ในป่าตอนกลางคืนมืดมากจนแทบจะมองไม่เห็น ก้อนเมฆลอยเคลื่อนอยู่เหนือศีรษะ กระทั่งแสงดาวก็อับแสงจนมองไม่เห็น หลินมู่อวี่จึงชักกระบี่เหลียวหยวนออกมา ส่งปราณเข้าไป ทันใดนั้นบนตัวกระบี่ปรากฏเปลวเพลิงพุ่งออกมา ส่องให้เห็นทางข้างหน้า
“ยาถอนพิษ…ยาถอนพิษ…”
ปากเขาพึมพำ แต่ในใจก็คิดเรื่องตำรับยาถอนพิษที่พบในวิชาปรุงโอสถ ในนั้นมียาถอนพิษทั้งสิ้นสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือโอสถระดับหนึ่งทำได้เพียงแก้อาการถูกพิษอ่อนๆ ชนิดที่สองคือโอสถระดับห้า และชนิดที่สามคือโอสถระดับเก้า โอสถระดับเก้ามีชื่อว่าผงสงัดใจ คนบนโลกนี้น่าจะไม่มีใครรู้วิธีปรุงโอสถชนิดนี้ แต่ก็มีแค่ผงสงัดใจเท่านั้นที่สามารถถอนพิษช่วยหญิงงามผู้นี้ได้ เพราะเป็นพิษของงูมังกร ยาถอนพิษทั่วไปจึงทำอะไรไม่ได้ ส่วนผงเทพสังสรรค์ต้องดื่มก่อนถึงจะป้องกันการถูกพิษได้ แต่นี่ถูกพิษไปแล้ว มีแต่ผงสงัดใจเท่านั้นถึงจะถอนพิษได้!
“ลู่ลู่!”
เขาส่งเสียงเรียกเบาๆ เพียงครู่เดียว แสงสีเขียวจางๆ ก็บินออกมาจากทะเลจิตของเขาอย่างรวดเร็ว ภูตระบบลู่ลู่ที่กำลังขยี้ตา ถามขึ้น “พี่ชาย มีอะไรหรือ ข้ากำลังนอนหลับฟื้นฟูพลังวิญญาณจากการปรากฏตัวครั้งก่อนอยู่นะ…”
“ช่วยข้าดูหน่อย แถวนี้มีหญ้าสงัดใจกับหญ้าน้ำลายมังกรบ้างไหม”
ลู่ลู่ลืมตากว้างแล้วมองไปรอบตัว “ป่าล่ามังกรหรือนี่…ข้าขอคิดก่อน หลายวันก่อนเพิ่งจะมาสำรวจทรัพยากรที่นี่ อืม…พี่ชาย หญ้าสงัดใจอยู่ไม่ไกล ข้างหน้าสองลี้นี่ก็น่าจะมีอยู่บ้าง ส่วนหญ้าน้ำลายมังกร…ค่อนข้างไกล ห่างไปสิบลี้ ท่านจะไปหาหรือ มันไกลมากเลยนะ แถมฟ้ายังมืดอยู่เลย หญ้าน้ำลายมังกร เจริญเติบโตอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งที่มีงูมังกรดุร้ายอาศัยอยู่!”
หลินมู่อวี่กัดฟัน น่าจะเป็นเจ้างูมังกรตัวที่เพิ่งจะทำร้ายหญิงงามคนนั้นกระมัง
ช่างเถอะ ช่วยชีวิตคนได้กุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ไปกันเถอะ!
เขาใช้ฝีเท้าดาวตก ใต้ฝ่าเท้าเหมือนมีดาวตกดันตัวให้ทะยานออกไปยังที่ห่างไกล เสี้ยววินาทีก็มาหยุดลงที่ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง จมูกได้กลิ่นคุ้นเคยโชยมา เป็นหญ้าสงัดใจนั่นเอง!
พอก้มลงมอง ก็เห็นใต้ก้อนหินมีประกายแสงจางๆ คล้ายกับแสงดาว นี่คือหญ้าสงัดใจ เขาตื่นเต้นดีใจมาก ยื่นแขนเข้าไปใต้ก้อนหินแล้วค่อยๆ เด็ดมันออกมา หญ้าสงัดใจต้นหนึ่งก็มาอยู่ในมือเขาแล้ว เก็บต่อ เก็บไปให้เยอะอีกหน่อย จากนั้นยัดทั้งหมดที่เก็บได้ไว้ที่หน้าอก แล้วลุกขึ้นยืน “ลู่ลู่นำทางหน่อย พวกเราจะไปหาหญ้าน้ำลายมังกรกัน!”
“อือ!”
ภูติระบบลู่ลู่กระพือปีกโปร่งแสงบินไปออกไปไกลด้วยความเร็วสูง โชคดีที่ฝีเท้าดาวตกของหลินมู่อวี่ก็เร็วเช่นกัน เขาวิ่งตามไปติดๆ ระยะสิบลี้จะบอกว่าไกลก็ไม่ไกล จะบอกว่าใกล้ก็ไม่ใกล้ หลังจากมาถึงที่หมายจึงมีหอบหายใจอยู่บ้าง
ด้านหน้าของผาหินที่สูงตระหง่านมีต้นไม้โบราณต้นหนึ่งสูงเสียดฟ้า ตรงรากของมันกลับเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่ขยายยืดลงไป
หลินมู่อวี่คาดว่างูมังกรตัวนั้นออกไปหาอาหารยังไม่กลับมา ที่นี่ไม่น่าจะอันตรายนัก เขาถือกระบี่เหลียวหยวนแล้วเดินเข้าไปด้านใน
“อึก…”
กลิ่นเหม็นคาวเกือบทำให้เขาสลบ มองไปที่พื้นรอบตัว มีแต่กระดูกสัตว์ แม้แต่กระดูกมนุษย์ก็มี สยองชะมัด เดินเข้ามาเกือบห้านาที ในที่สุดก็พบหญ้าน้ำลายมังกรส่องประกายเรืองแสงอยู่บนผนังถ้ำ หญ้าน้ำลายมังกรเป็นสมุนไพรระดับเก้า เดิมทีแทบจะสาบสูญไปจากแผ่นดินแล้ว แต่เจ้างูมังกรตัวนี้ใกล้พัฒนากลายร่างเป็นมังกรจริง ดังนั้นจึงเกิดปราณมังกรขึ้นมาอยู่บ้าง พอสะสมนานหลายปีจึงมีหญ้าน้ำลายมังกรเติบโตขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ช่างประจวบเหมาะจริงๆ !
เขารีบเก็บหญ้าน้ำลายมังกรทั้งหมดเข้าย่าม นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีความรู้สึกพออกพอใจอย่างน่าประหลาด
เมื่อเก็บหญ้าน้ำลายมังกรเสร็จแล้ว จู่ๆ เขาก็คิดได้ว่าในเมื่อเข้าถ้ำเสือมาแล้ว งั้นก็ค้นหาอีกหน่อย เพราะพวกมังกรชอบสะสมของมีค่า งูมังกรตัวนี้อายุอย่างน้อยเกือบหมื่นปี คงสะสมของล้ำค่าไว้ไม่น้อยกระมัง
เขาค่อยๆ เดินเข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำ แต่ก็ทำให้เขาต้องผิดหวัง ที่ก้นถ้ำมีไข่งูอยู่เจ็ดแปดฟองอยู่บนกองฟางแห้ง ส่วนของล้ำค่านั้นไม่มีเลยสักชิ้น!
“เปรี๊ยะ…”
เปลือกของไข่งูใบหนึ่งแตกออก ตามด้วยเสียงร้อง งูมังกรตัวจิ๋วตัวหนึ่งกระเทาะเปลือกไข่แล้วพุ่งเข้าใส่หลินมู่อวี่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว คล้ายกับกำลังหาแม่ของมันอยู่
หลินมู่อวี่พูดไม่ออก เตะงูน้อยออกไป “ไปให้พ้นเลย ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้าสักหน่อย! แต่จะให้ข้าจัดการแม่ของเจ้าทิ้งซะข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ…”
และในตอนนี้เอง ด้านนอกมีเสียงร้องแหลมดังเข้ามา คล้ายกับเป็นเสียงของมังกร แต่ก็คล้ายกับเสียงขู่ของงู หลินมู่อวี่ตัวสั่นขึ้นมาทันที แม่ของมันกำลังจะกลับมาแล้วหรือ ตอนนี้ด้วยพลังของเขาดูเหมือนจะยังจัดการมันไม่ได้ ต้องเผ่นก่อน!
เขารีบออกจากถ้ำ ถือกระบี่เหลียวหยวนเดินกลับทางเดิม
……
เมฆค่อยๆ กระจายออก แสงดาวยังคงทอแสงนวลลงมายังป่าทึบ ฉินอินสลบไปแล้ว ใบหน้าม่วงคล้ำ พิษซึมเข้าไปลึกมาก
“ตื่นสิ แม่นาง!”
หลินมู่อวี่เขย่าแขนของนางอย่างแรง ฉินอินถึงค่อยๆ ได้สติฟื้นขึ้นมา ศีรษะร้อนผ่าวจนแทบจะไม่มีสติสัมปชัญญะแล้ว มองหลินมู่อวี่แล้วถาม “หายาถอนพิษได้แล้วหรือ”
“อืม แต่ว่าหามาได้แค่สมุนไพร จำเป็นต้องกลั่นโอสถ เจ้าอย่าได้หลับเชียว มิเช่นนั้นอาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก”
หลินมู่อวี่มองใบหน้าของนาง อดปวดใจไม่ได้ หญิงงามขนาดนี้หากต้องโดนพิษตายจริงๆ คงจะน่าเสียดายไม่น้อย ตนเองสามารถช่วยชีวิตนางได้ก็นับว่าทำประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติแล้ว ถึงแม้โลกนี้จะมีหญิงงามมากมาย แต่งดงามพริ้มเพราเหนือฟ้าดินเช่นนี้พบได้ยากยิ่ง ขนาดถังเสียวซีที่ว่างามแล้วก็ยังด้อยกว่าครึ่ง
เขานั่งลงกับพื้น วางหญ้าสงัดใจลง แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา เริ่มสกัดแก่นโอสถ แค่นี้ยังไม่พอ เขายกมือซ้ายขึ้นอีก และสกัดแก่นโอสถของหญ้าน้ำลายมังกรไปพร้อมกัน เป็นเพราะฝ่ามือพิสุทธ์ เขาจึงทำแบบนี้ได้ เพราะอย่างไรเสียมันก็ขึ้นชื่อว่าก็เป็นสุดยอดวิชาปรุงโอสถหนึ่งในใต้หล้า!
ฉินอินนั่งพิงก้อนหิน แทบจะไม่มีแรงกระทั่งลืมตา ทำได้เพียงหรี่ตาคู่งามมองดูชายหนุ่มปรุงโอสถ
ใต้แสงดาว ฝ่ามือพิสุทธ์ส่องแสงวูบวาบ สะท้อนโครงหน้าหล่อเหลาและเด็ดเดี่ยวของหลินมู่อวี่ อาจเป็นเพราะใช้พลังมากเกินไป หน้าผากของเขาจึงเริ่มมีเหงื่อผุดออกมา เขาดูเหมือนจะหายใจออกมากกว่าจะหายใจเข้าเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้เขากำลังอาศัยแค่ปราณเพียงอย่างเดียวในการสกัดแก่นโอสถ
“เขา…เป็นใครกันแน่”
ฉินอินถามตัวเองอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางเคยเห็นนักปรุงโอสถในวังสกัดแก่นโอสถมาก่อน ถึงขนาดเคยเห็นการทำงานของราชาโอสถมาก่อนด้วยซ้ำ แต่ไม่เคยเห็นใครเหมือนกับชายหนุ่มตรงหน้าที่สามารถสกัดแก่นโอสถของสมุนไพรที่ต่างกันสองชนิดได้พร้อมกัน ต้องรู้ว่าวิธีการสกัดแก่นโอสถมีเป็นพันเป็นหมื่น สมุนไพรแต่ละชนิดต่างต้องใช้วิธีการสกัดเฉพาะตัว!
ประมาณเกือบสิบนาที เขาก็กลั่นแก่นโอสถสองชนิดออกมามาวางบนผ้าขาว
หลินมู่อวี่หยิบน้ำสะอาดและขวดเล็กๆ สองสามขวดออกมาจากถุงข้างเอว ของพวกเขาเตรียมมาล่วงหน้า เพราะนี่เป็นของที่นักปรุงโอสถจำเป็นต้องพกติดตัว
เขากรีดนิ้วเบาๆ ใช้ปราณชักนำแก่นโอสถให้เข้าไปในขวดเล็กๆ เพียงครู่เดียวก็เต็มหนึ่งขวด เขาปิดฝาขวด แล้วออกแรงเขย่านิดหน่อยจากนั้นก็วางขวดโอสถไว้กลางฝ่ามือ ปราณค่อยๆ ลอยออกมาจากฝ่ามือ ไหลวนอยู่รอบขวดยา นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการปรุงผงสงัดใจใช้ความนุ่มนวลของปราณกระตุ้นให้แก่นโอสถของสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ผสมเข้ากัน บางทีบนโลกนี้อาจจะมีคนทราบสัดส่วนของตำรับการปรุงผงสงัดใจ แต่คนที่รู้เคล็ดลับนี้มีไม่เยอะแน่นอน อาจจะมีแค่เขาคนเดียวก็เป็นได้
……
ไม่นานมากนัก ผงสงัดใจขวดแรกก็สำเร็จ
“เรียบร้อย!” เขาเช็ดเหงื่อ เงยหน้าแล้วยิ้มพูด
ฉินอินตะลึงเล็กๆ กลับไม่รู้ต้องทำอย่างไร ได้แต่พยักหน้าพูด “อ่อ”
“อ่ออะไรเล่า รีบถอดเสื้อเร็วเข้า”
“หา?”
ฉินอินใจเต้นรัว ความเขินอายของสาวรุ่นทำให้นางหน้าแดงเถือกทันที “ทำไมต้องถอดชุดด้วย…หรือว่าทำตามวิธีถอนพิษของพวกชาวยุทธ์ ต้องถ่ายเลือดขับพิษเช่นนั้นหรือ”
หลินมู่อวี่อดหัวเราะไม่ได้ “ถ่ายเลือด? ไม่ล่ะ วิธีขับพิษชั้นต่ำแบบนั้นข้าไม่สนใจหรอก อีกอย่างเลือดคือแหล่งกำเนิดพลัง การถ่ายเลือดขับพิษเสียของจะตาย วางใจเถอะ ยาถอนพิษของข้าสามารถขับพิษในเลือดได้เอง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเจ้าหรอก”
“แล้วทำไมต้องถอดเสื้อเล่า…” ฉินอินถามเสียงเบา
“เอ่อ คือว่า…” หลินมู่อวี่จิตใจว้าวุ่นขึ้นมาทันที จะไปบอกว่าเพื่อดูหน้าอกของเจ้าว่าเป็นยังไงก็คงไม่ได้ แบบนี้ดูจะเสียมารยาทไปหน่อยเพราะยังไงก็แค่พบกันโดยบังเอิญ
“ต้องเทยาถอนพิษลงบนบาดแผล บาดแผลของเจ้าอยู่ที่หน้าอกน่ะ!” เขาพูด
ตอนนี้ฉินอินถึงได้พยักหน้าน้อยๆ ใบหน้าแดงระเรื่อ อายจนอยากจะฆ่าตัวตาย “คือ…ข้าไม่มีแรงแล้ว เจ้า…เจ้าช่วยข้าถอดเถอะ แต่เจ้า…เจ้าต้องหลับตา!”
“รู้แล้วน่า!”
หลินมู่อวี่ยื่นมือออกไปอย่างระมัดระวัง ปลดกระดุมคอเสื้อคลุมของนางออก ถึงได้เห็นว่าบนกระดุมสลักลายดอกอินสีทอง เหมือนกับรูปที่ถูกสลักอยู่บนเหรียญทองของจักรวรรดิ ฐานะของแม่นางผู้นี้คงจะไม่ธรรมดา กระดุมถึงได้ทำจากทองคำทั้งหมด
ฉินอินหลับตาลง ไหล่ขาวเนียนราวกับหิมะสั่นสะท้าน สำหรับนางแล้วนี่เป็นความทรมานอย่างหนึ่ง
สำหรับหลินมู่อวี่แล้ว ไหนเลยจะไม่ทรมาน หญิงงามขนาดนี้กำลังหลับตาอยู่และปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ โชคดีที่เขาควบคุมตัวเองได้ดีไม่เช่นนั้นคงไม่อาจรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เสื้อสีม่วงเข้มค่อยๆ หลุดออก เผยให้เห็นผ้ารัดอกสีขาว หลินมู่อวี่เหลือบมองจนเลือดกำเดาเกือบจะพุ่งออกมา ทรวดทรงของหญิงงามผู้นี้ยอดเกินไปหน่อยแล้วกระมัง ผิวขาวราวหิมะใต้กระดูกไหปราร้าที่งดงาม ด้านล่างมียอดเนินนูนขึ้นมาสองยอด ร่องลึกของเนินนั้นเพียงพอที่จะทำให้วีรบุรุษนับหมื่นยอมพลีชีพได้เลย แต่เหนือผ้ารัดอกขึ้นไปมีรูถูกกัดอยู่ เลือดแข็งตัวจนกลายเป็นเกล็ดสีม่วง พิษเข้าไปลึกแล้ว
“เจ็บไหม” หลินมู่อวี่เห็นแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาหน่อย
ฉินอินขมวดเรือนคิ้วงาม มุมปากปรากฏความอัดอั้นตันใจ “อือ ก่อนหน้านี้ปวดมาก…แต่ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกแล้ว เจ้า…เจ้ามองตรงไหนของเจ้าอยู่น่ะ!”
หลินมู่อวี่รีบชักสายตากลับ เบือนหน้าไปอีกทาง ฝ่ามือค่อยๆ จับปมผ้ารัดอก และดึงลงมาเบาๆ ถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่เขาก็จินตนาการภาพที่ชวนให้ใจหายใจคว่ำนี้ได้
ฉินอินครางเบาๆ เห็นได้ชัดว่าไปถูกบาดแผลเข้า นางเงยหน้ามอง เห็นหลินมู่อวี่ทำท่าหันข้าง จู่ๆ ก็รู้สึกตลก แต่ยังเขินอายอยู่มากกว่า
หลินมู่อวี่หยิบผงสงัดใจขึ้นมา เล็งหาตำแหน่งบาดแผล “ตรงนี้หรือ”
“ไปทางซ้ายอีกนิด…”
ฉินอินมองตำแหน่งฝ่ามือของเขา พลางพูด “มาทางขวาอีกหน่อย ขึ้นมาอีกนิด เอ๊ะ…มือของเจ้าวางไว้ตรงไหนกันน่ะ! ถอยลงมาอีก ใช่ ตรงนั้นแหละ…”
หลินมู่อวี่ค่อยๆ เทยาถอนพิษลงไป พลางกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ก็อารมณ์ร้ายอย่างเจ้านี่ โชคดีที่มาเจอคนใจบุญแบบข้า ไม่เช่นนั้นเหอะๆ…”
ฉินอินแอบยิ้ม “ยังไงก็ขอบคุณเจ้าด้วย…”
“ไม่ต้องเกรงใจ ตกลงกันแล้วว่าจะให้ข้าหนึ่งพันเหรียญทอง จะไม่เบี้ยวใช่ไหม”
“แน่นอนอยู่แล้ว…”