สิ่งที่เป่ยลี่พูดทำให้ลู่หวู่คิดได้ว่ามีความลับที่ซ่อนอยู่เบื้อหลังโลกที่ดูธรรมดาใบนี้มากมาย
“หวู่ ไม่ต้องกังวลมากนัก แค่ผ่อนคลายและโฟกัสที่เกมของนาย นายต้องรู้ว่าตอนนี้นายกำลังควบคุมนุษย์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในสามโลก ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยกลัวต่อโลกอมตะ อีกอย่าง นายมีสิ่งประดิษฐ์ที่คอยช่วยอยู่… อนาคตของนายจะทำให้โลกต้องสั่นไหว จึงไม่จำเป็นจะต้องกลัวกองทัพใดๆ!”
ลู่หวู่พยักหน้าให้กับคำปลอบใจของเป่ยลี่ อย่างที่เธอพูด ตอนนี้เขานั้นมีสิ่งประดิษฐ์อยู่ อีกทั้งยังคอยดูแลเผ่าที่มีพรสวรรค์มากที่สุด ถ้าเขามีเวลามากพอ ก็ไม่มีใครที่จะมากีดขวางหนทางแห่งความสำเร็จของเขาได้!
“แล้ว มีบางคนอยากต่อต้านพวกเขา?” เขาเสี่ยงถามออกไป
เป่ยลี่พยักหน้า “มันมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นกองทัพจากอันเดอร์เวิลด์ ฉันไม่มั่นใจว่าจุดประสงค์คืออะไร แต่นายควรจะหยุดความอันตรายนี้ลงเดี๋ยวนี้!”
“ทำไม?”
“พลังของโลกมนุษย์และอันเดอร์เวิลด์นั้นไม่สามารถเทียบกับพลังของสวรรค์ได้ในตอนนี้ ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องแบกรับสงคราม ความคิดของเขามันเรียบง่ายเกินไป ไม่ใช่แค่เขาที่ถูกลิขิตมาให้พ่ายแพ้ แต่เขาจะเป็นภาระให้กับโลกอีกสองใบ!”
ลู่หวู่หายใจเข้าเต็มปอด “ฉันควรจะทำยังไง?”
“ถ้าเขาจะก่อกบฏ เขาจำเป็นจะต้องใช้เครื่องรางหยินเพื่อเดินทางมาที่โลกมนุษย์และหาโอกาสที่เหมาะสม ฉันจะสัมผัสถึงเขาได้ทันทีที่เขาผ่านประตูทั้งหกแห่งการเกิดใหม่ แล้วฉันจะบอกนายและวางแผนให้!”
ลู่หวู่พยักหน้าอย่างแรงเมื่อได้ยิน
…
อันเดอร์เวิลด์ พื้นที่สุสาน
หลังจากมหาสงครามระหว่างเทพปิศาจกับไฮเดริกามิจบลง ดินแดนแห่งนี้ก็กลายเป็นซากหักพัง
ในตอนนี้ เงาของผู้เล่นที่กำลังเดินอยู่บนดินแดนที่ผุพังกำลังเหยียบย่ำลงบนพื้นดินพร้อมกับสายตาที่ขยับไปมา เหมือนกับว่าเขากำลังค้นหาบางอย่างอยู่
หลังจากเดินผ่านเสาหินที่พังทลาย ใบหน้าของฮู่เฮ่อก็เต็มไปด้วยความยินดี เขารีบวิ่งไปที่กระดูกวิญญาณที่เหลืออยู่ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยก้อนหิน มีเพียงแขนที่เห็นได้เท่านั้น
ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย เขาก็เอาก้อนหินพวกนั้นออกไปได้ เผยให้เห็นนักรบกระดูกวิญญาณที่อยู่ด้านล่าง
จากนั้นเขาก็เริ่มค้นหาบนร่างกายของกระดูกวิญญาณเพื่อของที่ยังใช้ได้ หลังจากนั้นเขาก็เดินไปมาอีกครั้ง
สองชั่วโมงผ่านไป ฮู่เฮ่อก็ไปกรากฎตัวอยู่นอกพื้นที่สุสาน
หลังจากพบว่ามันเป็นพื้นที่ที่ว่างเปล่า ฮู่เฮ่อก็เปิดช่องของเขาขึ้นมาและเททุกอย่างที่เขาเก็บมาลงบนพื้น
เขาเปิดคลังรูปภาพในเกมขึ้นมาและค้นหารูปของ ความลับของเผ่าวิญญาณซอมบี้ที่เขาถ่ายเอาไว้ในชีวิตจริง
จ้องไปที่หนังสือโบราณ ความคาดหวังก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮู่เฮ่อ
เขานั้นแตกต่างจากวัยรุ่นส่วนใหญ่ในชีวิตจริง เขาเชื่อในเรื่องการมีอยู่ของพระเจ้าและผู้บ่มพลัง เนื่องจากปู่ของเขาเป็นผู้บ่มพลัง
ฮู่เฮ่อจำได้ว่าปู่ของเขานั้นเป็นคนแปลกๆและปลีกวิเวก เขาใช้เวลาทั้งชีวอตอยู่ในกระท่อมที่เขาสร้างขึ้น อยู่ในพื้นที่ฝังศพด้านหลังของหมู่บ้านและอยู่ที่นั่นตลอดปี เขาจะไม่กลับมาที่บ้านถ้าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเยี่ยมเยียน ปู่ที่ไม่ปกติคนนี้ก็ทำให้ฮู่เฮ่อช็อคไปตลอดชีวิต
มันเป็นช่วงวันหยุดหน้าร้อนของปีนั้น ตอนที่ฮู่เฮ่อกลับไปเยี่ยมปู่ย่าพร้อมกับพ่อแม่ของเขา เพื่อที่จะเซอร์ไพร้ปู่ เขาปีนเขาขึ้นไปคนเดียวและมุ่งหน้าไปที่สุสานที่ปู่ของเขาอยู่
ด้วยเหตุนั้น เขาจึงได้ค้นพบความลับของปู่
เมื่อเขาไปถึงอย่างเงียบๆบนภูเขาและเข้าไปใกล้สุสาน เขาเห็นปู่ของเขาและตัดสินวิ่งเข้าไปเพื่อเซอร์ไพร้เขา
แต่ยิ่งเขาเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ฮู่เฮ่อก็พบว่าปู่ของเขากำลังถือแขนขาที่หักๆที่ปกคลุมไปด้วยโคลนและกำลังวาดบางสิ่งบนอากาศอย่างตื่นเต้น
เด็กน้อยฮู่เฮ่อคิดว่าปู่ของเขาได้ฆ่าใครลงไป ในขณะเดียวกัน เนื่องจากความกลัวที่เขามี เขายืนอยู่ไม่ไกล จ้องอยู่เงียบๆ แต่ปู่ของเขาก็ไม่ได้สังเกตุเห็นเขา
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฮู่เฮ่อสตั้น
ขณะที่ปู่ของเขาวาดมือไปบนอากาศ แขนขาที่แตกหักก็ค่อยๆกลับมาผสานกัน ก่อร่างของซอมบี้ยักษ์สูงถึงสองเมตร
เมื่อเห็นอย่างนั้น ฮู่เฮ่อก็นั่งอยู่เฉยๆไม่ได้อีกต่อไป จากนั้นสายตาของปู่ก็สังเกตเห็นและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาหันไปชี้ ซอมบี้ยักษ์ตัวนั้นกระโดดไปที่เขาอย่างรวดเร็ว
ฮู่เฮ่อยังจำได้แม่นว่ากรงเล็บสีดำประกายของซอมบี้ตัวนั้นอยู่ห่างจากคอของเขาออกไปเพียงไม่กี่เซ็น ถ้าปู่ของเขาหยุดซอมบี้ตัวนั้นเอาไว้ไม่ทัน เขาคงตายไปแล้ว
ฮู่เฮ่อตะโกนสุดเสียง ขณะที่ปู่ของเขารีบสั่งให้ซอมบี้หายไปและดึงแขนเขาขึ้นมา ขณะที่เขากำลังปลอบใจฮู่เฮ่อ สายตาของเจานั้นเต็มไปด้วยความกังวล
ตั้งแต่นั้นมา เขาก็รู้ว่าปู่ของเขานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา
จากวันนั้นเป็นต้นมา ด้วยความสงสัย ฮู่เฮ่อจะไปหาปู่ของเขาทุกๆวันหยุด
เขาอาจจะได้รับอิทธิพลจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่หรือการ์ตูน ฮู่เฮ่อคิดว่าครอบครัวของเขาอาจจะมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา และเขาจะสามารถสืบทอดพลังเหนือธรรมชาติเหล่านั้นได้เช่นกัน
ปู่ของเขาไม่ได้ปกปิดความลับกับเขาอีกต่อไป เขาบอกฮู่เฮ่อว่าบรรพบุรุษของเขาเป็นผู้บ่มพลังของนิกายซอมบี้วิญญาณ เชี่ยวชาญเวทย์มนต์การซัมม่อนซอมบี้ การปลุกพลังซอมบี้ และรวบรวมซอมบี้
เด็กน้อยฮู่เฮ่อบอกกับปู่ของเขาอย่างตื่นเต้นว่าเขาอยากจะเรียนรู้แล้วบ่มพลังเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะแสดงบางทักษะให้หลานของเขาดูบ้างบางครั้ง ภาคภูมิใจกับชื่อเสียงนาฐานะปู่ แต่เมื่อมันกลายเป็นความหลงไหลของฮู่เฮ่อในการบ่มพลัง เขากลับดื้อดึงและปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ฮู่เฮ่อพยายามทุกทางที่เป็นไปได้แต่ก็ล้มเหลวที่จะเรียนวิธีบ่มพลังจากปู่ของเขา มันทำให้เขาหดหู่มาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อฮู่เฮ่ออายุครบ 23 ปี เขาก็ได้รับข่าวที่ทำให้เขาช็อคในตอนที่เขายังอยู่ในมหาวิทยาลัย ปู่ของเขาไม่สบายและอยากจะพบเขาเป็นครั้งสุดท้าย
ฮู่เฮ่อรีบข้ามเมืองกลับไปเมื่อพบเขา และเมื่อเขาพบกับปู่ เขาก็พบว่าสีหน้าของปู่เขานั้นซีดราวกับผงถ่าน เหมือนกับต้นไม้เก่าๆที่กำลังเน่าเปื่อย บรรยากาศแห่งความตายปกคลุมไปทั่ว
เมื่อเห็นว่าฮู่เฮ่อมาถึง ชายแก่ก็รวบรวมกำลังที่เหลืออยู่ขึ้นมาจับมือของเขาเอาไว้ เขาขยับเข้าไปใกล้ๆและพูดว่า “เฮ่อน้อย… นี่เป็นเหตุผลที่ปู่ไม่ยอมให้เจ้าบ่มพลัง… ปู่ไม่อยากให้เจ้าต้องจบลงอย่างอนาถเหมือนกับปู่”
เมื่อเห็นว่าชายแก่นั้นรักเขามากขนาดไหน น้ำตาของฮู่เฮ่อก็ไหลลงมาบนใบหน้า
“ถ้าเจ้าต้องการสิ่งใด… เจ้าต้องให้สิ่งนั้นตอบแทนกลับไป… ตอนนี้เจ้ารู้ถึงผลที่ตามมาแล้ว… คำตอบที่เจ้ารอมานาน… ปู่ทิ้งมันเอาไว้ด้านล่างของกระท่อม… ตอนนี้เจ้าโตขึ้นแล้ว… เจ้าจะเลือกอย่างไร… มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเองแล้ว”
หลังจากพูดจับ ปู่ของฮู่เฮ่อก็หลับตาไปตลอดกาล
ฮู่เฮ่อพบความลับของนิกายซอมบี้วิญญาณขณะที่กำลังเก็บของใช้ของปู่ในกระท่อม
ในเวลานั้น ฮู่เฮ่อลังเล เขาอยากบ่มพลัง มันเป็นความฝันตั้งแต่เขายังเด็ก แต่ขณะเดียวกัน คำแนะนำของปู่ก็ดังขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง
ท้ายที่สุด ด้วยความคิดที่ว่าเจาอยากจะลองมันดูและไม่ได้บ่มพลังจริงๆจังๆ เขาจึงเริ่มอ่านหนังสือโบราณ