คำพูดของชางสือทำให้แปดเทพเกิดความโกรธ การแสดงออกของพวกเขาเริ่มอึมครึมเมื่อพวกเขาด่าตำหนิชางสือ “ชางสือ มีขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างสามโลก ผู้ที่มาจากอันเดิลเวิล์ดไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่โลกของสิ่งมีชีวิตหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่ามนุษย์ เจ้าใช้เครื่องรางหยินเพื่อเข้าสู่โลกของสิ่งมีชีวิตซึ่งมันผิดกฎ! เรามีสิทธิ์ที่จะจับกุมเจ้าในฐานะผู้ควบคุมกฏทั้งสามโลก”
ชางสือยิ้มอย่างแผ่วเผา “แปลกจริงๆ…พวกเจ้าไม่กลัวเหรอว่ามนุษย์จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอีก? ทำไมพวกเจ้าไม่กำจัดพวกมันไปซะ ทำไมต้องตั้งกฏสำหรับโลกทั้งสามนี้? พวกเจ้ามันเป็นพวกหน้าซื้อใจคด”
“เจ้า…เจ้ากำลังพยายามที่จะจุดประกายสงครามระหว่างโลกแห่งอมตะและอันเดิลเวิล์ดงั้นรึ?”
“คำพูดเหล่านั้นเป็นคำพูดของข้าล้วนๆ มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอันเดิลเวิล์ด! ข้าไม่สามารถยืนอยู่กับพวกหน้าซื้อใจคดเช่นพวกเจ้าได้แล้ว พวกเจ้าไม่ได้จับข้างั้นหรอกหรือ? งั้นก็มาจับข้าไปสิ”
ชางสือลอยอยู่กลางอากาศขณะที่จ้องมองไปที่แปดเทพ
แปดเทพไม่สามารถทนต่อการถูกดูหมิ่นได้อีกต่อไป พวกเขาใช้มือเพื่อสะกดผนึกและในไม่ช้าก็เสร็จ มีหลายดาบสีน้ำเงินปรากฏขึ้นและบินลอยอยู่ในอากาศ
“การก่อตัวสังหารปีศาจ – การสังหาร”
การก่อตัวขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาทันทีในขณะที่ดาบสีน้ำเงินจำนวนมากที่กระจัดกระจายเริ่มมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน โดยก่อตัวเป็นดาบสีน้ำเงินขนาดใหญ่ เทพแปดองค์ยืนอยู่ด้านหลังของดาบใหญ่และชี้นำมันแทงไปที่หัวชางสือ
ชางสือสงมอย่างสมบูรณ์แม้ต้องเผชิญกับการโจมตีที่ทรงพลังของเหล่าเทพ เขาส่ายมือขวาเบาๆก่อนที่ดาบยาวโบราณปรากฏขึ้นในกำมือของเขา จากนั้นเขาก็เอียงร่างกายแล้วฟันไปข้างหน้าด้วยกำลังเต็มที่
รังสีดาบยาวร้อยเมตรพุ่งทะลุท้องฟ้าและไปชนกับดาบใหญ่สีน้ำเงิน
ท้องฟ้าทั้งหมดถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวในทันที และพลังงานจากแรงกระแทกก็กระจายออกไปเหมือนระลอกคลื่น
“ชางสือ เจ้ากล้าโจมตีพวกเราได้อย่างไร! เจ้าต้องการเริ่มต้นสงครามระหว่างสองโลกงั้นหรือ?”
“อย่างที่ข้าได้พูดไป ไม่มีอะไรเกี่ยวกับที่ข้าทำที่เกี่ยวกับอันเดิลเวิล์ด”
“บูม!”
เสียงระเบิดดังสนั่นขณะที่ดาบใหญ่สีน้ำเงินฉีกรังแสงดาบออกเป็นชิ้นๆ
ชางสือเหวี่ยงดาบยาวโบราณของเขาผ่านอากาศอีกครั้ง
เมื่อลำแสงสีม่วงของรังสีดาบพุ่งทะลุท้องฟ้า มันดูดซับพลังงานวิญญาณจากสภาพแวดล้อมและเพิ่มขนาดและพลัง อีกครั้งมันชนกับดาบใหญ่สีน้ำเงิน โดยปิดกั้นการโจมตีของเหล่าแปดเทพ
ในขณะนั้น หลายเงากระโดดขึ้นไปในอากาศ
“ฝ่าบาท รี่อิงอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือท่าน”
“ฝ่าบาท เฟิงชุยอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือท่าน”
“ฝ่าบาท อี้หลงอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือท่าน”
……
พวกเขาทั้งหมดปรากฏตัวขึ้นด้านข้างชางสือในอากาศ และจ้องมองแปดเทพด้วยความโกรธ
การแสดงออกของแปดเทพกลายเป็นเคร่งเครียดเมื่อเห็นพวกเขา
พวกเขาคิดว่าชางสือกำลังจะตามพวกเขากลับไปอย่างเชื่อฟัง พวกเขาไม่คาดหวังว่าเขาจะลุกขึ้นต่อสู้
หากชางสือเป็นเพียงคนเดียวที่พวกเขาต้องเผชิญ แล้วมันจะไม่เป็นปัญหาใหญ่ขนาดนั้น อย่างไรก็ตามด้วยเหล่าราชาผีและเหล่านายพลผียืนอยู่กับเขา แปดเทพจะไม่มีโอกาสต่อสู้กับพวกเขา
“การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับพวกเจ้าเลย ออกไป” ชางสือจ้องมองที่ลูกน้องของเขา แล้วสัมผัสได้ถึงความภักดีของพวกเขา แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังคงหนักแน่นเหมือนเดิม
“ฝ่าบาท…”
“ข้าบอกให้ออกไป เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าบอกหรือ?” สีหน้าของชางสือเปลี่ยนเป็นเย็นชา
เหล่านายพลผีและราชาผีสั่นเทาภายใต้ออร่าคุกคามของชางสือ ซึ่งเป็นผลออร่ามาจากการปกครองแผ่นดินชางสือมานานกว่าหมื่นปี
“โปรดจากไปซะ นี่คือสงครามระหว่างผู้ทรยศของอันเดิลเวิล์ดและเหล่าทวยเทพ หรือว่าพวกเจ้าตั้งใจที่จะเป็นผู้ทรยศอันเดิลเวิล์ดด้วยเช่นกันยังงั้นรึ?”
ชางสือโบกมือแล้วเกิดการกระแทกลูกน้องลงไปบนพื้นเมื่อเขาเห็นว่าพวกเขามีรูปลักษณ์ลังเล
หลังจากนั้นเขาก็หันไปยังท้องฟ้า “พวกเจ้าเป็นสิ่งรบกวนสายตาข้ามาตลอด ในตอนนี้พวกเจ้าได้มาที่นี่แล้ว แสดงให้ข้าเห็นทีว่าพวกเจ้ามีดีอะไรบ้าง”
ชั้นของพลังงานสีม่วงปรากฏบนร่างของชางสือ ซึ่งกัดกร่อนและกินเสื้อผ้าของเขาก่อนที่จะควบแน่นและแข็งตัวเป็นชุดเกราะทองคำม่วง
“ยอมแพ้ซะ เจ้าบ้า” การแสดงออกของแปดเทพดูอึมครึมเมื่อเห็นว่าชางสือกำลังวางแผนที่จะต่อสู้กับพวกเขาทั้งหมด รัศมีของดาบใหญ่สีน้ำเงินขยายตัวในขณะที่มันหมุนเหวี่ยงไปทางชางสือด้วยอำนาจอันทรงพลัง
ชางสือพุ่งไปข้างหน้าและตอบโต้การโจมตีของดาบใหญ่สีน้ำเงินด้วยดาบยาวโบราณของเขา
บูม! พลังอันทรงพลังสั่นสะเทือนเหนือวังของชางสือ
“รับนี้!” ผมยาวของชางสือพลิ้วไหวเหนือสายลมเมื่อเขาแทงดาบยาวของเขาขึ้นไปข้างบน
รอยแตกหลายแห่งปรากฏบนดาบใหญ่สีน้ำเงิน ซึ่งแผ่ไปทั่วพื้นผิวของดาบในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
แคร๊ก…บูม!
ก้อนเมฆเห็ดถูกก่อตัวขึ้นในอากาศ บังคับให้ชางสือและเหล่าแปดเทพถูกกระแทกกลับไปข้างหลังไม่กี่ก้าว
“เจ้าเรียกตัวเองว่าเทพยังงั้นเหรอ? อ่อนแอนัก” ชางสือทรงตัวและชี้ดาบยาวไปที่แปดเทพ ซึ่งมีรอยย่นปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา
“เจ้า…” แปดเทพไม่พอใจอย่างยิ่งเนื่องจากพวกเขาตัดสินใจผิดเกี่ยวกับความสามารถของชางสือ พวกเขาจะกลายเป็นที่หัวเราะแน่นอนหากพวกเขากลับไปมือเปล่า
จู่ๆก็มีฝ่ามือยักษ์สีทองปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและลงมาอย่างช้าๆเมื่อพวกเหล่าเทพกำลังจะทำการโจมตีอีกครั้ง มันก่อให้เกิดลมกระโชกรุนแรงซึ่งรุนแรงจนแม้แต่นายพลผีและราชาผีกระเด็นออกไป
“นายท่านพระเจ้า” แปดเทพหันไปมองในเวลาเดียวกันและทักทายผู้มาใหม่
รูปลักษณ์ของฝ่ามือขนาดใหญ่ที่มีบารมีของโลกมีอำนาจราวกับภูเขาใหญ่โต
ใบหน้าของชางสือตกต่ำขณะที่จ้องฝ่ามือทองยักษ์ เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่านายท่านพระเจ้าจะปรากฏตัวเพียงเพื่อจับเขา
“ข้าจะจัดการท่านซะ” เขาเหวี่ยงดาบยาวโบราณอีกครั้งพร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า
แคร๊ก! ดาบยาวโบราณแตกเป็นชิ้นๆทันทีที่มันสัมผัสกับฝ่ามือทองขนาดใหญ่ เกราะทองคำม่วงของชางสือร้าวขณะที่ชางสือกระเด็นกลับหลังและชนเข้าอย่างหนักบนพื้น จนทำให้เขาไอเป็นเลือดออกมา
“เจ้าดื้อดึงนัก งั้นก็ตายซะ”
ได้ยินเสียงดังกึกก้องบนท้องฟ้าก่อนที่ฝ่ามือทองคำยักษ์จะตกลงมาอีกครั้งด้วยความเร็วที่มากขึ้น ทำให้พื้นที่ด้านล่างบิดเบี้ยวจากแรงกดดันอันยิ่งใหญ่
สายตาของชางสือเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาพยายามตีโต้ แต่เขาไม่สามารถแม้แต่จะขยับสักนิ้วได้ภายใต้การปราบปรามของฝ่ามือทองคำขนาดยักษ์ เนื่องจากมันได้ปิดขังพื้นที่รอบตัวเขา
แม้ว่าเขาจะวางแผนสิ่งนี้มานานกว่า 10,000 ปี แต่ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆจะจบลงด้วยแบบนี้ ชางสือปล่อยวางตัวบนพื้นอย่างนิ่งๆและจ้องมองไปที่ฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์ที่ลงมาหาเขา เขายิ้มเยาะเย้ยตัวเองขณะที่ปิดตาลงอย่างช้าๆ
ข้ากำลังจะตายใช่มั้ย?
ภาพเงาของเธอปรากฏในใจของเขาและเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น
ย้อนกลับไป สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักในนามดินแดนแห่งหยวนซูซึ่งปัจจุบันเป็นชางสือ เขาเป็นเพียงชายหนุ่มที่มุ่งเน้นการเป็นคนแข็งแกร่ง โดยไม่มีเจตนาที่จะเป็นผู้ปกครองของดินแดนนี้
ครั้งแรกที่พวกเขาพบกันก็คือที่พาโก้ด้าเมาน์เท็น เธอแต่งตัวในผ้าขี้ริ้วขณะที่สั่นอยู่ภายใต้โพรงต้นไม้ในขณะที่มองทุกอย่างรอบตัวเธอด้วยสายตาที่ระแวดระวัง
หลังจากเจอเธอโดยบังเอิญ ชางสือส่งอาหารให้เธอด้วยความสงสาร ซึ่งทำให้เด็กผู้หญิงคนนั้นตามเขาติดๆไม่เลิก เขาไม่สามารถสลัดเธอออกไปได้แม้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
เธอบอกกับชางสือว่าชื่อของเธอคือเสี่ยนเคอ และเธอมาจากสวรรค์ พ่อแม่ของเธอบังคับให้เธอฝึกฝนทุกวัน ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและในวันหนึ่งหนีเข้าไปในอันเดิลเวิล์ดโดยเข้ามาผ่านประตูเชื่อมจิตวิญญาณ
เธอลงเอยในพาโก้ด้าเมาน์เท็น ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์ป่าดุร้าย เนื่องจากเธอขาดการฝึกฝน เธอจึงไม่สามารถปกป้องตัวเองและถูกบังคับให้ซ่อนในโพรงต้นไม้เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและสิ่งอื่นๆที่มุ่งร้าย
ในฐานะเด็กผู้หญิงไร้เดียงสาที่ไม่สามารถเอาชนะหมาป่าได้ เธอใช้เวลาของเธอในพาโก้ด้าเมาน์เท็นโดยหลบซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็กๆ เธอจะต่อสู้หรือหนีจากสัตว์ป่าโดยขึ้นอยู่กับว่าพวกมันแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะชางสือ เสี่ยนเคอคิดว่าเธอคงอดตาย
การเผชิญหน้าของพวกเขานำไปสู่ความสัมพันธ์อันยาวนานที่ยาวนานถึง 10,000 ปี
เขาเก็บความลับเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเสี่ยนเคอ และในที่สุดเธอก็ตกหลุมรักชางสือผู้หลงใหลการฝึกฝน
พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยกันขณะที่ความรักเริ่มเบ่งบานระหว่างพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ชางสือปฏิเสธที่จะยอมรับความรู้สึกของเขาสำหรับเธอในเวลานั้น เขาเพิกเฉยต่อความรู้สึกของเธอและปฏิเสธเธออย่างเย็นชา ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฝึกฝนของเขา
สิ่งต่างๆระหว่างพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อชางสือเข้าร่วมกองทัพของราชาหยวน เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อขัดแย้งกับลูกของราชาผีและเกือบจะพ่ายแพ้จนตาย
เพราะเหตุการณ์นั้น ชางสือก็ยิ่งกลายเป็นบ้าการฝึกฝนมากขึ้น เขาหมกมุ่นอยู่กับความหวังที่จะแข่งแกร่งขึ้นเพื่อเปลี่ยนชะตากรรมที่บอบบางของเขา
เสี่ยนเคอเฝ้าดูขณะที่ชางสือมีการเปลี่ยนแปลง แต่เธอก็ยังสนับสนุนเขาต่อไป
อย่างไรก็ตามหนทางสู่ความสำเร็จนั้นยากลำบากอย่างแน่นอน เพื่อที่จะให้มีเขี้ยวเล็บ เขาต้องไปสู่เส้นทางอำนาจซึ่งต้องผ่านการยกระดับในกองทัพราชาหยวน การทำงานหนักเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ทรัพยากรและอำนาจก็มีความจำเป็นเช่นกัน
ชางสือไม่สามารถปรับตัวได้ในเวลานั้น ดังนั้นเขาจึงต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย เขาถูกรังแกอยู่ตลอดเวลาและเกือบจะตายไปสองสามครั้ง ถ้าไม่ใช่สำหรับเสี่ยนเคอผู้ดูแลเขา เขาคงจะตายไปนานแล้ว
ทัศนคติของเสี่ยนเคอต่อพฤติกรรมของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นว่าเขากลับมาด้วยบาดแผลบ่อยเพียงใด เธอรู้ว่าเสี่ยนเคอจะตายในวันหนึ่งถ้าสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม ชางสือไม่ฟังเธอเลย เขาคิดว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จจะต้องเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างแน่นอน และเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเขาก้าวข้ามผ่านมันได้
และนั่นทำให้เสี่ยนเคอตัดสินใจที่จะเสียสละตัวเองเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของเขา
ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากนั้น คนอื่นมักจะแบ่งปันเทคนิคการฝึกฝนให้เขา และไม่มีใครกล้ารังแกเขาในกองทัพอีกต่อไป
สิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นมากหลังจากนั้น และจับคู่กับความมุ่งมั่นของเขาที่จะแข็งแกร่งขึ้น ในที่สุดชางสือก็กลายเป็นนายพลผีในดินแดนหยวนซู
อย่างไรก็ตาม ชางสือรู้สึกว่างเปล่าในที่สุดเมื่อเขาได้รับพลังที่เขาต้องการมาตลอด ราวกับว่าเขาสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญ
ในเวลานั้นเมื่อเขาตระหนักว่าเขาตกหลุมรักผู้หญิงที่มอบทุกอย่างให้เขา
เขามองหาเธอและสารภาพกับเธอ โดยบอกเธอว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอ อย่างไรก็ตามเธอปฏิเสธเขา โดยบอกว่าเธอไม่คู่ควรกับเขาและบอกว่าเธอไม่ได้รักเขาอีกแล้ว
ทุกสิ่งเปลี่ยนไป ทันทีที่ชางสือตระหนักถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ เธอก็ได้ตัดใจจากเขาแล้ว
เขารู้สึกหลงทางมาก ไม่รู้ว่ามีอะไรผิดพลาด
เรื่องนี้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งวันที่เขาเห็นเสี่ยนเคอในคฤหาสน์ของราชาผี จากนั้นเขาก็ตระหนักถึงสิ่งที่เสี่ยนเคอทำเพื่อเขา
เขาเต็มไปด้วยความเสียใจและสิ้นหวัง แต่เขาไม่สามารถเปลี่ยนอดีตได้
ด้วยความสิ้นหวัง เขาพยายามกลบความรู้สึกของเขาด้วยการดื่มติดต่อกันสามวัน และเขาก็เมามายอย่างสมบูรณ์เป็นเวลาสามคืนติดต่อกัน
สามวันต่อมา เขาหยิบดาบขึ้นมาและเข้าสู่คฤหาสน์ของราชาผี โดยสาบานว่าจะนำหญิงสาวที่เขารักกลับมาด้านข้าง
ครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเธอคุกเข่าขอความเมตตาจากราชาผีด้วยน้ำตาคลอ
ชีวิตของชางสือถูกช่วยไว้ และเขาได้รับแรงบันดาลใจให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ผู้หญิงที่เขารักกลับมา
อย่างช้าๆเขาลุกขึ้นจากนายพลผีเป็นราชาผี และในที่สุดก็ได้ตำแหน่งที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนของหยวนซู ในที่สุดเขาก็บรรลุเป้าหมายและสังหารราชาผีด้วยมือของเขาเอง
ในวันนั้นทุกคนจากดินแดนชางสือมาแสดงความยินดีกับเขา แต่เธอก็ยังปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา แม้ว่าเขาจะแต่งตัวเธอด้วยชุดผ้าไหมด้วยมือของเขาเอง เธอพูดกับเขาว่า “ข้าจะแต่งงานกับฝ่าบาทที่เป็นอดีตคนขุดเหมืองได้ยังไง?”
ชางสือโกรธและถามเธอ เขาพูดกับเธอว่า “ข้าเป็นผู้ปกครองแผ่นดินชางสือ ข้ายังไม่คู่ควรกับเจ้าได้ยังไง?”
เธอยิ้มอย่างรังเกียจใส่เขา “ถ้าไม่ใช่ที่ข้าทำในอดีต ท่านจะยังคงเป็นผู้ปกครองของดินแดนนี้หรือ?”
แม้จะมีความสัมพันธ์นยาวนานนับ 10,000 ปี แต่ความสัมพันธ์นี้ก็จบลงด้วยความว่างเปล่า
จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่เขารู้ว่าถึงแม้เธอจะมีธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ แต่แหล่งพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอก็หมดลงจากการอยู่ในโลกอันเดิลเวิล์ดนานเกินไป และเธอกำลังจะตาย
เธอไม่ต้องการที่จะเป็นภาระให้เขา และต้องการที่จะจากโลกนี้ไปอย่างเงียบๆ
ชางสือได้ยินเกี่ยวกับข่าวและมองหาวัสดุจิตวิญญาณอย่างเอาเป็นเอาจาย โดยหวังที่จะฟื้นฟูชีวิตที่เหี่ยวแห้งของเธอ
วัสดุจิตวิญญาณทำงานได้ชั่วระยะเวลาสั้นๆและยืดชีวิตของเธอออกไปเล็กน้อย แต่มันก็เป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ มันดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของเธอ
ชางสือรู้สึกสิ้นหวังเมื่อเขาไม่สามารถหาวัสดุจิตวิญญาณในดินแดนชางสือที่สามารถช่วยชีวิตเธอได้ ในท้ายที่สุด เขาก็พบเส้นทางไปที่ ถนนภัยพิบัตินับพัน โดยหวังว่าจะได้พบกับจักรพรรดิใหญ่แห่งเฟิงตู หนึ่งในผู้ปกครองของอันเดิลเวิล์ด แม้ว่ามันจะหมายความว่าจิตวิญญาณของเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
การเดินทางเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งและเขาเกือบเสียชีวิตระหว่างทาง แต่เขาก็ได้พบกับผู้ปกครองของอันเดิลเวิล์ดในที่สุด
จักรพรรดิใหญ่แห่งเฟิงตูบอกเขาว่าวิธีที่จะช่วยเธอได้คือส่งเธอกลับไปยังสวรรค์ และหาคนที่อยู่ในระดับเทพนภาเพื่อต่อชีวิตให้เธอ อีกทางหนึ่งคือเขาต้องหาแหล่งพลังงานศักสิทธิ์จากสวรรค์เพื่อให้เธอซึมซับ ซึ่งจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่
ตอนนี้เขารู้วิธีที่จะช่วยชีวิตเธอแล้ว ชางสือก็ได้พาเสี่ยนเคอไปพร้อมกับเขาและเริ่มเดินทางไปตาม พาราไดซ์โร้ด ตลอดทางจนถึงประตูสวรรค์
อย่างไรก็ตามเทพผู้เย่อหยิ่งไม่สนใจคำอ้อนวอนของเขา สำหรับพวกเขาเสี่ยนเคอไม่คู่ควรกับการเป็นเทพอีกต่อไปเพราะเธอถูกกัดกร่อนด้วยพลังงานหยินแล้ว พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับสถานะของเธอในฐานะเทพ และไม่มีใครให้การช่วยเหลือเธอ
เมื่อชางสือกำลังหมกมุ่นอยู่กับความสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับเทพที่มายืนอยู่เบื้องหน้า เทพถามเขาว่าเขาจะเต็มใจที่จะทรยศอันเดิลเวิล์ดและกลายเป็นดาบของเขาหรือไม่ เขายินดีที่จะช่วยเสี่ยนเคอเพื่อแลกกับการที่เขาอยู่ใต้อาณัฐเขา
ชางสือรู้สึกสูญเสีย แต่เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่นหลังจากมองผู้หญิงที่กำลังจะตายในอ้อมแขนของเขา
ตั้งแต่นั้นมาเขาจะไปที่ประตูสวรรค์และให้เทพเติมเต็มแหล่งศักดิ์สิทธิ์ของเสี่ยนเคอทุกๆหมื่นปี
เขาจะรวบรวมข้อมูลจากอันเดิลเวิล์ดและส่งไปยังเทพทุกๆหมื่นปีเพื่อแลกกับความช่วยเหลือของเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อสามหมื่นปีต่อมา เทพปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเขาอีกต่อไป
เขาบอกกับชางสือว่าอันเดิลเวิล์ดดูเหมือนจะลืมเรื่องความเกลียดชังในอดีตของพวกเขาและไม่มีความเป็นไปได้ที่จะแก้แค้น ชางสือสูญเสียความคุ้มค่าจากการเป็นดาบของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่ต้องการอีกต่อไป
ชางสือรู้สึกโมโหมากในครั้งนี้ เขาเกลียดสวรรค์ที่ไม่ยุติธรรมต่อเขา ในขณะที่เขาทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยชีวิตเธอ แต่โชคชะตาเลือกที่จะเล่นตลกใส่เขา
ผมของชางสือเปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างสมบูรณ์ในช่วงหนึ่งคืน
พวกเขากล่าวว่าเทพเจ้าข้างบนนั้นมีเมตตาและใจดี แต่สิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นความมืดสนิท
เสี่ยนเคอรู้ว่าเธอกลายเป็นภาระของชางสือ ดังนั้นเธอจึงพยายามหลบหนีหลายครั้ง โดยหวังว่าจะหาสถานที่ที่จะตายอย่างเงียบๆ เธอไม่ต้องการให้เขาเสียสละเพื่อเธอ
น้ำตาแห่งความโกรธเต็มไปทั่วดวงตาของชางสือ เนื่องจากเขาไม่มีทางเลือกนอกจากผนึกเธอไว้ เขาได้บอกเสี่ยนเคอว่าเขาจะหาวิธีช่วยเธอและเขาจะไม่ปล่อยให้เธฮตาย!
ตั้งแต่เหล่าเทพไร้หัวใจปฏิเสธที่จะช่วยเขา ชางสือหันเหความสนใจของเขาไปที่แหล่งพลังศักสิทธิ์ของสวรรค์
อย่างไรก็ตามแหล่งพลังศักสิทธิ์นั้นมีค่ามากต่อสวรรค์ ดันนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะขอความช่วยเหลือจากเทพนภามากกว่าที่จะหามันได้
ไม่ว่าโอกาสของเขาจะเพรียวบางเพียงใด ชางสือก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยอมแพ้
เขาวางแผนมานานกว่าหมื่นปีเพื่อบุกขึ้นสวรรค์เพื่อรักษาชีวิตคนรักของเขา
……
รอยยิ้มที่เยาะเย้ยเกิดขึ้นบนริมฝีปากของเขาขณะที่เขามองฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ลงมาหาเขา
ความพยายามหมื่นปีของเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก!