“แล้วจะบอกได้หรือยังว่าพลังที่แท้จริงของเธอคืออะไร?” มิสเอมมี่ถาม ขณะที่กุสตาฟ นั่งตรงข้ามเธอในห้องนั่งเล่น
กสตาฟเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางครุ่นคิด “ผมเดาว่ามันยุติธรรมดีที่ผมจะบอก เพราะคุณเปิดเผยอะไรกับผมมากมาย” กุสตาฟตอบ
“เอาล่ะ เริ่มเถอะ…ฉันรออยู่” มิสเอมมีพูดขณะยกแก้วน้ําขึ้นตรงหน้าเธอเพื่อจิบชา
“ผมสามารถขโมยสายเลือดและทําให้พวกมันเหล่านั้นเป็นของผมได้” กุสตาฟเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา
ทีแรกนั้นหน้ามิสเอมมี่ยังปกติอยู่ แต่แล้วเธอก็ประมวลผลคําพูดของเขา “พรึ่บ!” ดวงตาของเธอเบิกกว้างขณะที่เธอพ่นชาออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจและไอซ้ําแล้วซ้ําเล่า
“มิสเอมมี่ สบายดีไหมครับ” กุสตาฟถามด้วยสีหน้ากังวล
“ไม่มีอะไร…มันคืออะไรนะ” มิสเอมมี่ถามหลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว
“ผมสามารถขโมยสายเลือดได้…และใช้มันเป็นของผม” กุสตาฟป่าคําพูดก่อนหน้าของเขา
“อะไร?” มิสเอมมี่ยังคงไม่เชื่อหูตัวเอง
เธอรู้ว่ากุสตาฟสามารถใช้พลังได้มากกว่าหนึ่งพลัง แต่เธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะเขาสามารถขโมยสายเลือดได้ เธอคิดเสมอว่านี่เป็นเพราะพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขา
“เธอกําลังบอกว่าเธอมีสายเลือดมากกว่าหนึ่งสายเลือดด้วยหรือ?” มิสเอมมีถาม
“อืม ใช่…ก็…” กุสตาฟตอบด้วยท่าทางครุ่นคิด
เขาสงสัยว่าเขาควรจะบอกมิสเอมมีว่าจริง ๆ แล้วเขามีสายเลือดถึง 30 สายหรือไม่ แต่แล้วเขาก็ละทิ้งความคิดนั้นและตัดสินใจที่จะเก็บข้อมูลนั้นไว้กับตัวเอง
ดวงตาของมิสเอมมี่ยังคงเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอีก 2-3 วินาทีก่อนที่เธอจะสงบลง
“เพราะฉะนั้น…” มิสเอมมี่นึกขึ้นได้เมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรหรือเธอมีความสามารถนั้นอยู่เสมอ” มิสเอมมี่ถาม
“ผมได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่ไหล่เขาเมื่อหลายเดือนก่อน…มีดาวดวงหนึ่งพุ่งเข้ามาในพื้นที่ภูเขา ฉันถูกกระแทกจนล้มและตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยความสามารถนี้” กุสตาฟละเว้นบางส่วนของเรื่องราวในขณะที่เขาบรรยาย
“เบน ชาร์ล กอร์ดอน และคนอื่นๆ… นั่นคือเธอหรือเปล่า” มิสเอมมี่ถาม
“อั้ม” กุสตาฟพยักหน้าตอบ “ตอนนี้ผมมีสายเลือดของพวกเขาอยู่ในครอบครองแล้ว” เขากล่าวเสริม
กุสตาฟเปิดใช้งานการเปลี่ยนแปลงของสัตว์ร้าย และแขนซ้ายของเขาแปลงร่างเป็นวัวกลายพันธ์ ในขณะที่แขนขวาของเขามีแสงสีน้ํานมปกคลมมัน
มิสเอมมอธิบายไม่ถูกว่าเธอรู้สึกอย่างไรหลังจากการเปิดเผยนี้ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทําไมกุสตาฟถึงเก็บมันไว้คนเดียวตลอดเวลา แม้ว่าพวกเขาจะสนิทกันมากก็ตามเธอดีใจที่ในที่สุดเขาก็เปิดเผยเรื่องนี้กับเธอ
“กูสตาฟ ฉันไม่จําเป็นต้องบอกเธอว่าเธอไม่ควรเปิดเผยเรื่องนี้กับคนอื่นใช่ไหม” มิสเอมมี่ถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
กุสตาฟพยักหน้าเป็นคําตอบ
“ทุกคนที่มีอานาจจะตามล่าเธอ หากพวกเขารู้เรื่องนี้ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเชื่อใจใครซักคนแค่ไหน อย่าเปิดเผยต่อพวกเขา” มิสเอมมี่แนะนํา
กุสตาฟเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะเชื่อใจใครก็ตามหากพวกเขาไม่มีพลัง เพียงพอพวกเขาก็อาจตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูในอนาคตของเขาและเปิดเผยข้อมูลนี้ นี่คือเหตุผลที่เขาไม่สนใจที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ต่อมิสเอมมี
มิสเอมมี่และกุสตาฟคุยกันอีก 2-3 นาที ก่อนที่มิสเอมมีจะเปิดเผยบางอย่างแก่กุสตาฟ “ฉันไม่เคยคิดวิธีสําหรับการฝึกฝนเธอเลย…เพราะฉันไม่ได้ช่วยให้เธอได้รับอะไรตอบแทน” มิสเอมมีกล่าว
“แม่ของฉันก็เหมือนกับเธอ…สายเลือดต่ำฉันอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนอย่างเธอที่ กรังแกเข้าๆ ออกๆ มาทั้งวันได้รับพลังที่จะตอบโต้..ฉันไม่ได้ผิดหวังกับผลลัพธ์แรกๆ มันเป็นแค่การทดลองสําหรับฉัน แต่ตอนนี้…” มิสเอมมี่จ้องไปที่กุสตาฟด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรักขณะที่เธอหยุดพูดและจิบเครื่องดื่มจากแก้ว
“อืม?” กุสตาฟอยากรู้ว่าคํากล่าวของมิสเอมม่ว่ามันจะเสร็จสมบูรณ์ตอนไหน แต่เขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะไม่พูดจนจบ
“มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันต้องการจากเธอในตอนนี้” มิสเอมมีเริ่มพูดอีกครั้งหลังจากวางแก้วน้ำของเธอลง
“และนั่นคือ..?” กุสตาฟถาม
“อย่าเป็นเหมือนไอ้เลวทรามและคอร์รัปชั่น ถ้าเป็นไปได้ ในขณะที่เธอมีอํานาจให้ลองเปลี่ยน MBO” มิสเอมมี่กล่าว
“เอ่อ…” กุสตาฟวางมือบนคาง ขณะพึมพํา
ต่อมามิสเอมมี่และกุสตาฟไปที่โดโจเพื่อฝึก 2-3 ชั่วโมงก่อนกุสตาฟจะกลับบ้าน
ที่โรงฝึก นักข่าวได้มารวมตัวกันที่นั่นเมื่อได้รับข่าวลือว่าเขาอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจากไป เขากลายเป็นคนอื่น ดังนั้นไม่มีใครจ่าเขาได้
กุสตาฟกลับถึงบ้านก็ประมาณ 4 โมงเย็น
ทันทีที่กุสตาฟมาถึงหน้าอาคารอพาร์ตเมนต์ของเขา เขาได้พบกับแองจี้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมกับกลุ่มคนจํานวนมาก
“กุสตาฟ” เธอเรียกชื่อเขาขณะที่เดินเข้ามาหาเขา
“อืม?” กุสตาฟอุทานด้วยความสงสัยเพราะเขาสามารถบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“มันคืออะไร?” กุสตาฟถามแองจี้
“พ่อแม่ของนายมาเพื่อพบนาย” เธอพูดออกมา “อะไรนะ พ่อแม่” กุสตาฟพูดออกมาด้วยสายตาที่สับสน
“ใช่…ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่านายได้ผมสีบลอนด์มาจากไหน” แองจี้ยิ้มอย่างมีความสุข ขณะที่เธอเปล่งเสียงออกมาขณะที่ชี้ไปที่พ่อแม่ของกุสตาฟที่อยู่ข้างหน้าซึ่งนักข่าวบางคนกําลังสัมภาษณ์อยู่
กุสตาฟไม่ได้สังเกตเห็นพวกเขาในตอนแรกเพราะนักข่าวรายล้อมพวกเขา แต่ตอนนี้เขาสามารถเห็นพวกเขาได้ชัดเจน
แม่ของเขากําลังยิ้มและตอบคําถามของนักข่าวเหล่านี้ ขณะที่พ่อของเขายืนเคียงข้างเธอ
พวกเขาพูดถึงวิธีที่พวกเขาฝึกฝนกุสตาฟให้เป็นคนที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้
ใบหน้าขมวดคิ้วของกุสตาฟยิ่งขมวดเมื่อเขาหันไปด้านข้างและเดินไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขา
แองจี้ประหลาดใจกับการกระทําอย่างกะทันหันของเขาและขยับไปหยุดเขา
“จะไม่ไปเจอพวกเขาเหรอ?” แองจี้ถาม
“ฉันไม่มีพ่อแม่” กุสตาฟพูดขณะเดินไปข้างหน้า
แองจี้รู้สึกสับสนอย่างยิ่ง ณ จุดนี้และยืนนิ่งจ้องมองที่แผ่นหลังของเขาครู่หนึ่ง
ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นกุสตาฟ ณ จุดนี้ เช่นเดียวกับพ่อแม่ของกุสตาฟ
พวกเขาทั้งหมดเคลื่อนเข้าหาเขาอย่างมีความสุข
“เฮ้ ลูกชาย!” พ่อและแม่ของเขาเปล่งเสียงออกมาเมื่อมาถึงตรงหน้าเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม..