The Boss Behind The Game – ตอนที่ 143 : วิธีคงสถานะต่อสู้

ที่เซฟโซน(เขตปลอดภัย)ของคฤหาสน์แห่งความตาย, เป่ยฉี

 

ผู้คนจำนวนมากมารวมกำที่จุดเกิด รออย่างจดจ่อต่อการปรากฏตัวของผู้เล่นที่พวกเขาเกลียดชัง

 

หลังจากรอมาประมาณสามชั่วโมง เงาร่างหนึ่งที่ทุกคนตั้งตาคอยก็ปรากฏขึ้นตรงจุดเกิด

 

เมื่อเข้าสู่เกม ฮู่เฮ่อถึงกับผงะเมื่อได้เห็นกลุ่มผู้เล่นจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่เพื่อรอเขา เขายิ้มออกมาเจื่อนๆและรีบออกจากเกมอย่างรวดเร็ว เขาหายไปในทันที

 

ทุกคนพูดไม่ออก

 

“บ้าเอ้ย! นี่มันหนีไปอีกแล้วเหรอ? พวกเรายังไม่ได้ระบายความโกรธเลย!”

 

“ไอ้งั่ง ข้าว่าจะขอให้เขาเอาหัวของชานามาคืน การรอคอยมันจะไปได้อะไรถ้ามันจะหนีไปแบบนี้?”

 

“ข้าคิดว่ามันคงไม่กลับมาออนไลน์แล้วหล่ะ”

 

เหล่าผู้เล่นยังคงเฝ้ารอคอยการปรากฏตัวของเขา ฮู่เฮ่อเองก็ปรากฏตัวขึ้นมาที่จุดเกิดอยู่หลายครั้งในช่วงเวลานี้ แต่เขาก็ออฟไลน์ไปเมื่อเขาเห็นว่ากลุ่มผู้คนยังคงรอเขาอยู่ที่นั่น

 

หลังจากที่อดทนรอคอยมากว่าครึ่งวัน ฮู่เฮ่อก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ออฟไลน์ กลับกัน เขาจ้องไปที่ทุกคนด้วยท่าทีหมดกำลังใจ

 

“สวัสดีทุกคน พวกนายไม่เบื่อกันหรือไง?”

 

ผู้เล่นบางคนถึงกับเอากระดานหมากรุกมาตั้งเล่นกัน บางคนก็เอาชุดเครื่องชงชามาและเริ่มทำชาดื่ม และอีกหลายคนก็รวมตัวกันเล่นไพ่ มันเหมือนกับเป็นศูนย์รวมความบันเทิงและก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครจะมีความคิดที่จะออกไปจากที่นี่

 

ฮู่เฮ่อตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น เขาคิดอยู่ในใจ นี่มันเกมประเภทไหนกัน! ที่พวกเขาจะตามล่าอย่างจริงจังแม้กระทั่งในเซฟโซน

 

เมื่อได้เห็น มีพวกตัวเลือกเดียวที่เขาเหลืออยู่ ก็คือการรอคอยให้คนพวกนี้ออนไลน์จนครบกำหนดเวลาและหลบหนีออกไปอย่างลับๆ ฮู่เฮ่อรู้สึกเศร้าที่ต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้

 

ในตอนนี้ มีกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาจากไกลๆ

 

“เฮ้ พี่น้อง ได้เวลาเปลี่ยนเวรแล้ว ไปทำภารกิจของพวกนายเถอะถ้าจำเป็น หรือไปก็ไปล่าวัตถุดิบเล่น”

 

เมื่อผู้คนที่อยู่รอบจุดเกิดได้ยิน พวกเขาก็เก็บข้าวของและยืนขึ้น พวกเขาเดินออกไป และกลุ่มคนกลุ่มใหม่ก็เข้ามานั่งรอบๆจุดเกิด

 

ฮู่เฮ่อหมดคำบรรยาย

 

“ยอมแพ้ซะเถอะ กิลด์ใหญ่ๆทุกกิลด์ได้ลงมติกันว่าจะคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ 24 ชั่วโมงแบบไม่มีหยุดพัก พร้อมจะยอมแพ้หรือยัง?”

 

กู่หยูจากกิลด์มิธเดินเข้ามาที่จุดเกิดและตบไหล่ของฮู่เฮ่อ

 

“ไม่ใช่ว่ามันน่าสนใจเหรอ?” ซันฉีถามขึ้นขณะที่เขานั่งลงข้างๆขาของกู่หยู

 

“มันผิดศีลธรรมมากที่พวกนายทำแบบนั้น!” ฮู่เฮ่อถูกครอบงำไปด้วยความเศร้าโศกและความโมโห

 

“ผิดศีรธรรม?” กู่หยูสตั้นเมื่อได้ยิน มันดูแปลกนิดหน่อยที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากผู้ที่ขุดหลุมศพฝังตัวเอง

 

“แล้วศีลธรรมของนายไปไหนตอนที่นายขโมยหัวกะโหลกของชานาแล้วแทนที่มันด้วยของปลอมที่สร้างขึ้นจากไม้?” ซันฉีที่อยู่ข้างๆกัดฟันแน่นขณะที่ตอบโต้

 

ฮู่เฮ่อโบกมือ แสดงให้เห็นว่าเขานั้นเศร้าใจแค่ไหน เขานั่งลงที่จุดเกิดโดยไม่พูดคำใดๆออกมา เขามองไปที่สายตาของกู่หยูและคนอื่นๆ ทำให้ดูเหมือนว่าเขาพยายามโน้มน้าวพวกเขาด้วยความจริงใจ

 

“เออใช่ นายขุดหลุมศพ นายขุดหาอะไร ที่ทำให้นายต้องตกอยู่ในปัญหาแบบนี้?” กู่หยูและซันฉีถามขึ้นมาด้วยความสงสัยขณะที่พวกเขากำลังเล่นหมากรุกอยู่

 

ทำให้ฮู่เฮ่อคิดถึงฮิเดริกามิที่เขาได้เข้าไปพัวพันด้วย เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจอย่างแรง

 

“ข้าเกือบจะได้ฮิเดริกามิและเกือบกลายเป็นผู้เล่นที่ไร้เทียมทานแล้ว ถ้าข้อได้ครอบครองฮิเดริกามิ ข้าก็ไม่ต้องกลัวใครและสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ ข้าเกือบทำได้แล้ว!” เมื่อเขาพูด เขาได้ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งทำสัญลักษณ์

 

“ฮิเดริกามิ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู่หยูรู้สึกถึงความสดชื่อขึ้นมาทันที

 

แม้ว่าเขาจะเป็นสาวกของเทพปิศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในเหล่าบรรดาคลาสสืบทอด แต่ข้อเสียของคลาสนี้ก็คือการพัฒนานั้นไม่เป็นระบบ เขาจึงไม่สามารถพัฒนาตัวเขาได้ในระยะยาวและจะต้องถูกคนอื่นๆก้าวข้ามไปอย่างแน่นอน

 

ฮิเดริกามิเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เขาพัฒนาคลาสได้และเป็นภารกิจที่สำคัญของเขา

 

“ฮิเดริกามิอยู่ไหน?” กู่หยูถามด้วยความรีบร้อน

 

“เขาอยู่ที่เมืองฝันร้ายปิศาจ เขาพยายามฟื้นฟูผ่าพลังงานที่ดูดซับไปจากตราผนึก ข้าใช้พลังงานไปมากมายในการขุดมันขึ้นมา ใครจะไปรู้ว่าตราผนึกนั่นมันเปราะบางมากและมันก็แตกออก ข้อรู้สึกโกรธแค้นมากเมื่อคิดถึงมัน” เมื่อคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ฮู่เฮ่อก็เริ่มโมโห

 

“แล้วเจ้าเข้าไปที่นั่นได้ยังไง?” กู่หยูตะลึง

 

เขานำทีมไปที่นั่นหลายครั้งแต่ก็ถูกขวางจากพิษซอมบี้ พวกเขาทั้งหมดต้องตายแม้จะยังไม่ได้เข้าไปในสถานที่นั้น

 

“พวกนายเคยไปที่นั่นด้วยเหรอ?” ฮู่เฮ่ตกใจ

 

“ตอบข้ามาเร็ว! เจ้าเข้าไปได้ยังไง?” กู่หยูถามด้วยความกระหาย

 

เมื่อเขาได้ยินคำถาม ฮู่เฮ่อดูเหมือนจะคิดอะไรได้ เขาจึงหัวเราะออกมาขณะที่พูด “คนๆหนึ่งจะต้องมีทักษะเฉพาะเพื่อที่จะเข้าไปในเมือง ในเมื่อนายไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้สร้างซอมบี้ของเรา นายก็ไม่รู้วิธีเข้าไปหรอก มันเป็นอะไรที่ยากมากที่จะเข้าไป แต่ถ้านายพาข้าไปด้วย ข้าสามารถช่วยให้เจ้าเข้าไปได้”

 

คำพูดของฮู่เฮ่อทำให้กู่หยูเริ่มมีความรู้สึกย้อนแย้ง

 

ในที่สุดเขาก็พบวิธีที่จะเข้าไปในเมืองฝันร้ายปิศาจ แต่มันดูเหมือนว่าผู้เล่นที่น่ากลัวคนนี้จะเป็นคนเดียวที่รู้วิธี มันทำให้เขาสงสัยว่าเขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง

 

“พี่ชาย ถ้าเจ้าอยากจะเข้าไป เจ้าจำเป็นต้องใช้ข้า เจ้าไปคิดก่อนก็ได้ ข้าเห็นความปรารถนาในดวงตาเจ้า” เมื่อฮู่เฮ่อรู้ว่ามันมีความเป็นไปได้สูง เขาก็ยิ้มจนปากแทบฉีก

 

“หัวหน้า เราปล่อยเจ้านี่ไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นกิลด์ของเราจบแน่!” ซันฉีคัดค้านทันทีเพื่อกีดกันกู่หยูที่ดูสนใจในข้อเสนอนั้น

 

กู่หยูรู้ดีถึงผลที่จะตามมา ตอนนี้กิลด์ใหญ่ๆได้ตกลงร่วมกันเพื่อที่จะเปลี่ยนเวรกันป้องกันพื้นที่ ดังนั้นถ้าเขาปล่อยชายคนนี้ไปโดยที่ไม่มีการอนุญาต เขาจะต้องถูกล้อมอย่างแน่นอน

 

มันเป็นสิ่งที่ยากที่จะได้เห็นความหวังในการพัฒนาตัวละคร เขาจึงไม่อยากจะยอมแพ้ง่ายๆ

 

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว กู่หยูก็เปิดกลุ่มแชทขึ้นมาและได้เพิ่มเฉินซีหยู หวู่กัวอี้ ลู่ฉาน หลิวไช่ และผู้นำคนอื่นๆเข้ามาในช่องแชท

 

กู่หยู: “พี่น้อง ข้ามีเรื่องจะปรึกษากับพวกนายทุกคน!”

 

เย่เสี่ยวเอ้อ: “เรื่องอะไร?”

 

เฉินซีหยู: “ข้ากำลังสังหารวิญญาณชั่วร้ายอยู่ เดี๋ยวคุยกันทีหลัง!”

 

หลิวไช่: “คำถามเดียวกัน มีอะไร?”

 

เมื่อเห็นว่าผู้นำของทุกกิลด์ได้เข้ามาในกลุ่มแชทแล้ว กู่หยูก็อธิบายถึงความตั้งใจของเขา

 

กู่หยู: “พี่น้อง ข้ามีเรื่องที่จะต้องปรึกษาพวกนายทุกคน! ข้าขอยืมตัวผู้เล่นที่เป็นที่เกลียดชังที่สุดในตอนนี้ไปสักพักหนึ่งได้ไหม? ข้ารับประกันว่าจะไม่ปล่อยให้มันหนีไปได้!”

 

เย่เสี่ยวเอ้อ: “ไม่!”

 

หลิวไช่: “ไม่+1”

 

หวู่กัวอี้: “ไม่+2”

 

เฉินซีหยู: “ไม่+3”

 

กู่หยูรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเห็นคำตอบที่ปฏิเสธคำขอของเขา

 

แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อโอกาสที่จะได้พัฒนาคลาส เมื่อคิดไตร่ตรองมากขึ้น เขาจึงพยายามอธิบายอีกครั้งและบอกเกี่ยวกับความยากในการพัฒนาคลาสของเขา ถ้าไม่มีฮู่เฮ่อ มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทำมันได้สำเร็จ

 

เมื่อได้เห็นความจริงใจของกู่หยู เหล่าผู้นำของกิลด์หลักก็เริ่มลังเล

 

อย่างที่พูดกัน ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ดังนั้น กู่หยูจึงสัญญาที่จะมอบประโยชน์และให้ความมั่นใจว่าเขาจะส่งตัวชายคนนี้กลับมาที่เซฟโซนเมื่อเขาเสร็จภารกิจ หลังจากที่เขาพยายามมา พวกเขาก็ตกลงด้วยความฝืนใจที่จะให้กู่หยูได้ยืมตัวฮู่เฮ่อไปเป็นช่วงเวลาสั้นๆ

 

หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากกิลด์หลักทั้งหมด กู่หยูถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาหันไปมองฮู่เฮ่อ

 

“ไปกันเถอะ พาข้าไปที่เมืองฝันร้ายปิศาจ แต่เพื่อมั่นใจว่าเจ้าจะไม่หนีไปหรือออฟไลน์หนี เจ้าต้องคงสถานะการต่อสู้”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของกู่หยู ฮู่เฮ่อก็แสดงความประหลาดใจออกมาทางสีหน้าขณะที่กำลังคิดว่าจะต้องโง่แค่ไหนที่จะไม่หนี

 

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินกู่หยูพูดถึงการคงสถานะต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้ออฟไลน์ เขาก็สตั้นไปในทันที

 

“เราจะคงสถานะสู้ได้ยังไง?”

 

“ง่ายๆเลย ก็แค่ให้เจ้าหมานี่กัดนายเอาไว้ตลอดทาง!”

 

ทั้งฮู่เฮ่อและซันฉีไม่รู้จะพูดอะไร…

 

The Boss Behind The Game

The Boss Behind The Game

Type: Author:
อ่านนิยาย The Boss Behind The Game เรื่องย่อ ลู่หวู่ผู้พัฒนาเกมที่ไร้จุดหมายรู้สึกลำบากใจเนื่องจากเขาพบว่า เขาได้เป็นทายาทสายตรงของราชาอันเดอร์เวิลด์ นอกจากชื่อยศถาบรรดาศักดิ์ก็ไม่มีสิ่งใดที่บรรพบุรุษทิ้งให้เขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นพวกลูกน้องทั้งหมดของบรรพบุรุษยังได้ก่อกบฏและแย่งชิงอาณาเขตที่เป็นของสืบทอดของเขา ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ทำให้ลู่หวู่สร้างเซิฟเวอร์เกมต่อสู้ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนลึกลับคนใหม่ของเขาและส่งนักเล่นเกมจากโลกจริงไปยังอันเดอร์เวิลด์โดยใช้ความเป็นจริงเสมือน จากนั้นเขาได้สร้างเควสหลัก อาชีพของตัวละคร ดันเจี้ยน เควสเนื้อเรื่องและตัวละครเอ็นพีซีสำหรับเกม จากการใช้จุดแข็งของเหล่านักเล่นเกมเหล่านี้ทำให้ลู่หวู่เริ่มการเดินทางเพื่อเรียกคืนมรดกที่ถูกต้องของเขา จะมีอะไรผิดพลาดไหม?

Options

not work with dark mode
Reset