีกองทัพอวิ้นจงอยู่…ทว่าพวกเขากลับคิดผิด ทั้งหมดนี้เกิดจากเพชรสีขาวที่เตะตาหลินมู่อวี่เข้า จนเขาอดทนไม่ได้ต้องเข้าปะทะเพื่อชิงมันมา
ทัพทหารรับจ้างมังกรผงาดไล่สังหารเปิดทางขึ้นเขาด้วยทัพทหารม้าอย่างเต็มกำลัง
อันที่จริงขุมกำลังหลักคือองครักษ์อวี้หลินหกสิบคนที่เป็นทัพหน้า ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเป็นที่เลื่องลือในจักรวรรดิ เพียงแค่คนหกสิบคนนี้ก็แทบไม่มีปาฏิหาริย์ใดสำหรับสำนักอัศวินในการจะหยุดพวกเขาแล้ว!
“ระวัง! ท่านราชทูตใหญ่กำลังมา!”
เซ๊่ยโหวซางเตรียมหอกในมือและกระโจนเข้าโจมตี เขาหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น “ไอ้ราชทูตใหญ่ให้เป็นหน้าที่ข้าเองขอรับ!”
ราชทูตใหญ่แห่งสำนักอัศวินผู้นี้เป็นชายแก่ผมหงอก ทว่าแข็งแกร่งผิดจากที่เซี่ยโหวซางคาดการณ์ไว้ เมื่อปราณยุทธ์ระเบิดออกเซี่ยโหวซางก็ถูกซัดกระเด็นปลิวไปกับม้า! เป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่สมน้ำสมเนื้อเอาเสียเลย!
หลินมู่อวี่หรี่ตามอง ราชทูตใหญ่ผู้นี้มีเกราะปราณทั้งยังเป็นยอดฝีมือขอบเขตราชันย์สวรรค์ ทว่าพลังของหลินมู่อวี่ที่แผ่ออกมานั้นแข็งแกร่งกว่าชายผู้นั้นมาก! ที่สำคัญกว่านั้นคืออาวุธของราชทูตแก่เป็นอาวุธระดับภูต!
“ต่อหน้ากวนหลงเซิงผู้นี้ เจ้าช่างอาจหาญนัก!”
ราชทูตใหญ่ตวัดดาบด้วยท่าทางหยิ่งผยอง ทหารด้านหลังเปี่ยมไปด้วยกำลังใจขณะยิ้มและกล่าวสรรเสริญ “ท่านราชทูตนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะทัดทาน เราต้องชนะแน่!”
“ฮ่า!”
จากหลังม้าหลินมู่อวี่กระโดดขึ้นพร้อมรวบรวมปราณยุทธ์ ในมือกระชับกระบี่วิญญาณมังกรไว้แน่นพลางปล่อยพลังประทีปที่สอง! “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นราชทูตหรือใคร แต่รับคมกระบี่ของข้าไป!”
“หลินมู่อวี่รึ?”
ราชทูตใหญ่ชะงัก ก่อนจะจะยกดาบของตนขึ้นมาป้องกันการโจมตีอันทรงพลังของหลินมู่อวี่!
“เคร้ง!”
เกิดประกายแตกออกพร้อมกับเศษคมดาบหลุดออกมา! ชัดเจนแล้วว่าต่อให้เป็นอาวุธภูตก็อ่อนแอกว่ากระบี่วิญญาณมังกรอยู่ดี ทว่าราชทูตใหญ่มิได้อ่อนแอเช่นดาบของตน เขายกดาบฟาดไปด้านหน้าทันที!
“ชิ้ง!”
น้ำเต้าสีทองถูกเรียกขึ้นมาป้องกันคมดาบทำให้พลังเฉือนสะท้อนออก หึ! ไม่เคยมีใครบรรลุขอบเขตราชันย์สวรรค์แล้วอ่อนแอเช่นนี้ คงมีของดีช่วยให้บรรลุได้สินะ!
หลินมู่อวี่กระโดดถอยไปก่อนจะโจมตีสวนกลับด้วยพลังประทีปที่สามพร้อมกับแก่นเพลิงมังกรห่อหุ้มกระบี่ไว้
กวนหลงเซิงลากดาบไปกับพื้นอย่างรวดเร็วจนเกิดประกายไฟขึ้น
กลยุทธ์ดาบลากดินงั้นหรือ?
หลินมู่อวี่ประหลาดใจ กวนหลงเซิงคือร่างอวตารของเทพทหารกวนรึ?
หลินมู่อวี่ปากระบี่ออกไปทั้งที่ไม่อยาก เพราะกลยุทธ์ลากดินเป็นท่าไว้ใช้สำหรับไล่ล่าและสังหารศัตรูในดาบเดียว ซึ่งไม่เหมาะกับวิชากระบี่จักรวรรดิ
“ชิ้ง!”
กระบี่วิญญาณมังกรพุ่งทะยานไปพร้อมกับเปลวเพลิงที่หลินมู่อวี่สร้างขึ้นจากฝ่ามือ!
กวนหลงเซิงได้ยินเสียงมาจากด้านหลังจึงรีบยกดาบขึ้นป้องกันโดยเร็ว!
“เคร้ง!”
เสียงปะทะกันของสองคมอาวุธกระทั่งดาบของกวนหลงเซิงหักครึ่ง!
“นี่มัน…”
กวนหลงเซิงตกตะลึง ทว่าใบหน้ายิ่งแสดงถึงความโกรธเกรี้ยว เขาใช้มือหนึ่งจับด้ามส่วนอีกข้างจับปลายดาบหักเข้าจู่โจมหลินมู่อวี่ด้วยสองมือก่อนหลินมู่อวี่จะลงถึงพื้น!
ดาบคู่ฟาดฟันเข้ากำแพงน้ำเต้าเต็มๆ จนหลินมู่อวี่เซถอยไป! กวนหลงเซิงไม่ละความพยายามใช้มือของตนหวังจะตบหลินมู่อวี่ ทว่าหลินมู่อวี่คงรับไม่ได้หากต้องโดนตบต่อหน้าเหล่าทหารรับจ้างมังกรผงาด!
หลินมู่อวี่กระแทกเท้าลงกับพื้นยันตัวให้มั่นก่อนจะเรียกกระบี่วิญญาณมังกรกลับมา กระบี่ยาวถูกจับฟันสะพายแล่งอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด!
“ชิ้ง!”
…
กระบี่ความเร็วปานสายฟ้าผ่าลงกลางไหล่ของกวนหลิงเซิง ทว่าเกราะปราณของเขาช่วยป้องกันอยู่! กวนหลงเซิงจับกระบี่วิญญาณมังกรไว้ ก่อนจะใช้ดาบหักแทงเข้ากลางอกหลินมู่อวี่!
หลินมู่อวี่ไหวตัวทันใช้เกราะปราณหยุดการโจมตีอันรุนแรงได้ เขาใช้มือซ้ายที่ว่างอยู่รวบรวมพลังเพลิงและส่งผ่านไปยังกระบี่วิญญาณมังกรจนมันเริ่มหมุน!
“อ๊าก…”
เสียงร้องโหยหวนระเบิดลั่น มือที่จับกระบี่อยู่ถูกปั่นจนแหลก แม้แต่ดาบหักก็ไม่สามารถต้านทานคมกระบี่วิญญาณมังกรได้ แล้วร่างกายของเขาจะทนได้อย่างไร!
หลินมู่อวี่คว้าขอเสื้อที่กวนหลงเซิงสวมอยู่ชูขึ้นด้วยมือซ้ายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้อีกข้างที่จับด้ามกระบี่อยู่เสียบทะลุทรวงอกของกวนหลงเซิง!
“ฉึก!”
เลือดสดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ กวนหลงเซิงปรมาจารย์แห่งยุค…ราชทูตใหญ่แห่งศูนย์บัญชาการสำนักอัศวินมณฑลชางหนานได้จบสิ้นชีพลงเสียแล้ว
……………………