ตอนที่ 133 : การโจมตีของราชาแห่งท้องทะเล
มหาสมุทรวอยด์ เกาะคุมขัง
สิ่งมีชีวิตในทะเลขาดใหญ่ร้องโหยหวน ทั่วทั้งเกาะปกคลุมไปด้วยพวกมัน พวกมันมีหลากหลายสีสันและล้อมอยู่รอบนอกของเกาะที่โดดเดี่ยวเกาะนี้
ราชาแห่งทะเลอยู่ด้านในของปราสาทหินที่เกาะคุมขัง จ้องไปที่ภาพจิตกรรมบนผนังของปราสาทด้วยความเคร่งเครียด
เขามั่นใจว่ามันเป็นที่ที่สัญญาณนั้นส่งออกมา แต่เขาก็ยังหาต้นต่อที่ส่งสัญญาณนั้นไม่ได้หลังจากที่ค้นหาไปทั่วเกาะ
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากก็คือ ภาพจิตกรรมพวกนี้มันบันทึกอดีตของมหาสมุทรวอยด์ในช่วงที่อาณาจักรมู่เต่อไฮ่รุ่งเรืองเอาไว้จริงๆ
ราชาแห่งทะเลตรวจดูภาพเหล่านั้นคร่าวๆ ก่อนที่จะเหลือบไปมองภาพเขาเบลอๆที่อยู่อยู่เรือรบ
“มู่จี้กวง!”
ในฐานะทายาทของอาณาจักรมู่เต่อไฮ่ เขาจะจำผู้ที่มีพระคุณต่ออาณาจักรได้อย่างไร? ในตอนท้าย เขายังเป็นคนที่มอบบัลลังก์ให้กับเขาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้มันขัดต่อความตั้งใจของเขา เนื่องจากมันเป็นความปรารถนาของผู้คนของอาณาจักร เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามความปรารถนาของพวกเขา
นี่เป็นเหตุผลที่เขาเลือกหักหลังต่ออาณาจักรมู่เต่อไฮ่และสร้างกองกำลังใหม่จากมหาสมุทรวอยด์ กองทัพของเขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่อาณาจักรมู่เต่อไฮ่ล่มสลาย ทำให้เขาได้เป็นราชาแห่งท้องทะเลอย่างที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้
ภาพจิตกรรมเหล่านี้ทำให้เขานึกถึงความทรงจำในอดีต
อย่างไรก็ต่อ เขาสับสมกับอย่างสิ่ง ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นสายเลือดของตระกูลมู่เต่อไฮ่จะไม่มีความสามารถที่จะใช้วิธีการสื่อสารที่เป็นลักษณะเฉพาะได้ พูดตามหลักก็คือสายเลือดของอาณาจักรมู่เต่อไฮ่นั้นน่าจะกลายเป็นภูตซอมบี้ไปหมดแล้วยกเว้นมู่จี้กวงผู้ที่หายสาบสูญไป แล้วทำไมมันถึงปรากฏออกมาอีก?
“มู่จี้กวงกลับมาแล้วเหรอ?” ท่าทีของราชาแห่งทะเลแข็งทื่อทันที ใจของเขาสั่นด้วยความกลัวเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้
เขารู้ดีว่าชายที่ครอบครองพลังแห่งความตายนั้นทรงพลังเพียงใด เวยพลังเทียมเทพของเขา ถ้าเขาโมโหขึ้นมา พลังของเขาสามารถเทียบกับพลังของเทพได้เลย เว้นแต่ผู้พิทักษ์วิญญาณเถาหวู่ผู้ที่หลับอยู่ก้นทะเลมาหลายปีและไม่มีใครในมหาสมุทรวอยด์จะสามารถต่อกรกับเขาได้
อย่างไรก็ตาม ราชาแห่งทะเลคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้
ชายผู้นั้นได้เดินทางไปสู่ก้นบึ้งของทะเลเพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลของเขา เขาต่อสู้กับเผ่าปิศาจเพียงลำพัง เขาจึงควรจะตายไปนานแล้วและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับมา
ราชาแห่งท้องทะเลหายใจเข้าลึกเพื่อสยบความคิด จากนั้นเขาก็หันกลับและเดินออกไปอย่างเร็ว
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ราชาแห่งท้องทะเลได้พิจารณาการเดินทางของกองทัพ เขาไม่สามารถสะเพร่าในขณะที่จัดการกับเรื่องของอาณาจักรมู่เต่อไฮ่ได้ แต่เมื่อเขาไม่ได้อะไรจากการสืบสวน เขาจึงไม่อยากทำให้การเดินทางนี้เปล่าประโยชน์ เขากระโดดขึ้นไปบนหลังวาฬและส่งเสียงคำรามก้องกังวาล
“ไปชำระแค้นที่ชายฝั่งหลิวลี่!”
กองทัพสัตว์ทะเลหันหน้าและมุ่งหน้าไปที่ชายฝั่งหลิวลี่ เตรียมออกตามหาชานาและทวงวิญญาณหยินคืน
…
ที่ช่ายฝั่งหลิวลี่…
ภายใต้แสงอาทิตย์แพรวพราว ลมทะเลโกรกเข้ามาอย่างอ่อนโยน เสียงของคลื่นกระทบชายฝั่ง ประกอบกับเสียงร้องของนกนางนวล ทุกๆสิ่งเต็มไปด้วยความเงียบสงบและสวยงาม
ผู้เล่นที่ออกมาพักผ่อน กางร่มกันแดดและนอนอาบแดด พวกเขาดื่มน้ำผลไม้และรื่นรมไปกับชีวิตในวันหยุดที่แสนวิเศษ
ทันใดนั้น ที่ทะดลไกลๆก็เกิดคลื่นขนาดใหญ่ มันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมุ่งเข้ามาที่ชายฝั่ง
สัตว์ทะเลนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นจากคลื่นขนาดมหึมานั้น กองทัพของราชาแห่งทะเลโหมกระหน่ำมาที่ชายหาดด้วยความน่ากลัว
ผู้เล่นที่ได้เห็นฉากนั้นจากชายฝั่งช็อคสุดขีด
แต่เหล่าผู้เล่นก็มีประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับการบุกรุกอยู่แล้ว ครั้งนี้พวกเขาเรียกผู้เล่นอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางคนเข้าไปที่ฟอรั่ม บางคนก็เปิดไลฟ์สตรีม บางคนก็ประกาศผ่านช่องแชทในเกม
ไม่นาน จำนวนผู้เล่นมากมายก็ได้รู้ข่าวของการบุกรุกที่ชายฝั่งหลิวลี่ กิลด์ใหญ่ๆเริ่มประชุมกันและรวมกลุ่มกัน
ลู่หวู่และเป่ยลี่ได้รู้เกี่ยวกับการบุกรุกของราชาแห่งท้องทะเลและจ้องไปที่ชายฝั่งหลิวลี่ในทันที
“ชานา!” ราชาแห่งทะเลตะโกนออกมาทันทีที่เข้าถึงเขตชายฝั่ง
การต่อสู้เป็นกลุ่มทำให้ข้อความ “สูญเสียเลือด” ปรากฏขึ้นเป็นสีแดงอยู่บนหัวของผู้เล่นทุกคนที่อยู่บนชายฝั่ง
ผู้เล่นที่คุ้นเคยการเสียงของราชาแห่งทะเล รีบถอยออกมาและรอการสนับสนุน
เสียงคำรามก้องไปในอากาศอีกครั้ง
ราชาแห่งทะเลเริ่มสับสนเมื่อเขาเข้าใกล้ไปเรื่อยๆ
เขาได้ตะโกนออกไปถึงสามครั้ง แต่ชานาก็ยังไม่ปรากฏตัว เขาซ่อนตัวอยู่หรือเปล่า?
ราชาแห่งทะเลไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงกระโดดจากหลังวาฬขึ้นไปที่คฤหาสน์ของชานา
เมื่อเข้าไปถึงที่ปราสาทราชาภูตราชา ราชาแห่งท้องทะเลก็ต้องตะลึงกับภาพที่รอต้อนรับเขาอยู่
ด้านหน้าของปราสาทของชานา มีรูปปั้นไม้ตั้งอยู่ที่ประตู มันถูกสร้างขึ้นในรูปร่างของชานาที่กำลังนอนอยู่บนพื้นและลิ้นที่เลียไปที่อึ
ที่สำคัญกว่านั้น ท่าทีของชานาที่อยู่ในรูปปั้นไม้นั้นดูมีความสุขมาก
ราชาแห่งทะเลนั้นตะลึงและสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้น เป็นไปได้ไหมว่านี่เป็นงานอดิเรกของชานา?
ขณะที่ราชาแห่งทะเลกำลังคิดทบทวน ร่างเงาจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเขา พวกเขาทั้งหมดแบกอาวุธและค่อยๆเข้าใกล้เขาช้าๆ ทีละก้าว
“ชานาอยู่ไหน?” ราชาแห่งทะเลขมวดคิ้ว
“มันตายไปแล้ว!” หวู่กัวอี้ที่อยู่ด้านหน้า ตอบอย่างไม่ลังเล
“ตายแล้ว?” ราชาแห่งทะเลสตั้นไปชั่วขณะ ขณะที่เขาเหลือบไปมองที่รูปปั้นไม้อีกครั้ง เขาก็เริ่มเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องจริง
“มันตายยังไง?”
“มันถูกพวกเรากระทืบตาย อย่างโหดเหี้ยม” ผู้เล่นด้านหลังพูดขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นใครเป็นผู้ปกครองเขตหลิวลี่ในตอนนี้?”
“ก็ต้องเป็นพวกเราแน่นอนอยู่แล้วสิ!” ผู้เล่นพูดขึ้นมาพร้อมกัน
ราชาแห่งทะเลกางแขนออกและพูดว่า “ข้าไม่สนใจหรอกว่าใครจะปกครองสถานที่นี้ ในเมื่ชานาได้ตายไปแล้ว พวกเจ้าก็จะต้องเป็นผู้ที่ชำระหนี้แทนมัน! จำนวนทั้งหมด 200,000 วิญญาณหยิน พวกเจ้าจะชำระเมื่อไหร่?”
“เจ้าบ้าหรือไง 200,000 เหรียญวิญญาณ? บ้าไปแล้ว! รองผู้บัญชาการอยู่ไหน ไปเอาปืนใหญ่อิตาลี่มา ข้าจะเป่ามันให้กระจุย!”
“200,000 เหรียญวิญญาณ? นั่นเลวร้ายกว่าการปล้นกันตอนกลางวันเสียอีก! เจ้ามันโลภมากเหมือนกับเถาหวู่จริงๆ!”
“ตงกั่วอยู่ไหน? เรียกมันมาที่นี่และให้ตบหน้าของเจ้านี่สักสองสามทีเพื่อเป็นคำเตือน เขาควรจะระวังปากหน่อย!”
…
เหล่าผู้เล่นปรึกษากัน ขณะที่ท่าทีของราชาแห่งทะเลเริ่มมืดมิดลง
“นั่นหมายความว่าพวกเจ้าทั้งหมดตั้งใจจะไม่จ่ายคืนใช่ไหม?”
“แน่นอน พวกเราจะคืน แต่เป็นการผ่อนได้ไหม?” หวู่กัวอี้ก้าวออกมาและพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม
“ผ่อน?” ราชาแห่งทะเลอึ้ง มันเป็นครั้งแรกของเขาที่ได้ยินคำนี้ “การผ่อนมันเป็นยังไง?”
“พวกเราจะมอบเหรียญวิญญาณให้เจ้าปีละหนึ่งเหรียญทุกๆปี และเมื่อหนี้มันคือ 200,00 เหรียญวิญญาณ พวกเราจะสามารถปิดหนี้ได้ใน 200,000 ปี”
เหล่าผู้เล่นหัวเราะออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของหวู่กัวอี้ ขณะเดียวกันหน้าของราชาแห่งทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“นี่แปลว่าพวกเจ้าอยากจะเป็นศัตรูกับข้า” ราชาแห่งทะเลพูดออกมาด้วยเสียงหัวเราะแสยะ
เมื่อเหล่าผู้เล่นได้ยิน พวกเขาก็จับอาวุธของตัวเองแน่น เตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่การต่อสู้
ในขณะที่การต่อสู้กำลังจะระเบิดออก มีร่างหนึ่งเดินฝ่าฝูงชนออกมา เขามองไปที่รูปปั้นของชานาก่อนที่จะอึ้งที่เห็นรูปปั้นนั้น จากนั้นเขาก็หันมามองที่ราชาแห่งทะเล
“สวัสดี… ลอร์ดแห่งทะเล อะไรพาท่านมาถึงที่นี่ ชายฝั่งหลิวลี่?”
มันคือตงกั่วที่แสดงตัวออกมา
ในตอนนี้ เขาถูกปรับแต่งเรียบร้อยแล้ว เขารู้ว่าเขานั้นมีร่างกายที่เป็นอมตะ เขาจึงทักทายราชาแห่งทะเลด้วยความสงบนิ่ง
“ตงกั่ว?” การแสดงออกด้วยการดูถูกของราชาแห่งทะเลเริ่มจางหายไป
เราเคยได้ยินเกี่ยวกับตงกั่วที่มีเกียรติ เขาเป็นราชาภูตที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนแห่งเป่ยฉีที่อยู่ข้างกายของราชาแห่งเป่ยฉี จะประเมินความแข็งแกร่งของเขาต่ำไปไม่ได้ มันจะต้องไม่อ่อนแอไปกว่าตัวเขาเอง
ราชาแห่งทะเลนั้นไม่หวั่นที่จะดูถูกชานา ผู้บัญชาการภูตผี แต่เขาต้องพิจารณาความเสี่ยงอย่างจริงจังถ้าอีกฝ่ายเป็นตงกั่ว
“ลอร์ดแห่งทะเล ท่านมีเวลามาที่เป่ยฉีได้อย่างไร? ท่านคิดถึงราชาแห่งเป่ยฉีของพวกเรางั้นรึ?” ตงกั่วพูด
ท่าทีของราชาแห่งทะเลเริ่มมืดหม่นอีกครั้งเมื่อเขาได้ยินตงกั่วพูดถึงราชาแห่งเป่ยฉี แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่ความลับที่เขาเคยโจมตีราชาแห่งเป่ยฉีมาก่อน
“ตงกั่ว เจ้าพยายามจะพูดอะไร!?”
“ไม่มีอะไรหรอก ให้พูดตรงๆก็คือชานานั้นขวางหูขวางตาข้ามาตลอด ข้าจึงสังหารมันไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้เขตหลิวลี่เป็นของข้า ท่านไม่มีอะไรคัดค้านใช่ไหม?”
“ของเจ้า?”
ราชาแห่งทะเลประหลาดใจ แต่เขาก็เข้าใจดีว่าการที่ตงกั่วจะสังหารชานานั้นเป็นแค่เรื่องง่ายๆ
“ถูกต้อง ตอนนี้มันเป็นดินแดนของข้า ลอร์ดแห่งทะเลคงไม่คิดจะมาขอวิญญาณหยินจากข้าหรอกใช่ไหมล่ะ?”
ท่าทีของราชาแห่งทะเลเริ่มเคร่งเครียดเมื่อได้ยินข่าว
แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าสามารถเอาชนะตงกั่วได้ แต่เขาทั้งคู่ก็ครอบครองความแข็งแกร่งของราชาภูต แม้ว่าเขาจะชนะ แต่เขาก็ต้องสูญเสียมากมายเช่นกัน แต่มันก็เป็นเรื่องขายหน้าหากเขาต้องกลับไปมือเปล่า
ในขณะเดียวกัน ลู่หวู่และเป่ยลี่ก็กำลังเฝ้าดูฉากนี้อย่างตั้งใจ พวกเขาเหงื่อตกแทนตงกั่วที่กำลังพยายามแสดงอยู่ เพราะพวกเขากลัวว่าสิ่งที่ตงกั่วแสดงอยู่นั้นจะโดนจับได้