ตอนที่ 1 : มรดกจากบรรพบุรุษ
“รอเดี๋ยวนะ ให้ฉันเข้าเรื่องเลยแล้วกัน… เธอจะบอกว่าหนึ่งในบรรพบุรุษของฉันปกครองส่วนหนึ่งของดินแดนอันเดอร์เวิลด์และยังเป็นหนึ่งในสิบสองราชางั้นเหรอ? แต่นับตั้งแต่เขาไม่ได้อยู่กับเรา เขาทิ้งให้ฉันเป็นผู้สืบทอด?”
ที่สวนหย่อมในเมืองอินดิโก้ ลู่หวู่มองไปที่โลลิน้อยที่นั่งอยู่บนม้านั่งไม้อย่างเคร่งเครียด หน้าของเขาบูดบู้ด้วยความสับสน
“ใช่แล้ว และเมื่อนายเป็นผู้สืบทอด นายก็ควรแก้แค้นให้บรรพบุรุษของนาย หลังจากที่เขาจากไป ผู้ที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาก็หันหลังให้กับเขา และยังแบ่งแยกดินแดนเพื่อที่แต่ละคนจะได้แบ่งส่วนกัน ขโมยมรดกที่นายจะได้รับสืบทอดไป!”
ลู่หวู่ไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ “เด็กน้อย เธอเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ? นี่เธอเคยสนุกกับชีวิตบ้างไหม? เธอทำให้ฉันคิดถึงตัวเองเมื่อตอนที่ฉันอายุเท่าๆกับเธอ!”
“นี่ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ บรรพบุรุษของนายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในอันเดอร์เวิลด์จริงๆ เพื่อที่จะขยายเขตแดนจนกว่าอันเดอร์เวิลด์ทั้งหมดจะเป็นของเขา เขาได้ออกเดินทางเพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่อสู้ แต่โชคร้ายที่เขาเสียชีวิตลงในระหว่างนั้น นั่นคือเหตุผลที่นายจะต้องแบกรับมรดกของเขาและกลายเป็นจักรพรรดิแห่งอันเดอร์เวิลด์!”
คราวนี้ลู่หวู่พยักหน้าอย่างจริงใจ เขายื่นมือออกไปเผื่อบอกกับโลลิน้อยว่า “ถ้าอย่างนั้น เธออยากจะมาเป็นมือขวาให้ฉันและช่วยฉันทำภารกิจนี้ไหม? เมื่อถึงเวลาและเราครอบครองทั้งอันเดอร์เวิลและโลกสวรรค์ เราก็จะกลายเป็นผู้ปกครองทั้งสามโลก!”
โลลิน้อยตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินคำพูดของลู่หวู่ หน้าแดงๆของเธอมองจ้องไปที่เขาอย่างมีความหวัง เธอพนักหน้าขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น
“ดีมาก ถ้างั้นเป็นเด็กดีและบอกฉันไว้เธออาศัยอยู่ที่ไหน ฉันจะส่งเธอกลับบ้านก่อน ฉันจะเรียกไปเมื่อฉันเตรียมทหารม้าเสร็จเรียบร้อย”
สีหน้าของโลลิน้อยเต็มไปด้วยความงุนงง “ยังไม่เชื่อใจฉันอีกเหรอ?”
ลู่หวู่ส่ายหัวอย่างจริงจัง “แน่นอนฉันเชื่อเธอ แต่ฉันจะต้องเรียกจักรพรรดิฉินเพื่อขอทหารม้าอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็พร้อมที่จะเข้าสู่อันเดอร์เวิลด์!”
หลังจากเขาพูดจบ โลลิน้อยก็หยิบวัตถุสีดำจากกระเป๋าและยัดลงไปในมือของลู่หวู่ “นี่คือเครื่องรางหยิน… เมื่อนายมีสิ่งนี้ นายจะสามารถเดินทางไปมาระหว่างหยินและหยางได้!”
มันคือเครื่องรางรูปทรงสามเหลี่ยม เนื้อสัมผัสเหมือนทองคำ และยังมีอักขระถูกเขียนเอาไว้ทำให้มันดูลึกลับมาก แม้แต่ลู่หวู่ยังต้องมองซ้ำ
สิ่งที่ตามมาทำให้ลู่หวู่ถึงกับช็อก ก่อนที่ด้านหน้าของเขาจะมีจุดสีดำที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังงานจากข้างในกำลังดึงเขาเข้าไปใกล้จนกระทั่งเขาผ่านทะลุเข้าไป
ความรู้สึกถึงสภาวะการไร้น้ำหนักวิ่งผ่านกระดูกของเขา ในขณะที่ลู่หวู่กำลังหลงอยู่ในมิตินั้นปลายทางของอุโมงค์มืดก็ปรากฏขึ้น เขาถูกโยนออกมาตกลงบนพื้น
ท้องฟ้าเป็นสีดำ เมฆสีเข้มหมุนวน พระจันทร์สีเลือดที่เด่นตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า มันเหมือนกับว่าโลกนี้ถูกฝนเลือดสาดลงมา
ภาพที่ปรากฎด้านหน้าของเขาทำให้ลู่หวู่เชื่อว่าเขาได้ผ่านเข้ามาในโลกอันเดอร์เวิลด์ที่เป็นแค่เรื่องเล่า
เขามองกลับไปเห็นโลลิน้อย ริมฝีปากของเขาสั่นเบาๆ “ทุกอย่างที่เธอพูดมันจริงงั้นเหรอ?”
โลลิน้อยยกมือขึ้นเท้าเอวอย่างคนอวดรู้และพูดว่า “ใช่แล้ว ทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง ดินแดนนี้เป็นของบรรพบุรุษนาย มันถูกตั้งชื่อว่าเป่ยฉี และมันยังเป็นหนึ่งในสิบสองดินแดนหลักในอันเดอร์เวิลด์!”
ครั้งนี้ลู่หวู่เชื่อเธอ ในเมื่อทุกๆอย่างตรงหน้าของเขามันเป็นเหมือนกับสิ่งที่โลลิน้อยได้เคยพูดเอาไว้
“งั้นฉันก็ต้องเป็นผู้สืบทอดของเขา? คนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้ปกครองของอันเดอร์เวิลด์?” สิ่งเหล่านี้มันดีมากเกินกว่าที่จะเป็นจริง สำหรับลู่หวู่แล้วมันยากที่จะยอมรับ แต่มันก็ไม่มีทางไหนที่เขาจะสามารถปฏิเสธข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมนี้ได้เช่นกัน
“ใช่แล้ว! นายจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองแห่งเป่ยฉี แต่ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น นายก็ควรจะเริ่มคิดว่านายจะเอาดินแดนที่เป็นของนายโดยชอบธรรมนี้กลับมาได้ยังไง”
ลู่หวู่คิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่โลลิน้อยได้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้แบ่งแยกดินแดนหลังจากที่บรรพบุรุษของเขาได้ตายไป เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ “แน่นอน มันคือสิ่งที่จำเป็น พวกที่สร้างปัญหาพวกนั้นกล้าที่จะทรยศต่อบรรพบุรุษของฉัน พวกมันจะต้องถูกสั่งสอน แต่คำถามคือ บรรพบุรุษของฉันได้ทิ้งอะไรไว้ให้ฉันบางไหม?” ลู่หวู่มองไปที่เธอ ตาของเขาเต็มไปด้วยความหวังและรอคอยคำตอบ
“ไม่มี” โลลิน้อยยักไหล่
“นายต้องรู้ว่า ทุกๆสิ่งในอันเดอร์เวิลด์ต้องใช้เวลาและการฝึกฝนเพื่อที่จะสร้างพื้นฐาน แม้ว่านายจะฝึกฝนมานับพันปี มันก็ยังยากที่นายจะเทียบเท่ากับบรรพบุรุษของนาย” โลลิน้อยตอบอย่าซื่อตรง
ลู่หวู่ผงะไปชั่วครู่ “ถ้าอย่างนั้นเรามีพวกทหารม้าสักหนึ่งหมื่น ทหารราบ ม้าเกราะ หรืออะไรประมาณนั้นไหม?”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น ก่อนที่บรรพบุรุษของนายจะตาย ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้หักหลังเขามานานแล้ว นอกจากปราสาทนี้ นายก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีกแล้ว”
เมื่อเธอพูดจบ เธอก็ชี้ไปทางปราสาทที่ถูกเผาไหม้และถูกทิ้งร้างมานานแล้ว
“งั้นฉันก็ต้องหยิบอาวุธขึ้นสู้และเอาของที่เป็นของฉันคืนมา!” หน้าของลู่หวู่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความโมโห
“ไม่.. เดี๋ยวก่อน นายยังมีฉัน!” โลลิน้อยประกาศกร้าวด้วยความมั่นใจ เธอยกมือขึ้นมาท้าวเอวอีกครั้ง
สายตาของลู่หวู่เปล่งประกายด้วยความหวังเมื่อเขาได้ยิน “งั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยที่เธอจะค่อนข้างแข็งแกร่ง!”
โลลิน้อยส่ายหัว ทำหน้ามุ่ย “ครั้งหนึ่งฉันเคยสู้กับผีและฉันก็เกือบโดยมันกิน มันเป็นประสบการณ์ที่สยดสยองมาก!”
สายตาของลู่หวู่ห่อเหี่ยวทันที มรดกชิ้นนี้จริงๆแล้วก็เป็นแค่โลลิตัวน้อยๆที่มีสกิลการต่อสู้เป็นศูนย์ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับโลกอันเดอร์เวิลด์ มันน่าจะถูกแล้วถ้าเธอโดนกินไป
ดูจากความผิดหวังทีอยู่ทั่วไปหน้าของเขา โลลิน้อยก็หัวเราะออกมาดังลั่น เธอล้วงเอาแหวนวงหนึ่งออกมาจากกระเป๋า “ปู่ของนายใช้ลมหายใจสุดท้ายของเขาในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่อสู้ แต่ฉันช่วยเขาในขั้นตอนสุดท้าย ดังนั้นสบายใจได้เลยว่าสิ่งประดิษฐ์พวกนี้มันทำขึ้นมาเพื่อนาย”
ลู่หวู่ตกตะลึงเมื่อได้รับแหวนไป แสงระเรื่อสีน้ำบางๆที่ดูเยือกเย็นสะท้อนออกมาเมื่อมีแสงมาตกกระทบ “มันทรงพลังมากไหม?
โลลิน้อยพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ สุดๆ ลองใส่มันดู!”
ลู่หวู่ตั้งตารอว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาสวมสิ่งประดิษฐ์ต่อสู้ลงบนนิ้วชี้ของเขา
อยู่ๆก็มีแสงระเรื่อสีน้ำเงินปรากฏขึ้นห่อหุ้มไปทั่วร่างกายของลู่หวู่
[เริ่มต้นสิ่งประดิษฐ์ต่อสู้ วิเคราะห์ตัวตนผู้ใช้งาน…]
[การวิเคราะห์เลือดเสร็จสมบูรณ์ วิเคราะห์ผู้ใช้งานคือทายาทของผู้ปกครองเป่ยฉี เริ่มทำการผูกพันธะสิ่งประดิษฐ์เข้ากับผู้ใช้งาน…]
ข้อความเสียงทั้งสองดังขึ้นในหัวของลู่หวู่ ตามมาด้วยวิธีใช้งานสิ่งประดิษฐ์ต่อสู้